الكلام البليغ و المتكلم به
ประโยคที่มีโวหารและผู้พูดที่มีวาทะ
الكلامُ البليغُ ؛ هو : الذي يناسبُ الحالَ ، والمقامَ .
والمتكلمُ البليغُ ؛ هو : القادرُ على التعبير عن المرادِ بكلام بليغٍ .
والحكم في ذلك كلِّه هو الذوقُ السليمُ ، وقوانينُ العربيَّةِ .
ประโยคที่มีโวหาร (الكَلام البليغ) คือ ประโยคที่(ถูกกล่าวออกมา)เหมาะสมกับสภาพกาลและกาลเทศะ
ส่วนผู้พูดที่มีวาทะ (المتكلم البليغ) คือ ผู้ที่สามารถเรียบเรียงสำนวนออกมาจากสิ่งที่ต้องการ ด้วยกับการกล่าวประโยคที่เป็นโวหาร
และสิ่งที่จะใช้ตัดสินในเรื่องดังกล่าวทั้งหมด(ประโยคที่มีโวหาร และผู้พูดที่มีวาทะ) นั้น คือรสนิยมความรู้สึกที่ดีปกติ (الذُّوق السليم) และกฎเกณฑ์ต่างๆทางภาษาอาหรับ (قوانين العربية)
อธิบายได้ว่า : ประโยคนั้น (الكلام) เมื่อมันไม่เหมาะสมกับกาลเทศะ (المقام) แล้ว มันก็จะไม่เป็นประโยคที่มีโวหาร (الكلام البليغ) และผู้ที่พูดประโยคนั้น ก็ไม่นับว่าเป็นผู้มีวาทะ และนี่คือสิ่งหนึ่งซึ่งทุกๆคนที่มีประสาทสัมผัสที่ดี สามารถรับรู้มันได้ แต่มนุษย์นั้นมีความแตกต่างกันในการเอาใจใส่ต่อสิ่งนั้น
ตัวอย่างเช่น เมื่อสถานการณ์ ต้องการการพูดแบบกระทัดรัด แต่เขากลับกล่าวด้วยประโยคที่ยืดยาวซึ่งใช้สำบัดสำนวนฟุ่มเฟือย(الذروة من الفصاحة) ดังนั้น ดังกล่าวนี้จะไม่ถือว่าเป็นโวหาร (بليغ) และเขาก็จะไม่นับว่า มันมาจากประโยคของผู้ที่มีวาทะ เพราะเขาไม่ได้เอาใจใส่กับกาลเทศะ(ที่เหมาะสมกับการกล่าวประโยคนั้นๆ) (المقام) อนึ่ง สำหรับสถานที่ที่ควรแก่การสรรเสริญเยินยอ ก็จะแตกต่างจากสถานที่สำหรับการด่าทอเสียดสี และประโยคที่ใช้ในการสนทนาตอบโต้กับบรรดาเด็กๆนั้นย่อมแตกต่างกับการสนทนาตอบโต้กับบรรดาผู้อาวุโส และด้วยเหตุนี้ สมควรแก่นักเผยแพร่สู่หนทางของอัลลอฮฺที่ดีและเฉียบแหลม (حِذْق الدّاعي إلى الله) นั้นจะต้องศึกษาสภาพของผู้ฟัง ไม่ว่าจะในด้านที่เกี่ยวข้องกับการตระเตรียมแนวคิดต่างๆให้กับพวกเขา และการปรับตัวของพวกเขาเอง และเวลาที่ใช้กับพวกเขาต้องเอื้ออำนวยและเหมาะสมด้วย
บางครั้งผู้พูดจะไม่เอาใจใส่กับสำนวนโวหาร จนกระทั่งเขาถูกให้คุณลักษณะว่าอ่อนแอในความสามารถ และการเตรียมพร้อม เช่นว่าเขาพูดภาษาอาหรับ(โดยใช้คำ)ที่ผู้คนมักไม่รู้จักกัน และแท้จริงแล้วในสมัยก่อน บรรดานักปราชญ์ได้กล่าวกันว่า لِكُـــلِّ حـــادثٍ حــديـــثٌ
ความว่า แท้จริงแล้ว ทุกๆเหตุการณ์นั้นย่อมมีคำพูด(ที่เหมาะสม)สำหรับมัน
เหมือนดังที่พวกเขาได้กล่าวว่า لِكُـــلِّ مـقـــامٍ مـقـــالٌ
ความว่า แท้จริงแล้วทุกๆกาลเทศะนั้น ย่อมมีคำพูด(ที่เหมาะสม)สำหรับมัน
ส่วนรสนิยมความรู้สึกที่ปกติดีนั้น (الذُّوْق السَّليم) จะเป็นตัวตัดสินที่เด็ดขาดและเป็นตัวแยกแยะในเรื่องดังกล่าว และรสนิยมและความรู้สึกที่ปกติดีต่างๆ จะเห็นสอดคล้องกันว่า แท้จริงแล้วกาลเทศะในการแสดงการปลอบโยน การตักเตือน และการตำหนินั้น เป็นกาลเทศะที่ต้องใช้คำแบบกะทัดรัด (مقامُ إيجازٍ) และแท้จริงแล้วกาลเทศะในการสนทนากับคนรัก การเจรจา การแสดงความยินดี และการเล่าเรื่องนั้น เป็นกาลเทศะที่ต้องพูดเยินเย่อขยายความ (مقامُ إطنابٍ) (นี่คือ สภาพปกติส่วนใหญ่ และในบางครั้งบางคราที่เหมาะสมกับคำพูดที่กะทัดรัดก็ไม่ควรพูดแบบกะทัดรัด และบางครั้งก็กลับกันโดยสิ้นเชิง) สรุปว่า : แท้จริงแล้วผู้ที่พูดประโยคหนึ่งขึ้นมา ซึ่งปราศจากข้อตำหนิต่างๆที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว เขาจะถูกกล่าวขานว่าเป็นผู้พูดที่มีโวหารชัดเจน (بليغًا) ส่วนประโยคนั้นจะไม่เป็นโวหาร และเจ้าของประโยค ก็จะไม่เป็นผู้ที่มีวาทะ นอกจากว่า ประโยคของเขาจะมีความเหมาะสมกับกาลเทศะ ส่วนตัวตัดสินที่เราจะดำเนินตามมันเพื่อให้เกิดความถูกต้องและมีโวหารของประโยค คือ รสนิยมความรู้สึกที่ปกติดี (الذوق السليم) และกฎเกณฑ์ทางภาษาอาหรับ (قوانين العربية)(ดูหนังสือ อัลบาลาฆอตุลมุยัซซาเราะฮฺ หน้าที่ 16-17 เขียนโดย ดร.อับดุลอะซีซ บิน อะลี อัลฮัรบีย์ พิมพ์ครั้งที่ 2/2011 สำนักพิมพ์ ดาร อิบนิ ฮัซมฺ เบรูต-เลบานอน)