ผู้เขียน หัวข้อ: สุดยอดคมวาทะแห่งปี 2014 !!!  (อ่าน 1332 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เสี่ยวเอ้อ

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 59
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
สุดยอดคมวาทะแห่งปี 2014 !!!
« เมื่อ: ธ.ค. 17, 2014, 08:58 PM »
+2

 :salam:

เมื่อ พระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดีน วัดเดาละห์ ตอบโต้ ชาติตะวันตก เกี่ยวกับการใช้กฎหมายชารีอะฮ์

" ในประเทศของท่าน กล่าวกันว่ามีสิทธิเสรีภาพ ด้านแสดงความคิดเห็น เสรีภาพด้านสื่อ การนับถือศาสนาและอื่นๆ และนั่นคือสิ่งที่ปรากฏในกฎหมายรัฐธรรมนูญในประเทศของท่าน ถือเป็นระบบการเมืองการปกครอง อัตลักษณ์ประจำชาติและวิถีชีวิตของท่าน
ในประเทศของข้าพเจ้า เราปฏิบัติใช้วัฒนธรรมมลายู อิสลาม ระบบกษัตริย์ และเราจะใช้หลักกฎหมายอิสลาม หลักชะรีอะฮฺ อิสลามได้ปรากฎในรัฐธรรมนูญของเรา คืออัตลักษณ์ประจำชาติของเรา คือสิทธิและวิถีชีวิตของเราเช่นกัน
เราอาจพบจุดอ่อนในกฎหมายและระบบการปกครองของท่าน และท่านอาจพบจุดอ่อนของเราเช่นกัน แต่บรูไนคือประเทศของเรา ในประเทศของท่าน ได้มีกฎหมายคุ้มครองชาวเกย์และกฎหมายอื่นๆอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับโลกของท่านที่ท่านอาศัยอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น เราก็มีสิทธิเช่นเดียวกับท่านที่จะปฏิบัติเพื่อแสดงความเป็นมุสลิมในโลกและอาคิเราะฮฺที่เราเชื่อศรัทธา

นี่คือประเทศอิสลามที่ต้องการปฏิบัติกฎหมายอิสลาม ทำไมท่านไม่เคยวิตกกังวลลูกหลานของท่านที่ถูกกราดยิงตามโรงเรียนต่างๆไม่เว้นแต่ละวัน?
ทำไมท่านไม่เคยวิตกกังวลว่าคุกในประเทศของท่านอาจมีขนาดไม่เพียงพอกับจำนวนนักโทษ ?
ทำไมท่านไม่เคยวิตกกังวลกับสถิติอาชญากรรมที่พุ่งพรวดทุกวัน ?
ท่านไม่เคยวิตกกังวลสถิติของผู้ฆ่าตัวตายและอัตราการทำแท้งของสตรีบ้างใช่ไหม ?
ท่านควรห่วงใยวิกฤติที่กำลังคุกคามประเทศของท่านมากกว่า เกือบทุกศาสนาปฏิเสธลัทธิ "รักร่วมเพศ" และปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่เลยพลันที่ท่านระแคะระคายว่าอิสลามและมุสลิมได้แสดงจุดยืนและใช้ความพยายามเพื่อปกปักษ์รักษาอิมานของพวกเขา ท่านรีบพิพากษา บอยคอต และตัดสินว่าเป็นความผิดพลาด เขลาเบาปัญญา และไร้จริยธรรม
ข้าพเจ้าขอให้ท่านทบทวนในการแสดงความวิตกกังวลสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ การอนุญาตให้พลเมืองพกพาอาวุธร้ายแรงตามอำเภอใจ ไม่เป็นความผิดใช่ไหม???
การให้โอกาสแก่ทารกในครรภ์ลืมตาดูโลกอย่างปลอดภัย เป็นความผิดใช่ไหม???
การใช้ชีวิตตามลัทธิเซกส์เสรีที่สุ่มเสี่ยงกับโรคเอดส์ที่ทำลายล้างความต่อเนื่องของอนุชนรุ่นหลัง เป็นความผิดพลาดใช่หรือไม่???
ทำไมท่านจึงสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ที่เป็นประเทศอิสลาม ในขณะที่ท่านหลับหูหลับตาทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนกรณีซีเรีย บอสเนีย โรฮิงญา ปาเลสไตน์และอื่นๆ ผู้คนนับพันนับหมื่นได้ล้มตายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศเหล่านี้ แต่พวกท่านไม่เคยสนใจใยดีใดๆเลย ทั้งๆที่ในประเทศบรูไน ยังไม่มีใครตายเนื่องจากการปฏิบัติใช้หลักชะรีอะฮฺแม้เพียงคนเดียว แต่ท่านได้กระพือข่าวใหญ่โต ประชาชนชาวบรูไนที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากกฎหมายนี้ ต่างก็ยอมรับโดยดีด้วยซ้ำ
ใช่ กฎหมายชะรีอะฮฺอาจดูรุนแรงน่ากลัว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะถูกปฏิบัติใช้อย่างง่ายๆตามอำเภอใจ มันจะต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนอย่างรอบคอบและรัดกุมอยู่แล้ว เราจึงยอมรับกฎหมายนี้โดยดี เราสบายใจ และบรูไน รวมเป็นหนึ่ง "

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สุดยอดคมวาทะแห่งปี 2014 !!!
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธ.ค. 23, 2014, 08:45 PM »
0
ชอบมากเลยค่ะ...เป็นถ้อยคำที่เด็ดขาดเลยทีเดียว...

ทำให้นึกย้อนกลับมามองดูตัวเองว่า...
ทำไมเมื่อก่อนตัวเองถึงได้โง่เขลาเบาปัญญา จนปฏิเสธขุมพลังแห่งความรู้ที่มีประโยชน์
เพื่อไปเรียนที่ญี่ปุ่นก็ไม่รู้สิ...เสียเวลาไปเกือบ 6 ปีที่นั่นโดยแท้...
จริงๆนะ...ตอนนั้นอายุแค่ 18 เอง...เลยทำให้มองไม่เห็นปัญหาใหญ่
มากไปกว่าความเพ้อฝันแบบเด็กๆ...และไม่ว่าพ่อจะต่อต้านแค่ไหนก็หัวชนฝา
จะไปเรียนที่ญี่ปุ่นให้ได้...

วันนี้...ผ่านมา 10 ปีแล้ว...ย้อนกลับไปได้เห็นอะไรมากมาย
รวมทั้งการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งนั้นได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงในวันนี้...
และเหมือนจะอยู่อย่างยากลำบากเรื่อยมาท่ามกลางผู้ต่อต้านอิสลาม...

วันนี้เด็กนอกตกงาน...เพียงเพราะต้องการมีที่ละหมาดในที่ทำงานเท่านั้นเอง
เพียงแค่อยากคลุมฮิญาบขณะปฏิบัติงานเท่านั้นเอง...

เขาบอกว่า...ศาสนาเป็นเรื่องส่วนตัว...ไม่เกี่ยวกับงาน...
แต่สำหรับเราผู้เป็นมุสลิมนั้น...อิสลามคือชีวิตและจิตวิญญาณทั้งหมด...

ก็เลยเกิดการต่อต้าน...และแน่นอนเขามีสิทธิ์ปฏิเสธที่จะรับเราเข้าทำงาน
เพียงแค่เราขอทำตามชารีอะฮ์เท่านั้น...

เกรดเฉลี่ยระดับเกียรตินิยมในต่างแดน...กิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างศึกษาที่ญี่ปุ่น
รางวัลระดับประเทศที่ได้รับมา...ระดับภาษาที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ที่จบจากญี่ปุ่นมา
ประสบการณ์ในสายงาน...อายุ...วุฒิภาวะ...ประวัติที่ไม่เคยถูกบันทึกว่าด่างพร้อย
หลายบริษัทที่ได้อ่านได้ศึกษาประวัติจากกระดาษต่างสนใจชวนไปทำงาน
แต่วันที่สัมภาษณ์ทุกอย่างที่ดูราบรื่นมาตลอดกลับถูกสะดุดเพียงเพราะ
เครื่องแต่งกายแบบอิสลาม การกินอยู่แบบอิสลามที่จะไม่ดื่มกินอย่างชาวญี่ปุ่น
การขอละหมาดในขณะปฏิบัติงาน...แม้เพียงไม่กี่นาที...เขาก็ให้เราไม่ได้...
เขาปฏิเสธเรา...เพียงเพราะเราขอเดินบนหนทางของอัลลอฮฺ...
เมื่อเขากล้าปฏิเสธเราเพราะเรื่องนี้ เราก็ขอปิดประตูในการร่วมงานด้วยเช่นกัน...
ไม่เสียใจ...ไม่เศร้า ไม่เสียดายเงินเดือนสูงๆสักนิดเดียว...
แค่แค้นใจนักที่อิสลามไม่เป็นที่ยอมรับต่อพวกเขาเลย...

เขาไม่ได้ปฏิเสธเราเพราะอะไร เว้นเสียแต่...เพราะเราคือมุสลิม...
คือผู้นับถือศาสนาอิสลามที่พร้อมจะปฏิบัติตามหลักชารีอะฮ์อย่างเต็มที่และสมบูรณ์
เพียงเท่านั้นเอง...

หลายเสียงบอกให้หยวนๆ...ละหมาดที่ขาดไประหว่างปฏิบัติงานนั้นค่อยกลับมาละหมาด
ชดใช้เอาที่บ้าน...แต่เราไม่แคร์สื่อ...เพราะการไม่ละหมาดในเวลาโดยเจตนา
ไม่ได้เกิดจากการหลงลืมนั้น...ยากจะทำใจยอมรับต่อศรัทธาของตัวเองได้
เหมือนเราให้ความสำคัญต่ออัลลอฮฺน้อยกว่ามนุษย์ผู้ปฏิเสธบทบัญญัติ
ของอัลลอฮฺเหล่านั้น...ผู้ที่พยายามยุแยงตะแคงรั่วให้เราหลุดพ้น
ไปจากหนทางของอัลลอฮฺ...พวกเขาไม่มีค่าพอให้เราเอาศรัทธา
ไปแลกเลยด้วยซ้ำ...เวลาละหมาดหนึ่งเวลาที่ต้องเสียไปให้พวกเขา
มันยังมีค่ากว่าครึ่งชีวิตของผู้ปฏิเสธศรัทธาที่พยายามเอาตัวเรา
ไปจากอิสลามเสียอีก...

จากที่ควรภูมิใจที่จบจากญี่ปุ่นมา...
ทุกวันนี้กลับเสียใจมากที่ไปเรียนที่ญี่ปุ่น
เสียเงินเสียเวลาเปล่าโดยแท้เลย...
เงินสิบกว่าล้านบาทที่เสียไปกับเวลาที่หมดไปอีกเกือบ 6 ปี
ช่างเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ขี่ช้างจับตั๊กแตนจริงๆ...
ถ้าเอาเงินสิบกว่าล้านนั้นสำหรับเรียนคนเดียว
มาแจกจ่ายให้เด็กๆมุสลิมที่อยากศึกษาศาสนา
แต่ขาดทุนทรัพย์ยังจะมีค่าเสียยิ่งกว่าอะไร...

แต่อย่างไรเสียก็มีอะไรดีๆที่เคยเจอที่ญี่ปุ่นมามากเหมือนกันค่ะ...

แต่นั่นก็เพียงแค่ความเพลิดเพลินต่อดุนยา หาได้จีรังยั่งยืนเลยสักนิดเดียว
มาแล้วผ่านไป...ทิ้งไว้เพียงความทรงจำ ไม่ได้มีผลต่อโลกหน้า...
กินแล้วถ่ายไป...ได้มาแล้วจ่ายไป...ไม่มีตกค้างไปถึงอาคิเราะห์เลย...
ค่อนข้างไร้แก่นสานซะมากกว่า...

มันเลยทำให้เห็นตัวเองในอดีตในแบบสี่มิติ...เห็นความโง่เขลาของตัวเอง
พอๆกับเห็นความผิดพลาด...

ดังนั้น...หากชาวบรูไนต่างรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่ออัลอิสลาม
เราก็คืออีกหนึ่งหัวใจที่จะขอรวมด้วย...เพื่อเป้าหมายเดียวกัน...
และนี่คือ...ความสบายใจที่มีต่อการเดินอยู่บนหนทางของอัลลอฮฺ...
แม้หนทางจะลำบากยากเย็นขนาดไหน แต่เราก็สบายใจ...อุ่นใจ
เมื่อแสงแห่งศรัทธายังคงสาดส่องหัวใจเราอยู่...ความรักของอัลลอฮฺ
ที่เราสัมผัสได้คือความจริง! ไม่ใช่มายาหรือภาพลวงตา...

ปกติข้าน้อยคือคนหนึ่งที่สนใจประเทศเล็กๆที่ปกครองแบบอิสลาม
อย่างบรูไนมาตลอดด้วยความชื่นชม ยิ่งได้เห็นถึงมุมมองและทัศนคติเช่นนี้
จากผู้นำประเทศก็ยิ่งชื่นชมค่ะ...เช่ือว่าต่อไปบรูไนอาจจะเจอศึกหนัก
จากชาติตะวันตก...แต่ก็ขอเป็นกำลังใจและดุอาให้สงบสุข ศัตรูพ่าย...

วัสลามค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 23, 2014, 09:00 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ เสี่ยวเอ้อ

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 59
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: สุดยอดคมวาทะแห่งปี 2014 !!!
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2014, 12:03 AM »
0
แหม่ !!!  เขียนซะยาวกว่าบทความที่ผมลงเยอะเลยครับ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สุดยอดคมวาทะแห่งปี 2014 !!!
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธ.ค. 24, 2014, 01:26 PM »
0
^
^
เขาเรียกว่า แย่งซีนค่ะ...เฮะๆ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)