ทำอย่างไร จะทัศนะวะฮาบีย์กับทัศนะมัสหับทั้ง4 ไม่ขัดแย้งกัน(ขอความเห็นจากทุกๆคน)

[บุคคลธรรมดา]

สลาม บังคนอยากรู้ค่ะ

หนูไม่ได้ ตำหนิ ใครเฉพาะเจาะจงนะคะ
เพียงแต่อยากให้มองว่า การแก้ปัญหา จริงๆ คือ การที่เราไม่ไปร่วมขัดแย้ง หรือ โต้แย้ง
ถ้าเราทำตัวให้เป็นกลาง หมายถึง มองเห็นปัญหา แต่ ไม่ไปร่วมเพิ่มปัญหา
มันน่าจะดีกว่า เพราะ ปรบมือข้างเดียว นั้น ไม่ดัง แน่นอน

ดีใจ ที่บังอยากสมานฉันท์ อย่างจริงจัง 

[คนอยากรู้]

โอว์...........น้องฟาซีละ...........  อาบังขอมาอัฟด้วย......

[นูรุ้ลอิสลาม]

วะฮาบีย์กลุ่มหนึ่งกับกลุ่มสองก็มีอุดมการณ์เดียวกันนั่นแหละครับ   แต่ทว่าวะฮาบีย์กลุ่มสองนั้นจะแสดงออกในรูปแบบที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้  ดังนั้น  เรื่องอุดมการณ์หรือหลักการนั้น   เราคงจะไปบังคับใครให้มายึดแนวทางของตนเองเท่านั้นคงไม่ได้หรอกนะครับ   แต่จุดยืนของอิสลามที่มีต่อความแตกต่างระหว่างทรรศนะนั่นซิครับ  น่าสมควรนำมาใช้   และอย่างไรก็ตามวะฮาบีย์กลุ่มที่สอง  คือพี่น้องของเราตามที่อัซฮะรีย์ได้กล่าวไว้จริงๆนั่นแหละครับ 

[บุคคลธรรมดา]

โอว์...........น้องฟาซีละ...........  อาบังขอมาอัฟด้วย......

 

[คนอยากรู้]

ครับ.....ผมรอความคิดเห็นของพี่น้องวะฮาบีย์กลุ่มที่ 1.(กล่มุที่มีความคิดสุดโต่ง)นานพอสมควร 
ดังนั้นผมขอสรุปคร่าวๆว่า..

.....จากสิ่งที่ผ่านมาในอดีต..พี่น้องเราส่วนมากนั้นปฏิบัติอามัล อีบาดัตถวายต่อองค์อัลเลาะ ในหฃลักและฮุกมชัรอี หรือฮุกมชาเราะตามแบบอย่างอัชซุนนะท่านนบีมาตลอดและสิ่งไหนที่ พี่น้องของเรา   ไม่สามารถเข้าใจหรือศึกษาด้วยตัวเองได้นั้  พี่น้องของเราส่วนมากก็จะปฏฺบัติหลักการด้านฟิกฮ์(นิติศาสตร์)ตามทัศนะของท่านอีม่ามชาฟีอี(รฮ)และจนถึงปัจจุบันนี้..

แต่ในขณะนี้ ในสังคมมุสลิมประเทศไทยเริ่มมีการนำหลักการวิชาการด้านฟิกฮ์ ทั้ง4-5-6ทัศนะ(นิติศาสตร์อิสลาม)ที่ไม่ใช่มาจากอีม่ามชาฟีอีทั้งหมดมาเลือกและแยกแยะมาใช้กับทัศนะของตน......จึงทำให้การปฏิบัติกับพี่น้องที่เคยปฏิบัติตามฟิกฮ์ของท่นอีม่ามชาฟีอีนั้นแตกต่างกัน.....เมื่อเกิดการปฏิบัติในหลัการด้านชารีอัตที่ต่างกัน  ก็กลายเป็นว่า ทำให้เกิดความแตกต่างและกลายเป็นความขัดแย้งในเชิงปฏิบัติในที่สุด..
ที่สำคัญ.ก็คือพี่น้องที่อ้างว่าไม่สังกัดทัศนะนั้น...กลับเอาหลักฐานที่มาจากสิ่งที่ตนปฏิบัติไปโจมตีพี่น้องอีกกลุ่มหนึ่งในทัศนะของอีม่ามชาฟีอี..ว่า ผิดและหลักฐานดออีฟ หรือ..ไม่ซอเหียะบ้าง....เลยกลายเป็นลิ่มที่สร้างความแตกแยกเข้ากันไม่ได้จนถึงปัจจุบันนี้...ซึ่งพี่น้องกล่มนี้จะมีความคิดสุดโต่งมากในหลักดการของวิชาการด้านฟิกฮ์  พวกเขามักยึดคำพูดด้านชารีอัตแบบสุดลิ่ม จนบางครั้งละลาบละล้วงหลักฮากีกัตของอัลลอฮ์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  .ทำให้เกิดการตอบโต้และโต้เถียงกันมาตลอดไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด


พี่น้อง...ทั้ง2ขั้วนี้ เลยไม่สามารถปรับทิศทางความเข้าใจกันได้...การตอบโต้หรือโต้แย้งนั้นสามารถหาช่องทางได้มากมาย เช่น การสื่อทางการพิมพ์หรือโฆษาณา หรือซีดี  วีซีดี  และการปราศรัย  ซึ่งสื่อดังกล่าวนี้คือการพยายามดึงมวลชนของตนให้เป็นเเนวร่วมของตนว่า...นี่คือพรรคพวกของฉัน..นั้นเป็นพวกเก่าพวกใหม่...........

ในขณะเดียวกันคือการไม่ยอมรับในความรู้ของผู้นำจากอิม่ามทั้ง4 ..ในความสามารถที่พระองค์ให้เขาทุ่มเทและเสียสละ..ในการค้นคว้าหลักฐานเท่าที่หามาได้ในขณะนั้น.....ว่างๆจะมาต่อครับ...

[del_dangerous]

อัสลามมุอลัยกุม

การที่เราขัดแย้งกันทุกวันนี้ ผมว่า พวกเรา ตะอัซซุบ มากไป จนไม่เคยเงยหน้ามองดูเลยว่ามันเป็นอย่างไร
เราควรที่จะศึกษาข้อเท็จจริง ว่าแต่ละเรื่องเป็นยังไง แล้วก็นำไปปฏบัติ สิ่งที่ท่าน อีมามทั้ง 4 และทัศนะของวะฮาบีย์

ทุกสิ่งทุกอย่าง เราควรที่จะมองในสิ่งดีๆ ของกันและกัน ไม่ใช่จะมานั่ง เอาข้อผิดพลาดของใครมาวิจารณ์
ฝั่งหนึ่งก็ไม่ยอม เห็นว่าของฉันถูก อีกฝั่งก็ไม่ยอมเพราะคิดว่าของฉันถูก มีหรือเปล่าที่อีมามทั้ง 4 มานั่งทะเลาะกันเพราะว่า
ฮุกมออกมาไม่เหมือนกัน อีหม่ามมาลิกก็ไม่เคย กล่าวหาอีหม่ามซาฟีอีย์ อีหม่ามซาฟีอีย์ ก็ไม่ได้กล่าวหา อีหม่ามฮัมบาลีย์ ว่าทำไม่เหมือน

เราควรที่จะเปิดกว้าง ไม่ควรที่จะมานั่งทะเลาะกัน "แท้จริงมุสลิมนั้นเป็นพี่น้องกัน" หะดีษนี้พวกเราไม่เคยตระหนักกันเลยหรือว่าเป็นยังไง
หากลองคิดดูสักหน่อย อะไรๆ ก็คงจะดีขึ้นมากทีเดียว แล้วก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างทุกวันนี้

การที่เราเห็นใครทำอะไรผิดก็ควรที่จะไปตักเตือนเขาดีๆ ควรจะใช้จิตวิทยาบ้าง ไม่ใช่ทำตามนัฟซูของตัวเอง
นบียังมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อคนที่นับถือศาสนาอื่น แล้วพวกเราเป็นมุสลิมด้วยกัน ยังมานั่งทะเลาะกัน ไม่เข้าท่า

[al-azhary]

ถึงคุณ  del_dangerous

وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

ผมชอบอ่านข้อเขียนของคุณล่าสุดนี้ครับ  ญะซากัลลอฮ์

والسلام