ผู้เขียน หัวข้อ: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน  (อ่าน 22848 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

al_azhary

  • บุคคลทั่วไป
ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« เมื่อ: ส.ค. 16, 2008, 06:32 PM »
0

บทนำ



بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَالصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلَى أَشْرَفِ الأَنْبِيَاءِ وَالْمُرْسَلِيْنَ وَعَلَى آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ...وَبَعْدُ

เราขอกล่าวว่า  อัลฮัมดุลิลลาฮ์  ที่สถาบันอัลกุดวะฮ์ได้จัดทำเอกสารเผยแผ่เกี่ยวกับเรื่องนิศฟุชะอฺบานฉบับย่อเพื่อสร้างความเข้าใจแก่บรรดาพี่น้องผู้อยู่ในแนวทางของอัลเลาะฮ์ตะอาลา

อนึ่ง  เดือนชะอฺบานเดือนที่ประชาชาติอิสลามให้ความสำคัญอีกเดือนหนึ่ง  ซึ่งเป็นเดือนอารัมภบทสำหรับเดือนรอมะฏอนอันมีเกียรติ  อีกทั้งเป็นเดือนแห่งการฝึกฝนการถือศีลอด  การละหมาดซุนนะฮ์  และปฏิบัติคุณความดีต่างๆ เพื่อลิ้มรสความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา  และดื่มด่ำความหอมหวานของอีหม่าน  ดังนั้น เมื่อเดือนรอมะฏอนมาถึง เราจึงมีความเคยชินและมีความพร้อมที่จะตอบรับภารกิจอันยิ่งใหญ่

ยิ่งไปกว่านั้นเดือนชะอฺบานยังเป็นเดือนที่มีความประเสริฐและมีความโดดเด่นกว่าเดือนอื่นๆ  เนื่องจากเป็นเดือนที่บรรดาอะมัลถูกยกนำเสนอต่ออัลเลาะฮ์ ตะอาลา เป็นเดือนที่พระองค์ทรงเมตตาแก่บรรดาผู้วอนขอความเมตตา  เป็นเดือนที่พระองค์ทรงอภัยโทษแก่บรรดาผู้ขออภัยโทษและยังเป็นเดือนที่พระองค์ทรงปลดปล่อยปวงบ่าวจากไฟนรกอีกด้วย

และเนื่องจากความสำคัญของเดือนชะอฺบานนี้เอง ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงได้เฝ้ารอและให้ความสำคัญกับเดือนดังกล่าว  ท่านหญิงอาอิชะฮ์  ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา  ได้กล่าวว่า  “ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยถือศีลอดในเดือนหนึ่งมากไปกว่าในเดือนนิศฟุชะอฺบาน  เพราะท่านได้ทำการถือศีลอดเกือบทั้งเดือนชะอฺบาน”รายงานโดยบุคอรีย์, หะดีษเลขที่ 1969. ดู อิบนุ ฮะญัรอัลอัสก่อลานีย์,  (ม.ป.ป.). ฟัตหุลบารีย์, ตะห์กีก: บิน บาซฺ, (เบรูต: ดารุลฟิกร์, ม.ป.ป.), เล่ม 4, หน้า 213; รายงานโดยมุสลิม, หะดีษเลขที่ 176. ดูอันนะวาวีย์ ยะห์ยา บิน ชะร็อฟ, ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม, ตะห์กีก: อิซอม อัศศ่อบาบิฏีย์ (ไคโร: ดารุลหะดีษ, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1415/ค.ศ.1994), เล่ม 4, หน้า 293.

เอกสารฉบับนี้  มุ่งที่จะนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับคืนนิสฟูชะอฺบานในประเด็นต่อไปนี้

1. หลักฐานความประเสริฐของคืนนิศฟุชะอฺบาน
2. ทัศนะของปราชญ์สะละฟุศศอลิห์เกี่ยวกับคืนนิศฟุชะอฺบาน
3. การละหมาดในคืนนิศฟุชะอฺบาน
4. การซิกรุลเลาะฮ์ในคืนนิศฟุชะอฺบาน
5. การอ่านอัลกุรอานและดุอาในคืนนิศฟุชะอฺบาน
6. การเลี้ยงอาหาร

สุดท้ายนี้  ผู้เขียนวอนขอต่อเอกองค์อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงประทานทางนำแก่เราและประทานความสะดวกง่ายดายแก่สถาบันอัลกุดวะฮ์ในการเผยแผ่เจตนารมณ์ของอัลอิสลามด้วยเถิด  ยาร็อบ!

อารีฟีน  แสงวิมาน
สถาบันอัลกุดวะฮ์


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 21, 2010, 01:49 PM โดย al-azhary »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.ค. 21, 2010, 02:01 PM »
0

หลักฐานความประเสริฐของคืนนิศฟุชะอฺบาน

คืนนิศฟุชะอฺบานเป็นคืนแห่งการขอดุอาและขออภัยโทษ  เป็นคืนที่อัลเลาะฮ์ ตะอาลา จะทรงมองมายังปวงบ่าวของพระองค์เพื่อประทานอภัยโทษให้แก่บาปทั้งหลายที่ปวงบ่าวได้กระทำ  นอกจากผู้ตั้งภาคีและมีความบาดหมางโกรธเคืองต่อบรรดาพี่น้องมุสลิมด้วยกันเอง  เพราะการตัดญาติขาดมิตรหรือมีความบาดหมางต่อพี่น้องมุสลิมนั้น  เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ไม่ได้รับการอภัยโทษจากอัลเลาะฮ์ตะอาลา

ท่านมุอาซฺ บิน ญะบัล ได้รายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า

يَطَّلِعُ اللهُ إِلَى خَلْقِهِ فِيْ لَيْلَةِ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ فَيَغْفِرُ لِجَمِيْعِ خَلْقِهِ إِلاَّ لِمُشْرِكٍ أَوْ مُشَاحِنٍ

อัลเลาะฮ์ทรงมองยังปวงบ่าวของพระองค์ในคืนนิศฟุชะอฺบาน พระองค์ก็จะทรงอภัยโทษแก่พวกเขาทั้งหมด  นอกจากผู้ที่ตั้งภาคีและผู้บาดหมางต่อกัน”รายงานโดยท่านอิบนุฮิบบาน และท่านอิบนุฮิบานกล่าวว่าหะดีษนี้ซอฮิห์. ดู อิบนุฮิบบาน, ซอฮีห์อิบนุฮิบบาน บิตัรตีบ อิบนุบัลบาน, ตะห์กีก: ชัยค์ ชุอัยบ์ อัลอัรน่าอูฏ  (เบรุต: มุอัซซะซะฮ์ อัรริซาละฮ์, พิมพ์ครั้ง 2, (ฮ.ศ.1414/ค.ศ.1993), เล่ม 12,หน้า 481. และชัยค์ ชุอัยบ์ อัลอัรน่าอูฏ กล่าวว่า  หะดีษนี้ซอฮีห์ โดยมีหะดีษอื่นๆ มาสนับสนุน. ท่านอิมามอัลบัยฮะกีย์กล่าวว่า “เราได้รายงานหะดีษนี้ไว้โดยมีหลายสายรายงานด้วยกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าหะดีษนี้มีแหล่งที่มาจากหะดีษของท่านมักฮูล. ดู อบี บักร์ อะห์มัด บิน ฮุซัยน์ อัลบัยฮะกีย์, ชุอะบุลอีมาน, ตะห์กีก: อะบี ฮาญิร มุฮัมมัด สะอีด บัสยูนีย์ ซัฆลูล (เบรูต: ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1421/ค.ศ.200), เล่ม 3 หน้า 382; อะบูมุฮัมมัด ซะกียุดดีน อับดุลกะรีม บิน อับดุลก่อวีย์ อัลมุนซิรีย์, อัตตัรฆีบ วัตตัรฮีบ, ตะห์กีก: อะบู ศุฮัยบ์ อัลก่อร่อมีย์ (บัยตุลอัฟการ อัดเดาลียะฮ์, ม.ป.ป.), หน้า 585, หะดีษเลขที่ 4202. ท่านอัลมุนซิรีย์กล่าวว่า หะดีษนี้  ไม่เป็นไร (หมายถึง: เป็นหะดีษดี).

ท่านอับดุลเลาะฮ์ บิน อัมร์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า

أَنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ : يَطَّلِعُ اللهُ عَزَّ وَجَلَّ إِلَى خَلْقِهِ لَيْلَةَ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ فَيَغْفِرُ لِعِبَادِهِ إِلاَّ لاِثْنَيْنِ مُشَاحِنٍ وَقَاتِلِ نَفْسٍ

แท้จริงท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า อัลเลาะฮ์จะทรงมองมายังบ่าวของพระองค์ในคืนนิศฟุชะอฺบาน พระองค์จะอภัยโทษแก่ปวงบ่าวทั้งหลาย นอกจากสองคน คือผู้ที่บาดหมางต่อกันและฆ่าชีวิตหนึ่ง (ที่อัลเลาะฮ์ทรงห้าม)”รายงานโดยอะห์มัด, ดู อะห์หมัด บิน ฮัมบัล, มุสนัด อิหม่ามอะห์มัด บิน ฮัมบัล, ตะห์กีก: ชัยค์ ชุอัยบ์ อัลอัรน่าอูฏ (เบรูต: มุอัซซะฮ์ อัรริซาละฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1416/ค.ศ.1995), เล่ม 11, หน้า 216-217. ท่านชัยค์ ชุอัยบ์ อัลอัรน่าอูฏ ได้กล่าวว่า “หะดีษนี้ซอฮิห์ โดยมีหะดีษอื่นๆ มาสนับสนุน... และการที่ท่านอัลกอซิมีย์ได้ถ่ายทอดคำพูดไว้ในหนังสือ อิศลาห์ อัลมะซาญิด (หน้า 100) จากนักวิจารณ์หะดีษว่า “ในเรื่องที่คืนนิศฟุชะอฺบานไม่มีหะดีษใดที่ซอฮิห์เลย” นั้น  หมายถึง  ในเรื่องนี้ไม่มีหะดีษที่มีสายรายงานถูกต้อง(อย่างเป็นเอกเทศน์)  แต่เมื่อได้มีการรวบรวมบรรดาสายรายงานต่างๆ แล้ว  หะดีษนี้จึงได้รับการสนับสนุนและทำให้แข็งแรงมีน้ำหนัก.”  

ท่านอุษมาน บิน อะบิลอาซ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

إَذَا كَانَ لَيْلَةُ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ نَادَى مُنَادٍ هَلْ مِنْ مُسْتَغْفِرٍ فَأَغْفِرُ لَهُ هَلْ مِنْ سَائِلٍ فَأُعْطِيْهِ فَلاَ يَسْأَلُ أَحَدٌ شَيْئاً إِلاَّ أُعْطِيْهُِ إِلاَّ زَانِيَةٌ بِفَرْجِهَا أَوْ مُشْرِكٌ

เมื่อถึงคืนนิศฟุชะอฺบาน จะมี (มะลาอิกะฮ์ถูกมอบหมายจากอัลเลาะฮ์ให้) ป่าวประกาศว่า มีผู้ใดขออภัยโทษไหม? ข้าจะอภัยโทษแก่เขา  มีผู้ที่วอนขอต่อข้าไหม? ข้าจะประทานให้แก่เขา ดังนั้นจะไม่มีผู้ใดทำการวอนขอสิ่งหนึ่งเว้นเสียแต่ว่าข้าจะประทานให้ นอกจากหญิงที่ทำซินาด้วยอวัยวะเพศของนางหรือผู้ตั้งภาคี”รายงานโดยอัลบัยฮะกีย์ ดู อบี บักร์ อะห์มัด บิน ฮุซัยน์ อัลบัยฮะกีย์, ชุอะบุลอีมาน, เล่ม 3, หน้า 383.

ในเรื่องของความซอฮิห์ของหะดีษเกี่ยวกับความประเสริฐของคืนนิศฟุชะอฺบานนั้น แม้กระทั่งอัลอัลบานีย์เองก็ยังตัดสินว่า หะดิษดังกล่าวนั้น “ซอฮิห์” ไว้ในหนังสือ อัซซิลซิละฮ์อัศศ่อฮีฮะฮ์ (ดู นาซิรุดดีน อัลอัลบานีย์, ซิลซิละฮ์อัลอะฮาดีษ อัศศ่อฮีฮะห์ (ริยาฎ: มักตะบะฮ์ อัลมะอาริฟ, พิมพ์ครั้งที่ 2, ฮ.ศ.1415/ค.ศ.1995), เล่ม 3, หน้า 135, หะดีษเลขที่ 1144.) และในหนังสือซอฮิห์อิบนุมาญะฮ์ (ดู นาซิรุดดีน อัลอัลบานีย์, ซอฮิห์ สุนันอิบนุ มาญะฮ์, (ริยาฎ: มักตะบะฮ์ อัตตัรบียะฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 2, ฮ.ศ. 1408/ค.ศ.1988), เล่ม 1, หน้า 233, หะดีษเลขที่ 1140.)

และในหนังสือซอฮิห์อิบนุมาญะฮ์   ด้วยเหตุนี้อัลอัลบานีย์จึงกล่าวว่า

فَمَا نَقَلَهُ الشَّيْخُ الْقَاسِمِيُّ رَحِمَهُ اللهُ تَعَالَى فِي إِصِلاَحِ الْمَسَاجِدِ (ص 107) عَنْ أَهْلِ التَّعْدِيْلِ وَالتَّجْرِيْحِ أَنَّهُ لَيْسَ فِي فَضْلِ لَيْلَةِ النَّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ حَدِيْثٌ صَحِيْحٌ ، فَلَيْسَ مِمَّا يَنْبَغِي الاِعْتِمَادُ عَلَيْهِ ، وَلَئِنْ كَانَ أَحَدٌ مِنْهُمْ أَطْلَقَ مِثْلَ هَذَا الْقَوْلِ فَإِنَّمَا أُوْتِيَ مِنْ قِبَلِ التَّسَرُّعِ وَعَدَمِ وَسْعِ الْجُهْدِ لِتَتَبُّعِ الطُّرُقِ عَلَى هَذَا النَّحْوِ اَلَّذِيْ بَيْنَ يَدَيْكَ

“สิ่งที่ท่านอัลกอซิมีย์ได้ถ่ายทอดคำพูดไว้ในหนังสือ อิศลาห์ อัลมะซาญิด (หน้า 107) จากนักวิจารณ์หะดีษที่ว่าไม่มีหะดีษใดซอฮิห์เกี่ยวกับเรื่องนิศฟุชะอฺบานนั้น  ไม่ควรนำมาเป็นบรรทัดฐาน และถ้าหากคนใดจากคนพวกเขาได้กล่าวตัดสินเช่นนี้  ถือว่าเป็นการตัดสินแบบรีบด่วนและไม่ทุ่มเทความพยายามในการตรวจสอบสายรายงานต่างๆ ตามแนวทางที่อยู่ตรงหน้าท่าน”ดู นาซิรุดดีน อัลอัลบานีย์, อัซซิลซิละฮ์ อัซศ่อฮีฮะฮ์, เล่ม 3, หน้า 135, หะดีษเลขที่ 1144.

ดังนั้นคืนนิศฟุชะอฺบาน  อัลเลาะฮ์ตะอาลา จักทรงอภัยโทษแก่ปวงบ่าวทั้งหลาย  โดยมอบหมายให้มะลาอิกะฮ์ป่าวประกาศในค่ำคืนดังกล่าว  ดังนั้นผู้ใดที่จิตใจผูกพันและรำลึกอัลเลาะฮ์อยู่เสมอ  เขาก็จะตอบรับการป่าวประกาศนั้น  แต่สำหรับผู้ที่หลงลืมในอัลเลาะฮ์  เขาก็จะไม่ตอบรับและไม่ขออภัยโทษต่อพระองค์  ส่วนผู้ที่ตั้งภาคีและมีจิตใจบาดหมางกับพี่น้องมุสลิมด้วยกันเอง  เขาย่อมอัปโชคในคืนดังกล่าวอย่างแน่นอน  วัลอิยาซุบิลลาฮ์

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 22, 2010, 04:23 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.ค. 21, 2010, 02:13 PM »
0

ทัศนะของสะละฟุศศอลิห์เกี่ยวกับคืนนิศฟุชะอฺบาน

ท่านมุฮัมมัด บิน อิสหาก (เสียชีวิต ฮ.ศ. 227) ได้กล่าวบันทึกประวัติศาสตร์ในยุคสะลัฟไว้ความว่า

ذِكْرُ عَمَلِ أَهْلِ مَكَّةَ لَيْلَةَ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ وَاجْتِهَادِهِمْ فِيهَا لِفَضْلِهَا وَأَهْلُ مَكَّةَ فِيمَا مَضَى إِلَى الْيَوْمِ إِذَا كَانَ لَيْلَةُ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ، خَرَجَ عَامَّةُ الرِّجَالِ وَالنِّسَاءِ إِلَى الْمَسْجِدِ، فَصَلَّوْا، وَطَافُوا، وَأَحْيَوْا لَيْلَتَهُمْ حَتَّى الصَّبَاحَ بِالْقِرَاءَةِ فِي الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ، حَتَّى يَخْتِمُوا الْقُرْآنَ كُلَّهُ، وَيُصَلُّوا، وَمَنْ صَلَّى مِنْهُمْ تِلْكَ اللَّيْلَةَ مِائَةَ رَكْعَةٍ يَقْرَأُ فِي كُلِّ رَكْعَةٍ بِالْحَمْدُ، وَقُلْ هُوَ اللهُ أَحَدَ عَشْرَ مَرَّاتٍ، وَأَخَذُوا مِنْ مَاءِ زَمْزَمَ تِلْكَ اللَّيْلَةَ، فَشَرِبُوهُ، وَاغْتَسَلُوا بِهِ، وَخَبَّؤُوهُ عِنْدَهُمْ لِلْمَرْضَى، يَبْتَغُونَ بِذَلِكَ الْبَرَكَةَ فِي هَذِهِ اللَّيْلَةِ، وَيُرْوَى فِيهِ أَحَادِيثُ كَثِيرَةٌ

“กล่าวถึงการปฏิบัติของชาวมักกะฮ์ในคืนนิศฟุชะอฺบานและการที่พวกเขาทุ่มเทให้แก่ความประเสริฐของคืนนั้น  ชาวมักกะฮ์ตั้งแต่อดีตจนถึงวันนี้ (หมายถึงในยุค ฮ.ศ. 200) เมื่อถึงคืนนิศฟุชะอฺบาน  ผู้คนทั่วไปทั้งชายและหญิงต่างออกไปที่มัสยิดอัลฮะรอม  แล้วพวกเขาก็ทำการละหมาด  เฏาะวาฟ  ทำการฟื้นฟูค่ำคืนของพวกเขาด้วยการอ่านอัลกุรอ่านจบทั้งหมดในมัสยิดฮะรอมถึงยามรุ่งสาง  แล้วพวกเขาก็ทำการละหมาด และผู้ใดจากพวกเขาได้ทำการละหมาดในค่ำคืนนั้น 100 ร็อกอะฮ์ และอ่านซูเราะฮ์อัลฮัมด์(ฟาติฮะฮ์)ในทุกร็อกอะฮ์พร้อมกับกุลฮุวัลเลาะฮ์ 10 ครั้ง และเอาน้ำซัมซัมในคืนนั้นมาดื่มและอาบ และได้เก็บน้ำนั้นไว้ให้แก่บรรดาผู้ป่วย  พวกเขากระทำสิ่งดังกล่าวเพื่อแสวงหาบะรอกะฮ์ในค่ำคืนนี้และมีหะดีษมากมายที่ถูกรายงานเกี่ยวกับสิ่งดังกล่าว”ดู อะบูอับดิลลาฮ์ มุฮัมมัด บิน อิสหาก บิน อับบาส อัลมักกีย์ อัลฟากิฮีย์, อักฺบารมักกะฮ์ ฟี ก่อดีมิฮี วะ ฮะดีษิฮ์, ตะห์กีก: อับดุลมาลิก อับดิลลาฮ์ ฮุดัยช์ (เบรูต: ดารุ คิฎร์, พิมพ์ครั้งที่ 2, ฮ.ศ. 1414), เล่ม 3, หน้า 84.

ท่านอิบนุ อัลฮาจญฺ กล่าวว่า

وَبِالْجُمْلَةِ فَهَذِهِ الَّلْيَلَةُ وَإِنْ لمَ ْتَكُنْ لَيْلَةَ الْقَدْرِ فَلَهَا فَضْلٌ عَظِيْمٌ وَخَيْرٌ جَسِيْمٌ، وَكَانَ السَّلَفُ رَضِيَ اللهُ عَنْهُمْ يُعَظِّمُوْنَهَا وَيُشَمِّرُوْنَ لَهَا قَبْلَ إِتْيَانِهَا، فَمَا تَأْتِيْهِمْ إِلاَّ وَهُمْ مُتَأَهِّبُوْنَ لِلِقَائِهَا وَالْقِيَامِ بِحُرْمَتِهَا، عَلَى مَا قَدْ عُلِمَ مِنْ اِحْتِرَامِهِمْ لِلشَّعَائِرِ

“โดยสรุปแล้ว  ค่ำคืน(นิศฟุชะอฺบาน)นี้  หากแม้ว่าจะไม่ใช่คืนลัยละตุลก็อดร์ก็ตาม  สำหรับค่ำคืน(นิศฟุชะอฺบาน)นั้นถือว่ามีความประเสริฐอย่างยิ่งและเป็นคืนแห่งความดีงามใหญ่หลวง  เพราะชาวสะลัฟจะให้ความสำคัญกับคืนนี้และพวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับคืนนิศฟุชะอฺบานก่อนที่จะมาถึง  ดังนั้นคืนนิศฟุชะอฺบานจะไม่มาถึงนอกเสียจากว่าพวกเขาจะเตรียมพร้อมที่จะพบกับค่ำคืนนั้นและให้เกียรติตามที่รู้กันแล้ว(ข้างต้น)ว่าพวกเขาให้เกียรติต่อเอกลักษณ์ต่างๆ (ของคืนนิศฟุชะอฺบาน)”อิบนุลฮาจญ์ มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัด อัลอับดะรีย์, อัลมัดค็อล (ไคโร: มักตะบะฮ์ ดารุตตุร็อษ, ม.ป.ป.), เล่ม 1, หน้า 299.

ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ ฮะญัร อัลอัสก่อลานีย์ได้กล่าวว่า “ท่านอัลค็อลล้าล ได้รายงานไว้ในหนังสือ ความประเสริฐของเดือนร่อญับ ด้วยสายรายงานจากท่านคอลิด บิน มะอฺดาน เขากล่าวว่า “ในหนึ่งปี มีอยู่ 5 คืน  ซึ่งผู้ใดหมั่นทำความดีในคืนเหล่านั้น โดยหวังผลบุญและเชื่อในสัญญาของอัลเลาะฮ์ที่จะให้ผลบุญในคืนเหล่านั้น  พระองค์ก็จะให้เขาได้เข้าสวรรค์ คือ  คืนแรกของเดือนระญับโดยเขาหมั่นทำอิบาดะฮ์ในยามกลางคืนและถือศีลอดในยามกลางวันของเดือนรอญับ, คืนอีดิลฟิตร์, คืนอีดิลอัฏฮา, คืนอาชูรออ์, และคืนนิศฟุชะอฺบาน”ดู อิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานีย์, อัตตัลคีศ อัลหะบีร, ตะห์กีก: อะบุ อาซิม หะซัน บิน อับบาส บิน กุฏบ์(ไคโร: มุอัซซะซะฮ์ อัรริซาละฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1416/ค.ศ.1995), เล่ม 2, หน้า 161.

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า

 لَيْلَةُ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ فَقَدْ رُوِيَ فِي فَضْلِهَا مِنَ الأَحَادِيْثِ الْمَرْفُوْعَةِ وَالآثَارِ مَا يَقْتَضِيْ : أَنَّهَا لَيْلَةٌ مُفَضَّلَةٌ  وَأَنَّ مِنَ السَّلَفِ مَنْ كَانَ يَخُصُّهَا بِالصَّلاَةِ فِيْهَا...لَكِنَّ الَّذِيْ عَلَيْهِ كَثِيْرٌ مِنْ أَهْلِ الْعِلْمِ؛ أَوْ أَكْثُُرُهُمْ مِنْ أَصْحَابِنَا وَغَيْرِهِمْ : عَلَى تَفْضِيْلِهَا، وَعَلَيْهِ يَدُلُّ نَصُّ أَحْمَدَ، لِتَعَدُّدِ الأَحَادِيْثِ الوَارِدَةِ فِيْهَا، وَمَا يُصَدِّقُ ذَلِكَ مِنَ الآثَارِ السَّلَفِيَّةِ، وَقَدْ رُوِيَ بَعْضُ فَضَائِلِهَا فِي الْمَسَانِيْدِ وَالسُّنَنِ. وَإِنْ كَانَ قَدْ وُضِعَ فِيْهَا أَشْيَاءُ أُخَرُ

“คืนนิศฟุชะอฺบานนั้น  ได้ถูกรายงานเกี่ยวกับความประเสริฐของมันโดยบรรดาหะดีษและคำพูดต่างๆ (ของสะลัฟ) ซึ่งให้นัยว่า  คืนนิศฟุชะอฺบานเป็นคืนที่มีความประเสริฐ และยังมีสะลัฟบางส่วนเจาะจงการละหมาดเป็นพิเศษในคืนนิศฟุชะอฺบาน...แต่ทัศนะของนักวิชาการมากมายหรือส่วนมากจากปราชญ์ของเราและอื่นๆ ถือว่าคืนนิศฟุชะอฺบานมีความประเสริฐ และคำพูดของอิหม่ามอะห์หมัดก็ได้ระบุไว้ เพราะมีหลายหะดีษรายงานเกี่ยวกับมันและยังมีคำพูดของเหล่าสะลัฟมายืนยัน และความประเสริฐบางประการของคืนนิศฟุชะอฺบานนั้นได้ถูกรายงานไว้ในตำราหะดีษต่างๆ  ถึงแม้ว่าจะมีการกุบางอย่างขึ้นมาในหะดีษเหล่านั้นด้วยก็ตาม”อิบนุตัยมียะฮ์, อิกตะฎออฺ อัศศิร่อฏิลมุสตะกีม, ตะห์กีก: นาซิร บิน อับดิลกะรีม อัลอักล์ (ริยาฎ: มักตะบะฮ์ อัรรุชด์), เล่ม 2, หน้า 631.

ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุฮะญัรได้กล่าวเช่นกันว่า

رَوَى الْخَطِيْبُ فِي غُنْيَةِ الْمُلْتَمِسِ بِإِسْنَادٍ إِلَى عُمَرَ بْنِ عَبْدِ الْعَزِيْزِ أَنَّهُ كَتَبَ إِلَى عَدِيِّ بْنِ أَرْطاَة: عَلَيْكَ بِأَرْبَعِ لَيَالٍ فِي السَّنَةِ، فَإِنَّ اللهَ يَفْرَغُ فِيْهِنَّ الرَّحْمَةَ: أَوَّلِ لَيْلَةِ مِنْ رَجَبٍ، وَلَيْلَةِ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ، وَلَيْلَةِ الْفِطْرِ، وَلَيْلَةِ النَّحْرِ.

“ท่านอัลคอฏีบ ได้รายงานไว้ในหนังสือ ฆุนยะฮ์ อัลมุลตะมิส ด้วยสายรายงานถึงท่าน อุมัร บิน อับดุลอะซีซ ว่า ท่านได้ทำการเขียนสารถึงอะดีย์ บิน อัรเฏาะอะฮ์  ความว่า  “ในหนึ่งปีนั้นท่านจงหมั่นเอาใจใส่ใน 4 คืน  เพราะอัลเลาะฮ์ตะอาลาจะทรงประทานความเมตตาในคืนเหล่านั้น คือ คืนแรกของเดือนร่อญับ คืนนิศฟุชะอฺบาน คืนอีดิลฟิตร์ และคืนอีดิลอัฏฮา”เรื่องเดียวกัน.

ท่านอิบนุรอญับ กล่าวว่า “ท่านสะอีด บิน มันซูร รายงานว่า ได้เล่าให้เราทราบ โดย อบู มะอฺชัร จาก อบูฮาซิมและมุฮัมมัด บิน ก็อยซ์ จากท่าน อะฏออ์ บิน ยะซาร เขากล่าวว่า “ไม่มีคืนใดหลังจากคืนลัยละตุลก็อดร์ที่จะประเสริฐยิ่งไปกว่าคืนนิศฟุชะอฺบาน ซึ่งอัลเลาะฮ์จะทรงประทานความเมตตาสู่ฟากฟ้าชั้นล่าง แล้วพระองค์ก็จะทรงประทานอภัยโทษแก่ปวงบ่าวทั้งหมด นอกจาก ผู้ตั้งภาคี ผู้สร้างความขุ่นเคืองต่อกัน และผู้ที่ตัดญาติขาดมิตร”ดู อับดุรเราะห์มาน บิน อะห์หมัด อิบนุรอญับ, ละฏออิฟ อัลมะอาริฟ, ตะห์กีก: อามิร บิน อะลี ยาซีน (ริยาฎ: ดารุ อิบนิ คุซัยมะฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1428/ค.ศ.2007), หน้า 327.

ท่านอิมามชาฟีอีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลอุมม์ ความว่า

وَبَلَغَنَا أَنَّهُ كَانَ يُقَالُ: إِنَّ الدُّعَاءَ يُسْتَجَابُ فِي خَمْسِ لَيَالٍ: فِي لَيْلَةِ الْجُمُعَةِ، وَلَيْلَةُ الأَضْحَى، وَلَيْلَةِ الفَطْرِ، وَأَوَّلِ لَيْلَةٍ مِنْ رَجَبٍ، وَلَيْلَةِ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ ...وَأَنَا أَسْتَحِبُّ كُلَّ مَا حَكَيْتُ فِي هَذِهِ الليَالِيْ مِنْ غَيْرِ أَنْ تَكُوْنَ فَرْضاً

“ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอฺจะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืนอีดอัฏฮา คืนอีดิลฟิตร์ คืนแรกของเดือนร่อญับ และคืนนิศฟุชะอฺบาน...ดังนั้นฉันรัก(ที่จะให้กระทำ)สิ่งที่ฉันได้รายงานในบรรดาคืนเหล่านี้  โดยไม่ใช่เป็นฟัรฎูแต่อย่างใด”ดู มุฮัมมัด บิน อิดรีส อัชชาฟีอีย์, อัลอุมม์, ตะห์กีก: ริฟอัต เฟาซีย์ อับดุลมุฏฏอลิบ (มันซูเราะฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1422/ค.ศ.2001), เล่ม 2 หน้า 485; ดู มุห์ยุดดีน บิน ชะร็อฟ อันนะวาวีย์, อัลมัจญฺมูอฺ ชัรห์อัลมุฮัซซับ, ตะห์กีก: มะห์มูด มัฏเฏาะร่อญีย์ (เบรูต: ดารุลฟิกร์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1426/ค.ศ.2005), เล่ม 5, หน้า47-48.

ท่านอัฏเฏาะบะรอนีย์ ได้กล่าวว่า

سَمِعْتُ عَبْدَ اللهِ بْنَ أَحْمَدَ بْنِ حَنْبَلٍ يَقُوْلُ: سَمِعْتُ أَبِي يَقُوْلُ فِي مَعْنىَ حَدَيْثِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: إِنَّ اللهَ عَزَّ وَجَلَّ يَطَّلِعُ فِي لَيْلَةِ النِّصْفِ مِنْ شَعْبَانَ عَلَى عِبَادِهِ فَيَغْفِرُ لأَهْلِ الأَرْضِ إِلاَّ لِمُشْرِكٍ أَوْ مُشَاحِنٍ قَالَ : اَلْمُشَاحِنُ : هُمْ أَهْلُ الْبِدَعِ الَّذِيْنَ يُشَاحِنُوْنَ أَهْلَ الإِسْلاَمِ وَيُعَادُوْنَهُمْ

“ฉันได้ยิน อับดุลเลาะฮ์ บุตร อิมามอะห์หมัด(บิน ฮัมบัล) กล่าวว่า ฉันได้ยินบิดาของฉันได้กล่าวเกี่ยวกับความหมายของหะดีษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า “แท้จริงอัลเลาะฮ์จะมองลงมายังปวงบ่าวของพระองค์ในคืนนิศฟุชะอฺบาน พระองค์จะทำการอภัยโทษแก่บ่าวของพระองค์ที่อยู่บนผืนแผ่นดินนอกจากผู้ตั้งภาคีและผู้บาดหมางต่อกัน บิดากล่าวว่า  ผู้บาดหมางนั้น คือพวกบิดอะฮ์ที่ขุ่นเคืองต่อบรรดามุสลิมและเป็นศัตรูต่อพวกเขา”ดู อะบุลกอซิม สุลัยมาน บิน อะห์มัด อัฏเฏาะบะรอนีย์, อัดดุอา, ตะห์กีก: มุฮัมมัด สะอีด บิน มุฮัมมัด ฮะซัน อัลบุคอรีย์ (เบรูต: ดารุลบะชาอิร อัลอิสลามียะฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1407/ค.ศ.1987), หน้า 1071-1072.

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ได้กล่าวว่า

وَأَمَّا لَيْلَةُ النِّصْفِ فَقَدْ رُوِيَ فِي فَضْلِهَا أَحَادِيْثُ وَآثَارُ، وَنُقِلَ عَنْ طَائِفَةٍ مِنَ السَّلَفِ أَنَّهُمْ كَانُوْا يُصَلُّوْنَ فِيْهَا، فَصَلاَةُ الرَّجُلِ فِيْهَا وَحْدَهُ قَدْ تَقَدَّمَهُ فِيْهِ سَلَفٌ وَلَهُ فِيْهِ حُجَّةٌ فَلاَ يُنْكَرُ مِثْلُ هَذَا، أَمَّا الصَّلاَةُ جَمَاعَةً فَهَذَا مَبْنِيٌّ عَلَى قَاعِدَةٍ عَامَّةٍ فِي الاِجْتِمَاعِ عَلَى الطَّاعَاتِ وَالْعِبَادَاتِ

“สำหรับคืนนิศฟุชะอฺบานนั้น ได้มีบรรดาหะดีษและคำกล่าวของเศาะฮาบะฮ์รายงานถึงความประเสริฐของคืนนิศฟุชะอฺบาน และได้ถูกถ่ายทอดรายงานจากปราชญ์สะลัฟกลุ่มหนึ่งซึ่งได้ทำการละหมาด(สุนัต)ในคืนนิศฟุชะอฺบาน ดังนั้นการที่ชายคนหนึ่งได้ทำการละหมาดคนเดียวนั้น ได้มีสะลัฟกระทำมาก่อนหน้าแล้ว ซึ่งก็เป็นหลักฐานยืนยันแก่เขา ดังนั้นจึงไม่มีการตำหนิการกระทำเช่นนี้ สำหรับการละหมาดเป็นญะมาอะฮ์(ในคืนนิศฟุชะอฺบาน)นั้น  ดังกล่าวนี้อยู่บนหลักการทั่วไปในการร่วมกันทำการฏออัตและอิบาดะฮ์”ดู อิบนุตัยมียะห์, มัจญฺมูอฺ อัลฟาตาวา (อัลมะดีนะฮ์อัลมุเนาวะฮ์: มุญัมมะอฺ อัลมาลิก ฟะฮัด, ฮ.ศ.1425/ค.ศ.2004), เล่ม 23, หน้า 132.

ดังนั้นเมื่อสะละฟุศศอลิห์ผู้มีคุณธรรมหลายท่าน เช่น ท่านคอลิต บิน มะอฺดาน  ท่านมักฮูล  ท่านลุกมาน บิน อามีร  ท่านอิสฮาก บิน รอฮะวัยฮฺ   ท่านอัลเอาซะอีย์  ท่านอิมามชาฟิอีย์  ท่านอิมามอะห์มัด  และปราชญ์สะลัฟท่านอื่น ๆ ได้ให้ความสำคัญกับคืนนิศฟุชะอฺบาน  การตามในเรื่องความดีงามของพวกเขาย่อมไม่หลงทาง  เพราะอัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงตรัสความว่า “และท่านจงตามแนวทางของผู้ที่กลับไปสู่ข้าเถิด” [ซูเราะห์ลุกมาน, อายะห์: 15]  ฉะนั้นบรรดาปราชญ์สะลัฟดังกล่าวย่อมเป็นผู้ที่มีหัวใจกลับไปสู่อัลเลาะฮ์ตะอาลาอย่างมิต้องสงสัยใดๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 21, 2010, 03:57 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.ค. 21, 2010, 02:23 PM »
0

การฟื้นฟูคืนนิศฟุชะอฺบาน

เมื่อท่านผู้อ่านได้ทราบจากข้างต้นแล้วว่า คืนนิศฟุชะอฺบานนั้นมีความประเสริฐและสะละฟุศศอลิห์ได้ให้ความสำคัญกับคืนคืนดังกล่าว ดังนั้นการฟื้นฟู (อิห์ยาอฺ) คืนนิศฟุชะอฺบานย่อมเปิดกว้างสำหรับการทำอิบาดะฮ์แบบสมัครใจใดๆ ก็ได้ที่มีตัวบทมารับรองแบบกว้างๆ และอัลเลาะฮ์ตะอาลาอำนวยความสะดวกแก่เรา  ก็ถือเป็นการเปิดกว้างให้กระทำได้  เช่น  การละหมาดสุนัต การอ่านอัลกุรอาน  การซิกรุลเลาะฮ์  และขอดุอา เป็นต้น เพื่อเตรียมพร้อมในการตอบรับการตะญัลลีย์ (การสำแดง) ความเมตตาและการอภัยโทษเป็นพิเศษในคืนนิศฟุชะอฺบาน

ท่านอัลฮาฟิซฺ อัซซะฮะบีย์ ได้กล่าวประวัติของท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ อะซากีร ความว่า “ท่านมุฮัดดิษ บะฮาอุดดีน อัลกอซิมได้กล่าวว่า  บิดาของฉัน(คือท่านอิบนุอะซากิร) ชอบทำละหมาดญะมาอะฮ์และอ่านอัลกุรอานอย่างเป็นกิจวัตร  ท่านอ่านอัลกุรอานจบทุกวันศุกร์และในเดือนเราะมะฎอนท่านอ่านได้หนึ่งจบทุกวัน  ท่านทำละหมาดสุนัตและทำการซิกรุลเลาะฮ์อย่างมาก  ท่านได้ฟื้นฟูคืนนิศฟุชะอฺบานและคืนวันอีดทั้งสองด้วยการละหมาด การตัสบีห์ และระวังตนเองในทุกลมหายใจไม่ให้สูญเปล่า(โดยปราศจากการทำอิบาดะฮ์)”ดู ชัมซุดดีน อัซซะฮะบีย์, ตัซกิเราะฮ์ อัลหุฟฟาซฺ, ตะห์กีก: อับดุรเราะห์มาน บิน ยะห์ยา อัลมุอัลลิมีย์ (เบรุต: ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1430/ค.ศ.2009), เล่ม 4, หน้า 1331.

 

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.ค. 21, 2010, 02:25 PM »
0

การละหมาดในคืนนิศฟุชะอฺบาน

ไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ระบุเรื่องละหมาดสุนัตที่เจาะจงเป็นพิเศษสำหรับคืนนิศฟุชะอฺบาน  แต่การละหมาดสุนัตกิยามุลลัยล์ทั่วไปในคืนนิศฟุชะอฺบานนั้นอนุญาตให้กระทำได้ ไม่ว่าจะเป็นละหมาดตะฮัจญุด  ละหมาดตัสบีห์  หรือละหมาดสุนัตธรรมดา  ก็ถือว่าเป็นการฟื้นฟูคืนนิศฟุชะอฺบานเช่นกัน

ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า

إِذَا صَلَّى الإِنْسَانُ لَيْلَةَ النِّصْفِ وَحْدَهُ أَوْ فِي جَمَاعَةٍ خَاصَّةٍ كَمَا كَانَ يَفْعَلُ طَوَائِفُ مِنَ الْسَّلَفُ فَهُوَ حَسَنٌ

“เมื่อคนหนึ่งได้ทำละหมาดในคืนนิศฟุชะอฺบานลำพังคนเดียวหรือกระทำเป็นกลุ่มเฉพาะเหมือนกับที่บรรดากลุ่มสะลัฟทำกันนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม” ดู อิบนุตัยมียะห์, มัจญฺมูอฺ อัลฟาตาวา, เล่ม 23, หน้า 131.

อย่างน้อยที่สุดให้ฟื้นฟูคืนนิศฟุชะอฺบานด้วยการละหมาดญะมาอะฮ์อิชาอฺและตั้งใจละหมาดญะมาอะฮ์ซุบฮ์  ท่านอิมามอัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์ได้กล่าวว่า “รายงานจากท่านอิบนุอับบาส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา  ความว่า  การฟื้นฟูอิบาดะฮ์ในยามค่ำคืนนั้นเพียงพอด้วยการละหมาดญะมาอะฮ์อิชาอฺและตั้งใจละหมาดญะมาอะฮ์ซุบฮ์”ดู มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัด ค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์, มุฆนิลมุห์ตาจญฺ, ตะห์กีก: ฏอฮาอับดุรร่ออูฟ สะอัด (ไคโร: มักตะบะฮ์ อัตเตาฟีกียะฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ม.ป.ป.), เล่ม 1, หน้า 569.
 

أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ก.ค. 21, 2010, 02:29 PM »
0

การซิกรุลเลาะฮ์เป็นญะมาอะฮ์

อิบาดะฮ์หนึ่งที่มีความประเสริฐและเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะนำมาฟื้นฟูคืนนิศฟุชะอฺบาน  นั่นก็คือการล้อมวงซิกรุลเลาะฮ์เป็นกลุ่มที่เราเคยกระทำกันเป็นประจำอยู่แล้วเพื่อความเมตตาของอัลเลาะฮ์  ความสงบสุข  และการอภัยโทษของพระองค์  จะได้ประสบแก่เราในคืนนิศฟุชะอฺบาน

ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า “ไม่มีคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด  ได้นั่งทำการซิกรุลเลาะฮ์  นอกจากว่า บรรดามะลาอิกะฮ์จะห้อมล้อมพวกเขา   ความเมตตาก็แผ่ปกคลุมพวกเขา  ความสงบสุขก็ได้ลงมาบนพวกเขา และอัลเลาะฮ์ก็ทรงเอ่ยถึงพวกเขา แก่ผู้ที่อยู่ ณ พระองค์”รายงานโดยมุสลิม, หะดีษเลขที่ 2700. ดู อันนะวาวีย์ ยะห์ยา บิน ชะร็อฟ, ชัรห์ ซอฮิห์มุสลิม, เล่ม 9, หน้า 26.

นอกจากนี้ ท่านอิมามมุสลิมยังได้รายงานอีกว่า “ได้เล่าให้เราทราบ โดยมุหัมมัด บิน ฮาติม บิน มัยมูน ได้เล่าให้เราทราบ โดยบะฮฺซฺ ได้กล่าวแก่เราโดยวุฮัยบฺ ได้เล่าแก่เราโดยซุฮัยล์ จากบิดาของเขา จากท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ ซึ่งได้เล่าจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านได้กล่าวว่า “แท้จริง อัลเลาะฮ์ (ตะบาร่อกะวะตะอาลา) ทรงมีบรรดามะลาอิกะฮ์ที่ท่องไปในผืนแผ่นเดิน เป็นมะลาอิกะฮ์ที่เพิ่มขึ้นมา (นอกเหนือจากบรรดามะลาอิกะฮ์หะฟะเซฺาะฮ์ที่ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษา) ได้ทำการสืบเสาะแสวงหา สถานที่ต่างๆ ที่มีการซิกร์ ดังนั้น เมื่อพวกเขาได้เจอสถานที่หนึ่งที่มีการซิกร์ พวกเขาก็จะนั่งร่วมพร้อมกับพวกเขา (คือกับบรรดาผู้ที่ทำการซิกรุลเลาะฮ์) และบรรดามะลาอิกะฮ์ต่างทำการห้อมล้อมด้วยปีกของพวกเขา จนกระทั่งพวกเขาเต็ม(เพิ่มขึ้น)ในระหว่างพวกเขาจนถึงท้องฟ้า ดังนั้น เมื่อบรรดาผู้ทำการซิกรุลเลาะฮ์ได้แยกย้าย บรรดามะลาอิกะฮ์จึงเดินทางขึ้นสู่ฟ้ากฟ้า”  ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้กล่าวว่า  “แล้วอัลเลาะฮ์ได้ถามพวกเขา – โดยที่พระองค์ทรงรู้ดียิ่งเกี่ยวกับพวกเขา - ว่า พวกเจ้ามาจากไหนกัน? บรรดามะลาอิกะฮ์กล่าวว่า  เราได้มาจาก ณ ที่บรรดาบ่าวของพระองค์ที่อยู่ในผืนแผ่นดิน พวกเขาได้ทำการกล่าวตัสบีหฺ (กล่าวซุบฮานัลเลาะฮ์) กล่าวตักบีร (อัลลอฮุอักบัร) กล่าวตะฮ์ลีล (ลาอิลาฮ่าอิลลัลเลาะฮ์) กล่าวตะหฺมี้ด (อัลฮัมดุลิลลาฮ์) และทำการวอนขอต่อพระองค์” อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามว่า “แล้วอะไรที่พวกเขาได้วอนขอต่อข้า” บรรดามะลาอิกะฮ์ตอบว่า “พวกเขาได้ขอสรวงสวรรค์ของพระองค์” อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามว่า “แล้วพวกเขาเคยเห็นสรวงสวรรค์ของข้าหรือไม่หล่ะ?” มะลาอิกะฮ์ตอบว่า “ไม่เคย โอ้ผู้อภิบาลแห่งเรา!”  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามต่อว่า “แล้วอย่างไรเล่า หากพวกเขาได้เห็นสรวงสวรรค์ของข้า?” มะลาอิกะฮ์กล่าวว่า “พวกเขาก็ทำการขอความคุ้มครองต่อพระองค์” พระองค์ทรงตรัสถามว่า “พวกเขาขอความคุ้มครองข้าจากอะไรหรือ?” มะลาอิกะฮ์กล่าวว่า “จากไฟนรกของพระองค์ โอ้ผู้อภิบาลแห่งเรา!” อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามว่า  “แล้วพวกเขาเคยเห็นไฟนรกของข้าหรือไม่หล่ะ?” มะลาอิกะฮ์ตอบว่า “ไม่เคย”  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสถามต่อว่า  “แล้วจะเป็นอย่างไรเล่า หากพวกเขาได้เห็นไฟนรกของข้า?” มะลาอิกะฮ์ตอบว่า “พวกเขาก็ทำการอิสติฆฟารต่อพระองค์” อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า “ข้าได้อภัยแก่พวกเขาแล้ว และข้าได้ให้สิ่งที่พวกเขาได้ขอ และจะปกป้องพวกเขาจากสิ่งที่พวกเขาได้ขอความคุ้มครอง”  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “แล้วมะลาอิกะฮ์ได้กล่าวว่า โอ้ผู้อภิบาลแห่งเรา ในหมู่พวกเขา (ที่ทำการซิกรุลเลาะฮ์) นั้น มีคนหนึ่งที่เป็นบ่าวผู้กระทำผิด โดยเขาได้เดินผ่านมา แล้วก็นั่งร่วมกับพวกเขา” ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “แล้วพระองค์ทรงตรัสว่า ข้าอภัยให้แก่เขาแล้ว เพราะบรรดาผู้ที่ทำการซิกร์นั้น ผู้ที่นั่งร่วมวงด้วยก็จะไม่อับโชคด้วยเหตุที่พวกเขา(ทำการนั่งซิกร์)”รายงานโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 2689, ดู อันนะวาวีย์ ยะห์ยา บิน ชะร็อฟ, ชัรห์ ซอฮิห์มุสลิม, เล่ม 9, หน้า 26-27.

ท่านอะนัส บิน มาลิก ได้เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

إِذَا مَرَرْتُمْ بِرِيَاضِ الْجَنَّةِ فَارْتَعُوا قَالُوْا وَمَا رِيَاضُ الْجَنَّةِ قَالَ حِلَقُ الذِّكْرِ
 
เมื่อพวกท่านได้เดินทางผ่านสวนหนึ่งของสวรรค์ พวกท่านจงเข้าไปสุขสำราญเถิด บรรดาเศาะฮาบะฮ์กล่าวว่า อะไรคือสวนหนึ่งของสวรรค์กระนั้นหรือ? ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า มันคือบรรดาวงซิกร์(จิตใจมีความสุขที่ได้รำลึกอัลเลาะฮ์)”รายงานโดยอัตติรมีซีย์, หะดีษเลขที่ 3510. ดู  มุฮัมมัด อับดุรเราะห์มาน บิน อับดุรเราะห์ฮีม อัลมุบร่อกุฟูรีย์, ตุะห์ฟะตุลอะห์วะซีย์, ตะห์กีก: รออิด บิน อะบีอัลฟะฮ์ (บัยตุลอัฟการ อัดเดาลียะฮ์, ม.ป.ป.), เล่ม 2, หน้า 2483. ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะดีษนี้ฮะซัน, และท่านอัสสุยูฏีย์ กล่าวว่า หะดีษนี้ซอฮิห์. ดู ญะลาลุดดีน บิน อะบีบักร อัสสุยูฏีย์, อัลญามิอฺ อัศศ่อฆีร ฟีอะฮาดีษ อัลบะชีร อันนะซีร (เบรูต: ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1410/ค.ศ.1990), หน้า 59. อัลอัลบานีย์กล่าวว่าหะดีษนี้ ฮะซัน ดู นาซิรุดดีน อัลอัลบานีย์, ซิลซิละฮ์อัลอะฮาดีษ อัศศ่อฮีฮะห์ (ริยาฎ: มักตะบะฮ์ อัลมะอารีฟ, พิมพ์ครั้ง 1, ฮ.ศ. 1416/ค.ศ.1996), เล่ม 6, หน้า 130.

บรรดาหะดีษดังกล่าวได้ระบุถึงความประเสริฐของการซิกร์ล้อมวง  ซึ่งการล้อมวงจะไม่มีขึ้นนอกจากจะต้องเป็นกลุ่ม (ญะมาอะฮ์)  และบรรดาหะดีษเหล่านั้นก็ได้บ่งชี้ถึงการซิกร์ในรูปแบบกว้างๆ (มุฏลัก) โดยมิได้ระบุเจาะจงวันเวลาและสถานที่  ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคืนนิศฟุชะอฺบานหรือคืนอื่นๆ ก็ย่อมกระทำได้ตามนัยของซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ดังกล่าวที่ได้รับรองไว้   อย่างไรก็ตาม เรามิได้เจาะจงซิกรุลเลาะฮ์รูปแบบดังกล่าวเพียงแค่คืนนิศฟุชะอฺบานเท่านั้น  แต่ได้กระทำในเดือนหรือวันอื่นๆ ด้วย


أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ก.ค. 21, 2010, 02:34 PM »
0

การอ่านอัลกุรอานและขอดุอา

การอ่านอัลกุรอานแล้วทำการขอดุอาอฺนั้น  มิใช่เจาะจงหรือต้องอ่านเพียงแค่ซูเราะฮ์ยาซีนเพียงเท่านั้น  แต่จะเลือกอ่านซูเราะฮ์อื่นอีกก็ได้ที่อัลเลาะฮ์ทรงอำนวยความสะดวกง่ายดายแก่เรา  เช่น  ซูเราะฮ์ อัลอิคลาศ(กุลฮุวัลเลาะฮ์) ซูเราะฮ์อัลมุลก์ หรือซูเราะฮ์อัดดุคอน  ดังนั้นการอ่านอัลกุรอานแล้วทำการขอดุอาอฺถือเป็นเรื่องของการตะวัซซุลด้วยบรรดาอะมัล กล่าวคือมุสลิมได้นำอะมัลที่ดีไปเป็นสื่อในการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา ฉะนั้นการปฏิบัติอะมัลด้วยการอ่านอัลกุรอานย่อมเป็นสื่อที่ดีเยี่ยมในการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา การตะวัซซุลประเภทนี้นั้น นักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ได้ลงมติ (อิจญฺมาอฺ) เป็นเอกฉันท์ว่าเป็นที่อนุญาตกระทำได้

ท่านอิบนุอุมัร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้กล่าวว่า

سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏يَقُولُ انْطَلَقَ ثَلاَثَةُ رَهْطٍ مِمَّنْ كَانَ قَبْلَكُمْ حَتَّى أَوَوْا الْمَبِيتَ إِلَى غَارٍ فَدَخَلُوهُ فَانْحَدَرَتْ صَخْرَةٌ مِنْ الْجَبَلِ فَسَدَّتْ عَلَيْهِمْ الْغَارَ فَقَالُوا إِنَّهُ لاَ يُنْجِيكُمْ مِنْ هَذِهِ الصَّخْرَةِ إِلاَّ أَنْ تَدْعُوا اللَّهَ بِصَالِحِ أَعْمَالِكُمْ

ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า มีชายสามคนจากบรรพชนที่อยู่ในยุคก่อนหน้าพวกท่านได้เดินทางรอนแรมจนได้มาพักค้างคืนที่ถ้ำแห่งหนึ่ง พวกเขาจึงเข้าไปในถ้ำ แล้วหินจากภูเขาก็ถล่มลงมาปิดปากถ้ำเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงกล่าวว่า ไม่มี (สิ่งใด) ที่จะทำให้พวกท่านรอดพ้นจากหินนี้ได้หรอกนอกจากพวกท่านจะขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ด้วย (สื่อตะวัซซุลจาก) บรรดาอะมัลของพวกท่าน...”รายงานโดยอัลบุคอรีย์, หะดีษเลขที่ 2272. ดู อิบนุ หะญัร อัลอัสก่อลานีย์, ฟัตหุลบารีย์, เล่ม 4, หน้า 449. และรายงานโดยมุสลิม, หะดีษเลขที่ 2743. ดู อันนะวาวีย์ ยะห์ยา บิน ชะร็อฟ, ชัรห์ ซอฮิห์มุสลิม, เล่ม 9, หน้า 67.

ดังนั้นการอ่านซูเราะห์ยาซีน หรือซูเราะฮ์อื่นๆ  ถือเป็นการกระทำอะมัลที่ดีงาม  แล้วหลังจากนั้นก็นำมาเป็นสื่อตะวัซซุลในการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาในคืนนิศฟุชะอฺบานนั่นเอง

ท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ  ได้รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

إِنَّ سُورَةً مِنْ الْقُرْآنِ ثَلاَثُونَ آيَةً شَفَعَتْ لِرَجُلٍ حَتَّى غُفِرَ لَهُ وَهِيَ سُورَةُ تَبَارَكَ الَّذِي بِيَدِهِ الْمُلْكُ

แท้จริงอัลกุรอานซูเราะฮ์หนึ่งที่มีสามสิบอายะฮ์ มันจะช่วยเหลือชายคนหนึ่งจนกระทั่งเขาได้รับการอภัยโทษ  มันก็คือซูเราะฮ์ ตะบาร่อกัลละซีบิยะดิฮิลมุลก์”รายงานโดยอัตติรมีซีย์, หะดีษยเลขที่ 2891. ดู  มุฮัมมัด อับดุรเราะห์มาน บิน อับดุรเราะห์ฮีม อัลมุบร่อกุฟูรีย์, ตุห์ฟะตุลอะห์วะซีย์, เล่ม 2, หน้า 2147. ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะดีษนี้ฮะซัน.

ท่านอิมรอน บิน หุซัยน์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

اقْرَءُوا الْقُرْآنَ وَسَلُوا اللَّهَ تَبَارَكَ وَتَعَالَى بِهِ فَإِنَّ مِنْ بَعْدِكُمْ قَوْمًا يَقْرَءُونَ الْقُرْآنَ يَسْأَلُونَ النَّاسَ بِهِ

พวกท่านจงอ่านอัลกุรอาน และพวกท่านจงทำการขอต่ออัลเลาะฮ์ด้วย (การอ่าน) อัลกุรอานั้น ก่อนที่จะมีกลุ่มหนึ่งทำการอ่านอัลกุรอานและได้ทำการขอกับมนุษย์ด้วยกับ (การอ่าน) อัลกุรอาน”รายงานโดยท่านอิมามอะห์มัด. ดู อะห์หมัด บิน ฮัมบัล, มุสนัด อะห์มัด, เล่ม 4, หน้า 473.

ดังนั้นการทำอิบาดะฮ์ด้วยการอ่านอัลกุรอ่านแล้วแสวงหาความโปรดปรานและวอนขอดุอาต่อพระองค์ด้วยอัลกุรอานนั้น  ถือว่าเป็นซุนนะฮ์ที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้แนะนำไว้

รายงาน จากอบูฮะรอยเราะฮ์ ความว่า

مَنْ قَرَأَ يس فِي لَيْلَةٍ أَصْبَحَ مَغْفُوْراً لَه ُ

ผู้ใดอ่านยาซีนในค่ำคืนหนึ่ง ในยามเช้าเขาจะถูกอภัยโทษให้....”ท่านอิมามอัสสุยูฏีย์กล่าวว่า “หะดิษนี้มีบรรดาสายรายงานอื่นๆ อีกมากมายที่รายงานจากอะบูฮุร็อยเราะฮ์  และบางส่วนอยู่บนเงื่อนไขที่ซอฮิห์ ซึ่งนำเสนอรายงานโดยอัตติรมีซีย์  และท่านอัลบัยฮะกีย์ได้นำเสนอรายงานไว้ในหนังสือ ชุอะบุลอีมานไว้หลายสายรายงานด้วยกัน.” ดู ญะลาลุดดีน อับดุรเราะห์มาน อัสสุยูฏีย์, อันนุกัต อัลบะดีอาต, ตะห์กีก: อามิร อะห์มัด (ฮัยดัร: ดารุลญะนาน, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1411/ค.ศ.1991), หน้า 58-59.

จากหะดีษข้างต้น ระบุคำว่า “ค่ำคืนหนึ่ง” นั้น รวมถึงคืนนิศฟุชะอฺบานและอื่นจากคืนนินฟูชะอฺบาน โดยไม่มีหลักฐานใดมาเจาะจงในการห้ามมิให้อ่านยาซีนในคืนนิศฟุชะอฺบานหรืออื่นจากคืนนิศฟุชะอฺบาน  ดังนั้น หลักฐานที่มีความหมายตามนัยกว้างๆ นี้ก็ยังคงดำเนินอยู่ตามวิถีของมัน  แต่พร้อมกันนั้นเรามิได้เจาะจงอ่านยาซีนเพียงแค่ในคืนนิศฟุชะอฺบานเท่านั้น  แต่ให้อ่านในคืนอื่นๆ ด้วย  เพราะไม่มีหลักฐานใดมาระบุเจาะจงให้อ่านยาซีนเพียงแค่คืนนิศฟุชะอฺบานนั่นเอง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 21, 2010, 06:35 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ก.ค. 21, 2010, 02:41 PM »
0

การเลี้ยงอาหาร

เมื่อมุสลิมได้รวมตัวกันทำความดีงาม  เช่น รวมตัวกันอ่านอัลกุรอาน  ซิกรุลเลาะฮ์  ศ่อลาวาตและขอดุอานั้น  ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปก็สมควรมีการรับประทานอาหารเล็กๆ น้อย ๆ เพราะดังกล่าวเป็นซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และเศาะฮาบะฮ์ของท่าน

ท่านอัลฮุซัยน์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ  ได้ถามท่านอะลีร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ  เกี่ยวกับการเข้าพบท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งท่านอะลี ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า

وَلاَ يَفْتَرِقُوْنَ إِلاَّ عَنْ ذَوَاقٍ

“บรรดาเศาะฮาบะฮ์จะไม่แยกย้ายกันออกไปนอกจากมีการลิ้มรส(รับประทานอาหาร)”รายงานโดยท่านอัตติรมีซีย์. ดู อิบรอฮีม อัลบาญูรีย์, อัลมะวาฮิบ อัลละดุนียะฮ์ อะลา อัชชะมาอิล มุฮัมมะดียะฮ์ (ไคโร: มุศตอฟา อัลฮะละบีย์, ม.ป.ป.), หน้า 166.

 ท่านอิมามอัลฆ่อซาลีย์ได้กล่าวว่า “บรรดาเศาะฮาบะฮ์กล่าวว่า  การรวมตัวกันรับประทานอาหารนั้นเป็นส่วนหนึ่งจากมารยาทที่ดีงามและบรรดาเศาะฮาบะฮ์ได้รวมตัวกันอ่านอัลกุรอานและพวกเขาจะไม่แยกย้ายกันไปนอกจากมีการลิ้มรสอาหาร”ดู อะบู ฮามิด อัลฆ่อซาลีย์, อิห์ยาอฺ อุลูมิดดีน (ไคโร: มุศตอฟา อัลฮะละบีย์, ม.ป.ป.), เล่ม 2, หน้า 9.

ดังนั้นการรวมตัวกระทำความดีงามด้วยการอัลกุรอาน  ซิกรุลเลาะฮ์  และขอดุอาในคืนนิศฟุชะอฺบาน  หลังจากนั้นมีการร่วมกันรับประทานอาหารเล็กๆ น้อยๆ ย่อมอยู่ในความหมายโดยรวมของซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยิ่งกว่านั้นการนำอาหารเพื่อมารับประทานร่วมกันยังถือเป็นการเศาะดะเกาะฮ์อีกด้วย  แม้ว่าการเศาะดะเกาะฮ์นั้นจะให้กับคนรวยหรือคนจนก็ตาม

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวว่า “การบริจาคทานแบบสมัครใจถือว่าเป็นซุนนะฮ์  และอนุญาตให้ทำการเศาะดะเกาะฮ์แก่คนรวยและคนกาเฟร”อันนะวาวีย์ ยะห์ยา บิน ชะร็อฟ, มินฮาจญุฏอลิบีน (ไคโร: มุศตอฟา อัลฮะละบีย์, ม.ป.ป.), หน้า 84.

ท่านอับดุลเลาะฮ์ บิน อัมร์ กล่าวว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

اعْبُدُوا الرَّحْمَنَ وَأَطْعِمُوا الطَّعَامَ وَأَفْشُوا السَّلاَمَ تَدْخُلُوا الْجَنَّةَ بِسَلاَمٍ

“ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า  พวกท่านจงอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์เพียงองค์เดียงเถิด  พวกท่านจงทำการให้อาหารกันเถิด  พวกท่านจงแผ่การให้สลาม  แน่นอนพวกท่านก็จะได้เข้าสวรรค์อย่างสันติ”รายงานโดยติรมีซีย์, หะดีษเลขที่ 1855. ดู  มุฮัมมัด อับดุรเราะห์มาน บิน อับดุรเราะห์ฮีม อัลมุบร่อกุฟูรีย์, ตุห์ฟะตุลอะห์วะซีย์, เล่ม 2, หน้า 1590. ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะดีษนี้หะซันซอฮิห์.

ตามที่ได้กล่าวในบทนำข้างต้นแล้วว่าเรื่องนิศฟุชะอฺบานเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างปวงปราชญ์   ดังนั้น พี่น้องมุสลิมต่างทัศนะจะมาตำหนิและสร้างความบาดหมางต่อกันในเรื่องนี้ไม่ได้  พี่น้องมุสลิมที่มีทัศนะทำอะมัลอิบาดะฮ์ในคืนนิศฟุชะอฺบานเป็นพิเศษ จะไปตำหนิพี่น้องอีกทัศนะหนึ่งที่ไม่ทำไม่ได้  แต่สำหรับผู้ที่มีความรู้สึกเต็มห้วงหัวใจอยู่เสมอว่า ตนเองต่ำต้อยและยังมีความบกพร่องในสิทธิของอัลเลาะฮ์นั้น  เขาจึงเลือกทำอะมัลอิบาดะฮ์ในคืนนิศฟุชะอฺบานเพื่อสร้างความพึงพอพระทัยและผูกพันต่อพระองค์ให้มากยิ่งขึ้น

ท่านอิมามอัสสุยูฏีย์กล่าวว่า “สิ่งที่ขัดแย้งกัน (ระหว่างปวงปราชญ์)นั้นจะไม่ถูกตำหนิ  แต่สิ่งที่ถูกตำหนินั้นคือสิ่งที่ขัดกับมติของปวงปราชญ์”ดู ญะลาลุดดีน อับดุรเราะห์มาน อัสสุยูฏีย์, อัลอัชบาฮ์ วันนะซออิร, ตะห์กีก: มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัด ตามิร และฮาฟิซ อาชูร ฮาฟิซ (ไคโร: ดารุสสลาม, พิมพ์ครั้งที่ 1, ฮ.ศ.1418/ค.ศ.1998), เล่ม 1, หน้า 344.

ดังนั้นหากผู้ใดทำการตำหนิและไม่พอใจต่อพี่น้องมุสลิมที่เลือกอีกทัศนะหนึ่งเกี่ยวกับคืนนิศฟุชะอฺบานนั้น  เขาอาจจะเป็นผู้อับโชคที่ไม่ได้รับการอภัยโทษจากอัลเลาะฮ์ในคืนดังกล่าว เนื่องจากมีความบาดหมางไม่พอใจต่อพี่น้องที่เลือกทัศนะฟื้นฟูอิบาดะฮ์ในคืนนิศฟุชะอฺบาน  ดังนั้นมุสลิมที่โชคดีคือผู้ที่รู้คุณค่าของคืนนิศฟุชะอฺบาน  พยายามประสานความผูกพันและสร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา  ด้วยการฟื้นฟูทำอิบาดะฮ์และวอนขอต่อพระองค์ให้ทรงอภัยโทษบาปที่ผ่านมา  เพื่อเตรียมพร้อมสู่การปฏิบัติศาสนกิจที่สำคัญในเดือนเราะมะฎอนนั่นเอง

وَصَلَّى اللهُ عَلَى سَيِّدِنَا وَنَبِيِّنَا مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ وَآخِرُ دَعْوَانَا أَنِ الْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ



أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ก.ค. 21, 2010, 02:43 PM »
0

บรรณานุกรม

อัลกุรอาน อัลกะรีม

อะห์หมัด บิน ฮัมบัล. (ฮ.ศ.1416/ค.ศ.1995). มุสนัด อิหม่ามอะห์มัด บิน ฮัมบัล. ตะห์กีก: ชัยค์ ชุอัยบ์ อัลอัรน่าอูฏ. พิมพ์ครั้งที่ 1. เบรูต: มุอัซซะซะฮ์ อัรริซาละฮ์.

อัชชาฟีอีย์, มุฮัมมัด บิน อิดรีส. (ฮ.ศ.1422/ค.ศ.2001). อัลอุมม์. ตะห์กีก: ริฟอัต เฟาซีย์ อับดุลมุฏฏอลิบ. พิมพ์ครั้งที่ 1. มันซูเราะฮ์.

อัซซะฮะบีย์, อบูอัลดุลเลาะฮ์ มุฮัมมัด บิน อะห์หมัด. (ฮ.ศ.1430/ค.ศ.2009). ตัซกิเราะฮ์ อัลหุฟฟาซฺ. ตะห์กีก: อับดุรเราะห์มาน บิน ยะห์ยา อัลมุอัลลิมีย์. พิมพ์ครั้งที่ 1. เบรุต: ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์.

อัฏเฏาะบะรอนีย์, อะบุลกอซิม สุลัยมาน บิน อะห์มัด. (ฮ.ศ.1407/ค.ศ.1987). อัดดุอาอฺ. ตะห์กีก: มุฮัมมัด สะอีด บิน มุฮัมมัด ฮะซัน อัลบุคอรีย์. พิมพ์ครั้งที่ 1. เบรูต: ดารุลบะชาอิร อัลอิสลามียะฮ์.

อันนะวาวีย์, ยะห์ยา บิน ชะร็อฟ. (ฮ.ศ.1415/ค.ศ.1994). ชัรห์ ซอฮิห์มุสลิม. ตะห์กีก: อิซอม อัศศ่อบาบิฏีย์. พิมพ์ครั้งที่ 1. ไคโร: ดารุลหะดีษ.

อันนะวาวีย์, ยะห์ยา บิน ชะร็อฟ. (ฮ.ศ.1426/ค.ศ.2005). อัลมัจญฺมูอฺ ชัรห์ อัลมุฮัซซับ. ตะห์กีก: มะห์มูด มัฏเฏาะร่อญีย์. พิมพ์ครั้งที่ 1. เบรูต: ดารุลฟิกร์.

อันนะวาวีย์, ยะห์ยา บิน ชะร็อฟ. (ม.ป.ป.). มินฮาจญุฏอลิบีน. ไคโร: มุศตอฟา อัลฮะละบีย์.

อัลค่อฏีบ อัชชัรบีนีย์, มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัด. (ม.ป.ป.). มุฆนิลมุห์ตาจญฺ. ตะห์กีก: ฏอฮา อับดุรร่ออูฟ สะอัด. พิมพ์ครั้งที่ 1. ไคโร: มักตะบะฮ์ อัตเตาฟีกียะฮ์.

อัลฆ่อซาลีย์, อะบู ฮามิด มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัด. (ม.ป.ป.). อิห์ยาอฺ อุลูมิดดีน. ไคโร: มุศตอฟา อัลฮะละบีย์.

อัลบัยฮะกีย์, อบู บักร์ อะห์มัด บิน ฮุซัยน์. (ฮ.ศ.1421/ค.ศ.2000). ชุอะบุลอีมาน. ตะห์กีก: อะบี ฮาญิร มุฮัมมัด สะอีด บัสยูนีย์ ซัฆลูล.  พิมพ์ครั้งที่ 1. เบรูต: ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์.

อัลบาญูรีย์, อิบรอฮีม บิน มุฮัมมัด. (ม.ป.ป.). อัลมะวาฮิบ อัลละดุนียะฮ์ อะลา อัชชะมาอิล มุฮัมมะดียะฮ์. ไคโร: มุศตอฟา อัลฮะละบีย์.

อัลมุนซิรีย์, อะบู มุฮัมมัด ซะกียุดดีน อับดุลกะรีม บิน อับดุลก่อวีย์. (ม.ป.ป.). อัตตัรฆีบ วัตตัรฮีบ. ตะห์กีก: อะบู ศุฮัยบ์ อัลก่อร่อมีย์. บัยตุลอัฟการ อัดเดาลียะฮ์.

อัลมุบร่อกุฟูรีย์, มุฮัมมัด อับดุรเราะห์มาน บิน อับดุรเราะห์ฮีม. (ม.ป.ป.). ตุห์ฟะตุลอะห์วะซีย์. ตะห์กีก: รออิด บิน อะบีอัลฟะฮ์. บัยตุลอัฟการ อัดเดาลียะฮ์.

อัลอัลบานีย์, นาซิรุดดีน. (ฮ.ศ. 1408/ค.ศ.1988). ซอฮิห์ สุนันอิบนุ มาญะฮ์. พิมพ์ครั้งที่ 2. ริยาฎ: มักตะบะฮ์ อัตตัรบียะฮ์.

อัลอัลบานีย์, นาซิรุดดีน. (ฮ.ศ.1415/ค.ศ.1995). ซิลซิละฮ์อัลอะฮาดีษ อัศศ่อฮีฮะห์. พิมพ์ครั้งที่ 2. ริยาฎ: มักตะบะฮ์ อัลมะอาริฟ.

อัสสุยูฏีย์, ญะลาลุดดีน อับดุรเราะห์มาน. (ฮ.ศ.1410/ค.ศ.1990). อัลญามิอฺ อัศศ่อฆีร ฟีอะฮาดีษ อัลบะชีร อันนะซีร. พิมพ์ครั้งที่ 1. เบรูต: ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์.

อัสสุยูฏีย์, ญะลาลุดดีน อับดุรเราะห์มาน. (ฮ.ศ.1411/ค.ศ.1991). อันนุกัต อัลบะดีอาต. ตะห์กีก: อามิร อะห์มัด. พิมพ์ครั้งที่ 1. หัยดัร: ดารุลญะนาน.

อัสสุยูฏีย์, ญะลาลุดดีน อับดุรเราะห์มาน. (ฮ.ศ.1418/ค.ศ.1998). อัลอัชบาฮ์ วันนะซออิร. ตะห์กีก: มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัดตามิร และฮาฟิซ อาชูร ฮาฟิซ. พิมพ์ครั้งที่ 1. ไคโร: ดารุสสลาม.

อิบนุ ตัยมียะฮ์, อะห์มัด บิน อับดุลฮะลีม. (ฮ.ศ.1425/ค.ศ.2004). มัจญฺมูอฺ อัลฟาตาวา. อัลมะดีนะฮ์ อัลมุเนาวะฮ์: มุญัมมะอฺ อัลมาลิก ฟะฮัด.

อิบนุ ตัยมียะฮ์, อะห์มัด บิน อับดุลฮะลีม. (ม.ป.ป.). อิกตะฎออฺ อัศศิร่อฏิลมุสตะกีม. ตะห์กีก: นาซิร บิน อับดิลกะรีม อัลอักล์. ริยาฎ: มักตะบะฮ์ อัรรุชด์.

อิบนุ รอญับ, อับดุรเราะห์มาน บิน อะห์หมัด. (ฮ.ศ.1428/ค.ศ.2007). ละฏออิฟ อัลมะอาริฟ. ตะห์กีก: อามิร บิน อะลี ยาซีน. พิมพ์ครั้งที่ 1. ริยาฎ: ดารุ อิบนิ คุซัยมะฮ์.

อิบนุ หะญัร อัลอัสก่อลานีย์. (ฮ.ศ.1416/ค.ศ.1995). อัตตัลคีศ อัลหะบีร. ตะห์กีก: อะบุ อาซิม หะซัน บิน อับบาส บิน กุฏบ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. ไคโร: มุอัซซะซะฮ์ อัรริซาละฮ์.

อิบนุ หะญัร อัลอัสก่อลานีย์. (ม.ป.ป.). ฟัตหุลบารีย์, ตะห์กีก: บิน บาซฺ. เบรูต: ดารุลฟิกร์.

อัลฟากิฮีย์, อะบู อับดิลลาฮ์ มุฮัมมัด บิน อิสหาก บิน อับบาส อัลมักกีย์. (ฮ.ศ. 1414). อักฺบารมักกะฮ์ ฟี ก่อดีมิฮี วะ หะดีษิฮ์. ตะห์กีก: อับดุลมาลิก อับดิลลาฮ์ ฮุดัยช์. พิมพ์ครั้งที่ 2. เบรุต: ดารุ คิฎร์.

อิบนุ ฮิบบาน, อบูฮาติม มุฮัมมัด บิน ฮิบบาน. (ฮ.ศ.1414/ค.ศ.1993). ซอฮีห์อิบนุฮิบบาน บิตัรตีบ อิบนุบัลบาน. ตะห์กีก: ชัยค์ ชุอัยบ์ อัลอัรน่าอูฏ. พิมพ์ครั้งที่ 2. เบรุต: มุอัซซะซะฮ์ อัรริซาละฮ์.

อิบนุลฮาจญ์, มุฮัมมัด บิน มุฮัมมัด อัลอับดะรีย์. (ม.ป.ป.). อัลมัดค็อล. ไคโร: มักตะบะฮ์ ดารุตตุร็อษ.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 21, 2010, 03:57 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ก.ค. 22, 2010, 04:21 PM »
+1
ท่านผู้อ่านสามารถดาวน์โหลดนิศฟูชะบานมาอ่านกันได้ 2 รูปแบบด้วยกันครับ

1. คลิกรูปและโหลด

2. คลิกรูปและโหลด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 16, 2011, 10:20 PM โดย webmaster »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ก.ค. 16, 2011, 06:24 PM »
+1
:salam:

ขออัลเลาะฮ์ทรงตอบรับการงานที่ดีของเราทุกคนในค่ำคืนนี้ และในทุกๆวันด้วยเถิด 
อามีนยาร็อบบัลอาละมีน

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: ความประเสริฐคืนนิศฟูชะบาน
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิ.ย. 01, 2015, 09:15 PM »
0
 :salam:

 

GoogleTagged