พี่น้องตัวอย่างของเรา

[al-azhary]

Tweet

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

เคยมีพี่น้องของเรามาติดต่อปรึกษาผมถึงเรื่องส่วนตัวของพวกเขาหลายท่าน  แต่ที่ผมประทับใจที่สุดและอยากให้พี่น้องนำมาเป็นตัวอย่าง คือพี่น้องคนหนึ่งที่มีงานทำมั่นคง  แต่ต้องการออกจากงานเพื่อแสวงวิชาความรู้   นานทีจะได้เจอคนแบบนี้  เพราะบางคนขี้เกียจเรียน  พอได้งานทำ  ได้เงิน  จึงทิ้งเรียนไปเลยก็มี  แต่พี่น้องเราท่านนี้  ทำงานดี  แต่ต้องการทิ้งงาน  เพื่อศึกษาวิชาความรู้อย่างจริงจัง   ต่อไปนี้คือข้อเขียนของเขาที่ส่งมาทางอีเมล์ครับ
 
     อืม...อ.ฯครับ  ผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ  อ.ฯคิดว่าอย่างไรบ้างครับผม  ถ้าหากว่า  ผมอยากจะหยุดงาน ซักพักนึง  อย่างน้อยหนึ่งปี  เพื่อที่จะไปหาความรู้ที่ปอเนาะอ่ะครับ  เพราะว่า  ผมนั้นไม่เคยเรียนศาสนา
มาเลยครับ  คือ  ผมเรียนสายสามัญมาตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ จนจบมหา'ลัย แต่ทางวิชาการศาสนาผมก็แค่เรียน
ไม่กี่คาบตอนม.ต้นเท่านั้นแล้วก็ตาดีกาแค่ป.4 ผมคิดว่าอย่างนี้ครับผม  ถ้าหากว่าผมออกจากงานแล้วเรียน
ปอเนาะหนึ่งปีเป็นอย่างน้อย  ผมไม่กลัวเลยครับ  เรื่องที่ว่าจะเมื่อออกหางานใหม่จะหางานยาก  เพราะ
เรื่องริสกีนั้นอัลลอฮ์กำหนดมาแล้ว  ใช่มั้ยครับ(อ.ฯช่วยชี้แนะด้วย)  ผมอยากจะเรียนตัฟซีร  อยากจะเข้าใจ
อัลกุรอ่านครับ  เข้าใจเท่าที่ได้ครับ  แต่จะพยายามครับ  ซึ่งในการตัดสินใจในครั้งนี้  ผมก็ได้ละหมาด
อิสติคอเราะห์แล้วครับ  (ขอดุอาอ์ว่า...จะทำงานที่เดิมต่อไปหรือว่าลาออกดีครับ)  รบกวนอ.ฯช่วยให้คำ
แนะนำด้วยนะครับผม...ขอขอบคุณครับผม

ญาซากัลลอฮ์

ด้วยความเคารพ

--- ชื่อ -----

والسلام

[al-azhary]

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ผมสบายดีครับ  อัลฮัมดุลิลลาฮ์  เรื่องที่ท่านได้ปรึกษาผมนั้น  คำตอบย่อมชัดเจนอยู่แล้วครับว่า  การร่ำเรียนหาวิชาความรู้นั้น  ย่อมประเสริฐกว่าสิ่งใด ๆ ทั้งปวง  ประเสริฐกว่าเงินที่ท่านได้รับจากการทำงานเสียอีก  และหากท่านเป็นผู้ที่มีความรู้  มีความยำเกรง  เจตนาดีในการศึกษาเล่าเรียน  อัลเลาะฮ์จะไม่ทอดทิ้งท่านอย่างแน่นอน  และยิ่งกว่านั้นพระองค์ก็จะมอบทางออกและเพิ่มพูนริสกีที่ดียิ่งกว่าสำหรับท่านครับ  และผมขอกล่าวว่า  อัลฮัมดุลิลลาฮ์  ที่ท่านต้องการศึกษาเล่าเรียน

อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงตรัสว่า

مَن كَانَ يُرِيدُ حَرْثَ الْآخِرَةِ نَزِدْ لَهُ فِي حَرْثِهِ وَمَن كَانَ يُرِيدُ حَرْثَ الدُّنْيَا نُؤتِهِ مِنْهَا وَمَا لَهُ فِي الْآخِرَةِ مِن نَّصِيبٍ

?ผู้ใดที่มีความุ่งมาดในไร่นา(ภาคผล) แห่งโลกหน้า แน่นอน เราก็จะเพิ่มผลให้เขาในไร่นาของเขายิ่งขึ้น และผู้ใดมุ่งมาดในไร่นา(ภาคผล)แห่งโลกนี้ เราก็จักมอบแก่เขากับบางส่วนจากมัน แต่เขาก็ไม่มีส่วนได้รับใด ๆ ในโลกหน้าเลย? อัชชูรอ 20 ( ดู หนังสือ ชัรหฺ อัลฮิกัม เล่ม 2 หน้า 52)

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสเช่นกันว่า

إِنَّمَا يَخْشَى اللَّهَ مِنْ عِبَادِهِ الْعُلَمَاء

?แท้จริง บรรดาปวงบ่าวของอัลเลาะฮ์ ที่มีความเกรงกลัวต่อพระองค์นั้น คือบรรดาผู้มีความรู้?

จากอายะฮ์นี้  ชี้ให้เห็นว่า  ผู้ที่ต้องศึกษาหาความรู้นั้น  อัลเลาะฮ์ทรงต้องการให้เขามีความยำเกรงยิ่งขึ้นไป
ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้วจนะไว้ว่า

"ผู้ใดที่อัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ให้เขาได้รับความดีงาม  แน่นอน  พระองค์จะทรงให้เขาเข้าใจศาสนา" รายงานโดย บุคอรีย์

ดังนั้น  หากเรามองในมุมกลับ  ผู้ใดที่ต้องการละทิ้งเรื่องดุนยา เพื่อเรียนศาสนา  นั่นก็หมายความว่า  อัลเลาะฮ์จะทรงประสงค์ให้เขาได้รับความดีงาม

ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  วจนะไว้ว่า

"ผู้ใดที่ได้เดินอยู่ในหนทางหนึ่งที่เขาแสวงหาความรู้ในหนทางนั้น  อัลเลาะฮ์ก็จักทรงให้เขามีทางเดินหนึ่งที่ไปสู่สรวงสรรค์ด้วยกับวิชาความรู้  และบรรดามะลาอิเกาะฮ์จะวางบรรดาปีกของพวกเขา(เพื่อคุ้มครอง) เพราะมีความปิติยินดีแก่ผู้แสวงหาวิชาความรู้  และผู้มีความรู้นั้น  บรรดาสิ่งที่อยู่ในบรรดาฟากฟ้าและแผ่นดิน แม้กระทั่งปลาในทะเล  ก็จะขออภัยให้แก่เขา  และผู้มีความรู้นั้นย่อมประเสริฐกว่าผู้ทำอิบาดะฮ์(โดยมีความรู้) ประหนึ่งจันทร์เพ็ญที่อยู่เหนือหมู่ดวงดาว และบรรดาผู้รู้นั้นคือทายาทของบรรดานบี  และบรรดานบีไม่ได้ทิ้งมรดกไว้กับเงินและทอง  แต่บรรดานบีได้ทิ้งความรู้ไว้เป็นมรดกตกทอด  ดังนั้น  ผู้ใดที่ได้เอาความรู้นั้น  แน่นอน เขาย่อมเป็นผู้ที่ได้หยิบเอาโชคผลอันสมบูรณ์"

ยอมสละเงินเดือน  เพื่อศึกษาความรู้แล้วนำมาสร้างทางเดินไปสรวงสวรรค์และมารับเอามรดกของท่านนบี อีกทั้งไขว่คว้าโชคผลอันสมบูรณ์พร้อมนั้น  ย่อมประเสริฐแท้

ท่านอิบรอฮีม บิน อัดฮัม กล่าวว่า "หากบรรดากษัตริย์ได้รู้ถึงสิ่งที่เราเป็นอยู่จากความสุขอร่อยในการดำเนินชีวิต(ด้วยการมีความรู้) พวกเขาก็จะขู่บังคับพวกเขาด้วยคมดาบเพื่อสิ่งนั้น"

ท่านอิบนุเญาซีย์ กล่าวว่า "ขอสาบานต่ออัลเลาะฮ์  ฉันไม่รู้เลยถึงผุ้ที่มีชีวิตอยู่อย่างมีเกียตริอีกทั้งได้รับความสุขอร่อยยิ่งไปกว่าผู้มีความรู้ เพราะความเอร็ดอร่อยของความรู้นั้น จะเพิ่มทวีคูณทุก ๆ ความเอร็ดอร่อย"

ดังนั้น  ความรู้ทางด้านศาสนานั้น บ่อเกิดรัศมีของมัน คือ เป็นประเภทหนึ่งที่มีเกรียรติยิ่ง จากประเภทต่าง ๆ ของการซิกิร รำลึกถึงอัลเลาะฮ์ ตะอาลา เนื่องจากความรู้ในเรื่องของศาสนา ย่อมไม่พ้นจากการให้ความสนใจเกี่ยวกับ กิตาบุลลอฮ์ ซุนนะฮ์ของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ หรือสิ่งที่ได้รับมาจากทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็นหลักการศรัทธา(อากีดะฮ์) หลักนิติศาสตร์อิสลาม(ฟิกห์) หรือหลักมูลฐานของนิติศาสตร์ (อุศูลุลฟิกห์) เป็นต้น ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า บุคคลใดที่ให้ความสนใจในการรู้จักต่อหลักการดังกล่าวนั้น เขาย่อมเสมือนผู้ที่มุ่งหน้าไปยังอัลเลาะฮ์ ตะอาลา เพื่อให้ได้รับความประจักษ์ชัด เพิ่มพูนการรู้จักถึง อาตมันและบรรดาคุณลักษณะของอัลเลาะฮ์ รู้การอธิบายถึงบรรดาอุดมการณ์และหลักการต่าง ๆ ที่บ่าวของพระองค์ต้องนำมายึดปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนั้น สิ่งดังกล่าวทั้งหมด ย่อมทำให้เขา อยู่กับอัลเลาะฮ์ ซุบหานะฮูวะตะอาลา

ดังนั้น อะไรคือความหวังของบุคคลที่อยู่กับอัลเลาะฮ์ โดยเขาได้ศึกษาวิชาความรู้ เกี่ยวกับภารกิจต่าง ๆ ที่อัลเลาะฮ์ทรงกำหนดให้ปวงบ่าวของพระองค์มีความรับผิดชอบ ? เป็นสิ่งที่ไม่สงสัยเลยว่า ต่อไป เขาจะได้รับการคุ้มครอง เพราะพระองค์จะทรงสำแดง(ตะญัลลีย์) ถึงความเอ็นดู เมตตาแก่เขา และต่อไปเขาจะอยู่พร้อมกับพระองค์ โดยทรงให้การอุปถัมภ์ ให้ความคุ้มครอง และให้ความเพียงพอ ตราบใดที่เขาได้อยู่พร้อมกับพระองค์ ด้วยการศึกษาเกี่ยวกับศาสนา น้อมรับฟังคำตรัสของพระองค์ และแสวงหาความรู้เกี่ยวกับบทบัญญัติที่พระองค์ทรงกำชับแก่ปวงบ่าว

ถือเป็นความเพียงพอ ในการบ่งชี้ว่า การให้ความสนใจวิทยาการต่าง ๆ ของอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น เป็นประเภทหนึ่งของอิบาดะฮ์ที่มีเกียรติสุด คือคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) ที่ว่า

فضل العالم علي العابد كفضل القمر ليلة البدر على سائر الكواكب

?ความประเสริฐของผู้มีความรู้ ย่อมเหนือว่า นักทำอิบาดะฮ์ ประดุจดัง ความประเสริฐของดวงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ ที่(โดดเด่น)เหนือบรรดาหมู่ดวงดาวอื่น ๆ? รายงานโดย อบีดาวูด , อัตติรมีซีย์ , อันนะซาอีย์ จากท่านอบีดัรดาอฺ

ดังนั้น เมื่อบ่าวคนหนึ่ง ได้มุ่งศึกษากิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ของร่อซูลุลเลาะฮ์ แล้วเขาก็วินิจฉัยวิทยาการต่าง ๆ ของศาสนาและหลักอากีดะฮ์ ที่มาจากทั้งสอง โดยที่เขามีเจตนาที่บริสุทธิ์ใจแล้ว แน่นอน ย่อมไม่มีสิ่งใดที่มาผลักดันให้เขาสนใจสิ่งดังกล่าวนี้ นอกจาก เพื่อรู้จักข้อบังคับที่พระองค์บัญญัติขึ้นมา และมีความสุขด้วยการเพิ่มพูนความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ และรู้จักถึงบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ ดังนั้น บรรดาวิทยาการดังกล่าว ย่อมเป็นรัศมีที่แผ่คลุมหัวใจและสติปัญญาของเขา ซึ่งเป็นรัศมีแห่งพระผู้เป็นเข้าที่สำแดง(ตะญัลลีย์) ออกมาโดยให้สติปัญญาของเขามีแสงสว่างด้วยการทวีคูณความยาเกนที่มีต่อพระองค์ และทำหัวใจของเขามีความโชติช่วงเป็นทวีคูณด้วยทำการเทิดเกียรติ มีความรัก และคิดคำนึงถึงพระองค์อยู่เสมอ

ขออัลเลาะฮ์ทรงเพิ่มพูนความรู้แก่ท่าน

อัลอัซฮะรีย์

والسلام

[al-azhary]

ผมอยากให้พี่น้องของเราใน ณ ที่นี้  ช่วยให้คำปรึกษากับพี่น้องของเราท่านนี้ด้วยนะครับ 

[JuyA]

อัสลามูอาลัยกุม
  พี่น้องตัวอย่างท่านนี้ คิดและเลือกในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วน่ะคับ


    ผมเคยฟังคุตบะห์ท่านคอตีบคนหนึ่ง ท่านกล่าวว่า วันนี้สังคมมุสลิมกำลังหมกหมุ่นกับเรื่อง ดุนยา จนไม่ค่อยเวลา(มีเวลาไม่มาก)ที่จะตรวจสอบในเรื่องอาคิเราะห์ ท่านเปรียบเทียบว่า เรากำลังเอาเรื่องดุนยา แบกอยู่บนหัว ส่วนเรื่องอาคิเราะห์ เราถือไว้แบบธรรมดาๆ ซึ่งแน่นอนเวลามีปัญหา(มูซีบะห์)เช่น เดินๆแล้วสะดุด  เราต้องขว้างทิ้งสิ่งที่เราถือไว้แบบธรรมดานั่นเสีย และจะประคองสิ่งที่อยู่บนหัวของเรา  คือเราทิ้งเรื่องอาคิเราะห์ แต่เรากลับเอาดุนยา ซะงั้น
          ดังนั้นผมกำลังจะบอกว่าพี่น้องตัวอย่างของเราท่านนี้ กำลังคิดตรงกับจุดประสงค์คุตบะห์ของคอตีบ ที่ต้องการให้เราเอาเรื่องอาคิเราะห์แบกอยู่บนหัว และเอาเรื่องดุนยามาถือแบบธรรมดา(หมายถึงเอาดุนยาบ้าง  ) ดังนั้นเมื่อมีเหตการณ์ที่ต้องมาเลือกระหว่าง อาคิเราะห์กับ ดุนยา แน่นอนที่สุดเราจะทิ้งเรื่องดุนยานั้นเสียก่อน เพื่อประคองเรื่องอาคิเราะห์ของเราให้ดีที่สุดนั้นเอง
                        อัลลอฮุอักบัร
                         มอัสลาม

[นูรุ้ลอิสลาม]

อัสลามุอะลัยกุ้มครับพี่น้อง

ผมต้องขอบอกว่า  ให้ใจไปเลย กับพี่น้องท่านนี้ครับ  คือแพ้ใจเขาจริงๆ ครับ  มีงานทำดีๆ  ดันเลิกเพื่อไปศึกษาหาความรู้ศาสนา  ในอนาคตต่อไปภาคหน้า  แล้วท่านก็จะรู้มันมัน  คุ้ม!

[colidlayla]

อัสลามมูอาลัยกุม
ผมก็เป็นคนนึงที่ คล้ายๆกับคุณชื่อ (ไม่รู้ว่าเรียกถูกป้าว) คือเรียนสายสามัญมาเกือบตลอดตอนเด็ๆก็เรียนกุรอ่าน อ่านได้เขียนพอได้ฟัรดูอีน
ก็เรียนไม่จบ มีโอกาสไปเรียนปอเนาะ ปีนึงตอน มัธยม 3 ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องช่วงนั้นเด็กภาคกลางไปเรียนเยอะแทนที่จะได้ภาษา ยาวี กลับไป
ช่วยเด็กใต้พูดไทยกันดีขึ้น อัลฮำดุลิลลา ก็ได้มาบ้างเล็กน้อย ในวิชาความรู้ จนกลับมาและเรียนจบ ราชภัฏและก็ทำงานบ้างตกงานบ้าง
จนได้มีโอกาสได้เรียนกับครูท่านนึง ที่พึ่งกลับมาจาก มักกะห์ ท่านเป็นลูกศิตย์ ของครู ลี ไชยา (ขออัลลอฮเมตตา) ที่สอนที่นั้นผมเคยได้ยินชื่อท่านจาก
ญาติผู้ไหญ่ที่ไปทำฮัจย์ ท่านเป็นผู้สอน ฮุจยาด ที่เดินทางไปทำฮัจย์  ช่วงที่ท่านกลับมาก็ได้มาทำการสอนที่มัสยิด ผมเป็นคนนึงที่สนใจอยากได้วิชา
ก็เลย ขอไปเป็นลูกศิษย์ ท่าน ๆก็รับแต่คนจบฟัรดูอีนแล้ว แต่ผมคิดว่าผมน่าจะเรียนได้ก็เลยไม่ได้บอกแกหรอกว่าไม่จบ อัลฮำดุลิลลาฮ ที่ร่ำเรียนมาได้มาพอสมควรแก่การ อิบาดัต  แรกๆท่าน ทำการสอนโดยใช้กีตาบมลายู  เช่น ตัฟเซรนูรุ้ล เอียะซาน  บดรัย ปานาวาร  ก็เรียนไม่ได้จบเล่มหรอกคับ
เพราะท่าน สอน แค่ 2 วัน ต่ออาทิตย์ แต่ท่านจะอธิบาย ยาวมาก ต่อ อายะห์นึง บางทีวันนึงไม่จบอายะห์ ผมเรียนกับแกมา 5 ปียังไม่จบ อัลบากอเราะฮ
แต่ บัดรัย ได้มากหน่อย ได้หลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่จบเล่ม ช่วงปีที่ 2 มีเพื่อนคนนึงได้ไปเรียน ที่ รร. เป็นสถาบัน ในกรุงเทพ ไม่แน่ใจว่า ริดวาน หรือป่าว
แต่ก็มีอุปสรรค เลย ขอไห้ท่านสอน ท่านก็เลยได้สอน นาฮุ ซารอฟ  จนผมรู้ผมก็เลยขอเรียน บ้าง  จนจบภายใน ปีนึง ขอไปเรียนกับท่านที่บ้านตอนเช้า
วันอาทิตย์  พอจบเล่มเล็กก็เริ่มจะได้เล่มอธิบายสูงไปอีก แต่ก็มีอุปสรรค จนค่อยๆ ห่างหายจากการเรียน แต่ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาส ก็จะไปนั้งเรียน ที่มัสยิด
ในวันศุกร์ และเสาร์ ถ้าได้กลับมาจากทำงานถึงบ้านไว ก่อนจะ เริ่มละหมาด อิชา และก็หลังอิซาแต่ก็ไม่บ่อยเพราะส่วนไหญ่ผมเลิกทุ่มนึงกว่าถึงบ้านก็เกือบ3 ทุ่ม ที่ผมเขียนมา  ฏ้อยากไห้ท่าน พิจารณา ดู ว่า ถ้าท่าน คิดว่า การหยุดทำงาน เพื่อไปเรียนแค่ปีเดียว หรือ หาครูที่ท่านมั่นใจในวิชาความรู้แก่ท่านเพื่อที่ท่านจะได้เรียนกับท่านไปเรื่อยๆ ว่าอย่างไหนจะดีกว่า ก็ไห้ท่านทำเถิด และขอดุอาไห้ได้วิชาความรู้ที่ยังประโยชน์ ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ไห้มากๆ   อยากไห้ท่านได้ศึกษา พื้นฐาน ไห้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและท่านก็จะได้มีความเข้าใจ
และจนทุกวันนี้ผมได้แหล่งเรียนรู้ ดิจิตอล แรกๆผมเข้าเวป มุสลิมไทย  และได้ มารู้จักเวป แห่งนี้ มันมีความเหมือนกับที่ผมเล่าเรียนมา และเลยได้ศึกษาเพิ่มเติม จากเวปแห่งนี้ ซึ้ง เป็นประโยชน์มากมาย ในสิ่งที่ผมยังไม่รู้  และก็ดีใจที่ มีญาติ พี่น้อง ในเวปแห่งนี้ ที่เชื้อสาย มีประวัติ ที่มีความรู้ ที่สืบต่อมาจากรุ่น สู่รุ่น ไปจนถึงมัซฮับทั้ง4 และจนถึงท่านนบี
ขออัลลอฮให้แก่ผู้ที่เข้าเวปทั้งหลายและญาติพี่น้องและเพื่อนของเขาได้วิชาที่ยังประโยชน์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
ขอสรรเสริญต่ออัลลอฮผู้ที่ยกสูงแก่ผู้ตกต่ำไห้ไปทิศทางของพระองค์และไห้อภัยแก่เขาผู้ที่ทำชั่วต่อพระองค์พร้อมรับการกลับตัว
ขอซอลาวาตต่อท่าน ร่อซูล และวงศาคณาญาติและเหล่าบรรดาซอฮาบะห์  อัลฮำดุลิลลาฮ  อามีน...
ขออัลเลาะฮ์ทรงเพิ่มพูนความรู้แก่ท่าน

والسلام

[นูรุ้ลอิสลาม]

อัสลามุอะลัยกุ้มครับท่านพี่น้อง

   สิ่งที่คุณ colidlayla  นำเสนอประวัติการศึกษาของตนเองนั้น ถือว่าเป็นแบบอย่างอันน่าชนชมอีกท่านหนึ่ง  ดังนั้นใครมีประสบการณ์ส่วนตัวในเรื่องการเรียนแบบยอมใจกันอย่างนี้  ก็เล่ามาให้พี่น้องเป็นเอาไปเป็นแบบอย่างในการสู้ชีวิตการศึกษาอัลอิสลามกันครับ  บางคนยังลังเลในเรื่องการเล่าเรียนวิชาการศาสนา  แต่หากเขาได้มาอ่านกระทู้นี้  เขาอาจจะเปลี่ยนใจและสละเวลามาร่ำเรียนวิชาการศาสนากันมากขึ้น

   ฉะนั้นพี่น้องก็เข้ามาทำการเสนอให้คำปรึกษาและมาเล่าประสบการณ์จริงเพื่อเป็นแบบอย่างกันเถอะครับ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า "สำหรับเนี๊ยะอฺมัต(ความโปรดปราน)ของผู้อภิบาลของเจ้านั้น  เจ้าจงบอกกล่าวเล่ากันเถิด" ซูเราะฮ์ อัฏดุฮา

วิชาความรู้มันจะเฝ้ารักษาเรา แต่สมบัตินั้นเราต้องเฝ้ารักษามัน

[SaFinah]

อัซซาลามูอาลัยกุม ครับพี่น้อง

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความต้องการอยากจะเรียนด้านศาสนาเหมือนกันครับ
ที่คุณ colidlayla เล่าประวัติการเรียนด้านศาสนาก็น่าสนใจเหมือนกันครับ
ไม่ทราบว่าครูที่สอนคุณ colidlayla สอนที่มัสยิดที่ไหนหรือครับ?
เผื่อถ้ามีโอกาสจะได้ไปร่ำเรียนบ้าง อินชาอัลลอฮ์ 

[almadany]

อัสลามุอะไลกุ้ม....

....ถือว่าเป็นพี่น้องตัวอย่างจริงๆ...ครับ...นับถือครับ

[colidlayla]

อัซซาลามูอาลัยกุม ครับพี่น้อง

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความต้องการอยากจะเรียนด้านศาสนาเหมือนกันครับ
ที่คุณ colidlayla เล่าประวัติการเรียนด้านศาสนาก็น่าสนใจเหมือนกันครับ
ไม่ทราบว่าครูที่สอนคุณ colidlayla สอนที่มัสยิดที่ไหนหรือครับ?
เผื่อถ้ามีโอกาสจะได้ไปร่ำเรียนบ้าง อินชาอัลลอฮ์ 

ผมอยู่ สมุทรปราการ  อำเภอพระประแดง คับ มัสยิด ดารอสอาดะห์  บ้านปากลัด
เมื่อก่อน ช่วงที่ผมยังตกงาน ครูท่าน สอนหลังละหมาด ญุมอัต จนถึงเข้า อัศริ
แต่ปัจจุบันจะสอน หลังมัฆริบ และหลังอิชา ในวันศุกร์และเสาร์ ส่วน วันพุธ จะสอน นาฮู ซารอฟ ให้แก่คนสนใจจริงๆ
วันจันทร์ แก สอนที่ ริดวาน หรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะแกได้มารับตำแหน่งเป็น ครูใหญ่ที่ รร. สามัคคีธรรม ติดกับมัสยิดแล้ว
การเรียนก็ นั้งเรียนกันแบบ ล้อม วง มีไม่กี่คนหรอกไม่ถึง 10 คน แต่บางวันมาคนเดียวถ้าท่านมา ท่าน ก็สอน
บางครั้งนักรียนก็มารอเก้อ นะ เพราะบางทีท่านติดธุระ คือไม่ได้เป็นการบอกล่วงหน้านะ เพราะทุกคนถือว่ามาละหมาดกันอยู่แล้ว
ถ้ามีไครสนใจมาศึกษา ท่านก็ต้อนรับอย่างดี
เคยได้คุยกับท่านอยู่ครั้งนึง ว่าท่านอยากได้นักเรียนที่สนใจแต่ไม่มีทุนเรียนท่านจะทำ ปอเนาะ เล็กๆที่หลังบ้านท่าน นะ แต่นักเรียนที่นั้นไม่มีไครสนใจ
เลยผ่านไป ไม่ได้ทำ

[คนจำเป็น]

สลามครับ
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ น่าชื่นชม น้องมากครับ
ที่ใส่ใจ ต่อเรื่องการใฝ่หาความรู้ศาสนา เพื่อเติมเต็มศรัทธา
หากน้องยังไม่มีภาระ ครอบครัว และมีเงินสนับสนุนเพื่อการศึกษา
ก็เป็นเรื่องที่สมควร เข้าสู่สถานศึกษา เพื่อให้ได้อยู่ในโลกของการศึกษาอย่างจริงจัง
หากแต่ ถ้าน้องมีครอบครัวแล้ว และต้องยังชีพเลี้ยงดูแล ลูกเมีย ซึ่งหมายถึง
น้องต้องรับผิดชอบครอบครัว จากปัจจัยยังชีพ ที่ฮะล้าลแล้ว
ก็น่าจะทำงาน และ เรียน ศึกษา ตามสื่อต่าง ๆ
ซึ่งปัจจุบันนี้ ก็มีสื่อการสอน ทั้งหนังสือ อินเตอร์เน็ต ซีดี เอ็มพี 3
องค์กรความรู้ศาสนา มากมาย ต่างแข่งขันกันดะวะ  ซึ่งถือว่า
เรื่องของการศึกษาศาสนา นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากในปัจจุบัน
บังไม่ได้คัดค้าน การศึกษาศาสนา เพียว ๆ
เพราะ นั่นเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องศึกษากันจนตาย และเป็นหัวใจหลักต่อการนำศาสนาเข้าสิงสู่หัวใจ
แต่ เพราะ หน้าที่อื่นๆ ของเรานั้น เราก็ต้องรับผิดชอบด้วย
ตามสถานภาพที่เราเป็นอยู่ ซึ่งศาาสนา ก็มีบทบัญญัติ ให้เราต้องทำหน้าที่ได้ทุกตำแหน่งเช่นเดียวกัน

[นูรุ้ลอิสลาม]

ถือว่าเป็นความสำเร็จระดับหนึ่งครับที่เว๊บไซต์แห่งนี้  ผลักดันให้พี่น้องบางท่านมุ่งสนใจในการเรียนวิชาการศาสนามากยิ่งขึ้น