ผู้เขียน หัวข้อ: การทำวิริด(ซิกรุลลอฮ์)จะสิ้นสุดลงเมื่อใด ??  (อ่าน 873 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด

การทำวิริด(ซิกรุลลอฮ์)จะสิ้นสุดลงเมื่อใด !! โดย อาจารย์ อารีฟีน แสงวิมาน อัล-อัซฮารีย์ ผู้อำนวยการสถาบันอัล-กุดวะฮฺ



อาจารย์ อารีฟีน แสงวิมาน อัล-อัซฮารีย์
ผู้อำนวยการสถาบันอัล-กุดวะฮฺ
ขออัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงปกปักษ์รักษาท่าน


ตอบ ..

"การทำวิริด(ซิกรุลลอฮ์)จะสิ้นสุดด้วยการสิ้นสุดของโลกดุนยานี้" หิกัมอิบนิอะฏออิลลาฮ์

เพราะหัวใจขาดวิริด(ซิกรุลลอฮ์)เหมือนกับปลาขาดน้ำ


ที่มา : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=677340592368688&set=a.318731088229642.1073741826.100002782610160&type=3
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ rena36704

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณข้อมูลมากครับ

ออฟไลน์ Hanata'

  • awan-pelangi (◕‿◕✿)
  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 146
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +5
    • ดูรายละเอียด
0
แล้วจะได้ วาริด ในโลกหน้า ^^
جاواهكن بالا       تتفكن ايمان      مورهكن رزقي

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
0
อ่านกระทู้นี้แล้วทำให้นึกถึง...อีกกระทู้ขึ้นมาค่ะ ^^



ท่านอีหม่ามฮาฟิซญะลาลุดดีน อัซซะยูตีย์
ได้รายงานด้วยสายรายงานต่าง ๆ ว่า

แท้จริงท่านอีหม่ามอาลีได้กล่าวว่า ฉันได้ตามท่านร่อซู้ล ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
โดยที่ฉันได้กล่าวแก่ท่านร่อซู้ลว่า

"โอ้ท่านศาสนทูต จงบอกฉันถึงวิธีการเข้าใกล้อัลลอฮฺที่ง่ายดายต่อบ่าวที่จะปฏิบัติ
และเป็นแนวทางที่ประเสริฐสุด ณ ที่พระองค์อัลลอฮฺ และท่านร่อซู้ลก็ได้กล่าวว่า

"โอ้อาลีเอ๋ย ท่านจงดำรงไว้ซึ่งการรำลึกถึงพระองค์ทั้งโดยลับและโดยเปิดเผย"

อาลีก็ได้กล่าวว่า

"ทุกคนก็ต้องทำแบบนี้ทั้งสิ้น แต่ว่าฉันต้องการให้ท่านนั้นเจาะจงแนะวิธีการอย่างหนึ่ง
ให้กับฉันเป็นพิเศษ"

ท่านร่อซู้ลกล่าวว่า

"สิ่งที่ฉันและบรรดานบีต่าง ๆ ที่อยู่ก่อนฉันกล่าวคือ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)
 ถ้าแม้ว่าเอาฟากฟ้าทั้งเจ็ดชั้นและผืนแผ่นดินทั้งเจ็ดเอามาวางไว้บนตาชั่งข้างหนึ่ง
และนำเอาคำว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) มาวางไว้บนตาชั่งอีกข้างหนึ่ง
ทั้งฟากฟ้าและผืนแผ่นดินก็ไม่อาจหนักเทียบเท่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)"

หลังจากนั้นท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า

"โอ้อาลี ! วันกิยามะฮฺ (วันสิ้นโลก) นั้นจะไม่เกิดขึ้นบนหน้าพื้นพิภพ
ตราบใดที่ยังมีผู้กล่าว "لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)"

และท่านอาลีก็กล่าวว่า

"ฉันจะทำการรำลึกถึงพระองค์อย่างไร?"

ท่านร่อซู้ลได้กล่าว

"لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) 3 ครั้ง โดยที่ท่านปิดตาทั้งสองข้างและกล่าวเสียงดัง"

ท่านอาลีก็คอยฟังและหลังจากนั้นท่านอาลีก็ได้กล่าวตาม"


อ้างอิงจาก

หลักการซิกร์ (การกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ)
         

     การกล่าวซิกร์ จัดเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการสวมคิรเกาะฮฺ (สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่มีรอยปะ) ในอัลกุรอานชี้ชัดแล้วว่า การรำลึกถึงอัลลอฮฺเป็นรัศมีโดยแท้และประเสริฐสุด ซึ่งโองการต่าง ๆ ของอัลกุรอานได้กล่าวไว้ว่า

فَاذْكُرُونِى أَذْكُرْكُمْ واشْكُرُوا لِى وَلاَ تَكْفُرُوْنِ

ความว่า: ?เจ้าทั้งหลายจงรำลึกถึงฉัน ฉันจะรำลึกถึงพวกเจ้า? (2 : 152)

الَّذِيْنَ ءَامَنُوا وَتَطْمَئِنُّ قُلُوبُهُمْ بِذِكْرِ اللهِ أَلاَ بِذِكْرِ اللهِ تَطْمَئِنُّ القُلُوبُ

ความว่า: ?บรรดาผู้ศรัทธา และบรรดาผู้ที่จิตใจของพวกเขาสงบนิ่งด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ มิใช่ด้วยรำลึกถึงอัลลอฮฺดอกหรือที่ทำให้จิตใจสงบได้? (13 : 28)

          ในหะดีษอัล-กุดซีย์ มีรายงานมาโดยท่านอีหม่ามบุคอรีย์และอีหม่ามมุสลิมว่า... ?อัลลอฮฺทรงตรัสว่า ?ขณะที่บ่าวรำลึกถึงฉันต่อหน้าสาธารณชน ฉันจะรำลึกถึงเขาต่อหน้าสาธารณชนที่ดีกว่ากลุ่มนั้นอีก หากเขาเข้าหาฉันหนึ่งคืบฉันจะเข้าหาเขาหนึ่งศอก หากเขาเข้าหาฉันหนึ่งศอกฉันจะเข้าหาเขาหนึ่งวา หากเขาเดินมาหาฉันฉันจักเร่งฝีเท้าไปหาเขา? (บุคอรีย์และมุสลิมและฮาซันบันนา 1975 :  7)

          ท่านฮากีมได้คัดจากหะดีษที่รายงานโดยท่านบัรร๊ออฺ ซึ่งเป็นหะดีษมัรฟุฮฺ (โดยรายงานมาว่า) ?ผู้ใดที่กล่าวว่า ?ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ ไม่มีการตั้งภาคีใด ๆ ต่อพระองค์ พระองค์ทรงอำนาจ พระองค์ทรงครอบครองการสรรเสริญและพระองค์ทรงปรีชาเหนือทุกสิ่ง? โดยกล่าวสิบครั้ง เขาเสมือนได้ปลดปล่อยทาสหนึ่งคน? (ยะลาลุดดีนซุยูตีย์ ม.ป.ป. :  10 ? 11)

          ท่านอิบนุญารีรได้อ้างคำกล่าวของท่านเกาะตาดะฮฺในหนังสืออธิบาย (ตัฟซีฟ) อัลกุรอานของท่านว่า ?อัลลอฮฺทรงกำหนดให้ซิกร์ (รำลึก) ถึงพระองค์ขณะที่พวกท่านทั้งหลายกำลังวุ่นวายที่สุด แม้ขณะกำลังรบประดาบกันอยู่ก็ตาม? และท่านก็ยกโองการที่ว่า ?โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายเมื่อพวกท่านพบปะคนกลุ่มหนึ่ง พวกท่านพึงตั้งมั่นและจงรำลึกถึงอัลลอฮฺให้มาก ๆ เพื่อพวกเจ้าจักได้รับชัยชนะ? (ยะลาลุดดียซุยูตีย์ อะมาลุ้ลฟิกริฟีฟัดลิดซิกร์ ม.ป.ป. :  10 ? 11)

ที่มาของหลักฐานการกล่าวซิกร์ (กล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ)

          ท่านอีหม่ามฮาฟิซญะลาลุดดีน อัซซะยูตีย์ ได้รายงานด้วยสายรายงานต่าง ๆ ว่า ?แท้จริงท่านอีหม่ามอาลีได้กล่าวว่า ฉันได้ตามท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) โดยที่ฉันได้กล่าวแก่ท่านร่อซู้ลว่า ?โอ้ท่านศาสนทูต จงบอกฉันถึงวิธีการเข้าใกล้อัลลอฮฺที่ง่ายดายต่อบ่าวที่จะปฏิบัติ และเป็นแนวทางที่ประเสริฐสุด ณ ที่พระองค์อัลลอฮฺ และท่านร่อซู้ลก็ได้กล่าวว่า ?โอ้อาลีเอ๋ย ท่านจงดำรงไว้ซึ่งการรำลึกถึงพระองค์ทั้งโดยลับและโดยเปิดเผย? อาลีก็ได้กล่าวว่า ?ทุกคนก้ต้องทำแบบนี้ทั้งสิ้น แต่ว่าฉันต้องการให้ท่านนั้นเจาะจงแนะวิธีการอย่างหนึ่งให้กับฉันเป็นพิเศษ ท่านร่อซู้ลกล่าวว่า ?สิ่งที่ฉันและบรรดานบีต่าง ๆ ที่อยู่ก่อนฉันกล่าวคือ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)?  ถ้าแม้ว่าเอาฟากฟ้าทั้งเจ็ดชั้นและผืนแผ่นดินทั้งเจ็ดเอามาวางไว้บนตาชั่งข้างหนึ่ง และนำเอาคำว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? มาวางไว้บนตาชั่งอีกข้างหนึ่ง ทั้งฟากฟ้าและผืนแผ่นดินก็ไม่อาจหนักเทียบเท่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? หลังจากนั้นท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า ?โอ้อาลี ! วันกิยามะฮฺ (วันสิ้นโลก) นั้นจะไม่เกิดขึ้นบนหน้าพื้นพิภพ ตราบใดที่ยังมีผู้กล่าว?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? และท่านอาลีก็กล่าวว่า ?ฉันจะทำการรำลึกถึงพระองค์อย่างไร? ท่านร่อซู้ลได้กล่าว لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) 3 ครั้ง โดยที่ท่านปิดตาทั้งสองข้างและกล่าวเสียงดัง ท่านอาลีก็คอยฟังและหลังจากนั้นท่านอาลีก็ได้กล่าวตาม

          ท่านอัซซัดดาด บิน เอาฟฺ ได้กล่าวว่า ?พวกเราเคยอยู่ร่วมกับท่านร่อซู้ล ในขณะที่ท่านร่อซู้ลได้กล่าวว่า ?ในหมู่พวกท่านมีคนแปลกหน้าหรือไม่ (หมายถึงชาวคัมภีร์จากชาวยิวและชาวคริสต์) พวกเราได้กล่าวว่า ?ไม่มีหรอกท่านร่อซู้ล? ดังนั้นท่านร่อซู้ลจึงใช้ให้เปิดประตู และท่านได้กล่าวว่า ?จงยกมือของพวกท่านและจงกล่าว لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? และพวกเราก็ได้กล่าวว่า ?لا إله إلا الله (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ)? แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺได้ส่งฉันมาด้วยกับคำ ๆ นี้ และพระองค์นั้นมิได้เป็นผู้ผิดสัญญา? พวกซูฟีได้ยึดถือว่าหลักฐานดังกล่าว เป็นหลักในการสอน لا إله إلا الله   (ลาอิลาฮ่าอิลลัลลอฮฺ) ของท่านรอซู้ลต่ออัครสาวกของท่าน

          ท่านอามีร นัรยาร ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการซิกร์จากหะดีษดังกล่าวว่า ?เราสามารถที่จะเข้าใจดังเช่นที่ กุซัยรี่ ได้อธิบายว่า การซิกร์เป็นซัยฟุ้ลมุรีด (ดาบของศิษย์) ด้วยดาบนั้นศิษย์สามารถที่จะสู้รบกับศัตรูได้ และด้วยกับดาบนั้น ศิษย์สามารถที่จะป้องกันเภทภัยที่จะมาประสบกับเขา และการทดสอบได้ประสบกับจิตใจของเขานั้นจะวิตกกังวลและหวาดกลัว และการหันหน้าเข้าสู่องค์อัลลอฮฺ จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารังเกียจจะถูกขจัดไปในทันทีทันใด? (อามีร นัรยาร ตุรุกซูฟียะฮฺ ม.ป.ป.46)

          ท่านซุลนูนมิซรี่ ได้กล่าวว่า ?ผู้ใดก็ตามที่รำลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ อย่างจริงจัง จนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์จะทรงรักษาสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นไว้ให้กับเขา และพระองค์จะให้สิ่งทดแทนแก่เขา (ริซาละฮฺกุซัยรียะฮฺ 466)

          ท่าน ซะอฺรอนีย์ ได้กล่าวว่า ?ชาวอะฮฺลิลเฏาะรีก ((ที่สังกัดอยู่ในกลุ่มเฏาะรีเกาะฮฺ) ได้มีทัศนะร่วมกันว่า แน่แท้การซิกร์ (รำลึกถึงอัลลอฮฺ) นั้นเมื่อได้เกิดขึ้นและฝังแน่นในจิตใจ เมื่อมารร้าย (ชัยตอน) เข้าใกล้พวกมารร้ายก็จะถูกผลักดันออกไป พวกมารร้าย (ชัยตอน) ก็จะมารวมตัวกันและถามว่า ?เกิดอะไรขึ้น? และมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า ?แน่แท้มารร้าย (ชัยตอน) นั้น เมื่อเข้าใกล้ผู้ที่กล่าวซิกร์ มันจะถูกผลักดันออกมา? (ซะฮฺรอนีย์ อัล-อันวารกุดซียะฮฺ ฟีอะดาบิลอุบูดียะฮฺ ม.ป.ป.125)

          ฟัคครุซรอซีร์ ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการซิกร์ว่า ?การซิกร์คือการชำระความมืดมนของหมู่มวลมนุษยชาติ และ ณ พระองค์เท่านั้น คือ จุดกำเนิดแห่งแสงสว่าง และไม่มีความผิดใด ๆ ที่เกิดขึ้นต่อพระองค์ ท่านผู้ทรงสูงสงยิ่งที่จะทำให้แสงสว่างแห่งพระผู้เป็นเจ้าเข้าถึงส่วนลึกแห่งหัวใจ ดังนั้นความืดมิดจะถูกการซิกร์นั้นกำจัดให้พ้นจากหัวใจ และวิญญาณ? (ฟัครุรรอซีย์ ละวาเมียะ ลากอเอี้ยอัล-บายานาต ม.ป.ป.2)

          ท่านอีหม่าม กุซัยรี่ ได้กล่าวว่า ?การทำซิกร์นั้นเป็นด้านที่แข็งแรงที่สุดในหนทางที่จะบรรลุถึงพระองค์อัลลอฮฺ? (ริซาละฮฺกุซัยรียะฮฺ 212)

          ท่านตุซตารีย์ ได้ถือหลักว่า ?การซิกร์นั้นเป็นการรำลึกอยู่เสมอว่าพระองค์อัลลอฮฺทรงเห็นท่าน ดังนั้นท่านก็จะเห็นพระองค์อยู่ใกล้ชิดกับตัวและหัวใจของท่าน และท่านจะต้องทำดีต่อพระองค์ทั้งด้านจิตใจและทุก ๆ อิริยาบทของท่าน? ท่านตุซตารีย์ได้แบ่ง ซิกร์เป็น 3 แบบคือ
1. การซิกร์ด้วยลิ้น
2. การซิกร์ด้วยหัวใจ
3. การซิกร์เฉพาะ เรียกว่า มูซิ้ล คือการซิกร์แบบติดต่อกันจะต้องมาร่วมกันทำเป็นหมู่คณะ

          ซิกร์สองแบบแรกนั้น นับว่าเป็นแบบที่ขาดตอน หมายถึง ซิกร์ที่มิได้ทำติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน ส่วนซิกร์แบบที่สาม ถือเป็นชนิดพิเศษ กล่าวคือ มีการตั้งใจทำกันอย่างจริงจังภายใต้จิตใจที่มอบแด่พระองค์อัลลอฮฺอยู่ตลอดเวลา ซิกร์ที่มีต่ออัลลอฮฺอย่างจริงจังนั้น จะทำให้ทุกอณูของผู้กระทำแน่วแน่อยู่ ณ พระองค์อัลลอฮฺ เมื่อซูฟีอยู่ต่อหน้าพระองค์อัลลอฮฺ ทุกอณูของเขาจะอยู่ ณ พระองค์อัลลอฮฺทั้งหมด เขาจะไม่คิดถึงสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์ และเขาจะไม่หยุดทำการซิกร์จนกว่าพระองค์จะครอบครองจิตใจของเขา หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นจากการทำซิกร์ ฉะนั้นความจริงก็จะประจักษ์แก่เขา ความผิดพลาดก็จะมลายสิ้นไป ลบล้างข้อบกพร่องต่าง ๆ และร่องรอยแห่งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสิ่งอื่นให้ออกไปจากจิตใจของพวกเขา เพราะว่าจิตใจของเขาผูกพันอยู่กับอัลลอฮฺ จิตใจของเขาจึงว่างเปล่าจากทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากพระองค์ และการทำซิกร์นั้นเป็นสื่อที่ทำให้จิตใจหลุดพ้นจากความมืดมน หรือด้วยสำนวนของนักปราชญ์ที่ว่า การซิกร์นั้นเป็นสื่อทำให้บุคคลหลุดพ้นจากเรื่องราวภายนอก หรือหลุดพ้นจากสิ่งที่เขาปรารถนา

          อัซซิกร์ (การรำลึกถึงอัลลอฮฺ) มีสองด้าน คือ ด้านบวก คือการเข้าถึงสิ่งที่สำคัญยิ่งสูงสุดเพียงสิ่งเดียวคือพระองค์อัลลอฮฺ ด้านลบ คือ จิตใจนั้นจะว่างเปล่าจากทุกสิ่งที่มืดมน คือ ความอยาก ความต้องการ และอารมณ์ (อะฮฺหมัด มะฮฺมูด ซุบฮิ อัล-ฟัลซะฟะฮฺ อัล-อัคลากียะอฺฟีอัล-อิสลาม 1969 : 253)


โดย..อ.อุมาร  มาดะมัน จากวิทยานิพนธ์เรื่องการศึกษาเปรียบเทียบความเชื่อและการปฏิบัติของกลุ่มเฏาะรีเกาะฮฺซูฟีในประเทศไทย
refer..---> http://www.ridwanclub.com/subindex.php?page=content&id=123 (ออนไลน์) เว็บ ridwanclub.com


ที่มา

จากกระทู้ "เรามาอธิบายความหมายคำว่า "ลาอิลาฮะอิ้ลลัลลอฮ์" กันเถิด
v
v

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=600.0
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)