ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมซูฟีย์ ต้องปกป้องอะกีดะฮฺอะฮฺลิสสุนนะฮ์ฯ ??  (อ่าน 639 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด

ทำไมซูฟีย์ ต้องปกป้องอะกีดะฮฺอะฮฺลิสสุนนะฮ์ฯ ?? โดย อาจารย์ อารีฟีน แสงวิมาน ผู้อำนวยการสถาบันอัล-กุดวะฮฺ



อาจารย์ อารีฟีน แสงวิมาน อัล-อัซฮารีย์
ผู้อำนวยการสถาบันอัล-กุดวะฮฺ
ขออัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงปกปักษ์รักษาท่าน


ตอบ ..

พี่น้องอาจจะสงสัยว่า ทำไมกระผมและครูของกระผม(อาจารย์รอฟิก ชมเผ่า และอาจารย์กอเซ็ม โมฮัมมัดอาลี เป็นต้น) ได้ทำการสอนตะเซาวุฟ แต่ก็ทำการปกป้องอะกีดะฮ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์และทำการชี้แจงในเรื่องอะกีดะฮ์ไปพร้อมๆ กันด้วย ดังนั้นเมื่อมีบางกลุ่มได้งบประมาณมา แล้วก็มาพูดบรรยายตัดสินหุกุ่มสร้างฟิตนะฮ์กับพี่น้องมุสลิมอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์นั้น ปราชญ์ซูฟีย์มีจุดยืนอย่างไร? คำตอบก็คือ :

ท่านอิหม่ามอัลกุชัยรีย์ ปราชญ์ซูฟีย์ ได้กล่าวว่า

وَالسُّكُوْتُ فِيْ وَقْتِهِ: صِفَةُ الرِّجَالِ، كَمَا أَنَّ النُّطْقَ فِيْ مَوْضِعِهِ مِنْ أَشْرَفِ الْخِصَالِ

“การนิ่งในช่วงเวลาของมันนั้นเป็นลักษณะของบุรุษ( เช่น การนิ่งเพราะเขากลัวจะตกไปอยู่ในความผิดพลาด)เฉกเช่นเดียวกันกับการพูดในสถานที่ของมันย่อมเป็นประการที่มีเกียรติที่สุด(เช่น การพูดเพื่อเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ไม่ดี)” อิห์กามุดดะลาละฮ์ อะลา ตะห์รีร อัรริซาละฮ์ อัลกุชัยรียะฮ์, เล่ม 1, หน้า 417. ส่วนในวงเล็บเป็นการอธิบายของชัยคุลอิสลามซะกะรียา อัลอันซอรีย์.

ดังนั้นการนั่งเงียบในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะอาจจะไปพูดผิดพลาดและไม่รู้จริงนั้น ถือว่าเป็นคุณลักษณะของผู้ที่มีคุณธรรม เฉกเช่นเดียวกัน การพูดในสถานการณ์ที่สมควรต้องพูดนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่มีเกียรติที่สุด เช่น มีบางกลุ่มพูดตัดสินว่าอัลอะชาอิเราะฮ์ออกจากแนวทางอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ บ้างก็พูดอ้อมๆ ว่าออกจากศาสนา จึงมีความเหมาะสมแล้วที่เราต้องพูดชี้แจง ถือว่าเป็นเรื่องมีเกียรติ ไม่ใช่ชวนทะเลาะแต่อย่างใด

ท่านอิหม่ามอะบูอะลีย์ อัดดั๊กก๊อก ปราชญ์ซูฟีย์ ได้กล่าวว่า

مَنْ سَكَتَ عَنِ الْحَقِّ فَهُوَ شَيْطَانٌ أَخْرَسُ

“ผู้ใดนิ่งเงียบจากเรื่องสัจธรรม เขาคือชัยฏอนใบ้” อัรริซาละฮ์อัลกุชัยรียะฮ์, หน้า 151.

ดังนั้นเมื่อมีการใส่ร้ายและตัดสินแนวทางอัลอะชาอิเราะฮ์ แต่เรากลับนิ่งเฉยจากการชี้แจงความจริงแบบรายละเอียด ถือว่าเป็นชัยฏอนใบ้ วัลอิยาซุบิลลาฮ์ ปราชญ์ซูฟีย์มิได้ส่งเสริมให้เป็นชัยฏอนโดยหยุดนิ่งเงียบ แต่ต้องชี้แจงแบบมีมารยาทตามหลักวิชาการที่ดีงาม มิเช่นนั้นเราก็จะเป็นชัยฏอนไปด้วย

ท่านอิหม่ามอัซซุดดีน อิบนุ อับดิสสะลาม ปราชญ์ซูฟีย์ ลูกศิษย์ของท่านอิหม่ามอะบุลหะซัน อัชชาซุลีย์ ได้กล่าวว่า

لَيْسَ فِيْ رَدِّ الْبِدَعِ وَإِبْطَالِهَا مِنْ بَابِ إِثَارَةِ الْفِتَنِ ، فَإِنَّ اللهَ سُبْحَانَهُ أَمَرَ الْعُلَمَاءَ بِذَلِكَ، وَأَمَرَهُمْ بِبَيَانِ مَا عَلِمُوْهُ ، وَمَنِ امْتَثَلَ أَمْرَ اللهِ وَنَصَرَ دِيْنَ اللهِ لاَ يَجُوْزُ أَنْ يَلْعَنَهُ رَسُوْلُ اللهِ فَإِنَّا نَزْعَمُ أَنَّا مِنْ جُمْلَةِ حِزْبِ اللهِ وَأَنْصَارِ دِيْنِهِ وَجُنْدِهِ وُكُلُّ جُنْدِيٍّ لاَ يُخَاطِرُ بِنَفْسِهِ فَلَيْسَ بِجُنْدِيٍّ

“การโต้ตอบและหักล้างอะกีดะฮ์บิดอะฮ์ทั้งหลายนั้นมิใช่เป็นการจุดฟิตนะฮ์ (มิใช่เป็นการชวนทะเลาะ) เพราะอัลลอฮฺตะอาลาทรงบัญชาใช้ให้อุละมาอฺกระทำสิ่งดังกล่าวและทรงบัญชาให้พวกเขาอธิบายชี้แจงในสิ่งที่พวกเขารู้และผู้ใดที่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺและช่วยเหลือศาสนาของอัลลอฮฺ ก็ไม่อนุญาตให้ร่อซูลลอฮฺสาปแช่งเขา เพราะพวกเราขอยืนยันว่า พวกเราเป็นกลุ่มหนึ่งจากพลพรรคของอัลลอฮฺ เป็นผู้ช่วยเหลือศาสนาและนักรบของพระองค์ และนักรบทุกคนที่ไม่รู้สึกว่าตนเองอยู่ในความสุ่มเสี่ยงอันตราย(เนื่องจากต่อต้านศัตรู)นั้น เขาย่อมไม่ใช่นักรบ” อิบนุอัสสุบกีย์, อัฏฏ่อบะก้อตอัลกุบรอ, เล่ม 8, หน้า 231-234.

การปกปิดความรู้และข้อเท็จจริงโดยไม่ทำการชี้แจงอธิบายนั้น จะถูกสอบสวนในวันกิยามะฮ์ เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องชี้แจงตามความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาโดยมิได้ประจบประแจงแต่อย่างใดในเรื่องของสัจธรรมและประกาศจัดเจนว่าเราคืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์

เพราะถ้ามิเป็นเช่นนั้น เรากลัวว่า เราเองจะตกไปอยู่ในหะดีษที่ท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

إِنَّ شَرَّ النَّاسِ ذُو الوَجْهَيْنِ، الَّذِي يَأْتِي هَؤُلاَءِ بِوَجْهٍ، وَهَؤُلاَءِ بِوَجْهٍ

“แท้จริงมนุษย์ที่ชั่วที่สุด คือ คนสองหน้า ซึ่งเขาได้ไปหาพวกเขาเหล่านั้นด้วยใบหน้าหนึ่งและไปยังพวกเขาเหล่านั้น(อีกกลุ่ม)ด้วยอีกใบหน้าหนึ่ง” รายงานโดยอัลบุคอรีย์, หะดีษเลขที่ 7179, และมุสลิม, หะดีษเลขที่ 2526.

ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ หะญัร อัลอัสก่อลานีย์ ได้กล่าวอธิบายว่า

قَالَ النَّوَوِيُّ هُوَ الَّذِيْ يَأْتِيْ كُلَّ طَائِفَةٍ بِمَا يُرْضِيْهَا فَيُظْهِرُ لَهَا أَنَّهُ مِنْهَا وَمُخَالِفٌ لِضِدِّهَا وَصَنِيْعُهُ نِفَاقٌ وَمَحْضُ كَذْبٍ وَخِدَاعٍ

“ท่านอิหม่ามอันนะวาวีย์ ได้กล่าวว่า (คนสองหน้านั้น)คือ ผู้ที่ไปหาคนทุกกลุ่มด้วย(การกระทำและพูด)สิ่งที่ทำให้คนกลุ่มนั้นพอใจและแสดงให้คนกลุ่มนั้นรู้ว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งจากพวกเขาและขัดแย้งกับกลุ่มตรงกันข้าม ซึ่งการกระทำของเขานี้เป็นความกลับกลอก โกหก และหลอกลวง” อิบนุหะญัร, ฟัตหุลบารีย์, เล่ม 10, หน้า 475.


ที่มา : https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=937995512969860&id=100002782610160

// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //