อัสลามุอะลัยกุ้ม
จะมองว่า ถูกแยก ก็น่าใช่ นะ
แต่เด๋วนี้ เรื่องของการศาสนา นั้น มีองค์กร สถาบัน มากมาย ให้เข้าไปศึกษา
เพียงแต่ เราเลือกทุ่มเวลาไปกับ วิชาสามัญ จนหมดเวลา หรือ เรี่ยวแรง สำหรับการทุ่มเท
เพื่อการเรียนรู้ศาสนา โดยเห็นว่า เป็นเรือ่งเสริม เรื่องรอง จากความรู้สามัญ
แถวบ้านมีโรงเรียนสอนฟัรฏูอัยน์ แต่ ก็ต้องเรียนได้เฉพาะหลังเลิกเรียน จากโรงเรียนสามัญ
ซึ่งเด็กเอง ก้อเหนือ่ยมาทั้งวันแล้ว เรียนฟัรดูอัยน์ ช่วงเย็นๆ มืดๆ
ความรู้มันก้อไม่ค่อยจะเข้าไปในสมองซักเท่าไหร่ แล้ว
แต่มีบางที่ เปิดเป็นสถาบันเรียนสามัญและศาสนาในตัว
แต่เวลาที่ให้กับวิชาศาสนา ก้อน้อย มากๆ เพราะ ต้องแชร์ให้กับวิชาสามัญมากกว่า
จนคุณภาพด้านวิชาศาสนานั้นด้อยกว่า โรงเรียนสอนฟัรดูอัยน์โดยตรง
แล้วจะโทดใครดีเนี่ย

คือว่าอย่างนี้ครับ คุณหนูอยากรู้
ที่เห็นๆ กันอยู่นั้น มันก็จริงอย่างที่คุณว่านะแหล่ะ
แต่ต้องเข้าใจว่า เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยสนใจการศึกษาศาสนาสักเท่าไร
เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการบูรณาการขึ้นมา
ซึ่งโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยที่พอจะทำสิ่งเหล่านี้ได้ก็มีน้อย
บูรณาการตรงนี้ คือการบูรณาการทั้งระบบ
และเนื้อหาที่ทำการสอน
ตัวอย่างอย่างเช่น ในทางภาคใต้จะมีโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอยู่ นี้คือการบูรณาการระบบ
แต่การบูรณาการเนื้อหานั้น ผมรู้สึกว่าจะไม่เคยเห็นในโรงเรียนใดๆ เลย
เช่น การศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
มีใครที่มาสอนวิทยาศาสตร์ แล้วเคยบอกบ้างหรือเปล่าว่า
นั้นคือการสร้างของพระเจ้า อัลลอฮฺ เชื่อได้เลยครับหายาก
เพราะในหลายๆ ที่ ครูที่มีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และศาสนาดีๆ นั้น ยังไม่เกิดขึ้นมา
อีกทั้งแนวคิดการบูรณาการนั้นก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
เราจะเห็นได้ว่า
บางคนไปทางด้านศาสนาอย่างเดียว
บางคนไปทางด้านสามัญอย่างเดียว
วัสลาม