จำนวนรอกาอัตในการละหมาดตารอเวี๊ยะ

[เด็กท่าเรือ]

Tweet

อัสสลามุอาลัยกุม

      ขอถามท่านผู้รู้เรื่องจำนวนการละหมาดตารอเวี๊ยะในเดือนรอมาฎอน เพราะผมเห็นว่า
บางหมู่บ้านทำกันแค่  8 รอกาอัต  และส่วนมาก 20 รอกาอัต ขอความกระจ่าง
และหลักฐานในในการละมาดตารอเวี๊ยะด้วยครับ
      ตามความรู้ที่ผมพอมีมั้งตอนเรียนปอเนาะก็ ได้มีรายงานว่าท่านนาบี ซ.ล. ละหมาดแค่ 8 รอกาอัต
แต่ต่อมาสมัยท่านอุมัร (ร.ฏ.) ท่านละหมาดตารอเวี๊ยะ 20 รอกาอัต เพราะท่านเห็นท่าน นบี ซ.ล. ละหมาด
ที่บ้าน 20 รอกาอัต แต่หลักฐานผมไม่มีลืมไปแล้วว่าอยู่ในหนังสือเล่มใด
      ขอให้ท่านผู้รู้ใขให้กระจ่างด้วยครับ  แต่ปัจจุบันที่หมู่บ้านผมละหมาด 20 รอกาอัตครับ

วัสสลามุอาลัยกุม

[al-azhary]

وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

คือประเด็นนี้ผมได้เคยเสวนากันมาแล้วนะครับ  แต่ลืมก๊อบเอาไว้  เสียดายมาก ๆ เลยครับ   ดังนั้น  ขอเวลารวบรวมข้อมูลใหม่อีกครั้งครับ  จะจัดให้  อินชาอัลเลาะฮ์ 

والسلام

[บาชีร]

อัสลามุอะลัยกุม

ตามมัซฮับชาฟิอีนั้น อย่างน้อย2 อย่างมาก20 รอกะอะฮฺ

ส่วนหะดีษที่ถูกนำมาอ้างว่า8รอกะอะฮฺตะรอวีฮฺ3รอกะอะวิเตร

จากหะดีษที่ว่าท่านรอซูลุลลอฮฺซอลลอลฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
จะไม่ทำเกินไปกว่าสิบเอ็ดรอกะอะฮฺทั้งในรอมดอนและเดือนอื่นๆ

ที่จริงแล้วคือหะดีษละหมาดวิเตรทั้งหมด11รอกะอะฮฺ

สังเกตง่ายๆในซอฮีฮมุสลิม
หะดีษเหล่านี้ไปอยู่ในเรื่องการละหมาดวิเตรแต่ไม่ได้อยู่ในเรื่องละหมาดตะรอวีฮ

[Fathoni]

บัง ๆ กะ ๆ ช่วยกันตอบหน่อย คับ

ส่วน บังอัล อัซ  ก้อรีบ ๆ หน่อย คับ 

ใกล้รอมฎอนแล้ว

[บาชีร]

อ้างจากคุณFathoni
แต่ทั้งหมดนั้น มันสำคัญอยู่ที่ว่า มัซฮับ ชาฟีอีย์ ของเรา บอกว่าต้องครบ 20 ถ้าไม่ครบจะไม่นับเป็นละหมาดตาระวิห์
แล้วที่สำคัญกว่านั้นแล้วถ้าไม่นับเป็นตาระวิห์  แล้วผลบุญในการละหมาดตาระวิห์ เราจะได้  หรือเปล่าถ้าละหมาดไม่ครบ

ขอตอบ
ทัศนะที่บอกว่าต้องครบยี่สิบถึงจะเรียกว่าตะรอวีฮฺ เป็นทัศที่อ่อนในมัสฮับชาฟิอี(ดู ยากูตุนนะฟีซ)
ที่แข็งแรงในมัสฮับชาฟิอีนั้นคืออย่างน้อย2 อย่างมาก20
เพราะฉะนั้น หากละหมาด 2หรือ4.6.8.10.12.14.16.18.20
ก็ถือว่า(เซาะฮฺ)ละหมาดตะรอวีฮฺครับ



อ้างจากคุณFathoni

ผมกังวล และ ห่วง เดะ ๆ ตรงนี้แหละคับ ผมไม่สำคัญอยู่แล้ว ถ้าละหมาด 8  ผมก็คงออกไปละหมาดที่มัสยิด แล้วเดะ ๆ หละ ?

ดังนั้นผมจึงห่วงเรื่องนี้ และอยากได้หลักฐานเพื่อชี้แจงในความถูกต้องของการละหมาด

มันอาจเป็นปัญหาคิลาฟียะฮ์ แต่เราก็ต้องมีการชี้แจง ในสิ่งเขาพูดไม่ดี เกี่ยวกับละหมาด 20
ขอตอบ
การไปรังเกียจมัสฮับ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ใช่มุจยตะฮิด ไปว่า ดออีฟบ้าง บิดอะฮฺบ้าง
บอกให้เขารู้ถึงความสำคัญ ความจำเป็นในการตามมัสฮับก่อน


อ้างจากคุณFathoni

จริงหรือคับ นบีละหมาดตาระวิห์ 8 เท่านั้นและจริงหรือคับ ที่ อุมัรรวมคนละหมาดตาระวิห์ 20 รอกะอัต เพราะคนสมัยอุมัรเริ่มดออีฟ ?

ขอตอบ
หะดีษที่บอกถึง การละหมาด 8 หรือ 20 ล้วนเป็นหะดีษที่ไม่แข็งแรงทั้งนั้น
แต่ที่มั่นคง นั้นคือการกระทำของท่านอุมัร
แล้ว อุสมาน อะลี ก็ไม่ได้ค้าน
ซอฮาบะฮฺก็ไม่ได้ค้าน
ทำจนมาถึงปัจจุบัน
แล้วจะมากล้าพูดได้อย่างไรว่าสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นทำไม่ถูกต้อง
แล้วบรรดาซอฮะบะฮฺคือผู้ที่เข้าใจการกระทำรอซูลดีอยู่แล้ว
อุลามะอฺมัสฮับชาฟิอีก็ยังรับรอง
หะดีษที่พวกเขานำมาอ้างก็ฮะดีษวิตร
ตามมัสฮับก็ไม่ตาม
 อัลลอฮฺทรงตรัศว่า "ดังนั้นจงถามพวกที่รำลึก หากพวกท่านไม่รู้"
 และถ้าหากเราไม่รู้ในเรื่องฟิก ก็ต้องถามผู้รู้ในเรื่องฟิก
 
วัสลาม

[บาชีร]

ขอตอบ
หะดีษที่บอกถึง การละหมาด 8 หรือ 20 ล้วนเป็นหะดีษที่ไม่แข็งแรงทั้งนั้น

อันนี้ครูบอกผมมา แต่ตัวผมเองยังไม่เคยเจอหะดีษเหล่านี้เลย

วัสลาม

[del_dangerous]

หะดีษที่บอกถึง การละหมาด 8 หรือ 20 ล้วนเป็นหะดีษที่ไม่แข็งแรงทั้งนั้น
แต่ที่มั่นคง นั้นคือการกระทำของท่านอุมัร

ทำไมถึงบอกว่าไม่แข็งแรง ช่วยชี้แจงด้วย
เพราะถ้าไม่แข็งแรง ก็แสดงว่า อ่อน อ่อนก็คือ ฎออีฟ
แล้วหะดีษที่ฎออีฟไม่สามารถนำมาใช้ในการตัดสินหุกมได้ ใช่หรือเปล่าครับ

แล้วที่เราเรียกว่า ตะรอเวี้ยะ
มันเกิดขึ้นในสมัยใด

ตามที่เข้าใจก็คือ การละหมาดในช่วงค่ำคืน

หากผิดพลาดประการใดขอมาอัฟไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

วัสลาม

[บาชีร]

ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าหะดีษเหล่านั้นผมไม่เคยเจอ
เพียงแต่ครูบอกผมมา
ผมเลยบอกพี่น้องผ่านต่อ โดยกำกับไว้แล้ว
ถ้าพี่น้องท่านใดเจอก็บอกด้วยละกัน


ครับหะดีษดออีฟนั้นจะเอามาใช้ในบทบัญญัตไม่ได้
แต่ใช้ได้ในฟะดออีลอะมาล เรื่องราว อื่นๆ

วัลลอฮุอะอฺลัม

[aswar]

อัสสลามุอะลัยกุม

หะดีษที่ท่านนบีละหมาด 8 ร๊อกอะฮ์

ما كان رسول الله صلى الله عليه وسلم يزيد في رمضان ولا غيره على إحدى عشرة ركعة يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي ثلاثا

ท่านหญิงอาอิชะฮ์รายงานว่า "ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ...."

หะดีษนี้ศอเฮียฮ์นะครับ บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ อัตติรมิซีย์ อบูดาวูด อันนะซาอีย์ อิมามมาลิก ฯลฯ

ท่านอิมาม อัลลักนะวีย์ กล่าวอธิบายหะดีษไว้ในชัรหุลมุวัฏเฏาะในความหมายว่า "หมายถึง ในเวลาส่วนใหญ่ ซึ่งบางรายงานจากท่านหญิงนั้นกล่าวว่า 13" นักวิชาการส่วนใหญ่ตีความว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำส่วนมากของท่านรอซูล ไม่ใช่เป็นจำนวนตายตัว ซึ่งประเด็นนี้ท่านอิมาม อัลลักนาวีย์ ได้วิเคราะห์ไว้ในหนังสือของท่าน "ตัวห์ฟะตุลอัคยาร"

มีนักวิชาการบางท่านเห็นว่าหะดีษนี้เป็นมุฎเฏาะริบ(มีหลายสายรายงานค้านกันจนไม่สามารถให้น้ำหนักกับสายไหนได้เลย) เนื่องจากมีการรายงานในจำนวนร๊อกอะฮ์ที่ต่างกัน แต่ทรรศนะนี้ไม่ถูกต้องเนื่องจากริวายะฮ์ต่างๆเหล่านั้นรายงานมาโดยต่างกรรมต่างวาระจึงไม่เป็นมุฎเฏาะริบ หากกรรมเดียวกันวาระเดียวกัน จากนักรายงานคนเดียวกัน และไม่สามารถรวมกันได้จึงจะกลายเป็นมุฎเฏาะริบ

ส่วนหะดีษมัรฟัวอ์(หะดีษที่รายงานจากท่านรอซูล)ว่าท่านละหมาด 20 ร๊อกอะฮ์นั้น ฎออีฟ จากรายงานของท่านอิบนุ อับบาส ซึ่งทุกสายรายงานมาบรรจบที่ อิบรอฮีม อิบนุ อุษมาน อบูชัยบะฮ์ ปู่ของอิบนุ อบี ชัยบะฮ์ เจ้าของมุศอนนัฟ ซึ่งเป็นคนฎออีฟ ดังที่ถูกกล่าวไว้ในมัจมะอุซซะวาอิด

แต่ที่มัวอ์ตะมัดในมัซฮับอิมามอัชชาฟิอีย์ และอีก 2 มัซฮับ เว้นมาลิกีย์ นั้นถือว่าให้ละหมาดตะรอเวียห์ 20 ร๊อกอะฮ์ เพราะมีการกระทำในสมัยคอลีฟะฮ์อุมัร รอฏิยัลลอฮุอันฮุ ที่ให้ผู้คนละหมาดร่วมกันที่มัสญิดตามหลังท่านอุบัย อิบนุ กะอ์บ และท่านอลี ก็เคยสั่งใช้ให้ละหมาด 20 เช่นกัน(โดยไม่รวมวิตร์) ดังนั้นจึงมีรายงานมาว่าในสมัยท่านทั้งสองละหมาดตะรอเวียห์ 21/23 ร๊อกอะฮ์ เมื่อรวมกับวิตร์แล้ว ซึ่งรายงานต่างๆเหล่านี้อยู่ในมุวัฏฏออ์ อิมามมาลิก มุศอนนัฟ อิบนุอบีชัยบะฮ์ ฯลฯ

ส่วนมัซฮับมาลิกนั้นตะรอเวียห์ 36 ร๊อกอะฮ์ ไม่รวมวิตร์ เนื่องจากชาวมะดีนะฮ์ปฏิบัติเช่นนั้น ซึ่งเป็นมัซฮับของตาบิอีนหลายท่าน ดังที่อัตติรมิซีย์กล่าวไว้ว่าชาวมะดีนะฮ์ละหมาดทั้งสิ้น 41 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งอุศูลมัซฮับมาลิกนั้นรับการปฏิบัติสืบทอดกันมาของชาวมะดีนะฮ์ ซึ่งพวกเขาต้องการแข่งขันการทำความดีกับชาวมักกะฮ์ที่ละหมาด 20 ร๊อกอะฮ์ โดยทุกๆ 4 ร๊อกอะฮ์จะมีการพักทีนึง เมื่อได้พักผู้คนก็จะไปตอวาฟกันคนละรอบ(หมายถึงเสร็จสิ้นพิธีฎอวาฟเลย 1 ครั้ง ไม่ใช่แค่เวียนรอบเดียว) โดยเมื่อละหมาดครบ 20 ก็จะได้ตอวาฟทั้งหมด 4 ครั้ง ไม่นับการพักครั้งสุดท้ายรอวิตร์ ดังนั้นเมื่อชาวมะดีนะฮ์ไม่มีกะอ์บะฮ์ให้ฎอวาฟจึงได้เพิ่มจำนวนร๊อกอะฮ์เข้าไป โดยนับการตอวาฟ 1 ครั้งแทนการละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ จำนวนร๊อกอะฮ์จึงถูกเพิ่มเข้ามา 16 ร๊อกอะฮ์ บวกกับของเดิม 20 จึงได้ออกมาดังกล่าวครับ

วัลลอฮุอะอ์ลัม

วัสสลาม

[del_dangerous]

ใช่ครับบัง
ในหนังสือ(หะดีษซอเหี้ยะ) ที่ อ. อรุณ บุญชม ได้แปลไว้
ท่านอาจารย์ ก็ได้อธิบายส่วนมากเหมือนกับบังและครับ

วัสลาม

[Goddut]

สลาม พี่น้อง ขอร่วม วง เสวนา เรื่อง จำนวน ละหมาด 8 ร๊อกอัต ตาม ฮะดีสที่บัง Aswar  ได้เสนอมา

ما كان رسول الله صلى الله عليه وسلم يزيد في رمضان ولا غيره على إحدى عشرة ركعة يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي ثلاثا

ท่านหญิงอาอิชะฮ์รายงานว่า "ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ...."

หะดีษนี้ศอเฮียฮ์นะครับ บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ อัตติรมิซีย์ อบูดาวูด อันนะซาอีย์ อิมามมาลิก ฯลฯ

มี ประเด็น วิเคราะห์ ดังนี้

1.ในฮะดีสบทนี้ กล่าวว่า ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์   ประเด็น คำว่า หรือนอกรอมฎอน เราต้องเข้าใจก่อนว่า การละหมาด ตอรอเวียะนั้น มีเฉพาะในเดือนรอมฎอนเท่านั้น ไม่มีในเดือนอื่น ดังนั้นแล้ว ละหมาดที่ท่านหญิงอาอีซะกล่าว จึงไม่น่าที่จะหมายถึงละหมาดตอรอเวียะ

2. หากท่านนบี ไม่เคยทำละหมาด ตอรอเวียะ และวิเตรเกิน 11 ร๊อกอัตแล้ว ทำไมท่านอุมัร ถึงได้ละหมาดถึง 23 ร๊อกอัต

3. หากเป็น เช่นนั้นจริง การละหมาด กิเยามุลลัย หรือ ตะฮัจญุด ก็ไม่สามารถละหมาดได้ อันเนื่องมาจาก ละหมาดตอรอเวียะ และ วิเตร ก็เข้าไป 11 พอดีแล้ว หรือจะลด วิเตร เหลือ 1 ร๊อกอัต กระนั้นหรือ ?

4. ในวิชา อุศุลลุ้ลฟิก นั้น กล่าวดังนี้ "ที่ว่า มี นั้น ต้องนำมาเป็นหลักฐานก่อนที่ว่า ไม่มี" เมื่อเป็นเช่นนั้น คนที่มีความรู้มาก ย่อมอยู่ข้างหน้า ดังนั้นในส่วนของคำว่า มี จึงหมายถึง ต้องนำหลักฐานที่ว่า มี นำมาก่อน ไม่มี กล่าวคือ มีเกิน 11 ร๊อกอัต  ก่อน ไม่มีเกิน 11 ร๊อกอัต  เป็นต้น

5. อีหม่ามบุคอรี ได้นำ ฮะดีส บทนี้ มาไว้ในส่วนของ "บทที่ว่าด้วยการละหมาดของนบี ซล. ในตอนกลางคืนของเดือนรอมฎอน และเดือนอื่นๆ" ซึ่งชี้ให้เห็นอีกว่า ไม่ได้จำกัด แค่ในเดือนรอมฎอนเท่านั้น



ดังนั้น เป็นที่แน่ชัดว่า ฮะดีสบทนี้ ไม่ได้เป็นข้อยืนยันเลยว่า ท่านนบี ละหมาด ตอรอเวียะ ในเดือนรอมฎอน 8 ร๊อกอัต
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...

[กูปีเยาะฮฺสะอื้น]

น่าคิด
มีผู้มาถามท่านเชคผู้หนึ่ง  โดยถามว่า  :-
?   ท่านเชคครับ   กรุณาไปดูผู้คนที่ละหมาดที่มัสยิดด้วยเถิด  พวกเขาเกือบจะวางมวยกันแล้วครับ
?   ท่านเชคตอบว่า  :  ด้วยเรื่องอะไรเล่า
?   ชายผู้นั้นตอบว่า  พวกหนึ่งต้องการจะละหมาดตะรอเวียะฮฺแปดร๊อกอะห์   อีกพวกหนึ่งต้องการจะละหมาดยี่สิบร๊อกอะห์
?   ท่านเชคจึงพูดว่า   แล้วจะเอาอย่างไรกัน?
?   ชายผู้นั้นตอบว่า   พวกเขากำลังรอคอย  ?ฟัตวา?  ของท่านอยู่ครับ
?   ท่านเชคตอบว่า  คำฟัตวา คือ  ? ปิดมัสยิดเสีย ?  ไม่มีการละหมาดตะรอเวียะฮฺอย่างไหนทั้งสิ้น   เพราะตะรอเวียะฮฺเป็นเพียงซุนนะฮฺ   แต่การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมุสลิมีนนั้นเป็นฟัรฎู   ดังนั้นซุนนะห์ที่ทำลายฟัรฎูจะมีขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด
ที่มา : หนังสือ ? คุลุกุ้ลมุสลิม ?

[บาชีร]

สลาม พี่น้อง ขอร่วม วง เสวนา เรื่อง จำนวน ละหมาด 8 ร๊อกอัต ตาม ฮะดีสที่บัง Aswar  ได้เสนอมา

ما كان رسول الله صلى الله عليه وسلم يزيد في رمضان ولا غيره على إحدى عشرة ركعة يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي ثلاثا

ท่านหญิงอาอิชะฮ์รายงานว่า "ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ...."

หะดีษนี้ศอเฮียฮ์นะครับ บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ อัตติรมิซีย์ อบูดาวูด อันนะซาอีย์ อิมามมาลิก ฯลฯ

มี ประเด็น วิเคราะห์ ดังนี้

1.ในฮะดีสบทนี้ กล่าวว่า ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์   ประเด็น คำว่า หรือนอกรอมฎอน เราต้องเข้าใจก่อนว่า การละหมาด ตอรอเวียะนั้น มีเฉพาะในเดือนรอมฎอนเท่านั้น ไม่มีในเดือนอื่น ดังนั้นแล้ว ละหมาดที่ท่านหญิงอาอีซะกล่าว จึงไม่น่าที่จะหมายถึงละหมาดตอรอเวียะ

2. หากท่านนบี ไม่เคยทำละหมาด ตอรอเวียะ และวิเตรเกิน 11 ร๊อกอัตแล้ว ทำไมท่านอุมัร ถึงได้ละหมาดถึง 23 ร๊อกอัต

เห็นด้วยกับบังGoddut ครับ

[al-azhary]

ก่อนอื่นผมขอกล่าวว่า  ไม่ว่าจะละหมาด 2 รอกะอัต  8  รอกะอัต  12  รอกะอัต  ถือว่าละหมาดใช้ได้นะครับ  แต่คุณความดีก็ลดหลั่นกันไป   แต่ผมอาจจะเสวนาค้นคว้าร่วมกับพี่น้องว่า  ละหมาดตะรอวิห์นั้นมีกี่รอกะอัต ครับ

อัสสลามุอะลัยกุม

หะดีษที่ท่านนบีละหมาด 8 ร๊อกอะฮ์

ما كان رسول الله صلى الله عليه وسلم يزيد في رمضان ولا غيره على إحدى عشرة ركعة يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي ثلاثا

ท่านหญิงอาอิชะฮ์รายงานว่า "ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ...."

หะดีษนี้ศอเฮียฮ์นะครับ บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ อัตติรมิซีย์ อบูดาวูด อันนะซาอีย์ อิมามมาลิก ฯลฯ

ท่านอิมาม อัลลักนะวีย์ กล่าวอธิบายหะดีษไว้ในชัรหุลมุวัฏเฏาะในความหมายว่า "หมายถึง ในเวลาส่วนใหญ่ ซึ่งบางรายงานจากท่านหญิงนั้นกล่าวว่า 13" นักวิชาการส่วนใหญ่ตีความว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำส่วนมากของท่านรอซูล ไม่ใช่เป็นจำนวนตายตัว ซึ่งประเด็นนี้ท่านอิมาม อัลลักนาวีย์ ได้วิเคราะห์ไว้ในหนังสือของท่าน "ตัวห์ฟะตุลอัคยาร"

หากพิจารณาดูแล้ว  ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ได้พูดถึงเรื่องละหมาด 11 รอกะอัตทั่ว ๆ ไปที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กระทำทั้งในช่วงรอมาดอนหรืออื่นจากรอมาดอน  ดังนั้น  นักหะดิษส่วนใหญ่ไม่ได้นำหะดิษที่ละหมาด 11 รอกาอัตนี้อยู่ในบทเรื่องของการละหมาดตะรอวิห์  แต่นำไปอยู่ในบทเรื่องกิยามุลลัยน์  ซึ่งกระทำได้ทั้งในเดือนรอมาดอนและอื่นจากเดือนรอมาดอน   และอุลามาอ์ฟิกห์ได้นำหะดิษบทนี้ให้อยู่ในเรื่องของละหมาด วิติร  ซึ่งมี 11 รอกะอัต  ดังนั้น  การละหมาด 11 รอกาอัตนี้เป็นละหมาดอะไรกันแน่ครับ   หรือว่าละหมาดกิยามุลัยล์ในเดือนรอมาดอนเขาเรียกว่าตะรอวิห์และละหมาดอื่นจากรอมาดอนเขาเรียกว่า ละหมาดตะฮัจญุด??

[al-azhary]

ท่านบุคอรี  ได้รายงานไว้ในเรื่องละหมาดกิยามุลลัยล์ (ตะฮัจยุด) จากท่านหญิงอาอิชะฮ์  รอฏิยัลลอฮุอันฮา  ความว่า

أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ صَلَّى ذَاتَ لَيْلَةٍ فِي الْمَسْجِدِ فَصَلَّى بِصَلَاتِهِ نَاسٌ، ثُمَّ صَلَّى مِنْ الْقَابِلَةِ فَكَثُرَ النَّاسُ، ثُمَّ اجْتَمَعُوا مِنْ اللَّيْلَةِ الثَّالِثَةِ أَوْ الرَّابِعَةِ فَلَمْ يَخْرُجْ إِلَيْهِمْ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَلَمَّا أَصْبَحَ قَالَ قَدْ رَأَيْتُ الَّذِي صَنَعْتُمْ، وَلَمْ يَمْنَعْنِي مِنْ الْخُرُوجِ إِلَيْكُمْ إِلَّا أَنِّي خَشِيتُ أَنْ تُفْرَضَ عَلَيْكُمْ وَذَلِكَ فِي رَمَضَانَ‏

"แท้จริงท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ละหมาดในค่ำคืนหนึ่งที่มัสยิด  บรรดาผู้คนจึงได้การละหมาดตามการละหมาดของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  หลังจากนั้น  ท่านนบีได้ทำการละหมาดในคืนต่อไป  ผู้คนจึงมากขึ้น  หลังจากนั้นพวกเขาได้ทำการละหมาดรวมกันในคืนที่สามหรือคืนที่สี่  โดยที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมไม่ได้ออกมายังพวกเขา  ดังนั้น  เมื่อถึงเวลาซุบฮิ  ท่านนบีได้กล่าวว่า  ฉันได้เห็นสิ่งที่พวกท่านได้กระทำแล้ว  โดยไม่มีสิ่งใดที่มาห้ามฉันให้ออกไปยังพวกท่าน  นอกจากเสียว่า  ฉันเกรงว่ามันจะถูกฟัรดูเหนือพวกท่านต่างหาก  และเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นอยู่ในช่วงของเดือนรอมาดอน"  ( 1129 )

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  กล่าวอธิบายว่า

أحدها‏:‏ يحتمل أن يكون المخوف افتراض قيام الليل، بمعنى جعل التهجد في المسجد جماعة شرطا في صحة التنفل بالليل

"หนึ่ง  ตีความได้ว่า  สิ่งที่หวั่นเกรงนั้นคือ  จะมีการกำหนดฟัรดูกับการละหมาดกิยามุลลัยล์   ที่อยู่ในความหมายของการทำตะฮัจญุดในมัสยิดแบบญะมาอะฮ์มาเป็นเงื่อนไขในการเซาะฮ์(ใช้ได้)ในการละหมาดสุนัตยามค่ำคืน"

وأقوى هذه الأجوبة الثلاثة في نظري الأول، والله سبحانه وتعالى أعلم بالصواب‏

"คำตอบทั้งสามที่มีน้ำหนักที่สุดในทัศนะของฉันนี้  คือ  อันแรก   วัลลอฮุซุบหานะฮูวะตะอาลาอะละมุบิสซ่อวาบ"  ( ฟัตหุลบารีย์  อธิบายหะดิษที่ 1129)

ดังนั้น  ผมจึงไม่รู้ว่าการละหมาดดังกล่าวนั้นเป็นตะรอวิห์ด้วยหรือเปล่า?  เพราะหากการละหมาดกิยามุลัยล์ตะฮัจญุดในเดือนรอมาดอนคือละหมาดตะรอวิห์   ก็คงต้องคุยกันยาวเลยครับ