อยากทราบเวลาเเน่นอน
ในการที่ห้ามกินซูโฮรไปเเล้ว
เพราะมีบางคนพอได้ยินเสียงอาซานละหมาดซุบฮฺ
จบไปเเล้วเขายังคงทานซูโฮรต่อ
อยากรู้คับๆ
จะหยุดทานอาหารสะหูรเมื่อใด
อัลลอฮฺทรงตรัสว่า
وَكُلُواْ وَٱشْرَبُواْ حَتَّىٰ يَتَبَيَّنَ لَكُمُ ٱلْخَيْطُ ٱلأبْيَضُ مِنَ ٱلْخَيْطِ ٱلأسْوَدِ مِنَ ٱلْفَجْرِ ثُمَّ أَتِمُّواْ ٱلصّيَامَ إِلَى ٱللَّيْلِ
และพวกเจ้าจงกินและดื่มจนกระทั่งแสงแห่งรุ่งอรุณทำให้เส้น ขาวประจักษ์แก่พวกเจ้าจากเส้นดำ เสร็จแล้วพวกเจ้าก็จงถือศิยามให้ครบถ้วนไปจนถึงเวลาพลบค่ำ (อัลบะเกาะเราะฮฺ, 187)
นบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
لاَ يَغُرَّنَ أَحَدُكُمْ نِدَاءَ بِلاَلٍ مِنَ السَّحُوْرِ، وَلاَ هَذَا البَيَاضَ حَتَّى يَسْتَطِيْرَ
คน หนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าจงอย่างหลงเชื่อกับการอาซานของบิลาล (เพราะบิลาลจะอาซานของเข้าเวลาฟะญัร) และกับแสงสีขาวจนกว่าแสง (แห่งรุ่งอรุณ) จะปกคลุมท้องฟ้า (เศาะหีหมุสลิม, เลขที่ 1094)
อาอิชะฮฺเล่าว่า แท้จริงบิลาลจะอาซานตอนกลางคืน (ก่อนรุ่งอรุณ) ดังนั้นนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมจะกล่าว (กำชับ) ว่า
كلوا واشربوا حتى يؤذن ابن أم مكتوم، فإنه لا يؤذن حتى يطلع الفجر
พวก เจ้าจงกินและดื่มจนกว่าอิบนุอมมิมักตูมจะอาซาน เพราะเขาจะไม่อาซานจนกว่าแสงแห่งรุ่งอรุณ (ฟะญัร) จะขึ้น (ปกคลุมท้องฟ้า) (เศาะหีหฺอัลบุคอรีย์, เลขที่ 1919)
อิบนุอับดิลบัรร์กล่าวว่า หะดีษนี้เป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าการทานอาหารสะหูรนั้นจะเกิดขึ้นก่อนเวลา รุ่งอรุณ เพราะคำพูดที่ว่า แท้จริงบิลาลจะอาซานตอนกลางคืน (ก่อนรุ่งอรุณ) เสร็จแล้วท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมก็ห้ามไม่ให้พวกเขาทานอาหารสะหู รเมื่อถึงเวลาอาซานของอิบนุอมมิมักตูม... (อัตตัมฮีด, เล่ม 10 หน้า 62)
ท่านกล่าว เพิ่มเติมว่า และแท้จริงปวงปราชญ์มุสลิมได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้ใดที่แน่ใจว่าเวลารุ่งอรุณได้มาถึงแล้ว จะไม่อนุญาตให้เขากินและดื่มอีกต่อไป (หมายความว่า ต้องหยุดกินและดื่มทันที) (อัตตัมฮีด, เล่ม 10 หน้า 63)
อันนะวะวี ย์กล่าวว่า ในหะดีษนี้เป็นการชี้แจงเกี่ยวกับรุ่งอรุณที่มีผลต่อหุกมการถือศิยาม นั่นคือ (การปรากฏของ) รุ่งอรุณที่สองซึ่งเป็นรุ่งอรุณที่แท้จริง (ชัรหฺเศาะหีหฺมุสลิม, เล่ม 8 หน้า 212)
ท่านยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่เราได้กล่าวมาที่ว่าเวลาศิยามจะเริ่มด้วยการปรากฏของแสงแห่งรุ่ง อรุณ (ฟะญัร) และจะห้ามการกินดื่มและการร่วมประเวณีทันทีที่แสงแห่งรุ่งอรุณมาถึงเหล่านี้ เป็นทัศนะของเรามัซฮับชาฟิอีย์ มัซฮับอบูหะนีฟะฮฺ มาลิก อะหมัด และบรรดาอุละมาอฺสมัยเศาะหาบะฮฺและตาบิอีน และหลังจากนั้น... (อัลมัจญ์มูอฺ, เล่ม 6 หน้า 324)
ส่วนผู้ที่ได้ยินเสียงอะซานแล้ว แต่ยังรับประทานอาหารต่อไปนั้น ถือว่าเสียศีลอดตามนัยยะของอัลกุรอานและฮะดิษดังกล่าว วัลลอฮุอะลัม
