بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ
การอนุญาตให้ละหมาดตะฮัจญุดหลังจากละหมาดวิติรเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น เป็นฟัตวาของอิมามอันนะวาวีย์ ของท่านชัยค์อัลค่อฏีบอัชบีนีย์ ท่านอิมามอิบนุฮะญัรอัลฮัยตะมีย์ และท่านอิมามอัรรอมลีย์ เป็นต้น
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวในหนังสือ มุนฮาจญุดฏอลิบีน ของท่านว่า
فإنْ أَوْتَرَ ثُم تَجَهَّدَ لَمْ يُِعدْهُ
"ดังนั้นถ้าหากเขาทำการละหมาดวิติร หลังจากนั้น เขาทำการละหมาดตะฮัจญุด แน่นอนว่าเขาก็ไม่ต้องกลับไปทำวิติร(หมายถึงฮะรอมทำวิติรเป็นครั้งที่สอง)"
ท่านอิมามอัลค่อฏีบอัชชัรบีนีย์ กล่าวอธิบายว่า
لاَ يُكْرَهُ التَّهَجُّدُ بَعْدَ الْوِتْرِ ، لَكِنْ لاَ يُسْتَحَبُّ تَعَمُّدُهُ
"ไม่ถือว่ามักโระฮ์กับการละหมาดตะฮัจญุดหลังละหมาดวิติร แต่ทว่าไม่สุนัตให้ตั้งใจละหมาดตะฮัจญุดหลังวิติร(คือหากสะดวกก็ควรตะฮัจญุดก่อนแล้วละหมาดวิติรปิดท้ายในช่วงของคืนนั้น)" หนังสือมุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ 1/417
ท่านอิมามอิบนุฮะญัร อัลฮัยตะมีย์ กล่าวอธิบายว่า
لا َيُكْرَهُ تَهَجُّدٌ وَلاَ غَيْرُهُ بَعْدَ وِتْرٍ لَكِنْ يَنْبَغِيْ تَأْخِيْرُهُ عَنْهُ
"ไม่ถือว่ามักโระฮ์กับการละหมาดตะฮัจญุดและอื่นจากละหมาดตะฮัจญุดหลังละหมาดวิติร แต่ทว่าสมควรให้ล่าช้าละหมาดวิติรหลังจากตะฮัจญุด" หนังสือตั๊วะห์ฟะตุลมั๊วะตาจญ์ 2/229-230
ท่านอิมามอัรรอมลีย์ กล่าวอธิบายเช่นกันว่า
لاَ يُكْرَهُ التَّهَجُّدُ بَعْدِ الْوِتْرِ لَكِنْ يَنْبَغِيْ أَنْ يَؤَخِّرَهُ عَنْهُ قَلِيْلاً
"ไม่ถือว่ามักโระฮ์กับการละหมาดตะฮัจญุดหลังจากละหมาดวิติร แต่ทว่าสมควรให้ทำการล่าช้าละหมาดวิติรหลังจากตะฮัจญุดเล็กน้อย" หนังสือนิฮายะตุลมั๊วะห์ตาจญ์ 2/115
ดังนั้นการละหมาดสุนัตในยามค่ำคืน สมควรอย่างยิ่งให้ทำละหมาดวิติรเป็นละหมาดสุดท้าย แต่ถ้าหากละหมาดวิติรหลังละหมาดตะรอวิห์แล้ว หลังจากนั้นมาละหมาดตะฮัจญุดหลังเที่ยงคืน ก็เป็นที่อนุญาตให้กระทำได้และไม่มักโระฮ์แต่ประการใด
แต่ถ้าหากละหมาดวิติรตามอิมามหลังละหมาดตะรอวิห์ หลังจากนั้นก็ตื่นขึ้นมาทำละหมาดตะฮัจญุดและทำวิติรหลังจากนั้นอีก ถือว่าฮะรอมและละหมาดใช้ไม่เซาะห์นะครับ (ดูจากหนังสือ มุฆนิลมั๊วะตาจญ์ 1/417 , หนังสือตั๊วะห์ฟะตุลมั๊วะตาจญ์ 2/229 , หนังสือนิฮายะตุลมั๊วะห์ตาจญ์ 2/115) เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
"ไม่มีสองวิติรในค่ำคืนเดียวกัน" รายงานโดยอบูดาวูด (1439)
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ