ผู้เขียน หัวข้อ: ความอิคลาศคือหัวใจของอะมัลเดือนรอมะดอน (คุฏบะฮ์วันศุกร์7)  (อ่าน 3096 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

ความอิคลาศคือหัวใจของอะมัลเดือนรอมะดอน

بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

รายงานจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์  ความว่า  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า

وَمَنْ صَامَ رَمَضَانَ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ

"ผู้ใดถือศีลอดเดือนรอมะดอนโดยมีความศรัทธาและมีความบริสุทธิ์ใจ  เขาจะได้รับการอภัยโทษบาปที่ผ่านมาแล้ว"  รายงานโดยบุคอรี

รายงานจากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์  ความว่า  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวเช่นกันว่า

  مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ

"ผู้ใดทำการละหมาดกิยามรอมะดอนโดยมีความศรัทธาและมีความบริสุทธิ์ใจ  เขาจะได้รับการอภัยโทษบาปที่ผ่านมาแล้ว" รายงานโดยบุคอรี

โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย  คำว่า   إِيمَانًا  (อีมานัน)  หมายถึงการทำอะมัลอิบาดะฮ์ด้วยการถือศีลอดและละหมาดกิยามรอมะดอนโดยมีความศรัทธามั่นว่าคำบัญชาใช้ของอัลเลาะฮ์นั้นเป็นความสัจจริงและศรัทธาเชื่อในสัญญาของพระองค์ที่จะประทานผลการตอบแทนผลบุญในการปฏิบัติอะมัล

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า

مَنْ عَمِلَ صالِحاً مِنْ ذَكَرٍ أَوْ أُنْثَى وَهُوَ مُؤْمِنٌ فَلَنُحْيِيَنَّهُ حَياةً طَيِّبَةً وَلَنَجْزِيَنَّهُمْ أَجْرَهُمْ بِأَحْسَنِ ما كانُوا يَعْمَلُونَ

"ผู้ใดประพฤติความดี  ทั้งชายและหญิงก็ตาม  โดยเขามีความศรัทธา(เชื่อในสัญญาของพระองค์) แน่นอนเราจะฟื้นฟูชีวิตที่ดีแก่เขา  และแน่นอนเราจะตอบแทนรางวัลแก่เขา  เพราะความดีงามที่เขาเคยประพฤติไว้"  อันนิห์ลิ 97

ส่วนคำว่า احْتِسَابًا  (อิห์ตะซาบัน) หมายถึงมีความตั้งใจและบริสุทธิ์ไม่โอ้อวดในการทำอะมัลอิบาดะฮ์ศีลอด , ละหมาดกิยามรอมะดอน , และบรรดาอะมัลอื่น ๆ   หรือหมายถึงเขาได้ทำการถือศีลอดโดยมีความปรารถนาในผลบุญที่มาจากความโปรดปรานของพระองค์และกระทำการถือศีลอดอย่างสบายใจไม่ลำบาก

ท่านซัลมานอัลฟาริซีย์ได้รายงานว่า  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยวะซัลลัม  กล่าวว่า

 مَنْ تَقَرَّبَ فِيْهِ بِخَصْلَةٍ مِنَ الْخَيْرِ كَانَ كَمَنْ أَدَّى فَرِيْضَةًً فِيْمَا سِوَاهُ، وَمَنْ تَقَرَّبَ فِيْهِ بِفَرِيْضَةٍ كَانَ كَمَنْ أَدَّى سَبْعِيْنَ فَرِيْضَةً فِيْمَا سِوَاهُ

"ผู้ใดที่สร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ในเดือนดังกล่าวด้วยความดีหนึ่ง เหมือนกับว่าเขาได้ทำหนึ่งฟัรดูในเดือนอื่น ๆ และผู้ใดที่สร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ในเดือนดังกล่าวกับหนึ่งฟัรดู เหมือนกับว่าเขาได้กระทำ 70 ฟัรดูในเดือนอื่น"  รายงานโดยอัลบัยฮะกี

ท่านผู้ศรัทธาทั้งหลาย  อัลเลาะฮ์และร่อซูลของพระองค์ได้ส่งเสริมให้เราเน้นกระทำอะมัลอิบาดะฮ์ต่าง ๆ ในเดือนรอมะดอนเป็นพิเศษ  และพระองค์ก็ทรงสัญญาในการตอบแทนอย่างพิเศษเช่นเดียวกัน  คือผู้ใดกระทำหนึ่งความดีงามในเดือนรอมะดอน  เขาจะได้ผลการตอบแทนเหมือนได้ปฏิบัติหนึ่งฟัรดูในเดื่อนอื่น  และผู้ใดที่กระทำหนึ่งฟัรดูในเดือนรอมะดอน  เขาจะได้รับการตอบแทนเหมือนได้ปฏิบัติ 70 ฟัรดูในเดือนอื่น ๆ

ท่านผู้ศรัทธาทั้งหลาย  บรรดาอะมัลต่าง ๆ  ที่ได้กระทำขึ้นในเดือนรอมะดอนนั้น  เงื่อนไขสำคัญที่ขาดไม่ได้นั่นคือ احْتِسَابًا  (อิห์ตะซาบัน) หมายถึงมีความตั้งใจและบริสุทธิ์(อิคลาศ)ต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา  ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการทำอิบาดะฮ์

ท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์  ได้กล่าวไว้ในฮิกัมของท่านว่า

اَلأَعْمَالُ صُوَرٌ قَائِمَةٌ وَأَرْوَاحُهَا وُجُوْدُ سِرِّ الِإخْلَاصِ فِيْهَا

"บรรดาอะมัลนั้น  มีบรรดารูปแบบที่มั่นคงอยู่  และวิญญาณของมันนั้น  คือมีความบริสุทธิ์ใจซ่อนเร้นอยู่ในมัน"

คำกล่าวของท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์ได้เตือนให้เราตระหนักว่า  บรรดาอะมัลที่ดีและผลของมันที่จะทำให้บรรลุถึงความพึงพอพระทัยของอัลเลาะฮ์ตาอาลาและได้รับผลบุญจากพระองค์นั้น  ต้องถูกวางบนเงื่อนไขบนหลังการที่ว่าต้องมีเจตนาที่ดี  กระทำอิบาดะฮ์โดยมีความตั้งใจเพื่อสร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา

ดังนั้น   ทุก ๆ อะมัลอิบาดะฮ์ในเดือนรอมะดอนที่มุสลิมได้ปฏิบัตินั้น  จะประกอบขึ้นจาก 2 ประการ  คือ  1. การกระทำและ 2. การเจตนา   ฉะนั้นการกระทำหนึ่งที่รูปภายนอกสวยงาม  ย่อมไร้ราคาหากไม่มีเจตนาที่บริสุทธิ์ใจในการแสวงหาความพึงพอพระทัยของอัลเลาะฮ์ตาอาลา   ยิ่งกว่านั้นการกระทำที่ปราศจากการเจตนามุ่งมั่นที่ดีงามนั้น  ก็จะกลับกลายเป็นสิ่งที่โมฆะตามมาตรฐานของของอัลเลาะฮ์

พระองค์ทรงตรัสความว่า

وَقَدِمْنَا إِلَى مَا عَمِلُوا مِنْ عَمَلٍ فَجَعَلْنَاهُ هَبَاء مَّنثُوراً

"และเราได้มุ่งสู่ (การพิจารณา) การงานที่พวกเขาได้ประพฤติไว้  แล้วเราก็บันดาลให้มัน (ไร้ผลประดุจดัง) ฝุ่นที่ปลิวว่อน (ในอากาศ)" อัลฟุรกอน : 23

ตัวอย่างจากสิ่งดังกล่าว

ผู้ชายคนหนึ่งมีหนี้สินติดตัวอยู่มาก  ขณะที่ถึงเวลาชำระหนี้  เขาได้เห็นเจ้าหนี้มุ่งมาหาเขาตั้งแต่ไกล  ดังนั้นเขาจึงรีบไปที่มัสยิดและทำการละหมาดสุนัตมากมาย  ซึ่งไม่สงสัยเลยว่าเขาได้ทำละหมาดมิใช่เพื่อสร้างความใกล้ต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา  เนื่องจากเขามิได้สร้างความภักดีในละหมาดนี้  เพราะเจตนาของเขามิได้สร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์  แต่ทว่าเขาต้องหลีกเลี่ยงการชำระหนี้

พนักคนหนึ่งได้ทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้า  เขาพยายามฉวยโอกาสในช่วงอะซานซุฮ์ริ  เพื่อทิ้งการทำงานโดยอ้างว่าจะไปทำละหมาดซุฮ์ริ  ดังนั้นเขาจึงทำการอาบน้ำละหมาดโดยใช้เวลานาน  จากนั้นเขาก็ทำการละหมาดแบบนาน ๆ หลังจากนั้นเขาได้นั่งพักในที่ร่มนั่งเอนหลังในสถานที่สบาย ๆ  แล้วทำการซิกรุลลอฮ์มากมายและทำการอ่านอัลกุรอาน  ดังกล่าวย่อมชัดเจนแล้วว่าการกระทำละหมาด  การซิกรุลลอฮ์  และการอ่านอัลกุรอานของเขาในรูปแบบนี้นั้น  ไม่เข้าอยู่ในจำพวกอะมัลที่สร้างความใกล้ชิดต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา   เพราะเขาทำไปเพื่อต้องการหลบมาพักผ่อนและหลีกเลี่ยงการทำงาน

ท่านอิมามอัลฆอซาลี ร่อฮิมะฮุลลอฮ์  กล่าวตัวอย่างหนึ่งไว้ว่า "ชัยฏอนจะนำความขุ่นมัวมาให้แก่ผู้ที่ละหมาดทั้งที่เขามีความบริสุทธิ์ใจในการทำละหมาดของเขาสักทีก็ตาม  หลังจากนั้นเขาบรรดาผู้คนได้มองมายังเขาซึ่งกำลังทำละหมาดอยู่หรือมีคนเข้ามาหาเขาตอนที่ละหมาดอยู่  ดังนั้น  ชัยฏอนก็จะกระซิบกระซาบในหัวใจของเขาว่า  ท่านจงทำละหมาดให้สวยงามเถิดเพื่อคนที่เข้ามาหาจะได้มองท่านอย่างให้เกียรติและเชื่อว่าท่านมีคุณธรรม  และเพื่อเขาก็ไม่ดูถูกและตำหนินินทาต่อท่าน  ดังนั้น  ส่วนอวัยวะต่าง ๆ ของเขาจึงสงบนิ่งมีสมาธิและการละหมาดของเขาจึงดูสวยงาม  นี้แหละคือความโอ้อวดอย่างชัดเจน"

เมื่อรอมะดอนมาถึง  การละหมาดตะรอวิห์ได้ถูกกระทำขึ้นในมัสยิดซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันดีงามในเดือนรอมะดอน   แต่บุคคลหนึ่งต้องไปละหมาดตะรอวิห์ทุกวัน  เพราะกลัวคนอื่นจะว่าเขาไม่ทำการละหมาดตะรอวิห์   ซึ่งการกระทำอะมัลอิบาดะฮ์ในรูปแบบเช่นนี้  ถือว่าเป็นการริยาอ์โอ้อวดอย่างหนึ่ง  เพราะเขามิได้ทำเพื่อสร้างความพึงพอพระทัยต่ออัลเลาะฮ์  แต่ทว่าเขาได้กระทำไปเพื่อไม่ให้คนอื่นตำหนิ  วัลอิยาซุบิลลาฮ์

ดังนั้น  ผู้ศรัทธาทั้งหลาย  ความบริสุทธิ์ใจจึงเป็นเสมือนวิญญาณที่อยู่ในร่างกายทำให้การปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮ์ในเดือนรอมะดอนนั้นมีชีวิตชีวา   ทำให้ภาคผลอะมัลอิบาดะฮ์ที่ท่านกระทำในเดือนรอมะดอนนั้นมีประสิทธิ์ภาพ  สร้างความพึงพอพระทัยต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา   และเพื่อสนองคำสั่งของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ที่ว่า  " احْتِسَابًا  (อิห์ตะซาบัน) หมายถึงมีความตั้งใจและบริสุทธิ์ไม่โอ้อวดในการทำอะมัลอิบาดะฮ์เดือนรอมะดอน"  แล้วพระองค์ก็จักทรงประทานการอภัยโทษให้แก่ท่าน

أقول قولي هذا وأستغفر الله العظيم لى ولكم   
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-adalah 1

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 78
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

เมื่อรอมะดอนมาถึง  การละหมาดตะรอวิห์ได้ถูกกระทำขึ้นในมัสยิดซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันดีงามในเดือนรอมะดอน   แต่บุคคลหนึ่งต้องไปละหมาดตะรอวิห์ทุกวัน  เพราะกลัวคนอื่นจะว่าเขาไม่ทำการละหมาดตะรอวิห์   ซึ่งการกระทำอะมัลอิบาดะฮ์ในรูปแบบเช่นนี้  ถือว่าเป็นการริยาอ์โอ้อวดอย่างหนึ่ง  เพราะเขามิได้ทำเพื่อสร้างความพึงพอพระทัยต่ออัลเลาะฮ์  แต่ทว่าเขาได้กระทำไปเพื่อไม่ให้คนอื่นตำหนิ  วัลอิยาซุบิลลาฮ์


จริงครับ!  good
้انما الأعمال بالنيات : แท้จริง ทุกๆการกระทำนั้น ขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ ...

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ท่านอิบนุอะฏออิลและฮ์  ได้กล่าวไว้ในฮิกัมของท่านว่า

اَلأَعْمَالُ صُوَرٌ قَائِمَةٌ وَأَرْوَاحُهَا وُجُوْدُ سِرِّ الِإخْلَاصِ فِيْهَا

"บรรดาอะมัลนั้น  มีบรรดารูปแบบที่มั่นคงอยู่  และวิญญาณของมันนั้น  คือมีความบริสุทธิ์ใจซ่อนเร้นอยู่ในมัน"

ฉะนั้นการกระทำหนึ่งที่รูปภายนอกสวยงาม  ย่อมไร้ราคาหากไม่มีเจตนาที่บริสุทธิ์ใจในการแสวงหาความพึงพอพระทัยของอัลเลาะฮ์ตาอาลา   ยิ่งกว่านั้นการกระทำที่ปราศจากการเจตนามุ่งมั่นที่ดีงามนั้น  ก็จะกลับกลายเป็นสิ่งที่โมฆะตามมาตรฐานของของอัลเลาะฮ์

      ใช่แล้วขอรับ  หากอะมัลไร้ความอิคลาศที่เป็นประหนึ่งดั่งวิญญาณมันก็ต้องพังล้มครืนมลายลงมาอย่างไม่เป็นท่า  หากเปรียบเสมือนสินค้า  ก็ย่อมไร้ราคาเหมื่อนฝุ่นที่ปลิวว่อนในอากาศ

    สรุปการทำอะมัลในเดือนรอมาดอนนั้น  ศาสนาได้เน้นหนักในการทำอิบาดะฮ์ด้วยกับ 2 ประการ คือ

    1.  อีมานัน إِيمَانًا หมายถึงการทำอะมัลอิบาดะฮ์ด้วยการถือศีลอดและละหมาดกิยามรอมะดอนโดยมีความศรัทธามั่นว่าคำบัญชาใช้ของอัลเลาะฮ์นั้นเป็นความสัจจริงและศรัทธาเชื่อในสัญญาของพระองค์ที่จะประทานผลการตอบแทนผลบุญในการปฏิบัติอะมัล

    2.  เอียะห์ติซาบัน احْتِسَابًا    หมายถึงมีความตั้งใจและบริสุทธิ์ไม่โอ้อวดในการทำอะมัลอิบาดะฮ์ศีลอด , ละหมาดกิยามรอมะดอน , และบรรดาอะมัลอื่น ๆ   หรือหมายถึงเขาได้ทำการถือศีลอดโดยมีความปรารถนาในผลบุญที่มาจากความโปรดปรานของพระองค์และกระทำการถือศีลอดอย่างสบายใจไม่ลำบาก

ผลที่จะได้รับตามมาก็คือ

غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ

"เขาจะได้รับการอภัยโทษบาปที่ผ่านมาแล้ว"  good

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ ฮุ้นปวยเอี๊ยง

  • رَبِّ زدْنِيْ عِلْماً
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 994
  • เพศ: ชาย
  • وَارْزُقْنِيْ فَهْماً
  • Respect: +116
    • ดูรายละเอียด


غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ

"เขาจะได้รับการอภัยโทษบาปที่ผ่านมาแล้ว"  good

ทำไมบังแปลว่า "ได้รับการอภัย" ถ้าจะแปลแบบนั้นต้องใส่ ต้อง ใส่ "غفرالله" มะใช่หรอ

จากประโยคเป็น مبنى للمجهول ต้องแปล "ได้รับการถูกอภัย"  ถูกมั้ย งิงิ  party:

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

 

GoogleTagged