อยากได้ศีฟัต 20 ภาคภาษาไทย (ด่วนจี๋)

[Roqib]

Tweet

 salam
       เนื่องจากตอนนี้ ผมกำลังประสบปัญหาเรื่องการหลักฐานทางศีฟัต 20 อยู่ สำหรับตัวผมแล้ว ผมก็เคยเรียนมาก่อนแล้ว แต่ผมไม่แม่นพอ เลยจะอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังยากหน่อย บวกกับสถานที่ผมเรียนอยู่ตอนนี้ รู้สึกว่าวะฮะบีย์จะเยอะมากๆ ผมเกรงว่าเพื่อนๆ ที่รักทั้งหลายของผม จะพากันเสียอะกีดะฮฺ เพราะความไม่รู้อะไรเป็นอะไร ผมพยายามให้เพื่อนที่อยู่ปอเนาะสอนเรื่องศีฟัต 20 เป็นภาษามลายูให้แก่ผมจนชำนาญ แต่ไม่มีเวลาจะไปเรียนตามที่ได้นัดไว้ เพื่อผมจะได้แปลเป็นภาษาไทย อธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจกัน ผมจึงไม่ทราบจะทำอย่างไร อีกใจหนึ่ง คิดว่าไว้รอปิดเทอม คงจะเรียนให้เป็นล่ำเป็นสันสักที แต่อีกใจหนึ่งรู้สึกทนไม่ได้ เพราะนับวันตัวผมเอง รวมทั้งเพื่อนๆ มักจะถูกรุมเร้าเรื่องศีฟัต 20 จากพวกวะฮะบีย์อย่างมาก ถึงแม้ตอนนี้มันไม่ได้รุมเร้าทางตรงก็ตาม ก็ผมกลัวว่า หากสักวันหนึ่งเราจะต้องมาเผชิญหน้ากัน และมานั่งกันถกปัญหาเรื่องนี้ ผมกลัวว่ามันจะบานปลายอะครับ แต่อัลฮัมดุลิลละฮฺ ที่ผมเผอิญได้รู้จักเว็บไซต์นี้ ผมดีใจมากๆ และอ่านบทความหลายเรื่องจากเว็บนี้แล้วด้วย ทำให้มั่นใจว่าจุดยืนทางด้านอะกีดะฮฺและฟิกฮฺของผู้รับผิดชอบเว็บนี้นั้น ไม่ได้ต่างอะไรกับเลย อย่างน้อยจะได้สบายใจ และหายใจได้สะดวกกะเค้าบ้าง เพราะตอนนี้ไม่ว่าเปิดเว็บไหนมีแต่เว็บวะฮะบีย์เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาษาอาหรับ อังกฤษ และภาษาไทยเองก็ตาม เหอๆ
        สุดท้ายนี้ ขอร้องเถอะครับ ช่วยอธิบายเรื่อง ศีฟัต 20 เป็นภาษาไทยให้ผมมีเถอะ เอาแบบที่ปอเนาะ หรือจากกิตาบของท่านเชคอัชอะรีย์เลยก็ยิ่งดี และอยากให้ใส่คำโต้ในแต่ละประเด็นที่พวกวะฮะบีย์ชอบโจมพวกเรา (อัชอะรีย์) ด้วยนะครับ เผื่อพวกวะฮะบีย์ถามผม ผมจะโต้กลับแบบมีหลักฐานมายืนยันจากอัลกุรฺอาน และซุนนะฮฺ อ้อ ช่วยเอาหลักฐานเรื่อง ทำไมอุลามาอฺทางมัซฮับอัชอะรีย์จึงต้องมีการตีความหมายของอัลกุรฺอานด้วยครับ ช่วยยกหลักฐาน หรือเหตุผลประกอบด้วยนะครับ เพราะผมอ่านหนังสือของพวกวะฮะบีย์ พวกเค้าชอบโจมตีพวกที่ตีความอัลกุรฺอานไปในทางเบี่ยงเบน ซึ่งผมไม่รู้ทำไมพวกเค้าถึงชอบยึดอัลกุรฺอาน แบบความหมายผิวเผินกันจัง มันดูเหมือนอัลกุรฺอานไม่มีฮิกมะฮฺอะไรเลย ไม่ได้สอนให้มนุษย์รู้จักใช้สติปัญญาเอาเสียเลย การเข้าอัลกุรฺอานของพวกเขา ไม่ต่างอะไรกับพวกเด็กๆ เลย มีอีกเยอะอะครับที่อยากบอก แต่ฉบับนี้ไว้แค่นี้ก่อนดีกว่า เพราะเสนอเรื่องนี้ มาครั้งที่ 2 แล้วอะครับ นี่เมลล์ผมนะ qib288310@hotmail.com ส่งข้อมูลดีๆ มาทางนี้ได้เลย 
 :jazakallah

วัสสลามุ อะลา มะนิตตะบะอั้ลฮุดา
ผมเชื่อในความสามารถของบังๆ นะ อินชาอัลเลาะฮฺ

[abiatiya]

 salam

SIFAT 20

SIFAT YANG WAJIB BAGI ALLAH

 

1.   Wujud =ada
2.   Qidam = terdahulu
3.    Baqa'=  kekal
4.    Mukhalafatuhulilhawadits=tidak sama dengan yang baru
5.    Qiyaamuhu binafsih=berdiri sendiri
6.    Wahdaniyah=satu [ Tunggal ]
7.    Qudrat= kuasa
8.    Iradah= menentukan
9.    Ilmu= tahu
10.   Hayat= hidup
11.   Sama'= mendengar
12.   Bashar= melihat
13.   Kalaam= berkata-kata
14.   Qadiran= berkuasa
15.   Muridan= menentukan
16.   'Aliman= mengetahui
17.   Hayyan= hidup
18.   Sami'an= mendengar
19.   Bashiran= melihat
20.   Mutakalliman= berkata

 http://joerzack.tripod.com/SIFAT_20.htm

[Al Fatoni]

       
 อยากได้เป็นภาษาไทย  พร้อมอธิบาย และหลักฐานประกอบ ทั้งหลักฐานนักลี และอักลี ครับ ค่อยๆ นำเสนอไปก็ได้ครับ  หรือถ้าจะกรุณามากๆ ก็ช่วยทำเป็นหนังสือออกตลาดซะเลย อิอิ ผมรู้ครับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  แต่มันก็มีประโยชน์มากๆ ไม่ใช่หรอ รับไว้พิจารณาด้วยนะครับ

วัสสลามุ อะลา มะนิตตะบะอั้ลฮุดา

[al-azhary]

 salam

เป็นแนวคิดที่ดีครับ  เรารับพิจารณา  อินชาอัลลอฮุตาอาลา

والسلام

[al-azhary]

 salam

เป็นที่ทราบกันดีว่าวะฮาบีย์เมืองไทยในปัจจุบันนั้น  เชื่อและฮุกุ่มว่าแนวทางอัลอะชาอิเราะฮ์นั้นเป็นแนวทางบิดอะฮ์  ดังนั้นขนาดแนวทางอะชาอิเราะฮ์บิดอะฮ์ตามทัศนะของวะฮาบีย์ปัจจุบัน  แนวทางอื่น ๆ ไม่เหลือให้อยู่แนวทางที่เที่ยงตรงอีกต่อไปสำหรับพวกเขา นอกจากผู้ที่อัลเลาะฮ์ทรงเมตตาและชี้นำ

ผมได้รับการร้องเรียนและบอกเล่ามานักศึกษาวิทยาลัยอิสลามแห่ง (ขอสงวนนาม) ซึ่งตั้งที่อยู่ยะลา  เขาบอกว่าหลักอะกีดะฮ์ที่นั่นเป็นวะฮาบีย์  ฮุกุ่มแนวทางอะชาอิเราะฮ์กันเป็นว่าเล่น  เนื่องจากพวกเขาตักลีดตามแนวทางวะฮาบีย์  แม้ระดับผู้สอนเองยังพูดตามแนวทางวะฮาบีย์ที่ถ่ายทอดมาจากวะฮาบีย์อาหรับตรงตามตัวเลยครับ  ผมได้ฟังแล้วยังนึกขำ  ที่ว่าวะฮาบีย์ทั้งหมดเนี่ย  พูดเหมือน ๆ กันไม่ว่าที่ใหนล่ะครับ เช่นกล่าวหาว่าอะชาอิเราะฮ์เป็นอย่างนั้น  เป็นอย่างนี้  อิมามคนนั้นเตาบัต  อิมามคนนี้เตาบัต เพื่อให้คนทั่วไปเชื่อว่าอุลามาอ์ทั้งดุนยาอยู่แนวทางวะฮาบีย์กันหมดแล้ว   ผมได้ฟังแล้วอมยิ้มเลยครับ

และที่ มอ. (ขอสงวนสถานที่ว่าปัตตานีหรือสงขลา) เขียนวิทยานิพนธ์ใส่ใคร้อะชาอิเราะฮ์แบบไม่รู้จริง  ตักลีดตามวะฮาบีย์แบบเนื้อๆ  แต่น้อง ๆ ที่จบจาก มอ. คุยกับผมว่า  แต่ที่นั่นไม่ใช่เป็นวะฮาบีย์กันเสียทั้งหมดคือคละกันไป 

ปัจจุบันถึงเวลาแล้วครับ  ที่อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเสียที  ไม่งั้นคนเอาวามทั่วไปคงต้องหลงเชื่อกันเรื่อย ๆ เพราะถูกเก็บเกี่ยวจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และจากกลยุทธ์โฆษณาชวนเชื่อ

والسلام

[บาชีร]

salam
ปัจจุบันถึงเวลาแล้วครับ  ที่อะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเสียที  ไม่งั้นคนเอาวามทั่วไปคงต้องหลงเชื่อกันเรื่อย ๆ เพราะถูกเก็บเกี่ยวจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และจากกลยุทธ์โฆษณาชวนเชื่อ
والسلام

ใช้แล้วครับบัง

[Al Fatoni]

 salam
           ไม่ทราบว่า คำต่อไปนี้แปลว่าอะไรครับ พอรู้ความหมายบ้างแต่ไม่แม่นพอ และตอนนี้เริ่มจะลืมซะแล้ว แย่มากๆเลย เพราะตอนเรียนศีฟัต 20 ที่ปอเนาะมักจะมีคำเหล่านี้ประจำ
            1.) ญีเรม
            2.) ญีเซม
            3.) อะรอฎฺ (ไม่ทราบเขียนถูกปะ ช่วยแนะด้วยนะครับ อิอิ)
            4.) เญาฮาฟิริด
            5.) หากมีคำศัพท์พื้นฐานอื่นๆ อีกที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะเรียนวิชาศีฟัต 20 ช่วยบังให้ความหมายที่กระจ่างด้วยนะครับ จะได้ทำความเข้าใจได้ง่าย และนำไปอธิบายให้เพื่อนๆ

วัสสลามุ อลัยกุม
           
             

[Goddut]

เห็น ใน กระทู้นี้ ก็มีกล่าวไว้แล้วนี่ครับ ??

มันยังไงหรือ ไม่ดี หรือไม่ครบถ้วน ก็บอกจะได้ปรับปรุงนะครับ..

[colidlayla]

ข้าพเจ้าขอเริ่มสิ่งที่ชอบแห่งศาสนาด้วยพระนามอัลลอฮ
 salam
ซีฟัต(คุณลักษณะ)แห่งอัลลอฮ เป็นสิ่งจำเป็นทางศาสนา (ชัรอียะห์)ที่มุสลิมพึงเรียนรู้ยึดมั่น ในคุณลักษณะใดต้องมี ต้องไม่มี หรือ ไม่มีก็ได้
อัลวาญิบุ วัลมุสตะฮีลุ วัลญาอิซุ
วายิบ คือ ต้องถือว่าอัลลอฮต้องทรงคุณลักษณะเช่นนั้นแน่นอน การปราศจากลักษณะเช่นนั้นจะพึงยึดถือไม่ได้
มุสตะฮีล คือ ต้องถือว่าอัลลอฮ ต้องทรงปราศจากคุณลักษณะนั้นอย่างแน่นอน ตรงข้ามกับวายิบ
ญาเอ็ช คือ ต้องถือว่าอัลลอฮ จะทรงคุณลักษณะเช่นนั้นหรือไม่ก็ได้
ซีฟัตที่ต้องยึดถือว่ามีนั้น มี 20 คุณลักษณะ
อัลวุญูดุ วัลกิดะมุ วัลบะกออุ วะมุคอละฟะตุฮูตะอาลาลิลฮะวาดิซิ วะมุฮูตะอาลาบินัฟซิฮี วัลวะฮดานียะฮ วัลกุดรอตุ วัลฮาญาต วัสซัมอุ วัลบะซอรุ วัลกะลามุ
วะเกานุฮูตะอาลากอดิรอน วะมุรีดัน วะอาลิมัน วะฮัยยัน วะซามิอัน วะบะซีรอน วะมุตะกัลลิมัน
1 อัลวุยูด (มี) คือต้องมีอัลลอฮเป็นเจ้าอย่างแน่นอน
2 อัลกิดะมุ(ดั่งเดิม คือ อัลลอฮมีมาแต่ดั่งเดิม มิใช่พึ่งมีพึ่งเกิด จะกำหนดกฎเกณฑ์ไม่ได้เพราะไม่มีไครไห้พระองค์เกิด
3อัลบะกออุ(ดำรงอยู่นิจนิรันดร) คือ ต้องเชื่อว่าพระองค์ ดำรงนิจนิรันดร ไม่มีสูญหายไม่มีกำหนดสุดสิ้นระยะเวลา เพราะถ้าสูญสิ้นแล้ว โลกไม่มีไครรักษา?ล?
4 มุคอละฟะตูลิลฮะวาดิซ (แตกต่าง) ไม่เหมือน กับของไหม่(สิ่งถูกสร้าง) คือต้องเชื่อว่าอัลลอฮทรงคุณลักษณะแตกต่างกับสิ่งที่ถูกให้เกิดหรือสรรพสิ่งทั่วสากลโลก หรือกล่าวอีนัยหนึ่ง คือ จะนำพระองค์มาเปรียบเทียบว่าเหมือนหรือคล้ายคลึงหรือทำนองอื่นใดกับสรรพสิ่งทั้งหลายที่เรารู้หรือไม่รู้ตลอดสากลโลกไม่ได้ทั่งสิ้น ทั้งต้องยึดถือว่า
ทุกๆคุณลักษณะของอัลลอฮ เช่นการเห็น ได้ยิน การบัญชา ของพระองค์ นั้นจะนำมาเปรียบเทียบว่าเหมือนหรือคล้าย กับสิ่งใดไม่ได้ ด้วยกฎความจริงมีอยู่ว่าผู้สร้างจะเหมือนกับผู้ถูกสร้างไม่ได้ เช่นคนทำบ้านจะเหมือนบ้านไม่ได่ ดังนี้เป็นต้น
5 กิยามุฮูตะอาลาบินัฟซิฮี ดำรงด้วยพระองค์เอง คือต้องเชื่อว่าอัลลอฮทรงคุณลักษณะดำรงด้วยพระองค์เองไม่พึ่งผู้ใด แต่เป็นสรณะเป็นที่พึ่งพาของสากลโลก หรืออีกนัยหนึ่งทุกสิ่งต้องพึ่งพาพระองค์ ไม่มีไครสร้างหรือทำไห้พระองค์เกิดหรือคอยดูแลรักษาพระองค์เลย
6 อัลวะฮดานียะตุ เอกองค์ เป็นพระเจ้าองค์เดียว คือต้องเชื่อว่าพระองค์เป็นเจ้าองค์เดียวไม่มีคู่เทียบเคียง เสมอเหมือน หรือเป็นหุ้นส่วนกับพระองค์ ทั้งนี้มีความหมาย รวมทั้งส่วนองค์ คุณลักษณะ การกระทำด้วย ถ้าไม่มีเอกองค์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ มีเจ้าหลายองค์ แล้วต้องมีการชิงดีชิงเด่น โลกและสิ่งต่างๆ จะดำรงอยู่ไม่ได้เพราะจะมีแต่เรื่องยุ่งยาก
7 อัลกุดรอตุ ทรงมหาเดชานุภาพ(อำนาจ) อันยิ่งใหญ่ ไม่มีขอบเขตจำกัด คือต้องเชื่อว่าพระองค์มีคุณลักษณะมหาเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่  ทรงอำนาจที่จะบันดาลไห้สิ่งใดเกิด ไม่ไห้เกิด ให้เสื่อมสูญ หรือคอยดูแลรักษา คุ้มครองหรือประกาศิตไห้สิ่งใดประสบหรือเป็นอย่างใดก็ได้ทั้งสิ้น ไม่มีไครขัดขวางได้
8 อัลอิรอดะตุ มุ่งหมาย คือต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงคุณลักษณะ บันดาลไห้สิ่งใดเกิด หรือต้องพระประสงค์สิ่งใดนั้นต้องมุ่งถึงผล มิใช่กระทำอย่างใจลอย (แบบนิสัยมนุษย์)
ปล่อยให้สิ่งนั้นๆเป้นไปตามยถากรรม โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย และไม่ว่าพระองค์จะประสงสิ่งใดทุกสิ่งต้องเป็นไปตามความจำนงหมาย ไม่มีไครขัดขวางหรือขัดขืนได้ ทั้งพระองค์ไม่หวังประโยชน์จากสิ่งนั้นๆ
9 อัลอิลมุ รอบรู้ทุกสิ่ง คือต้องเชื่อว่าพระองค์ ทรงรอบรู้ ไม่ว่าสิ่งของหรือการกระทำใดๆ จะปกปิด ซ่อนเร้น ลับ หรือเปิดเผย ไม่ว่าจะกรณีหรือกาละเทศะใดๆ ไม่ว่าจะอดีตกาล ปัจจุบันกาล หรืออนาคตกาล พระองค์ทรงรู้ทั้งสิ้น
10 อัลฮายาตุ ดำรงนิจนิรันดร คือ ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงเสมอ ไม่มีเสียหาย ไม่สูญ
11 อัลซะมะอ ได้ยิน คือต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงได้ยินทุกสิ่ง ไม่ว่าไกล้หรือไกล ดังหรือค่อย
12 อัลบะซ็อร เห็นทุกสิ่ง คือต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงเห็นทุกสิ่ง ไม่ว่าของนั้นจะใกล้หรือไกล เล็ก ใหญ่ ซ้อนเร้น ปิดบัง ในที่มืด ที่สว่าง หรืออย่างไรก็ตาม
13 อัลกะลามุ ตรัส บัญชา ต้องเชื่อว่าพระองค์มีคุณลักษณะ ตรัส บัญชา มิใช่เป็นใบ้ แต่มิได้ตรัส บัญชา หรือเจรจาแบบมนุษย์ ซึ่งจะนำสิ่งใดเปรียบเทียบไม่ได้ ทั้งไม่มีเสียง อักษรเรียบเรียงอย่างใดทั้งสิ้นดูข้อ 4 มุคอละฟะตุลิลฮาวาดิซ
14 เกานุฮูกอดิรอน พระองค์ทรงลักษณะมหิทธานุภาพไม่มีขอบเขตจำกัด(ดู กุดรอต)
15 วะมุรีดัน พระองค์ทรงลักษณะมุ่งหมาย (ดู อิรอดะห์)
16 วะอาลิมัน พระองค์ทรงรอบรู้ทุกสิ่งสิ้น (ดู อิลมุน)
17 วะฮัยยัน พระองค์ทรงดำรงอยู่เสมอ (ดู ฮายัต)
18 วะซะมีอัน พระองค์ทรงได้ยินทุกสิ่งสิ้น (ดู ซะมะอ์)
19 วะบะซีร็อน พระองค์ทรงเห็นทุกสิ่งสิ้น (ดู บะซ็อร)
20 วะมุตะกัลลิมัน พระองค์ทรงตรัส บัญชา (ดู กะลาม)
ซีฟัตวายิบยังแยก เรียกชื่อต่างๆออกไปดังนี้
1 ซีฟัตที่1 วุยูด เรียกว่า ซีฟัตนัฟซียะฮ์
2 ซีฟัตที่ 2. 3. 4. 5. และ6. เรียกว่า ซีฟัตซัลบียะฮ์
3 ซีฟัตที่7. 8. 9. 10. 11. 12. และ13 เรียกว่าซีฟัต มะอานีย์
4 ซีฟัตที่ 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20 เรียกว่า ซีฟัตมะอ์นะวียะฮ์
ส่วนซีฟัตมุสตะเฮ็ล คือ คุณลักษณะที่ต้องถือว่ามีไม่ได้ในพระองค์ นั้นมี 20 ซีฟัต คือซีฟัตที่ค้านหรือแย้งกับซีฟัตวายิบ 20 ประการ ที่กล่าวข้างต้น
อีกนัยหนึ่ง คือคุณลักษณะที่เสื่อมเสีย ตรงกันข้ามกับ ซีฟัต วายิบ จะมีที่พระองค์ไม่ได้เลย พระองค์ทรงไม่ ง่วงหาวนอน หรืออะไรทั้งสิ้น
ส่วนซีฟัตญาเอ็ช นั้น เช่น พระองค์จะทำหรือบันดาลให้ สิ่งใดเกิด หรือให้มี หรือไม่กระทำอย่างใดก็ได้
แค่นี้ก่อนนะคับ ส่วนเรื่อง ฮุกมต่างๆ ไห้ผู้รู้ มานำเสนอต่ออีก คับวัสลาม
วัลลอฮุอะลัม

[Goddut]

เข้าไปดูใน

หมวดของ หลักการยึดมั่น ( อัลอะกิดะ )  สิครับ

ที่ บังอัล ได้นำเสนอไปแล้ว ผมเอง ก็ได้นำเสนอ หลักฐานอัลกรุอาน แล้วด้วย

ให้เพิ่มเติม อะไรบอกได้ จะได้ปรับปรุงแก้ไข

วัสลาม...

[บุคคลธรรมดา]

เห็น ใน กระทู้นี้ ก็มีกล่าวไว้แล้วนี่ครับ ??

มันยังไงหรือ ไม่ดี หรือไม่ครบถ้วน ก็บอกจะได้ปรับปรุงนะครับ..

ใจเย็นๆ ดิ น้องดัท

น้อง Al fatoni  คงยังไม่เห็น 

[Al Fatoni]

 salam

      ขอบคุณมากๆ ครับบังGoddut  ผมเพิ่งรู้จักเว็บไซต์นี้มาหมาดๆ เอง และยังอ่านบทความ หรือกระทู้ต่างๆ ที่ทางบังๆ ได้นำเสนอกันยังไม่หมด และทั่วเลยครับ คงจริงอย่างที่บัง  ~FaCeeLaH~ บอกอะครับ  อิอิ ยังงัยๆ ก็ใจย็นหน่อยละกัน ผมมันเป็นคนที่สอนอะไรเข้าใจยากหน่อย จะเรียกว่าโง่ก็ได้ อิอิ ช่วยชี้แนะด้วยละกันครับ ไม่มีความรู้จริงๆ แต่สนใจศาสนามากๆ ตอนนี้กำลังศึกษาเชิงลึกอยู่ เพื่อนำไปสอนเพื่อนๆ และคนที่บ้านอะครับ ถือว่าช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมด้วยกันนะครับ  หาทางสู่ความเข้าใจศาสนาของผมต้องไปอีกไกล เพราะความรู้ที่ผมได้รับอยู่ตอนนี้ มันเป็นเพียงแค่เศษทรายเท่านั้นเอง ไหนจะต้องกรองเอาเฉพาะทรายดีๆ มีคุณภาพมาใช้อีก ที่เหลือก็เป็นเศษกรวด เศษหินมีเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ก็ว่ากันไป มันธรรมดาของทรายเกือบทุกชนิดอะครับ หากจะเอาทรายที่ดีจริง ไม่มีเศษหินกรวด คงจะต้องเป็นทรายที่ทะเลทรายมั๊งครับ หรือทรายที่ชายหาดดีๆ ก็แล้วแต่ความคิดทัศนะของแต่ละคนกันไป เค้าอยู่ทะเลยทราย เค้าก้มองทรายทะเลทรายดีที่สุด บางคนอยู่ชายหาดก็ว่าทรายชายหาดสวยที่สุด แต่หากดูกันจริงๆ แล้ว ก็สวยและมีคุณค่ากันสองละครับ ไม่ได้ลดน้อยไปกว่าใครเลย เพราะฉะนั้นไม่ต้องการตัดสินว่าทรายของตัวเองสวยแต่เพียงคนเดียวหรอก ที่จริงมันก็เป็นหนึ่งในสิ่งประดับโลกให้สวยงามเช่นกัน
       กรุณาชี้แนะด้วยนะครับ ต้องการศึกษาความเป็นจริงครับ

วัสสลามุ อลัยกุม

[อิดริส]

ผมอยากให้เอากีตาบฟารีด๊ะห์มาแปลเป็นไทยเลยดีกว่าครับจะได้เอากีตาบมาอ่านด้วยตัวไหนลืมก็อาศัยจากการแปลของบัง

[al-azhary]

ผมอยากให้เอากีตาบฟารีด๊ะห์มาแปลเป็นไทยเลยดีกว่าครับจะได้เอากีตาบมาอ่านด้วยตัวไหนลืมก็อาศัยจากการแปลของบัง

ฟาริดะฮ์แปลไทย  ได้พิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว  ว่าง ๆ จะเอามาลงในกระทู้และทำการอธิบายกัน  อินชาอัลเลาะฮ์

[del_dangerous]

หนังสือฟัรดูอีน หลักสูตร เก่า ป. 2
ผมท่องสมัยเด็กๆ เดี๋ยวนี้ยังจำได้เลย
อาจจะลืมๆ ไปบ้าง

วัสลาม