เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์

<< < (3/39) > >>

คนอยากรู้:
ท่ามมาลิกี เกิดปีฮศ.93 เสียชีวิตปี179..เจ้าของหนังสือที่มีชื่อเสียงดังมากคือ อัลมุวัฏเฎา ะ ท่านเป็นชาวมาดีนะและได้รับความรู้จากตาบีอีนโดยตรง ซึ่งไม่เหมือนกับท่านฮานะฟีที่เป็นชาวกุฟะ ท่านได้รับฮาดสน้อยกว่าท่านมาลิกี และท่านมาลีกีนี้ เป็นผู้ที่เข้มงวดในการปฏิบัติตามกีตาบุลลอฮ์และซุนนะบีมาก.

ท่านชาฟีอี.เกิดปีฮศ.150 เสียชีวิตปีฮศ.204..เป็นคนที่มีความจำเก่งและฉลาดท่านเก่งในด้านฟิกฮ์มากและเคร่งในกีตาบุลลอฮ์และสนับสนุนซุนนะในซุนนะ(นาซิรซุนนะ)

ท่านฮัมบาลี เกิดปี164 เสียชีวิตปีฮศ.214  เจ้าของหนังสืออัลมุสุนัดเป็นผู้ที่เคร่งในซุนนะและต่อต้านบิดอะที่หลงผิด

สรุป มัสหับต่างที่กล่าวมานั้น  

ล้วนยึดถือตามคัมภีร์ของอัลลออ์เล่มเดียวกันและแบบฉบับบรอซุ้ลลัลลออ์คนเดียวกัน....

มีอะกีดะเดียวกัน  ยอมรับในชารีอัตของท่านนะบี เหมือนกันและมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกันและหลักอีบาดะเดียวกัน


ฉนั้นเป็นไปได้หรือว่า ท่านอีหม่ามทั้ง4 และคนรุ่นก่อนๆจะนำสิ่งที่ไม่มีแบบอย่างมาก่อนมาถ่ายทอดหรือยัดเยียด...สิ่งที่วะฮาบีย์เข้าใจว่า  การมีมัสหับนั้น เป็นการกระทำที่เป็นบิดอะในสายตาเขา....

ซึ่งวะฮาบีย์อ้างว่าไม่จำเป็นต้องมีมัสหับ..เลยทำให้เขาไม่รับอุลามะบางคนที่เห็นว่าขัดแย้งกับทัศนะของเขา..


ฉนั้น  ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับนักศึกษาวิชาความรู้จากมัซฮับผู้อยู่ในแนวทาง..อะฮ์ลิสซุนนะฮ์..

  ที่สมควรทราบถึงประวัติการกำเนิดหรือที่มาของมัซฮับต่างๆ  สถานพร้อมทั้งที่แพร่หลาย  และบรรดารายชื่อของนักปราชญ์ในมัซฮับนั้นๆ  


และถ้าเราทุกคนไม่ลืมว่า ท่าน อัลกอฏีย์ อิยาฏ (รฮ) ได้กล่าวไว้ในหนังสือ  ตัรตีบ อัลมะดาริก วะ ตักรีบ อัลมะซาลิก  เล่ม ที่ 1 หน้า 17  ว่า

?ท่านนบี(ซ.ล.) ได้ใช้ให้เจริญรอยตามบรรดาค่อลิฟะฮ์และบรรดาซอฮาบะฮ์หลังจากท่าน(เสียชีวิต)"
 และท่านนบี(ซ.ล.) ได้ส่งบรรดาซอฮาบะฮ์ของท่านไปยังผู้คนทั้งหลาย  เพื่อสั่งสอนให้พวกเขามีความเข้าใจในเรื่องศาสนา  และเพื่อจะได้ตักเตือนกลุ่มชนของพวกเขาเมื่อได้หวนกลับไป(สู่มาตุภูมิ)  และเมื่อกรณีดังกล่าวนี้  มีความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

 ดังนั้น   นักปราชญ์ระดับซอฮาบะฮ์ของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) ที่ได้รับความรู้มาจากท่านนบี(ซ.ล.) และรอบรู้ถึงมูลเหตุในข้อบัญญัติใช้และบัญญัติห้าม   หลักการต่างๆ ของชาริอะฮ์  บรรดาคำพูดที่ออกมาจากท่านนบี(ซ.ล.) และพวกเขารู้ถึงบรรดาความหมายนัยยะแวดล้อมของสิ่งดังกล่าว  ซึ่งพวกเขารอบรู้เป็นอย่างดีจากท่านนบี(ซ.ล.) และได้ทำการสอบถาม  พร้อมทั้งพวกเขามีความกว้างขวางในวิชาความรู้ , ทราบถึงบรรดาความหมายของคำพูดท่านนบี(ซ.ล.) , มีหัวใจที่สว่างไสว , หัวอกอันแจ้งประจักษ์  


เพราะฉะนั้น  พวกเขาจึงเป็นประชาชาติที่มีความรอบรู้เป็นที่สุดอย่างปราศจากความสงสัยและพวกเขาเหมาะสมยิ่งสำหรับการตัดลีดตาม  แต่พวกเขาไม่เคยพูดบรรดาปัญหาที่จะเกิดขึ้น  นอกจากส่วนน้อยจากสิ่งที่ได้เกิดขึ้นเท่านั้น  และบรรดาประเด็นปัญหาข้อปลีกย่อยต่างๆ  ก็ไม่ได้แตกกิ่งก้านสาขามาออกจากพวกเขามากมาย  พวกเขาไม่ได้พูดประเด็นในเรื่องของศาสนานอกกรณีที่เกี่ยวกับกฎเกณฑ์และประเด็นต่างๆ  ที่เกิดขึ้น  และพวกเขาเน้นความสนใจในการปฏิบัติในสิ่งที่พวกเขารู้  ปกป้องศาสนาและตอกย้ำให้แน่นแฟ้นกับหลักชาริอัตของบรรดามุสลิมีน

ในแวดวงของซอฮาบะฮ์นั้น  มีบางประเด็นการขัดแย้งที่พวกเขาได้ทำการอธิบายหลักการที่คนมุก๊อลลิดอาจจะยังคงมีความสับสนและมีความต้องไปยังการพิจารณาไตร่ตรอง  แต่แท้จริง  ได้มีการอธิบาย  สังเคราะห์  และตีแผ่คำพูดในประเด็นที่อาจจะเกิดขึ้นมาหลังจากพวกเขา  

เมื่อถึงยุคตาบิอีน  พวกเขาก็ทำการพิเคราะห์ในประเด็นการขัดแย้งของซอฮาบะฮ์  และพวกเขาก็ดำรงอยู่บนโครงสร้างหลักมูลฐานนิติศาสตร์ของเหล่าซอฮาบะฮ์  หลังจากนั้น  เมื่อยุคสมัยของตาบิอิตตาบิอีนมาถึง  บรรดาเหตุการณ์และประเด็นปัญหาต่างๆ  ได้เกิดขึ้นมากมาย   บรรดาฟัตวาต่างๆ  ได้กระจัดกระจาย  

ดังนั้น  พวกเขาจึงทำการรวบบรรดาคำวินิจฉัยทั้งหมด  และทำการจดจำหลักนิติศาสตร์ของผู้ที่อยู่ก่อนจากนั้น   พวกเขาได้ทำการวิเคราะห์การขัดแย้งและความเห็นสอดคล้องของซอฮาบะฮ์และตาบิอีน  ซึ่งพวกเขาได้เตือนให้ระวังการแพร่ขยายของกรณีดังกล่าวและการขัดแย้งที่ออกนอกกฏ   พวกเขาจึงทำการวินิจฉัย  โดยการรวบรวมบรรดาซุนนะฮ์ต่างๆ  และได้กำหนดบรรดาหลักมูลฐานแห่งนิติศาสตร์อิสลามขึ้น  และเมื่อมีการถูกตั้งคำถามขึ้นมา  พวกเขาก็จะทำการตอบและทำการกำหนดบรรดากฎเกณฑ์แห่งนิติศาสตร์วางแนวทางหลักมูลฐานแห่งนิติศาสตร์ และทำการอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ  ที่เกิดขึ้นโดยให้อยู่บนหลักการเหล่านั้น  แล้วได้มีการประพันธ์และจัดเรียบเรียงเป็นบทๆ ขึ้นมาให้แก่ผู้คนทั้งหลาย  และพวกเขาทุกๆ  คนก็ได้ปฏิบัติสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงเปิดและชี้นำแก่เขา..


และถ้าเราจะตั้งคำถามว่า ...

ทำไมทัศนะวะฮาบีย์หรือกมมูดอจึงไม่ยอมให้ผู้ใดตักลีดตามมัสหับ  โดยที่เขาพากันขัดขวางการกระทำแบบนั้น...จริงๆแล้วมันเกิดจากการเข้าใจผิด ของหัวหน้าผู้นำทัศนะ .

ตอนเริ่มแรก..นั้นเรารับรู้แล้วว่า ท่านอิบนุตัยมียะ นั้น  เดิมครอบครัวของเขาทั้งพ่อมแม่พี่น้องปูและญาติต่างอยู่ในแนวทางของมัสหับฮัมบาลี (รฮ)

แต่มีเพียงท่านเท่านั้นที่พยามยามออกนอกลู่.แนวทางที่มัสหับของท่านฮัมลาลีขีดไว้แล้ว...
ตรงนี้และคือก้าวแรกแห่งความบิดเบือนและก้าวแรกของบิดอะ..

คนอยากรู้:
:lol:

บิดอะที่ล่มหลงถัดมาคือ..

การที่ลูกศิย์ลูกหาของท่านบางคนพากันนิยมชมชอบทัศนะของอิบนุตัยมียะ ในสิ่งสิ่งที่ท่าน มีเอียะติกอด กับคุณลักษณะของอัลลอฮ์  ที่เหล่าลูกศิษย์เหล่านั้น ต่างเข้าใจว่า

 สิ่งที่ท่านอิบนุตัยมียะกล่าวถึงคุณลักษณะอัลเลาะในรูปแบบต่างๆนั้นเป็นความจริง..ซึ่งเป็นที่รู้ว่า

หลังนั้น ท่านได้รับอิทธิพลทางความคิดจาก ทัศนะของ มุซับบีฮะและมุญัสสิมะมากเกินไปโดยที่พยายามและเน้นโดยศึกษาคุณลักษณะของอัลเลาะจนถึงขั้นเลยเถิด..และฟัตวา.ว่าอัลลออ์นั้นมีรูปร่างคล้ายมนุษย์.. และอ้างว่า นีคือสิ่งที่อัลกรอานกล่าวไว้ ที่ไม่ให้มีการตีความใดแม้ว่า อายะบางอายะจะมีความครุมเเครือก็ตาม..โดยที่ท่านเหล่านั้นมักอ้างต่อๆกันว่า

..ผู้ใดก็ตามที่ถามถึงคุณลักษรณะของอัลออฮ์แล้ว  ผู้นั้นกระทำบิดอะ..และสติไม่ดี..จนในที่สุดบรรดาผูเจริญรอยตาม  ก็เลยไม่มีใครจะพูดถึงคุณลักษณะของอัลลออ์และถ้าใครก็ตาม..

ที่พยายามอ้างถึงคุณลักษณะซีฟาตต่างๆของอัลลออ์แล้ว  พวกเขาก็จะฮุกมว่า แนวทางบิดเบื่อน  เหมือนที่มีอลามะในวะฮาบีย์บางท่านกล่าสวหาว่า แนวทางอาชาอีเราะคือกลุ่มผู้หลงผิด  ดูหนังสือ  อากีดะอิลสลาม เล่มสีน้ำตาลแปลโดย มุฮำมัด  เหมอนุกุล

อายะฮ์:
ผมจะติดต่ออ่านนะครับ บังคนอยากรู้  และอยากให้ผู้รู้อธิบายเพิ่มเติมสิงที่บังคนอยากรู้นำเสนอมา  อย่างเช่นเรื่องอากิดะฮ์ หรือชื่อของกลุ่มลัทธินั้น ๆ เช่นพวกมุชับบิฮะฮ์และมุญัสสิมะฮ์ เป็นต้น  ซึ่งอากิดะฮ์ของพวกเหล่านี้ วะฮาบีย์จะไม่วิจารณ์และต่อต้านเป็นการพิเศษเลย จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ

คนอยากรู้:

--- อ้างจาก: "ลายเคง" ---ผมจะติดต่ออ่านนะครับ บังคนอยากรู้  และอยากให้ผู้รู้อธิบายเพิ่มเติมสิงที่บังคนอยากรู้นำเสนอมา  อย่างเช่นเรื่องอากิดะฮ์ หรือชื่อของกลุ่มลัทธินั้น ๆ เช่นพวกมุชับบิฮะฮ์และมุญัสสิมะฮ์ เป็นต้น  ซึ่งอากิดะฮ์ของพวกเหล่านี้ วะฮาบีย์จะไม่วิจารณ์และต่อต้านเป็นการพิเศษเลย จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ
--- End quote ---



---ครับ..คุณลายเคง..และพี่น้องร่วมทัศนะอื่นๆ ผมยินดีต้อนรับครับ และถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณลายเคงและเพื่อนๆ..ช่วยนำเสอสิ่งที่ผมวิจารณ์ไป..ต่อจากผมได้ก็ถือว่าเป็นที่ดียิงครับ..


วะฮาบีย์นั้น เป็นที่รู้ว่าเขานั้นยึดถือหลักอากีดะคล้ายกับ..พวกมุชับบิฮะฮ์และมุญัสสิมะฮ์
โดยเขาไม่พอใจแนวทางอาชาอีเราะที่มีทัศนะตรงข้ามกับแนวของเขาที่เราเชื่อว่า อัลลออ์นั้นไม่เหมือนสิ่งหนึ่งสิ่งใด   และบางอายะในอัลกรุอานที่กล่าวในเชิงอุมาอุปมัยนั้นจำต้อง มีการตะวีล  แต่วะฮาบีย์นั้นจะไม่เห็นด้วย และฮูกมแนวทางเราว่า บิดอะและฟาซิก

จะเห็นว่า เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ วะฮาบีย์จะไม่อยากพูดด้วยกับแนวทางของเรา..ที่ไม่ยอมรับในทัศนะของเขา..

asanmd:
อัสสลามุอะลัยกุ้ม ท่านอาจารย์คนอยากรู้
    ยังไฟแรกเหมือนเดิมนะครับ :lol:  :lol:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version