ผู้เขียน หัวข้อ: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์  (อ่าน 54720 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #120 เมื่อ: ก.พ. 14, 2007, 11:45 PM »
0
เรื่องบิดอะห์คงต้องอาศัยประวัติศาสตร์ช่วยครับ แล้วพี่น้องจะเก็ต ประวัติศาสตร์ทำให้รู้ว่าชีอะห์วางโครงสร้างให้กับมุสลิมในประเทศไทยอย่างไร แล้วก็มีส่วนในปัญหาต่างๆอย่างไร นอกจากนี้ชีอะห์มีส่วนในความวุ่นวายของภาคใต้อย่างไร

อนึ่ง พี่น้องที่เรียกตัวเองว่า สายมัซฮับอิมห่ามชาฟีอีช่วยตรวจสอบด้วยว่าเอาอะไรของชีอะห์มาผสมโรงมากต่อมากอยุ่ด้วย แล้วอย่าเอาการวิเคราะห์ฮะดิษของท่านอิหม่ามมาเป็นตัวเสริม ช่วยให้มีความเชื่อถือขึ้นนะครับ อันตรายนะ ;)
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #121 เมื่อ: ก.พ. 16, 2007, 01:27 AM »
0
บิดอะ จริงๆ ก็มี

แต่ไม่ใช่ คนที่ได้เรียนรู้ และมีหลักฐานแล้ว จากการกิยาสของผู้นำสำนักคิดทั้ง 4

น้องพูดเหมือนคนในนี้ทำบิดอะ

พี่ว่าน้องต้องไปบอกแถวๆ อยุธยา แถวหนองจอก นะครับ อิอิ

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #122 เมื่อ: ก.พ. 20, 2007, 01:15 PM »
0
น้องahmedisaครับ  ..

บิดอะหรืออไม่นั้น แต่ที่แน่ในเวปมุสลลิมไทยวะฮาบีย์บังหะสันเริ่มกระจายเชื้อร้ายบิดอะเต็มเวปแล้วครับ..น้องลองเข้าไปดูเองนะครับ   ในกระทู้ที่วะฮาบีย์สนับสนุนให้คนขาดละหมาดโดยไม่ต้องชดเชย แต่ให้แค่เตาบัตร อย่างเดียว ก็พอฮ้าๆๆๆ...นี่แหละบิดอะวะฮาบีย์ทางความรู้ที่บิดเบือน (...ค่ายดาวุดซอฮีรย์ โดยอิบนุ  หัสมิน.ที่เคยถูกทัศนะอื่นแบนในเรื่องความคิดที่แผลงมาในอดีต..) ซึ่งท่านครูคนโปรดของท่านอิบนุตัยมียะ และอิบนุ กอยยิม...

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #123 เมื่อ: ก.พ. 20, 2007, 03:41 PM »
0
น้องahmedisaครับ  ..

บิดอะหรืออไม่นั้น แต่ที่แน่ในเวปมุสลลิมไทยวะฮาบีย์บังหะสันเริ่มกระจายเชื้อร้ายบิดอะเต็มเวปแล้วครับ..น้องลองเข้าไปดูเองนะครับ   ในกระทู้ที่วะฮาบีย์สนับสนุนให้คนขาดละหมาดโดยไม่ต้องชดเชย แต่ให้แค่เตาบัตร อย่างเดียว ก็พอฮ้าๆๆๆ...นี่แหละบิดอะวะฮาบีย์ทางความรู้ที่บิดเบือน (...ค่ายดาวุดซอฮีรย์ โดยอิบนุ  หัสมิน.ที่เคยถูกทัศนะอื่นแบนในเรื่องความคิดที่แผลงมาในอดีต..) ซึ่งท่านครูคนโปรดของท่านอิบนุตัยมียะ และอิบนุ กอยยิม...

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นได้คะ......
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ anti-semism

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 4
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #124 เมื่อ: ก.พ. 21, 2007, 08:15 AM »
0
น้องahmedisaครับ  ..

บิดอะหรืออไม่นั้น แต่ที่แน่ในเวปมุสลลิมไทยวะฮาบีย์บังหะสันเริ่มกระจายเชื้อร้ายบิดอะเต็มเวปแล้วครับ..น้องลองเข้าไปดูเองนะครับ   ในกระทู้ที่วะฮาบีย์สนับสนุนให้คนขาดละหมาดโดยไม่ต้องชดเชย แต่ให้แค่เตาบัตร อย่างเดียว ก็พอฮ้าๆๆๆ...นี่แหละบิดอะวะฮาบีย์ทางความรู้ที่บิดเบือน (...ค่ายดาวุดซอฮีรย์ โดยอิบนุ  หัสมิน.ที่เคยถูกทัศนะอื่นแบนในเรื่องความคิดที่แผลงมาในอดีต..) ซึ่งท่านครูคนโปรดของท่านอิบนุตัยมียะ และอิบนุ กอยยิม...
แต่ผมเข้าใจว่า ขาดละหมาดแบบตั้งใจ ที่จะไม่ละหมาด มันชดเชยไม่ได้อ่ะคับ แต่ถ้าขาดละหมาดแบบลืมตัว (เผลอหลับ)
 อันนี้ชดเชยได้  ผมเข้าใจบังหะสันถูกป่าวครับ

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #125 เมื่อ: ก.พ. 21, 2007, 08:42 AM »
0
น้องahmedisaครับ  ..

บิดอะหรืออไม่นั้น แต่ที่แน่ในเวปมุสลลิมไทยวะฮาบีย์บังหะสันเริ่มกระจายเชื้อร้ายบิดอะเต็มเวปแล้วครับ..น้องลองเข้าไปดูเองนะครับ   ในกระทู้ที่วะฮาบีย์สนับสนุนให้คนขาดละหมาดโดยไม่ต้องชดเชย แต่ให้แค่เตาบัตร อย่างเดียว ก็พอฮ้าๆๆๆ...นี่แหละบิดอะวะฮาบีย์ทางความรู้ที่บิดเบือน (...ค่ายดาวุดซอฮีรย์ โดยอิบนุ  หัสมิน.ที่เคยถูกทัศนะอื่นแบนในเรื่องความคิดที่แผลงมาในอดีต..) ซึ่งท่านครูคนโปรดของท่านอิบนุตัยมียะ และอิบนุ กอยยิม...
แต่ผมเข้าใจว่า ขาดละหมาดแบบตั้งใจ ที่จะไม่ละหมาด มันชดเชยไม่ได้อ่ะคับ แต่ถ้าขาดละหมาดแบบลืมตัว (เผลอหลับ)
 อันนี้ชดเชยได้  ผมเข้าใจบังหะสันถูกป่าวครับ

อย่างนี้เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง     รบกวนกรุณาช่วยให้ความกระจ่างแจ้งแก่พวกเราด้วยนะคะ     ขอบคุณค่ะ
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #126 เมื่อ: ก.พ. 21, 2007, 10:23 AM »
0
ผมขออธิบายให้นะครับ
ต้องเข้าใจว่า ฮุก่ม การ กอฎอ แบบหลงลืม หรือหลับนั้นมี เพียงข้อเดียวคือ
1. วายิบต้องชดใช้

ส่วน ฮุก่ม การ กอฎอ แบบที่ลืมโดยเจตนา นั้นมี 2 ข้อ
1. วายิบต้องชดใช้
2. ต้องได้รับโทษ ซึ่งการกอฎอไม่สามารถชดใช้ได้

ส่วนการเตาบัต ละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้ว...

นั้นหมายความว่าถึง เราจะอ้างว่า ไม่ต้องละหมาดหรอก เดี๋ยวก็สามารถ กอฎอ ได้ นั้นก็ไม่ได้ทำให้เราพ้นผิด
การที่ใน muslimthai.com บังเขา อ้างว่า การกอฎอ จะทำให้คนขาดละหมาดนั้นจึงไม่จริง
เพราะผู้ขาดละหมาดนั้นต้องได้รับโทษ และแถมยังต้องกอฎอใช้อีกด้วย โทษที่ได้รับอย่างไรก็ต้องเตาบัตอยู่แล้ว ส่วนพระองค์จะยกให้หรือไม่ก็อยู่ที่พระองค์
ซึ่งจะเห็นได้ว่า การขาดละหมาดนั้น หนักหนา มากเสียกว่า การจะขาดเมื่อไหร่ก็ได้แล้วเตาบัตเอา

ฮะดีสที่ผมเคยนำเสนอไปในสายซาฟีอี เป็นฮะดีสอาม ซึ่งกล่าวไว้อย่างครอบคลุม
พวกเขามักอ้างว่า ฮะดีสครอบคลุมเหล่านี้นั้นใช้ไม่ได้ เพราะท่านนบีไม่ได้กล่าวเจาะจง
แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับนำฮะดีสอามเหล่านี้ ไปเจาะจงเรียบร้อยแล้ว
และเขาจะไม่ยอมรับการกิยาส ( เทียบเคียง ) ในเรื่องของอิบาดะ ตามคำกล่าวอ้างของเขา

เช่น ฮะดีส มุอาซ เป็นต้น
" จากชุอฺบะฮ ,จากอบีเอา จากอัลหาริษ บุตร อุมัร บุตรชาย ของข้าพเจ้า ,อัลมุฆีเราะฮ บุตร ชุอฺบะฮ จากชาวเมือง หมศิน จากสหายของท่านมุอาซ บุตร ยะบัลรายงานว่า แท้จริงท่านร่อซู้ล ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ขณะเมื่อท่านส่งฉัน (มุอาซ) ไป (ปกครอง) แคว้นยะมัน ท่านกล่าวถามว่า ท่านจะตัดสินอย่างไรเมื่อมีคดีถูกเสนอมายังท่าน
มุอาซกล่าวว่า ฉันตัดสินด้วยกับคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ท่านร่อซู้ลกล่าวว่าถ้าเมื่อท่านไม่พบในคัมภีร์ของอัลลอฮฺ มุอาซกล่าวว่า ฉันตัดสินด้วยซุนนะของร่อซู้ล ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ท่านร่อซู้ลกล่าวว่า ถ้าเมื่อไม่พบในซุนนะของร่อซู้ล และคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ท่านมุอาซตอบว่า ฉันจะวินิจฉัยด้วยความคิดของฉัน และฉันจะไม่ลังเลแต่อย่างใด
ท่านร่อซู้ลจึงใช้มือตบที่อกของมุอาซ (แสดงความพอใจ) พลางกล่าวว่า ขอสรรเสริญต่ออัลลอฮฺ (อัลฮัมดุลิ้ลลา) ผู้ทรงสนับสนุนผู้เป็นศาสนทูต (ตัวแทน) แห่งร่อซู้ล ในสิ่งที่ร่อซู้ลพึงพอใจ" สุนันอบีดาวูด กิตาบุ้ลเกาะฎออี เล่ม 3 หน้า 303 

บังเขา กล่าวว่า แค่ตัดสินเรื่องของการเมืองเท่านั้น ( ดุนยา ) ไม่ใช่เรื่องศาสนา ซึ่ง ในฮะดีสนี้ มิได้บอกเช่นนั้น
และนั้นหมายถึง ไม่ว่าเรื่องใดๆ ของ อิบาดะ บังเขา จะไม่ยอมรับการกิยาสเลย

ผมไม่เข้าใจว่า เวลาเขาอาบน้ำละหมาดนั้น เขาต้องถอดถุงเท้าด้วยหรือไม่ ถ้าเกิดมันถอดลำบากมาก
อนึ่ง การไม่ถอดรองเท้าแล้วอาบน้ำละหมาดนั้น มีตั้งแต่สมัยท่านนบีแล้ว แต่ในสมัยท่านนบีนั้นไม่มีถุงเท้า
หากเขากล่าวได้ว่า เขาไม่ได้ถอดถุงเท้า แต่กระทำเหมือนตอนใส่รองเท้านั้นละก็
นี่แหละคือการกิยาส ที่ไม่มีในสมัยท่านนบี และซอฮาบะ
หากเราจะบอกได้ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอิบาดะ ก็ผิด เพราะการอาบน้ำละหมาดนั้นส่งผลถึงการละหมาดซึ่งเป็นอิบาดะอย่างแน่นอน

ยังกล่าวอ้างอีกว่า การละหมาดสุนัตนั้นช่วยได้ จากฮะดีสบทนี้
สิ่งแรกที่บ่าวจะถูกสอบสวนในวันกิยามะฮจาก การงานของเขาคือ ละหมาด  ดังนั้น ถ้ามันดี แน่นอนเขา ก็ประสบความสำเร็จ และปลอดภัย   และถ้ามันเสีย แน่นอน เขา สิ้นหวังและขาดทุน และหากสิ่งใดจากละหมาดฟัรดูของเขาบกพร่อง พระเจ้า ผู้ทรงบริสุทธิ์และทรงสูงส่ง ตรัสว่า "พวกเจ้าจงพิจารณาดู ว่า บ่าวของข้ามีสุนัตบ้างไหม แล้วทำให้สิ่งที่บกพร่องจากฟัรดู ให้สมบูรณ์  ด้วยมัน หลังจากนั้น การงานอื่นๆของเขา ก็เป็นไปตามนั้น"
- บันทึกโดย อิหม่ามอะหมัด,อบูดาวูด ,อันนะสาอีย์และอัตติรมิซีย์
หากอิบนุตัยมิยะ ยกฮะดีสนี้มา ก็เป็นการกิยาสเช่นกัน เพราะก็ไม่มีคำไหนกล่าวว่า
การละหมาดสุนัต จะลบล้างเจตนาของการละทิ้งละหมาดฟัรดูได้
เพราะการละหมาดบกพร่องย่อมหมายถึง จิตใจวอกแวก ไม่กุซัวะ อ่านผิดบ้าง ลืมในละหมาดบ้างเป็นต้น มิใช่ขาดละหมาดโดยเจตนา
แปลกที่กิยาสเหมือนๆ กัน แต่ของบรรดาผู้นำทั้ง 4 สำนักคิด ไม่ยอมรับ แต่กลับมารับของอิบนุตัยมิยะ.....

จากคำกล่าวของบรรดา บุคคลที่ดังกล่าวนั้นเลยมาจาก สามศตวรรษ ที่ท่านนบีได้กล่าวไว้
ซึ่งบังเขา กล่าวว่า ท่านนบีบอกว่าประเสริฐในยุค สามศตวรรษจริง
แต่กลับกล่าวอ้างต่อว่า ท่านนบีไม่ได้บอกว่า ฉลาด และมีความรู้กว่า (วัลอิยาซุบิลละ)
ทั้งๆ ที่เป็นฮะดีสอามเช่นกัน แต่บังเขา ก็ต้องการเจาะจงอีกเช่นเคย ว่าท่านนบีไม่ได้บอกว่าเก่งกว่า หรือฉลาดกว่า
เรื่องนี้ บุคคลสายนี้ มีหลายคนที่มักจะให้ความเห็นว่า บุคคลในยุคนี้มีความรู้อาจจะมากกว่าคนในยุคท่านนบีด้วยซ้ำ (ซุบฮานัลลลอฮฺ)

เมื่อเรายกว่า ท่านนบีทำการกิยาสให้ดูเป็นตัวอย่าง
พวกเขาเหล่านั้นก็จะกล่าวว่า "นั่นท่านนบีนะ ทำไมจะกิยาสไม่ได้ แล้วคุณเป็นใครมากิยาส"
แต่พอเขาฮุก่มใครตกนรก และทำบิดอะดอลาละ
พวกเขาเหล่านั้นก็จะกล่าวว่า "ขนาดท่านนบี ยังฮุก่มคนให้ตกนรกได้เลย ทำไมเราจะฮุก่มไม่ได้"
พี่น้องดูเอาเถิดเรื่องใดควรมิควร....  (วัลอิยาซุบิลละ)


เกร็ดความรู้ คำว่า ตักลีด
ตักลีด เป็นคำที่ฝ่ายกลุ่ม วะฮะบี ชอบนำมากล่าวหา พี่น้องสายมัซฮับว่า ชอบตามแบบหูหนวกตาบอด
ซึ่งจริงๆ แล้ว การตามในลักษณะเช่นนี้ คือการตามโดย ไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้ที่มา และไม่รู้หลักฐาน
แต่หากเรารู้เหตุผล รู้ที่มา รู้หลักฐาน นั้นไม่ได้หมายความว่าเราตักลีด

ยกตัวอย่าง เมื่อเราเอามือกอดอกในเวลาละหมาด มีคนถามว่าทำไมเอามือกอดอก เราบอกไม่ทราบเห็นเขาทำกัน นี่แหละคือ ตักลีด
ดังนั้นเราก็ต้องศึกษาว่าทำไมถึงเอามือกอดอก และแน่นอนคนเอาวาม อย่างพวกเราก็จำเป็นต้องตักลีดอยู่แล้ว
เราต้องศึกษาหลักการก่อน ส่วนหลักฐานนั้นก็ค่อยศึกษาไป จะได้มีความรู้ตามที่ศาสนาได้วางรากฐานเอาไว้
จึงเรียนมาเพื่อทราบ


สรุป
หลักฐานส่วนใหญ่ที่บังเขา นำเสนอ เป็นคำฟัตวาของบุคคลข้างต้น แนะนอนไม่มีตัวบทจับต้องได้เช่นกัน
ดังนั้นก็จึงอยู่ที่เราจะรับการกิยาสของ ใครเท่านั้น แต่หากมาบอกว่าทรรศนะนี้ถูก อีกทรรศนะผิด มีมวยแน่นอน
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 21, 2007, 10:36 AM โดย Goddut »

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #127 เมื่อ: ก.พ. 21, 2007, 05:15 PM »
0
ผมขออธิบายให้นะครับ
ต้องเข้าใจว่า ฮุก่ม การ กอฎอ แบบหลงลืม หรือหลับนั้นมี เพียงข้อเดียวคือ
1. วายิบต้องชดใช้

ส่วน ฮุก่ม การ กอฎอ แบบที่ลืมโดยเจตนา นั้นมี 2 ข้อ
1. วายิบต้องชดใช้
2. ต้องได้รับโทษ ซึ่งการกอฎอไม่สามารถชดใช้ได้

ส่วนการเตาบัต ละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้ว...

นั้นหมายความว่าถึง เราจะอ้างว่า ไม่ต้องละหมาดหรอก เดี๋ยวก็สามารถ กอฎอ ได้ นั้นก็ไม่ได้ทำให้เราพ้นผิด
การที่ใน muslimthai.com บังเขา อ้างว่า การกอฎอ จะทำให้คนขาดละหมาดนั้นจึงไม่จริง
เพราะผู้ขาดละหมาดนั้นต้องได้รับโทษ และแถมยังต้องกอฎอใช้อีกด้วย โทษที่ได้รับอย่างไรก็ต้องเตาบัตอยู่แล้ว ส่วนพระองค์จะยกให้หรือไม่ก็อยู่ที่พระองค์
ซึ่งจะเห็นได้ว่า การขาดละหมาดนั้น หนักหนา มากเสียกว่า การจะขาดเมื่อไหร่ก็ได้แล้วเตาบัตเอา

ฮะดีสที่ผมเคยนำเสนอไปในสายซาฟีอี เป็นฮะดีสอาม ซึ่งกล่าวไว้อย่างครอบคลุม
พวกเขามักอ้างว่า ฮะดีสครอบคลุมเหล่านี้นั้นใช้ไม่ได้ เพราะท่านนบีไม่ได้กล่าวเจาะจง
แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับนำฮะดีสอามเหล่านี้ ไปเจาะจงเรียบร้อยแล้ว
และเขาจะไม่ยอมรับการกิยาส ( เทียบเคียง ) ในเรื่องของอิบาดะ ตามคำกล่าวอ้างของเขา

เช่น ฮะดีส มุอาซ เป็นต้น
" จากชุอฺบะฮ ,จากอบีเอา จากอัลหาริษ บุตร อุมัร บุตรชาย ของข้าพเจ้า ,อัลมุฆีเราะฮ บุตร ชุอฺบะฮ จากชาวเมือง หมศิน จากสหายของท่านมุอาซ บุตร ยะบัลรายงานว่า แท้จริงท่านร่อซู้ล ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ขณะเมื่อท่านส่งฉัน (มุอาซ) ไป (ปกครอง) แคว้นยะมัน ท่านกล่าวถามว่า ท่านจะตัดสินอย่างไรเมื่อมีคดีถูกเสนอมายังท่าน
มุอาซกล่าวว่า ฉันตัดสินด้วยกับคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ท่านร่อซู้ลกล่าวว่าถ้าเมื่อท่านไม่พบในคัมภีร์ของอัลลอฮฺ มุอาซกล่าวว่า ฉันตัดสินด้วยซุนนะของร่อซู้ล ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ท่านร่อซู้ลกล่าวว่า ถ้าเมื่อไม่พบในซุนนะของร่อซู้ล และคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ท่านมุอาซตอบว่า ฉันจะวินิจฉัยด้วยความคิดของฉัน และฉันจะไม่ลังเลแต่อย่างใด
ท่านร่อซู้ลจึงใช้มือตบที่อกของมุอาซ (แสดงความพอใจ) พลางกล่าวว่า ขอสรรเสริญต่ออัลลอฮฺ (อัลฮัมดุลิ้ลลา) ผู้ทรงสนับสนุนผู้เป็นศาสนทูต (ตัวแทน) แห่งร่อซู้ล ในสิ่งที่ร่อซู้ลพึงพอใจ" สุนันอบีดาวูด กิตาบุ้ลเกาะฎออี เล่ม 3 หน้า 303 

บังเขา กล่าวว่า แค่ตัดสินเรื่องของการเมืองเท่านั้น ( ดุนยา ) ไม่ใช่เรื่องศาสนา ซึ่ง ในฮะดีสนี้ มิได้บอกเช่นนั้น
และนั้นหมายถึง ไม่ว่าเรื่องใดๆ ของ อิบาดะ บังเขา จะไม่ยอมรับการกิยาสเลย

ผมไม่เข้าใจว่า เวลาเขาอาบน้ำละหมาดนั้น เขาต้องถอดถุงเท้าด้วยหรือไม่ ถ้าเกิดมันถอดลำบากมาก
อนึ่ง การไม่ถอดรองเท้าแล้วอาบน้ำละหมาดนั้น มีตั้งแต่สมัยท่านนบีแล้ว แต่ในสมัยท่านนบีนั้นไม่มีถุงเท้า
หากเขากล่าวได้ว่า เขาไม่ได้ถอดถุงเท้า แต่กระทำเหมือนตอนใส่รองเท้านั้นละก็
นี่แหละคือการกิยาส ที่ไม่มีในสมัยท่านนบี และซอฮาบะ
หากเราจะบอกได้ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอิบาดะ ก็ผิด เพราะการอาบน้ำละหมาดนั้นส่งผลถึงการละหมาดซึ่งเป็นอิบาดะอย่างแน่นอน

ยังกล่าวอ้างอีกว่า การละหมาดสุนัตนั้นช่วยได้ จากฮะดีสบทนี้
สิ่งแรกที่บ่าวจะถูกสอบสวนในวันกิยามะฮจาก การงานของเขาคือ ละหมาด  ดังนั้น ถ้ามันดี แน่นอนเขา ก็ประสบความสำเร็จ และปลอดภัย   และถ้ามันเสีย แน่นอน เขา สิ้นหวังและขาดทุน และหากสิ่งใดจากละหมาดฟัรดูของเขาบกพร่อง พระเจ้า ผู้ทรงบริสุทธิ์และทรงสูงส่ง ตรัสว่า "พวกเจ้าจงพิจารณาดู ว่า บ่าวของข้ามีสุนัตบ้างไหม แล้วทำให้สิ่งที่บกพร่องจากฟัรดู ให้สมบูรณ์  ด้วยมัน หลังจากนั้น การงานอื่นๆของเขา ก็เป็นไปตามนั้น"
- บันทึกโดย อิหม่ามอะหมัด,อบูดาวูด ,อันนะสาอีย์และอัตติรมิซีย์
หากอิบนุตัยมิยะ ยกฮะดีสนี้มา ก็เป็นการกิยาสเช่นกัน เพราะก็ไม่มีคำไหนกล่าวว่า
การละหมาดสุนัต จะลบล้างเจตนาของการละทิ้งละหมาดฟัรดูได้
เพราะการละหมาดบกพร่องย่อมหมายถึง จิตใจวอกแวก ไม่กุซัวะ อ่านผิดบ้าง ลืมในละหมาดบ้างเป็นต้น มิใช่ขาดละหมาดโดยเจตนา
แปลกที่กิยาสเหมือนๆ กัน แต่ของบรรดาผู้นำทั้ง 4 สำนักคิด ไม่ยอมรับ แต่กลับมารับของอิบนุตัยมิยะ.....

จากคำกล่าวของบรรดา บุคคลที่ดังกล่าวนั้นเลยมาจาก สามศตวรรษ ที่ท่านนบีได้กล่าวไว้
ซึ่งบังเขา กล่าวว่า ท่านนบีบอกว่าประเสริฐในยุค สามศตวรรษจริง
แต่กลับกล่าวอ้างต่อว่า ท่านนบีไม่ได้บอกว่า ฉลาด และมีความรู้กว่า (วัลอิยาซุบิลละ)
ทั้งๆ ที่เป็นฮะดีสอามเช่นกัน แต่บังเขา ก็ต้องการเจาะจงอีกเช่นเคย ว่าท่านนบีไม่ได้บอกว่าเก่งกว่า หรือฉลาดกว่า
เรื่องนี้ บุคคลสายนี้ มีหลายคนที่มักจะให้ความเห็นว่า บุคคลในยุคนี้มีความรู้อาจจะมากกว่าคนในยุคท่านนบีด้วยซ้ำ (ซุบฮานัลลลอฮฺ)

เมื่อเรายกว่า ท่านนบีทำการกิยาสให้ดูเป็นตัวอย่าง
พวกเขาเหล่านั้นก็จะกล่าวว่า "นั่นท่านนบีนะ ทำไมจะกิยาสไม่ได้ แล้วคุณเป็นใครมากิยาส"
แต่พอเขาฮุก่มใครตกนรก และทำบิดอะดอลาละ
พวกเขาเหล่านั้นก็จะกล่าวว่า "ขนาดท่านนบี ยังฮุก่มคนให้ตกนรกได้เลย ทำไมเราจะฮุก่มไม่ได้"
พี่น้องดูเอาเถิดเรื่องใดควรมิควร....  (วัลอิยาซุบิลละ)


เกร็ดความรู้ คำว่า ตักลีด
ตักลีด เป็นคำที่ฝ่ายกลุ่ม วะฮะบี ชอบนำมากล่าวหา พี่น้องสายมัซฮับว่า ชอบตามแบบหูหนวกตาบอด
ซึ่งจริงๆ แล้ว การตามในลักษณะเช่นนี้ คือการตามโดย ไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้ที่มา และไม่รู้หลักฐาน
แต่หากเรารู้เหตุผล รู้ที่มา รู้หลักฐาน นั้นไม่ได้หมายความว่าเราตักลีด

ยกตัวอย่าง เมื่อเราเอามือกอดอกในเวลาละหมาด มีคนถามว่าทำไมเอามือกอดอก เราบอกไม่ทราบเห็นเขาทำกัน นี่แหละคือ ตักลีด
ดังนั้นเราก็ต้องศึกษาว่าทำไมถึงเอามือกอดอก และแน่นอนคนเอาวาม อย่างพวกเราก็จำเป็นต้องตักลีดอยู่แล้ว
เราต้องศึกษาหลักการก่อน ส่วนหลักฐานนั้นก็ค่อยศึกษาไป จะได้มีความรู้ตามที่ศาสนาได้วางรากฐานเอาไว้
จึงเรียนมาเพื่อทราบ


สรุป
หลักฐานส่วนใหญ่ที่บังเขา นำเสนอ เป็นคำฟัตวาของบุคคลข้างต้น แนะนอนไม่มีตัวบทจับต้องได้เช่นกัน
ดังนั้นก็จึงอยู่ที่เราจะรับการกิยาสของ ใครเท่านั้น แต่หากมาบอกว่าทรรศนะนี้ถูก อีกทรรศนะผิด มีมวยแน่นอน
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...

ขอบคุณนะคะ.....คุณ Goddut  ที่กรุณาอธิบายให้พวกเราได้รับความกระจ่างและเพิ่มความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #128 เมื่อ: ก.พ. 22, 2007, 02:11 AM »
0
จากเรื่องของการละหมาด นั้น มีหลักการอยู่ 2 แบบที่แบ่งได้ทั่วไป

ในสายมัซฮับ ซาฟีอี จะแยกออกมา อีก 1 เป็น 3 คือ

1. รุก่นละหมาด
2. สุนัตอับอาต
3. สุนัตฮัยยะ

คำตอบที่ เราไม่สามารถ นำละหมาดสุนัต หรือสิ่งอื่นใดมาทดแทน การขาดละหมาดได้นั้น อยู่ที่ ข้อแรก

ผมขอเรียนถามพี่น้องทุกท่าน ว่า รุก่น กับ วายิบ ต่างกันเช่นไร  เพื่อเป็นการทบทวนให้กับพี่น้องของเราครับ

วัสลาม...

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เพิ่มว่า ตักลีดนั้น ไม่ใช่ตามแบบหูหนวกตาบอด แต่การตามแบบหูหนวกตาบอดคือ ตักลีดอะมา ครับ
ซึ่งผม ได้กล่าวว่า ดังนั้น ใครๆ ในยุคสมัยปัจจุบัน ก็ต้องตักลีดทั้งนั้นจนกว่าจะถึงวันที่ทุกคนรอคอย (แต่ไม่อยากเจอ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 22, 2007, 03:11 PM โดย Goddut »

ออฟไลน์ มะเซ็ง

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 8
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #129 เมื่อ: ก.พ. 22, 2007, 09:25 PM »
0
เจ๋งครับคูณกอดัร...

แต่ผมได้ข่าวว่า  กระทู้ การขาดละหมาดต้องชดเชยนั้นโดนปิดแล้วครับ..ดดยคุณอัล-อุม

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #130 เมื่อ: ก.พ. 22, 2007, 09:34 PM »
0
กระทู้เรื่องกอฏอละหมาดนั้น  เราจะนำมาเรียบเรียงในเชิงเสวนา  แล้วนำมาเสนอที่นี่ครับ  และก็จะเขียนเป็นบทความเฉพาะสักบทความหนึ่ง  เพื่อชี้แจงแนวทางของมัซฮับทั้งสี่  อินชาอัลเลาะฮ์
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ มะเซ็ง

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 8
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #131 เมื่อ: ก.พ. 22, 2007, 09:36 PM »
0
การอะซานวันศุกร์ ก่อนเวลา ของ ท่านอุษมาน
ตอบ

 นี้ก็เป็นจุดดับข้อหนึ่ง คือ การเอาการอะซานสองครั้งในสมัยของท่านอุษมาน มาเป็นหลักฐานอุตริบิดอะฮ และเป็นหน่อบิดอะฮ ที่แพร่กระจายทุกวันนี้  ที่จริงแล้วเรื่องนี้  ไม่ได้เป็นหลักฐานทำบิดอะฮ ในเรื่องศาสนา  เพราะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอบคนละเรื่องเลย  พี่น้องครับ  พอเวลาพันนี้ ครูอสันไม่กล้า ฮูกมท่านอุษมาน.ครับ  แต่ถ้าเรามองอีกมุมหนึ่ง ก็เพื่อหลีกเลี่ยงผู้อื่นจะกล่าวได้ว่าครูอะสันกล้าซอฮาบะของท่านร้อซุ้ลของอัลลออ์ที่ท่านรับรองว่าได้เข้าสวรรค์ว่าแบบเดียวกับชีอะ.นะซิ5555..
แล้วนิยามของอัลอัชติบีย์ว่ายังไง ละ  ยกมาอีกครั้งซิเรื่องบิดอะนะ  ..

บิดอะคือสิ่งที่ไม่ปรากฎในสมัยท่านนบีไม่ใช่หรือ...และไม่มีในอัลกรุอ่านและอัสซุนนะ  แล้วการอะซาน2ครั้งของท่านอุษมาน ไม่ข้าข่ายนิยามนี่หรือครับ

ฉนั้นนิยามก็ฉีกทิ้งเสียเลยซิครับ..หรือเอาไว้ฮุกมอุลามะในมัสหับอื่นที่แตกต่างจากทัศนะตนเท่านั้นอย่างนี้หรือครับฮ้าๆๆ.ครู..
...
เรื่องละหมาดตารอเวียะเช่นกัน..บรรดาผู้รู้และอุลามะส่วนมากที่เขาเข้าใจในคำพูดของท่านอุมัร(รด)ที่ท่านรวมละหมาดตารอเวียะเป็นญามาอัตนั้น ท่านเองก็บอกอย่างโท้นโท้ว่า มันคือ..บิดอะที่ดี  แต่ครูก็ยังเฉไฉลื่นยังกับปลาดุกในหนองนะครับ  ไหลไปเรื่อยๆ ระวังนะครับสะดุดหัวตัวเองเข้า..
แล้วยังแก้ความหมายหรือตะวีลคำพูดของท่านอุมัรอีกว่า  ...มันเป็นการฟื้นฟูที่ดีอีกแนะ....ดูเอาซิครับพี่น้อง..บิดอะด้านคำพูดชัดๆเลย
 
  บันทึกการเข้า  

--------------------------------------------------------------------------------
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่
 
 
al-um
เริ่มคุ้นเคย

 ออฟไลน์


  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #277 เมื่อ: วันนี้ เวลา 10:54 »  

--------------------------------------------------------------------------------
..

และอับดุลลอฮ บุตร ดาวูด สันดีละฮ กล่าวว่า "ส่วนหนึ่งจากเครื่องหมายแห่งความจริง คือ การเกลียดชัง ผู้ที่ถือศาสนาตามอารมณ์ และผู้ใดรักความจริง เขาจะต้องเกลียด พวกตามอารณ์  หมายถึง  "อะฮลุ้ลบิดอะฮ"(ชาวบิดอะฮ) سير السلف الصالحين للتيمي (3/1154)، والحلية لأبي نعيم ( 10/392 )...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ครูครับ ถ้าครูยึดตามฮะดิสนี้จริง ครูก็อย่าเอาหนึ่งส่วนใด ของบุคคลที่ครูเข้าใจว่าเขาว่าเขาทำบิดอะซิครับ..
เช่น ท่านอุมัร  ท่านอัชชาฟีอี ท่านอันนาวีย์  อิบนุหะญัร เพราะที่ผมกล่าวมานี้เขาล้วนเป็นผู้กำเนิดบิดอะทั้งน้าน...
 --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-  ส่วนหนอนในอุจจาระ เป็นการอุปมา ผู้ที่ภูมิใจกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยเข้าใจว่าตัวเองถูกต้อง ผู้อื่นมาเทียบไม่ได้

-  ส่วนกบในกะลา คำนี้ ใช้กันแพร่หลาย เป็นคำอุปมา ผู้ที่ อยู่ในโลกแคบๆ ไม่เปิดหูเปิดตาทางวิชาการ  เช่น คนที่

เชื่อว่า "ไม่มีใครในโลกนี้ มีความรู้เทียบอิหม่ามชาฟิอีย์ได้"

-  ส่วนคำว่า หากินกับซากศพ   หมายถึงอิแร้ง  ดังนั้นผู้ที่หาประโยชน์กับคนตาย  จึงถูกนำไป กิยาส  กับอีแร้ง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
..al-um   ..ทีเวลาคุยกับเรา ก็เปรียบเทียบแบบไม่ต้องขยายความ อย่างนั้นอย่างนี้  ...เวลาแบบนี้ตัฟซีรเสียเลย กลัวผู้อื่นมองว่าฉันไม่ดีหรือครับท่าน..

คนแก่ก็อย่างนี้แหละ..

ตกลงสิ่งที่อัลอัชฮารีถามก็ไม่ตอบที่ผมถามก็เบี่ยงเบน แต่ชอบออกนอกประเด็น..อยู่เรื่อย....


 
 
  บันทึกการเข้า  

--------------------------------------------------------------------------------
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่
 
 
al-um
เริ่มคุ้นเคย

 ออฟไลน์


  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #278 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:24 »  

--------------------------------------------------------------------------------
พี่น้องครับ หลายๆอย่างที่เราค้นพบในตัววะฮาบีย์ หรือผู้ที่อ้างว่า ยึดตามกีตาบุลลอฮ์ซุนนะบี แค่ลมปาก แต่ฟามจริงแล้ว
เขาแค่เพียงแต่เอาสโลแกนมาอิงเท่านั้น ..

ตัวอย่างที่ผมจะนำมาบอกกับพี่น้องหลายๆคนที่ยังไม่เข้าใจของคนกลุ่มนี้เท่าที่ควร ที่มักอ้างว่า ตามซุนนะในความเป็นจริงแล้ว เขาคือกลุ่มที่ทำบิดอะดอลาละอย่างชัดแจ้ง..ไม่ใช่บิดอะหาซานะ.....ซึ่งพวกเชขานำมาเป็นหลักฐานในการปฏิบัติอ้ามั้ล  ทั้งที่เป็นสิ่งที่ท่านนบีได้ตำหนิไว้  ว่า กุ้ลลูบิดอะดอลาละ..บิดอะที่ลุมหลงนั้นคือการหลงผิด

กรณีศึกษาจากเวปมรดกฯ ครับ  เรามาลองพิจารณาคำตอบของครูอะสัน ต่อไปนี้พร้อมๆกันครับ  ซึ่งเกี่ยวกับเรื่อง  การเอามือกอด อกหลังเงยจากรุกั๊วะ  ซึ่งไม่มีหลักฐานจากซุนนะฮ์ใดมาระบุเจาะจากอัลกรอ่านและอัลฮาดิสซักบทเดียวว่า  "เมื่อเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมาจากการรุกั๊วะ  ท่านนบีใช้ให้เอามือกอดอก"  

ดูอีกครั้งครับ ที่คุณอิควานคนเดิมถามครูอะสันเจ้าเก่า

...การกอด-อกหลังเงยจากรุกัวะ เป็นทัศนะของอีหม่ามหรือเชคท่านใดบ้างค่ะ แล้วทัศนะของอุลามาอฺส่วนใหญ่เป็นอย่างไรค่ะ ขอบคคุณค่ะ

ครูอะสันตอบ  โดยอ้างถึง.เช็คอิบนุอุษัยมีนกล่าวว่า .........



الذي يظهر أنّ السنة هو وضع اليمنى على ذراع اليسرى لعموم حديث سهل بن سعد الثابت في البخاري " كان الناس يُؤمرون أن يضع الرجل يده اليمنى على ذراعه اليسرى في الصلاة " فإنك إذا نظرت لعموم هذا الحديث " في الصلاة " ولم يقل في " القيام " تبيَّن لك أن القيام بعد الركوع يُشرع فيه الوضع ؛ لأنَّه في الصلاة تكون اليدان حال الركوع على الركبتين ، وفي حال السجود على الأرض ، وفي حال الجلوس على الفخذين ، وفي حال القيام ويشمل ما قبل الركوع وما بعد الركوع يضع الإنسان يده اليمنى على ذراعه اليسرى
هذا هو الصحيح

ที่ปรากฏชัดเจนว่า แท้จริงตามสุนนะฮนั้น คือ การวางมือขวาบนข้อศอกของมือซ้าย ตามความหมายกว้างๆ ของหะดิษ สะฮ บุตร สะอฺ ที่ปรากฏในอัลบุคอรี ระบุว่า "ปรากฏว่าบรรดาผู้คนได้ถูกใช้ คือ ให้วางมือขวาของเขาบนข้อศอกของเขา ข้างซ้าย ในละหมาด" ดังนั้น เมื่อท่านพิจารณาในความหมายโดยกว้างๆของคำว่า " ในละหมาด"(في الصلاة ) โดยไม่ได้กล่าวคำว่า "ในการยืน(في القيام ) ก็จะให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ท่านว่า " การยืนหลังจากรุกัวะ ก็มีบัญญัติให้วาง(มือ)ในนั้น เพราะว่าในละหมาด ขณะที่รุกัวะ สองมือจะอยู่บนหัวเข่าทั้งสอง ,ในขณะสุญูด จะอยู่บนพื้น ,ในขณะนั่ง จะอยู่บนขาทั้งสอง และในขณะยืน โดยจะครอบคลุม สิ่งที่อยู่ก่อนรุกัวะและหลังจากรุกัวะ โดยวางมือขวางของเขาบนข้อศอกด้านซ้าย นี้คือ ความถูกต้อง

" الشرح الممتع " ( 3 / 146 ) .

จากตรงนี้  เราสรุปได้ว่า  เมื่อตอนที่ยืนละหมาดหลังตักบีร  สุนัตให้เอามือกอด - อก  ตามที่มีหะดิษต่าง ๆ มากมายที่มาระบุในฮุกุ่มดังกล่าว  แต่ไม่มีหะดิษสักตัวบทเดียวมาระบุเจาะจงว่า เมื่อเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมา สุนัตให้เอามือกอด - อก   แต่บังอะสันกลับนำหลักฐานแบบ อุมูม (ครอบคลุมนำมาเสนอ) แล้วไม่ตรงกับประเด็นเรื่องเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมาจากรุกั๊วะด้วย  ทั้งที่มีหลักฐานอื่น ๆ มากมายมาระบุเจาะจงว่า การยืนกอด - อก นั้น ตอนที่ยืนหลังทำการตักบีร แล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งผมจึงนำมาจากคำถามของอัลอัชฮารีย์มาบอกนั้น นั้น ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า คำฟัตวาของเช็คอุษัยมีนและเช็คบิลบาซด้วย นั้นมันสำคัญกว่าซุนนะท่านนบีสำหรับครูอสันนักแล ...  
...
ผมจึงขอเสริมคำพูดของอัลอัชฮารีย์ต่อว่า...ถึงแม้ครูอะสัน รีบ ออกตัวว่า ไม่ใช่ทัศนะของตน    เพราะหากว่าเป็นทัศนะที่ตนเองยอมรับ  เรื่องละหมาดกอฏอ  ก็จบครับเพราะว่า..มันจะตรงว่าตัวเองยอมรับการกอดอละหมาดฮ้า...  
อัชฮารีย์พูดว่า..

... ที่ผมยกประเด็นมาเป็นกรณีศึกษานั้น  เพราะว่า บังอะสันได้ตอบคำถามไป โดยนำฟัตวาของชัยค์ อุษัยมีน  โดยยอมรับหลักการในนั้น  อันเนื่องจากว่า  บังอะสันไม่ได้ตอบคำถาม  จุดยืนของญุมฮูร (ทัศนะนักปราฃญ์ส่วนใหญ่) ซึ่งหากบังอะสันยอมรับในทัศนะของนักปราชญ์ส่วนใหญ่จริง  ก็น่าที่จะ  นำเสนอทัศนะญูมฮูร  ที่ "คุณอิควานคนเดิม" ถามมาด้วยนะครับ  เพื่อยืนยันในทัศนะของตนเองที่มีต่อญูมฮูร   แต่นี่กลับไม่  ดูซิครับพี่น้อง..อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับสำหรับวะฮ่าบีย์  
และผมขอพูดต่อว่า..
...เวลามีหลักฐาน เปะๆจากท่านนบีที่กล่าวว่า "หนี้ของอัลเลาะฮ์สมควรชดใช้นั้น"  ซึ่งบรรดาอุลามะต่างๆก็รู้ว่าในความหมายว่า หนี้นั้นมันหมายถึงละหมาดด้วย...แต่ครูอะสันกลับละทิ้งมัน ไปเอาคำพูดของ อิบนุตัยมียะเสียนี้......คักๆๆๆๆ.............................


......................................จบเรื่องครับ...................ขอให้ท่านผู้ชมกลับบ้านเข้านอนหรือไยกย้ายไปทำงานได้ครับ......วัสลาม...
  
 
  บันทึกการเข้า  

--------------------------------------------------------------------------------
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่
 
 
asan
สมาชิกตลอดกาล

 ออนไลน์

รางวัล:
 
  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #279 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:26 »  

--------------------------------------------------------------------------------
 
คุณ al-um เห็นออนไลน์อยู่พอดี ผมว่า คุณควรจะเป็นคนอ่านมากกว่า นะครับ ไม่เห็นมีอะไร นอกจากกอ็ปของคนอื่นแล้วทำมาวิจารณ์ อย่างนั้น อย่างนี้  ต้องนำวิชาการมาตอบครับ ไม่ใช่หัวสมองในกะโหลกเพียวๆ ไม่รู้สึกละอายผู้อ่านบ้างหรือ เขารู้นะว่าในพุงคุณ มีแต่ขี้กับใส้
 
  บันทึกการเข้า  
 
 
 
asan
สมาชิกตลอดกาล

 ออนไลน์

รางวัล:
 
  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #280 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:43 »  

--------------------------------------------------------------------------------
อ้างจาก: al-um ที่ วันนี้ เวลา 11:24

...เวลามีหลักฐาน เปะๆจากท่านนบีที่กล่าวว่า "หนี้ของอัลเลาะฮ์สมควรชดใช้นั้น"  ซึ่งบรรดาอุลามะต่างๆก็รู้ว่าในความหมายว่า หนี้นั้นมันหมายถึงละหมาดด้วย...แต่ครูอะสันกลับละทิ้งมัน ไปเอาคำพูดของ อิบนุตัยมียะเสียนี้..[/color]....คักๆๆๆๆ.............................


..................

อีกแล้วหรือครับท่าน  คำว่า "หนี้ของอัลลอฮสมควรชดใช้"  แต่พอถามว่า "แล้วละหมาดฟัรดูที่พอแม่ติดหนี้อัลลอฮอยู่ ยังไม่ได้กอฎอ ลูกจะชดใช้แทนได้ไหม?  ก็ไม่กล้าตอบกลับเลี่ยงบาลี ทั้งที่ต้นหะดิษระบุว่า ลูกชดใช้หัจญนะซัร แท่นแม่  นี้คือพฤติกรรมของคนที่ไร้จุดยืน แต่มีจุดยืนแบบไม้หลักปักขี้เลน  หาความมั่นคงไม่ได้   นาย al-um ต้องถอดหรือแก้ปลอกคอของการตักลิดมัซฮับที่คอก่อน จึงสามารถพูดเรื่องศาสนาได้อย่างอิสระ ไม่อย่างนั้นปลอกแห่งการตักลิดค้ำคออยู่ คุณก็เลยแค่เป็นยามเฝ้ามัซฮับเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่เฝ้าปกป้องคำสอนอิหม่ามชาฟิอีย์นะ เพราะคุณแค่อ้างยี้ห้อเท่านั้นเอง
 
  บันทึกการเข้า  
 
 
 
asan
สมาชิกตลอดกาล

 ออนไลน์

รางวัล:
 
  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #281 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:59 »  

--------------------------------------------------------------------------------
อีกอย่าง คือนาย al-um และบรรดาก๋วนหรือแก๊งทีมาในคราบผู้เสนวนาศาสนานั้น ล้วนแล้วแต่ ใช้ชือแฝงสลับกันไปมา โดยไม่กล้าเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง เพราะเกรงว่าจะเสียเครดิต ชาวบ้านไม่นับถือ และเพื่อประโยชน์สำหรับการลอบกัดคนอื่นได้โดยไม่มีใครรู้  ตัวตนที่แท้จริง ไม่รู้สึกละอายอัลลอฮบ้างหรือครับ คุณ al-um สหายร่วมก๋วน อย่าลืมบอกชื่อจริงหลังไมค์ก็ได้แล้วผมจะเก็บเป็นความลับ ไม่ต้องกลัวหรอก ว่าจะเสียชื่อวงศ์ตระกูล  เพราะต้นไม้ต้นหนึ่ง มันอาจจะมีผลออกมาเน่าบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
 
  บันทึกการเข้า  
 
 
 
al-um
เริ่มคุ้นเคย

 ออฟไลน์


  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #282 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:05 »  

--------------------------------------------------------------------------------
ครับคุณ al-um เห็นออนไลน์อยู่พอดี ผมว่า คุณควรจะเป็นคนอ่านมากกว่า นะครับ ไม่เห็นมีอะไร นอกจากกอ็ปของคนอื่นแล้วทำมาวิจารณ์ อย่างนั้น อย่างนี้  ต้องนำวิชาการมาตอบครับ ไม่ใช่หัวสมองในกะโหลกเพียวๆ ไม่รู้สึกละอายผู้อ่านบ้างหรือ เขารู้นะว่าในพุงคุณ มีแต่ขี้กับใส้...
...
ครับออนไลน์รอครูอยู่ครับ..วันนี้เอาทั้งวันเลยครับ.
ขอร้องครับ ..กรุณารักษามารยาทผู้รู้บ้างครับครู .อย่ากระเเหนะกระแหนหรือเปรียบเทียบออกนอกเรื่องครับ..ที่ผมพูดไปและถามนั้นครูน่าจะตอบมาตรงๆครับ..อย่าเฉไฉ   พี่น้องเขารู้แล้วละครับเบื้องลึกครูทุกฝีก้าวและครับ ว่าธาตุแท้คืออะไร...
...

บังหะซัน...อีกแล้วหรือครับท่าน  คำว่า "หนี้ของอัลลอฮสมควรชดใช้"  แต่พอถามว่า "แล้วละหมาดฟัรดูที่พอแม่ติดหนี้อัลลอฮอยู่ ยังไม่ได้กอฎอ ลูกจะชดใช้แทนได้ไหม?  ก็ไม่กล้าตอบกลับเลี่ยงบาลี ทั้งที่ต้นหะดิษระบุว่า ลูกชดใช้หัจญนะซัร แท่นแม่  นี้คือพฤติกรรมของคนที่ไร้จุดยืน แต่มีจุดยืนแบบไม้หลักปักขี้เลน  หาความมั่นคงไม่ได้   นาย al-um ต้องถอดหรือแก้ปลอกคอของการตักลิดมัซฮับที่คอก่อน จึงสามารถพูดเรื่องศาสนาได้อย่างอิสระ ไม่อย่างนั้นปลอกแห่งการตักลิดค้ำคออยู่ คุณก็เลยแค่เป็นยามเฝ้ามัซฮับเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่เฝ้าปกป้องคำสอนอิหม่ามชาฟิอีย์นะ เพราะคุณแค่อ้างยี้ห้อเท่านั้นเอง
...อ้าว  ครูทำไมไม่อ่านสิ่งที่ผมตอบบ้างละ กลับไปอ่านซิครับอยู่หน้าที่4หรือ5นะผมตอบแล้ว...อ่านช้าไม่ต้องรีบ..และคำว่าปลอกคอนั้นพอเถิดครับอย่าได้นำมาสรวมกับให้กับผมเลยครับ   ผมเป็นมนุษย์เหมือนครูนั้นแหละครับอิๆๆๆ

 
 
  บันทึกการเข้า  

--------------------------------------------------------------------------------
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์จากมัซฮับทั้งสี่
 
 
al-um
เริ่มคุ้นเคย

 ออฟไลน์


  Re: ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #283 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:07 »  

--------------------------------------------------------------------------------
อีกแล้วหรือครับท่าน  คำว่า "หนี้ของอัลลอฮสมควรชดใช้"  แต่พอถามว่า "แล้วละหมาดฟัรดูที่พอแม่ติดหนี้อัลลอฮอยู่ ยังไม่ได้กอฎอ ลูกจะชดใช้แทนได้ไหม?  ก็ไม่กล้าตอบกลับเลี่ยงบาลี ทั้งที่ต้นหะดิษระบุว่า ลูกชดใช้หัจญนะซัร แท่นแม่  นี้คือพฤติกรรมของคนที่ไร้จุดยืน แต่มีจุดยืนแบบไม้หลักปักขี้เลน  หาความมั่นคงไม่ได้   นาย al-um ต้องถอดหรือแก้ปลอกคอของการตักลิดมัซฮับที่คอก่อน จึงสามารถพูดเรื่องศาสนาได้อย่างอิสระ ไม่อย่างนั้นปลอกแห่งการตักลิดค้ำคออยู่ คุณก็เลยแค่เป็นยามเฝ้ามัซฮับเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่เฝ้าปกป้องคำสอนอิหม่ามชาฟิอีย์นะ เพราะคุณแค่อ้างยี้ห้อเท่านั้นเอง ..


...อ้าว  ครูทำไมไม่อ่านสิ่งที่ผมตอบบ้างละ กลับไปอ่านซิครับอยู่หน้าที่4หรือ5นะผมตอบแล้ว...อ่านช้าไม่ต้องรีบ..และคำว่าปลอกคอนั้นพอเถิดครับอย่าได้นำมาสรวมกับให้กับผมเลยครับ   ผมเป็นมนุษย์เหมือนครูนั้นแหละครับอิๆๆๆ

เวปครับอย่าได้หลงเคลิ้มครุอะสันครับ  กระทู้นี้มีประโยชน์ครับ

  ถามเรื่องการละหมาด กอฎอ(ทดแทน)
« ตอบ #285 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:25 »  

--------------------------------------------------------------------------------
 

ด้วยความเคารพ

ผู้เสวนากรุณาสนทนาด้วยความสุภาพ ลดทอนการพูดกระทบกระเทียบกัน สนทนาในบรรยากาศของความเป็นพี่น้อง เพื่อเข้าถึงความจริง
การมีความเห็นที่แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงวิชาการอิสลาม แตกต่างทางจุดยืนและทรรศนะได้ แต่ไม่แตกแยก ขอให้สนทนาด้วยความเป็นพี่น้อง
การนำเสนอข้อมูลในสิ่งที่ตนเองมีจุดยืนหรือยืนหยัด ขออย่าให้คิดว่าเพื่อเอาแพ้ชนะเป็นอันขาด มิฉนั้นแล้วการงานทั้งมวลจะสูญเปล่า
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมยกมาให้คุณแอนตี้เซมินอ่านดูนะครับ..ซึ่งท่านก็สามารถหาความรู้เพิ่มเติมเองได้  
 
 

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #132 เมื่อ: ก.พ. 24, 2007, 11:44 AM »
0
งง คห บน

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #133 เมื่อ: ก.พ. 25, 2007, 04:54 AM »
0
อัสลามมุอาลัยกุม
                อยากให้ทุกท่าน.......พยายามอธิบายกันด้วยเหตุผลนะคะ        พยายามระงับนัฟซูของตัวเองนิดนึง      ไม่ใช่เพื่ออะไรนะคะ......  แต่เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของทุกๆท่านนะคะ         ไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิแต่อย่างใดนะคะ........แต่อยากให้เข้าใจตรงนี้นิดนึงน่ะค่ะ........วัสลาม
                                           
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #134 เมื่อ: ก.พ. 25, 2007, 08:21 AM »
0
อัสลามมุอาลัยกุม
                อยากให้ทุกท่าน.......พยายามอธิบายกันด้วยเหตุผลนะคะ        พยายามระงับนัฟซูของตัวเองนิดนึง      ไม่ใช่เพื่ออะไรนะคะ......  แต่เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของทุกๆท่านนะคะ         ไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิแต่อย่างใดนะคะ........แต่อยากให้เข้าใจตรงนี้นิดนึงน่ะค่ะ........วัสลาม
                                           

ดีครับ ยังไงก็ช่วยกันปฏิบัติตาม สมาชิกใหม่ท่านนี้ด้วยนะครับ  ผมจะเริ่มก่อนล่ะกัน จะพยายามครับ  อินชาอัลเลาะฮ์  ;D

 

GoogleTagged