ผู้เขียน หัวข้อ: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์  (อ่าน 54458 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #135 เมื่อ: ก.พ. 25, 2007, 01:50 PM »
0
เอาหน่อยงิงิ

ขาดละหมาดโดยตังใจตกมุรตัด ต้องเตาบัตก่อนดิพี่  ละหมดเลยไม่เข้ากาลีมะห์ได้ไง

ลืมหรือหลับก็ต้องเตาบัตครับ "กล่าวอิสติฆฟาร"  แล้วรีบชด


 :D :D :D
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #136 เมื่อ: ก.พ. 25, 2007, 01:55 PM »
0
เอาหน่อยงิงิ

ขาดละหมาดโดยตังใจตกมุรตัด ต้องเตาบัตก่อนดิพี่  ละหมดเลยไม่เข้ากาลีมะห์ได้ไง

ลืมหรือหลับก็ต้องเตาบัตครับ "กล่าวอิสติฆฟาร"  แล้วรีบชด


 :D :D :D

เฮ้ยคุณอะห์มัดอีซา คุณมันเกินไปแล้วตกมุรตัดได้ไง  ฮะดิษเขาบอกแค่การละหมาดเป็นการแยกแยะระหว่างมุอ์มินกับกาเฟรเอง  ดังนั้นเขายังเป็นมุสลิมอยู่ไม่ได้ตกมุรตัด
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #137 เมื่อ: ก.พ. 25, 2007, 01:57 PM »
0
เอาหน่อยงิงิ

ขาดละหมาดโดยตังใจตกมุรตัด ต้องเตาบัตก่อนดิพี่  ละหมดเลยไม่เข้ากาลีมะห์ได้ไง

ลืมหรือหลับก็ต้องเตาบัตครับ "กล่าวอิสติฆฟาร"  แล้วรีบชด


 :D :D :D

เฮ้ยคุณอะห์มัดอีซา คุณมันเกินไปแล้วตกมุรตัดได้ไง  ฮะดิษเขาบอกแค่การละหมาดเป็นการแยกแยะระหว่างมุอ์มินกับกาเฟรเอง  ดังนั้นเขายังเป็นมุสลิมอยู่ไม่ได้ตกมุรตัด

ตกลงฮะดิษนี้สนับสนุนให้ทตั้งใจทิ้งละหมาดได้อ่ะดิพี่  แนะๆอย่านะอย่ามั่วนะครับ ระวังหน่อยพี่ฮะดิษเดียวที่ชัดเจนอย่ามาทำเป็นหาเหตุผลนะพี่ งิงิ
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #138 เมื่อ: ก.พ. 25, 2007, 02:11 PM »
0
ดีหน่อยนะ..........ที่ถึงแม้จะความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้างแต่ก็ยังมีรอยยิ้มอยู่น่ะค่ะ.......ยังไงถึงแม้แต่ละฝ่ายจะถกเถียงกันนะคะ........แต่ก็อยากเห็นการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน........โดยที่ไม่มีเรื่องของนัฟซูเข้ามาเกี่ยวข้องนะคะ.......บังๆทั้งหลาย
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #139 เมื่อ: ก.พ. 25, 2007, 05:22 PM »
0
น้องอีซา ไม่เข้าใจหรือ
เขาไม่ได้เรียกตกมุรตัด
แต่ในฮะดีส เขาว่าเป็น กุฟุร มันแปลมาจาก ปฏิเสธ สิ
ดังนั้น ในที่นี้ เราต้องเข้าใจว่า กุฟุร ถูกแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
กุฟุรแบบไหน ต้องกล่าวกาลิมะ ใหม่ น้องอีซา เข้าใจหรือไม่ ?

น้องอีซาทำมาเป็นแสดงความเห็นขัดแย้ง แต่แหม มันไม่เนียนเลยว่ะ เอาจริงๆ แกก็โดนด้วยกันกับพวกพี่น่ะแหละ ฮ่าๆๆๆ

อย่าพยายาม เอาประเด็นกุฟุรมา เดี๋ยวมันจะยาว และมันก็จะออกทะเล เอาในฝั่งว่าด้วยเรื่องบิดอะก่อนละกัน
วัสลาม...

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #140 เมื่อ: ก.พ. 26, 2007, 11:54 AM »
0
พี่น้องที่รักทั้หลายครับ

หลายๆอย่างที่เราได้ประสบและได้ค้นพบในผู้ที่มีทัศนะแบบวะฮาบีย์ หรือผู้ที่อ้างว่า ยึดตามกีตาบุลลอฮ์ซุนนะบี   จริงไล้ว  มีนเป็น   แค่ลมปากของพวกเขาเท่านั้น หรือเพียงแค่ ท..เอาสโลแกนมาอิงเท่านั้น ..

ตัวอย่างข้างล่างนี้

สิ่งที่ผมจะนำมาบอกกับพี่น้องหลายๆคนที่ยังไม่เข้าใจของคนกลุ่มนี้ ที่มักอ้างว่า ตามซุนนะในความเป็นจริงแล้ว เขาคือกลุ่มที่ทำบิดอะดอลาละอย่างชัดแจ้ง..ไม่ใช่บิดอะหาซานะ.

....ซึ่งพวกเขานำมาเป็นหลักฐานในการปฏิบัติอ้ามั้ล  ทั้งที่เป็นสิ่งที่ท่านนบีได้ตำหนิไว้  ว่า กุ้ลลูบิดอะดอลาละ..บิดอะที่ลุมหลงนั้นคือการหลงผิด

....กรณีศึกษาจากเวปมรดกฯ ครับ  เรามาลองพิจารณาคำตอบของครูอะสัน ต่อไปนี้พร้อมๆกันครับ  ซึ่งเกี่ยวกับเรื่อง  การเอามือกอด อกหลังเงยจากรุกั๊วะ  ซึ่งไม่มีหลักฐานจากซุนนะฮ์ใดมาระบุเจาะจากอัลกรอ่านและอัลฮาดิสซักบทเดียวว่า  "เมื่อเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมาจากการรุกั๊วะ  ท่านนบีใช้ให้เอามือกอดอก" 

ดูอีกครั้งครับ ที่คุณอิควานคนเดิมถามครูอะสันเจ้าเก่า

...การกอด-อกหลังเงยจากรุกัวะ เป็นทัศนะของอีหม่ามหรือเชคท่านใดบ้างค่ะ แล้วทัศนะของอุลามาอฺส่วนใหญ่เป็นอย่างไรค่ะ ขอบคคุณค่ะ

ครูอะสันตอบ  โดยอ้างถึง.เช็คอิบนุอุษัยมีนกล่าวว่า .........



الذي يظهر أنّ السنة هو وضع اليمنى على ذراع اليسرى لعموم حديث سهل بن سعد الثابت في البخاري " كان الناس يُؤمرون أن يضع الرجل يده اليمنى على ذراعه اليسرى في الصلاة " فإنك إذا نظرت لعموم هذا الحديث " في الصلاة " ولم يقل في " القيام " تبيَّن لك أن القيام بعد الركوع يُشرع فيه الوضع ؛ لأنَّه في الصلاة تكون اليدان حال الركوع على الركبتين ، وفي حال السجود على الأرض ، وفي حال الجلوس على الفخذين ، وفي حال القيام ويشمل ما قبل الركوع وما بعد الركوع يضع الإنسان يده اليمنى على ذراعه اليسرى
هذا هو الصحيح

ที่ปรากฏชัดเจนว่า แท้จริงตามสุนนะฮนั้น คือ การวางมือขวาบนข้อศอกของมือซ้าย ตามความหมายกว้างๆ ของหะดิษ สะฮ บุตร สะอฺ ที่ปรากฏในอัลบุคอรี ระบุว่า "ปรากฏว่าบรรดาผู้คนได้ถูกใช้ คือ ให้วางมือขวาของเขาบนข้อศอกของเขา ข้างซ้าย ในละหมาด" ดังนั้น เมื่อท่านพิจารณาในความหมายโดยกว้างๆของคำว่า " ในละหมาด"(في الصلاة ) โดยไม่ได้กล่าวคำว่า "ในการยืน(في القيام ) ก็จะให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ท่านว่า " การยืนหลังจากรุกัวะ ก็มีบัญญัติให้วาง(มือ)ในนั้น เพราะว่าในละหมาด ขณะที่รุกัวะ สองมือจะอยู่บนหัวเข่าทั้งสอง ,ในขณะสุญูด จะอยู่บนพื้น ,ในขณะนั่ง จะอยู่บนขาทั้งสอง และในขณะยืน โดยจะครอบคลุม สิ่งที่อยู่ก่อนรุกัวะและหลังจากรุกัวะ โดยวางมือขวางของเขาบนข้อศอกด้านซ้าย นี้คือ ความถูกต้อง

" الشرح الممتع " ( 3 / 146 ) .

จากตรงนี้  เราสรุปได้ว่า  เมื่อตอนที่ยืนละหมาดหลังตักบีร  สุนัตให้เอามือกอด - อก  ตามที่มีหะดิษต่าง ๆ มากมายที่มาระบุในฮุกุ่มดังกล่าว  แต่ไม่มีหะดิษสักตัวบทเดียวมาระบุเจาะจงว่า เมื่อเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมา สุนัตให้เอามือกอด - อก   แต่บังอะสันกลับนำหลักฐานแบบ อุมูม (ครอบคลุมนำมาเสนอ) แล้วไม่ตรงกับประเด็นเรื่องเอี๊ยะติดาลเงยขึ้นมาจากรุกั๊วะด้วย  ทั้งที่มีหลักฐานอื่น ๆ มากมายมาระบุเจาะจงว่า การยืนกอด - อก นั้น ตอนที่ยืนหลังทำการตักบีร แล้ว

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งผมมา นั้น ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า คำฟัตวาของเช็คอุษัยมีนและเช็คบิลบาซด้วย นั้นมันสำคัญกว่าซุนนะท่านนบี(ซล)ไปเสียแล้วหรือ ...    ...


... ที่ผมยกประเด็นมาเป็นกรณีศึกษานั้น  เพราะว่า บังอะสันได้ตอบคำถามไป โดยนำฟัตวาของชัยค์ อุษัยมีน  โดยยอมรับหลักการในนั้น  อันเนื่องจากว่า  บังอะสันวะฮาบีย์ไม่ยอมรับในทัศนะของนักปราชญ์ส่วนใหญ่ที่เป็นทัศนะญูมฮูร  ที่ "คุณอิควานคนเดิม" ถามมาด้วยนะครับ  เพื่อยืนยันในทัศนะของตนเองที่มีต่อ

ญูมฮูร เหล่านั้น

  แต่นี่กลับไม่  ดูซิครับพี่น้อง..อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับสำหรับวะฮ่าบีย์
 
และผมขอพูดต่อว่า..บิดอะวะฮาบีญืนั้นร้ายแรงกว่าที่คิด  ไว้  ในเรื่องการละหมาดชดใช้เช่นกัน

...เวลามีหลักฐาน เปะๆจากท่านนบีที่กล่าวว่า "หนี้ของอัลเลาะฮ์สมควรชดใช้นั้น"  ซึ่งบรรดาอุลามะต่างๆก็รู้ว่าในความหมายว่า หนี้  นั้นมันหมายถึงละหมาดด้วย...แต่ครูอะสันกลับละทิ้งมัน ไปเอาคำพูดของ อิบนุตัยมียะ

ซึ่งพวกเขาทำบิดอะโดยการไม่ยอมรับในสิ่งที่ท่านร้อซุ้ลนำมาบอกแล้วไม่ยอมรับที่เป็นวายิบจากมติของปวงปราชญืที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับตน.............ซึ่งถ้าเราจะเรียก..ให้ตรงกับนิยามคำว่าบบิดอะแล้วก็คงไม่ผิด

ท่านนบี(ซล) กล่าวว่า...กุ้ลลู บิดอะดอลาละ  ทุกบิดอะที่ลุ่มหลงนั้นคือการหลงผิด    มาวันนี้วะฮาบีย์ล่มหลง ในคำพูดของท่านอิบนุตัยมียะอย่างตะอัสสุบที่ถูกฝังอย่างสุดลิ่มในหัวหมองของพวกเขา..


ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #141 เมื่อ: ก.พ. 26, 2007, 11:04 PM »
0
เพราะพวกเขาเชื่อและยึดมั่น กับคำฟัตวา ของสายของเขาที่มากเกินไป อย่างคลั่งไคล้
ซึ่งไม่มีใครเชื่อตามนั้น ในสายมัซฮับ ไม่เชื่อตามนั้น เพราะคำฟัตวาบางอย่างในเรื่องศาสนาที่ได้ฟัตวามาแล้วจาก สายมัซฮับ
ที่พวกเขา ได้ฟัตวามันขึ้นมาใหม่เอง จากสายมัซฮับเก่าๆ อย่างของ ท่านดาวุด และท่านหุซัยมีน
พวกเขากล่าวแต่เพียงว่า
บรรดาอีหม่าม 4 สำนักคิดใหญ่นั้น วินิจฉัยผิดพลาด อันเนื่องมาจากความไม่รู้  (วัลอิยาซุบิลลา)

วัสลาม...

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #142 เมื่อ: มี.ค. 01, 2007, 09:47 AM »
0
พี่น้องครับ

บางครั้งวะฮาบีย์นั้น มีความเชื่อที่เหมือนกับชาวคริสเตียน ซึ่งผมองเคยเข้าไปดูในเวปคริสเตียน และก็อ่านบทความจากคัมภีร์(ใบเบิ้ล)ในเรื่องความเชื่อของพวกเขาต่อพระผู้เป็นเจ้า(ยาโอวาห์)   ซึ่งมีข้อความหนึ่งที่คล้ายกับความเชื่อของพี่น้องซุนนะวะฮาบีย์    ผมก็เลยกอ็บมาฝากพี่ๆน้องๆมาให้ชมกัน  พวกเขามีความเชื่อว่า..............
...
แต่ทว่าในความเป็นจริงเราก็ยังคงพบว่ามนุษย์ที่เกิดในบาปแล้วนั้นก็ยังคงทำบาปและละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้ากันไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ... ครั้งหนึ่งพระเจ้าถึงกับตรัส (ในพระคัมภีร์) ว่า ... "พระเจ้าทรงมองลงมาดูลูกหลานมนุษย์จากที่ประทับบนฟ้าสวรรค์ พระองค์ทรงเห็นว่าลูกหลานมนุษย์ทุกคนล้วนแต่ทำความชั่ว ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ทำความดี ไม่มีเลย..."----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นที่รู้กันว่าวะฮาบีย์นั้น  มีความเชื่อเฉกเช่นเดียวกับความเชื่อของชาวคริสตเตียน ......หรือชาวนัสรอ

ความเชื่อเช่นนี้ ไม่มีในชาวอะลิสซุนนะวัญญามาอะ..ที่เชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าประทับบนฟ้า..แต่มันความเชื่อที่เป็นบิดอะดอลาละ

ที่ลุ่มหลงอย่างน่าเกลียด..ที่วะฮาบีย์พยายามหยัดเยียดความเชื่อนี้ให้กับเยาวชนมุสลิมของเราด้วยรุ)แบบที่คล้ายกับ

ชาวอะลุ้ล กีตาบ..........นี่แหละคือเชื่อร้ายที่วะฮาบียะได้ทำบิดอะดอลาละซ้ำแล้วซ้ำเล่า....ซึ่งไม่มีซอฮาบะ  ตาบีอีน และสลัฟ

ท่านใดมีความเชื่อเช่นนี้    นะอูซุ้บิ้ลลา...มินซาลิค.

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #143 เมื่อ: มี.ค. 01, 2007, 09:54 AM »
0
ขอบคุณนะคะ............สำหรับความรู้ที่นำมาเผยแพร่ให้น้องๆได้รับทราบกันนะคะ    คุณคนอยากรู้.......ขอบคุณค่ะ    ถ้ามีอะไรที่น่าสนใจอีก
ก็อย่าลืมนำเสนอนะคะ  จะคอยติดตามอ่านค่ะ....... :) :)
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #144 เมื่อ: มี.ค. 09, 2007, 02:28 AM »
0
บังกอดดัรครับ ฮาดิษบอกไว้ให้เรากลัวที่จะตกมุรตัดนะครับ จริงอยู่ตกมุรตัดต้องทำชิรกฺแต่ขั้นตอนต่อไปของมุรตัดคือกุฟรฺนะครับสำหรับคนที่เป็นมุสลิมน่ะครับ  เรียงลำดับสิพี่


ดังฮาดิษที่บอกว่าแยกกับกาฟีรกับมุสลิมนั่นก็ถือว่าเป็นการป้องให้ห่างจากการตกมุรตัด

ลองสังเกตว่าทำไมท่านนบีส่งเสริมให้อาซานหรืออิกอมะฮ์ก่อนนมาซคนเดียว หรือให้ส่งเสริมรับอาซานขณะที่ได้ยิน

ผมมองว่าฮาดิเดียวคือจบครับเข้าใจทันทีโดยไม่ต้องแบ่งว่าเป็นกาฟีรฮัรบีหรือไม่

อนึ่งฮะดิษกับกุรอานบางตัวบทชัดเจนครับไม่มีแยกส่วนมากมาย เพียงแต่คนเราเท่านั้นครับชอบแยก แต่ถึงกระนั้นอิสลามก็มิให้มองข้ามอิจมาอฺและกิยาศ แต่ต้องตามขั้นตอนนะครับ

กุรอาน

ฮะดิษ

อิจมาอ์

อย่าเอาอิจมาอ์ขึ้นมาตัดสินก่อนนะครับ อันตรายพี่

นอกเรื่องนิดนึงครับ เช่น ตัวอย่างคนที่หนีกันไปแต่ง คนบ้านเราบอกว่าใช้ได้โดยอ้างว่าอิหม่ามอัชชาฟีอีย์คือแนวทาง ตรงนี้ผมเองอยู่กับสังคมที่หนีไปแต่งเยอะก็มิทราบได้ว่าหนังสือไหนของอิมห่ามชาฟีอีย์ว่า แต่ที่แน่ๆผมว่าเอามาขยายอีกทีน่ะครับ

เพราะผลพวกออกมาคือ ทำให้เสียเกียรติมากมายกับวะลีมุสลิมะห์ แล้วก็เรื่องอีกมากมายตามมา

ผมว่านี่แหละผลพวงการเรียบเรียงลำดับไม่ถูก ไม่ยอมกลับไปมองกุรอานเป็นอันดับแรก

ถ้าอุลามาอ์บ้านเราฟัตวาตั้งแต่แรกว่าการคบการแบบแฟนที่ทำกันของหนุ่มสาว ฮะรอม ตามที่อายะห์กุรอานบอกว่า วะลาตักรอบุซซีนา.อินนะฮุกาน่าฟา ฮิซาเตาว่าซาอ่าซาบีลา ..(ซูเราะห์ อิสรออฺ)ล่ะก็  ปัญหาการหนีไประยอง ไปเพชร ไปใต้ หรือไม่ก็เชียงใหม่ คงไม่เกิดขึ้นครับ ;)
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

ออฟไลน์ ahmedisa

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 102
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #145 เมื่อ: มี.ค. 09, 2007, 02:31 AM »
0
อนึ่ง ขอนุญาตไม่โต้เถียงนะครับ ขอบอกว่าให้กลับไปเรียงลำดับให้ถูกก็พอครับ :)
munsheed filislam
www.myspace.com/ababeelrec โหลดฟรี

http://ahmedisa.multiply.com ท่วงทำนองของนักต่อสู้

ออฟไลน์ sufriyan

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 526
  • เพศ: ชาย
  • 0000
  • Respect: +16
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #146 เมื่อ: มี.ค. 09, 2007, 06:11 PM »
0
ตกลงคุณahmedisaว่าไม่เซาะหรือครับ ขอคำตอบพร้อมหลักฐานด้วยนะครับ  ขอร้องอย่าลอยๆนะครับ

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #147 เมื่อ: มี.ค. 21, 2007, 06:06 PM »
0

วันค่าย  ยมสอ. จะไปแอบดู ว่าบังกอดดัทกินข้าวหรือรังแตน  ;D
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #148 เมื่อ: มี.ค. 22, 2007, 07:11 AM »
0
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ความจริงผมก็อยากจะร่วมเสวนาด้วยนั่นแหละครับ  แต่ตอนนี้ผมมีภาระกิจเรื่องการเรียนรัดตัวและช่วยเหลือรุ่นน้อง ๆ เกี่ยวกับเชิงวิชาการเกือบทุกวัน  จนไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาร่วมเสวนาได้ทุกกระทู้  นอกจากระทู้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดและสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้อื่น 

ผมถือว่าเพียงพอแล้ว  ที่มีพี่น้องผู้มีเกียรติของเราเข้ามาร่วมเสวนาชี้แจง  และเราขอให้พี่น้องอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ทุก ๆ ท่าน  ร่วมกันชี้แจงและนำเสนอในเชิงวิชาการกับท่านพี่น้องผู้อ่านทั้งหลายด้วยนะครับ  ผมขอฝากอะมานะฮ์นี้ด้วยนะครับ 

และผมเองก็เข้ามาทุกวันแหละครับ  อย่างน้อยก็เข้ามาตอบปัญหาศาสนาของพี่น้องเรา  ที่ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยกว่าประเด็นอื่น ๆ   อินชาอัลเลาะฮ์ 

والسلام

al-azhary
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ konmyroo

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
« ตอบกลับ #149 เมื่อ: มี.ค. 23, 2007, 09:02 AM »
0
อัสลามมูอาลัยกุ้ม..น้องอัลอัชฮารีย์

ว่างๆแอดมาหาบังมั้งซิคิดถึงมากครับ


.....พี่น้องทั้งหลายครับ....ในบางครั้งนั้น การเสวนานั้นจำต้องทำความเข้าใจด้วยพื้นฐาน ทั้ง2ฝ่ายทั้ง  ผู้ที่เสวนาและผู้ร่วม

บางครั้ง..เราจะพบว่า ในกระทู้บางหัวข้อ นั้นเกิดการถกเถียงการรุนแรง หรือความไม่พอใจของผู้เสวนาบางคน   อย่างเช่นการเปรียบเทียบ การด่าว่า หรือ กล่าวหา    ต่างๆนาๆนั้น ล้วนมาจากรากฐานความไม่เข้าใจในประเด็นและการไม่เปิดใจของผู้ที่เสวนาด้วยนั้นเอง....

ผมเองไม่ได้เข้ามาดูหลายวันก็เลยเป็นห่วง..บางคำพูดของพี่น้องที่กล่าวดูถูกหรือเหยียดหยามด้วยคำไม่สุภาพ  ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้....

ที่เข้ามานี้ อยากให้พี่น้องทุกคน คำนึงถึงเอกภาพว่า มันเป็นสิ่งวายิบสำหรับมุสลิม ที่ต้องปฏิบัติ   และขอความกรุณาพี่น้องบางคน  ช่วยลดข้อโต้แย้ง หรือพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความแตกแยก  ผมเข้าไปกระทู้แฟนไม่มีในวุนนะนบีแล้ว   รู้สุกหดหู่กับพี่น้องบางคนครับ.....ที่พยายามเอาช่องโหว่ของอุลามะในบางทัศนะมาเปิดประเด็น  ซึ่งเป็นการไม่สร้างสรรค์แต่อย่างใดเลย 

ฉนั้นสิ่งใดที่เป็นความแตกแยกก็น่าจะยุติเสียก็น่าจะดีนะครับ  แค่นี้แหละครับเข้ามานะซีฮัตกัน

 

GoogleTagged