เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์

<< < (31/39) > >>

قطوف من أزاهير النور:


ดีค่าบ  ช่วย ๆ กันเตือน
ไม่งั้นเวบบนี้ก็ไม่ต่างกับเวบอื่น  ;D

คนอยากรู้:
วันนี้ไหนๆก็เป็นวันศุกร์ และมีคนนะซีฮัตไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ผมในฐานะเจ้าของกระทู้ ก็ขอออกความเห็นในเรื่องนะศีฮะบ้าง  ตามความเข้าใจและตามพื้นฐานที่ได้ศึกษามา

คำว่า ?นะศีฮะฮฺ? เป็นคำที่หลายคนอาจจะต้องการและก็มีอีกหลายคนที่ปฏิเสธมัน ?นะศีฮะฮฺ? เป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้ง เป็นแนวคิดที่ให้ความจริงจังและจริงใจกับข้อปฏิบัติของอิสลามและผู้คน เป็นความพยายามที่จะใช้วิธีการที่ดีที่สุด เพื่อให้เกิดผลดีที่สุด

คำๆนี้ เป็นคำที่ทุกคำสอนในอิสลามต้องนำมันมากำหนดทิศทาง ดังนั้น คนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบข้างให้ไปสู่ความดีงามนั้น  ต้องศึกษาและ ค้นหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้บรรลุถึง ?นะศีฮะฮฺ?

คำว่า ?อัดดีนุล นะศีฮะฮฺ? ที่แปลว่า ?ศาสนาคือนะศีฮะฮฺ? เป็นการย้ำถึงว่าศาสนานั้นไม่สมบูรณ์เลยหากขาดหลักสำคัญของมันคือ ?นะศีฮะฮฺ?(บ้านเรามักเรียกว่า นาศีฮัต) แน่นอนว่า อิสลามไม่ได้มีแค่นะศีฮะฮฺแต่นะศีฮะฮฺกันเป็นฐานในการทำให้คำสอนอิสลามถูกสร้าง ขึ้นมาได้สำเร็จ

เช่นฮะดีษทีว่า ?อัล ฮัจญุ อะรอฟะฮ์? ที่แปลว่า ?ฮัจญ์คืออะรอฟะฮฺ? แน่นอนที่สุดว่า ฮัจญ์นั้นมีการกระทำอีกหลายๆอย่าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ  อะรอฟะฮฺ

ฉะนั้น การที่ท่านนบี (ซ,ล)ได้เรียก ?ศาสนา? ว่าเป็น ?นะศีฮะฮฺ? ก็เนื่องจากความสำคัญของมันนั่นเอง

นะศีฮะฮฺ? ดังที่ทราบโดยทั่วไปว่า คำนี้ถูกแปลว่า ?การตักเตือน? แต่นี่เป็นความหมายที่ยังไม่ดีพอ  แต่หากจะให้เข้าถึงความหมายที่ครอบคลุมและถูกต้องของมัน ต้องมีคำอธิบายเพิ่ม

คำว่า ?นะศีฮะฮฺ? สามรถทำความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นก็ต่อเมื่อเราค้นพบใประวัติศาสตร์ของเศาะฮาบะฮฺท่านหนึ่งชื่อว่า ท่านญะรีร
มีเรื่องเล่าว่า  ครั้งหนึ่งท่านได้ใช้ให้ทาสของท่านไปซื้อม้ามา 1 ตัว และทาสของท่านก็ได้ไปซื้อมาในราคา 300 ดิรฮัมให้กับท่าน แต่แล้วท่านญะรีรก็ได้ไปหาคนที่ขายม้า แล้วบอกเขาว่าม้าตัวนั้นควรจะมีราคา 400 ดิรฮัม แต่แล้วท่านญะรีรก็ได้บอกราคาใหม่จนกระทั่งจาก 400 ดิรฮัม ก็สูงขึ้นเป็น 500 ดิรฮัม และสูงถึง 800 ดิรฮัม สุดท้ายท่านได้จ่ายราคาม้าไป 800 ดิรฮัม ทั้งที่ตอนแรกทาสของท่านได้ซื้อมาเพียง 300 ดิรฮัม เหตุการณ์นี้ท่านญะรีรได้อธิบายว่า ?ฉันได้ให้บัยอะฮฺ(สัตยาบัน)แก่ท่านนบี โดยต้องกระทำสิ่งต่อไปนี้ คือ การดำรงไว้ซึ่งการละหมาด การจ่ายซะกาต และการให้นะศีฮะฮฺกับมุสลิมทุกคน?

?ความจริงใจ? เช่นนี้ ตรงกับนิยาม คำว่า นะศีฮะฮฺ ซึ่งท่านฟุฎอยล์ บิน อิยาฎ ที่ได้กล่าวว่า ?ใครก็ตามที่ได้บรรลุถึงระดับสูงในสายตาของพวกเรา มิใช่ผู้ที่มากไปด้วยการละหมาดและถือศีลอด แต่บุคคลที่บรรลุถึงระดับสูงในสายตาของพวกเราก็เนื่องจากจิตวิญญาณที่เอื้ออารี หัวใจที่เป็นอิสระ(จากความเกลียดชัง) และปฏิบัติอย่างจริงใจกับประชาชาติมุสลิม?

ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ มุบาร็อก ได้ตอบคำถามที่ว่า ?อะไรคือการงานที่ดีที่สุด?? ว่า ?มีความประพฤติที่จริงใจเพื่ออัลลอฮฺ?

สรปว่า คำว่านะศีฮะฮฺ จึงให้ความหมายถึง ?ความจริงใจ? ที่ปราศจากการทรยศ คดโกง การหักหลัง ในทางภาษาคำนี้มีความหมาย2ด้าน คือ

1)การชำระล้างจากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์
2)การเชื่อมสิ่งที่กระจัดกระจายหรือแตกแยกให้เข้าด้วยกัน

แต่ถ้าความหมายทางภาษาดังกล่าว ท่านอัร รอฆิบ อัล อิสฟาฮานียฺ จึงได้สรุปความหมายของคำว่านะศีฮะฮฺว่า ?นะศีฮะฮฺ คือการแสวงหาการปฏิบัติและถ้อยคำที่มีความดีและเป็นการปรับปรุงคนอื่นๆให้ดีขึ้ น? เหตุนี้เองกระมังที่คำนี้จึงให้ความหมายที่เราแปลๆกันอยู่คือ ?การตักเตือน?



ปัจจุบันนี้วันนี้คำว่า ?นะศีฮะฮฺ? ถูกนำไปใช้ในความหมายที่เป็นลบ ดังนั้น เมื่อในที่พบปะหรือในกลุ่มบางแห่งมีการขอทำการ ?นะศีฮะฮฺ? ทุกคนก็รู้สึกว่าบรรยากาศแห่งความเครียดกำลังจะเคลือบคลานมา เพราะต่อไปนี้ ?ความเลว? หรือ ?ข้อบกพร่อง? ของคนบางคนกำลังได้รับการเผยเปิดให้สาธารณชนได้รับรู้

สำหรับผมนั้น บางครั้งในบทความนั้นก็มีทั้งนะศีฮะฮฺและก็ประจาน พร้อมกับห้ามปราม
แต่การประจานหรือการห้ามปรามหรือนะศีฮะอนั้น  มันได้เกิดจากพื้นฐานของ ?ความจริงใจ? ดังที่
ท่านอิบนุ อัศ ศอลาฮฺ ได้อธิบายคำว่า นะศีฮะฮฺ เอาไว้ว่า ?สาระที่สำคัญของนะศีฮะฮฺก็คือ การหาสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่คนที่จะถูกนะศีฮะฮฺ ทั้งเจตนาและการกระทำ เขาต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่คนอื่น? ที่ต้องการให้พี่น้องมุสลอมบางคนรู้จักแยกแยะและ ยอมรับพร้อมให้เกียตริในทัศนะของผู้รู้ต่างๆ

ขณะเดียวกันนั้น การนำเสนอของผมบางที นั้นดูจะแข็งกร้าวและเด็ดขาด แต่ในหลักความจริงแล้ว สิ่งที่นำเสนอไปนั้นเพียง แต่จะสื่อให้เห็นว่า

การกระทำการ กล่าวหา หาฮุกม หรือการชี้แนะบางอย่างของอาจารย์บางท่านนั้น ขาดการจริงใจในการนำเสนอ  โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ยอมรับในเรื่องทัศนะของบรรดาความรู้ของคนในยุคสลัฟอดีต  แต่กลับเอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นช่องทางในการวิจารณ์และ
มุงแต่สร้างความแตกแยกในสังคมมุลิม  เพียง
แต่เหตุผลว่าสิ่งที่ตนนำมาหรือยืยกรานนั้นมันถูกต้องกว่าทัศนะอื่นๆ..

ฉนั้นการนะศีฮะของผมนั้น จึงมักจะโดนโจมตีว่า ดีแต่วิจารณ์ๆๆๆๆคนอื่น  แต่ขณะเดียวกัน คนที่กล่าวเช่นนี้ที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพรรคพวกเองนั้น  แต่กลับลืมที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้อื่นก่อน

ทุกๆสิ่งทุกอย่างนั้น มันต้องมีซาบาบ(สาเหตุ)ของมัน  นี่คือการดำรงชีวิตของมนุษย์ในโลกมัคโล้กนี้นอกจากพระองค์เท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องเอาสาเหตุมาก่อนการกระทำ....

พระองค์ สร้างเรามานั้น ใครบ้างละที่ถามถึงเหตุผลตรงนี้  ก็ในเมื่อพระองค์ยืนยันว่า

ลายุ้สอาลู  อัมมา ยุ้สอ้าลูน ......พระองค์จะไม่ถูกถามในสิ่งที่พระองค์กระทำ 

วาหม ยุ้ลอาลุน...... แต่ทว่า  มนุษย์ต่างหากละที่จะถูกสอบสวน(ถูกถามในสิ่งที่เราได้กระทำไว้...


....ดังนั้น ผมจึงเห็นว่าการทำการนะศีฮะฮฺของพี่น้องมุสลิมบางกลุ่ม    เป็นแค่ระดับ ?แก้แค้น?เสียดสี"ตอกลิ่มเพิ่มความแตกแยกในสังคมมากขึ้นทุกวัน บางครั้งเพื่อเป็นการสนองความรู้สึกในใจของคนกระทำนะศีฮะฮฺเท่านั้น ....ไม่ว่าการแต่งหนังสือเป็นรูปเล่มที่วางจำหน่ายหรือแจกฟรีหรืออัดเป็นม้วนเทปหรือวีซีดีหรือ การขึ้นเวทีบรรยายตามงานต่างๆก็ตาม หาได้มีความรู้สึกที่จริงใจต่อพี่น้องมุสลิมไม่

ท่านชัยคฺ มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัล อุษัยมีน ได้กล่าวว่า ?นะศีฮะฮฺ หมายถึงการที่คนหนึ่งรักพี่น้องของเขาในสิ่งที่ดีงาม เขาจึงเรียกร้องเขามาสู่สิ่งนี้ สร้างความชัดเจนให้เขา และส่งเสริมให้กำลังใจเขาในการทำสิ่งนี้?.?

ดังนั้นคำว่า นะศีฮะฮฺ จึงเป็นปฏิกิริยาระหว่างผู้ศรัทธาที่เป็นมุสลิมต่อกันแม้ว่าต่างทัศนะก็ตาม  ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศความรู้สึกที่งดงาม ต่อกัน
ผลจากของนะศีฮะฮฺที่มีประสิทธิภาพนั้น ก็คือ ?ความเป็นพี่น้อง? ที่จะติดตามมา ดังปรากฏในอัลกุรอานที่ว่า ?อินนะมัล มุอ์มินูนะ อิควะฮฺ ? แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นพี่น้องกัน?

ฉนั้น การเลือกวิธีการที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของการนะศ ีฮะฮฺ โดยหลักพื้นฐานอิสลามแล้ว

คือ การไม่เปิดเผยความผิดพลาดหรือ การนำผลงานของพี่น้องมุสลิมที่ต่างก็มุ่งหวังทำงานในศาสนาของพระองค์เฉกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าเขาจะพลาดหรือไม่แต่เราสมควรจะเป็นตัวกลางที่จะสื่อในสิ่งนั้นๆ  การโจมตีของพี่น้องบางกลุ่ม ต่อสาธารณะชน  ซึ่งทำให้เขาอับอายขายหน้านั้น.....ไม่ว่า..ผลงานใดๆของพี่น้องมุสลิมที่มีกาลีเมาะและรากฐานเดียวกัน ของพี่น้องของเรา เช่น ผลงานการวินิจฉัย ของบรรดาอีม่ามแต่ละมัสหับ ก็ดี ท่านจุฬาก็ดี ผู้ปกครองที่ได้รับมอบหมายก็ดีฯลฯ     เป็นการไม่สมควรยิ่ง

ท่านฟุฎอยลฺ อิบนุ อิยาฎ ได้กล่าวว่า ?ผู้ศรัทธานั้นปกปิด(บาป)และให้คำเตือนต่อผู้คน ขณะที่คนชั่วจะเปิดเผยบาป และสร้างความอับอายให้แก่ผู้คน?


พี่น้องครับ  สังคมหรือกลุ่มองค์กรต่างๆที่ปราศจากนะศีฮะฮฺ จึงย่อมไม่อาจสร้างอุคูวะฮฺ(ความเป็นพี่น้อง)ได้ กลุ่มหรือสังคมนั้นๆก็ดำรงอยู่บนพื้นฐานของการตลบแตลง การหลอกลวง การชิงดีชิงเด่น การนินทาว่าร้าย ความอิจฉาริษยา และบั้นปลายนำไปสู่สายโซ่ของฟิตนะฮฺที่ไม่มีใครสลัดมันหลุด



วัสลาม

บุคคลธรรมดา:
ญะซากั้ลลอฮ์ บังคนอยากรู้ ค่ะ

ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า "นะซีฮะฮฺ"

แถมได้อ่าน บังคนอยากรู้ แอบระบายใจ ด้วย

อิ อิ ;D

isma-il:
ญะซากั้ลลอฮ์ บังคนอยากรู้

อัลฮัมดุลิลอฮฺ

ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า "นะซีฮะฮฺ"

ไม่มีความสุขใดจะมีนอกจากในอิสลาม

ที่จะทำให้จิตใจที่ชั่วร้าย นัฟซูที่ร้ายกาจ ได้รู้สึก ได้ตระหนัก

ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถเอาชนะ

แต่ถ้าได้ "นะซีฮะฮฺ" บ่อยๆ อินชาอัลลอฮฺ เราจะชนะมัน

ขออัลลอฮฺโปรดทรงฮีดายะห์ ให้กับมุสลิมทุกคน รวมทั้งกระผมด้วย อามีน

قطوف من أزاهير النور:

อันนะซีฮะ คือ ความจริงใจ (ตามลายเซ็นชาเลย)
แปลอีกที คือการส่งต่อความหวังดีไปให้อีกฝ่ายด้วยวิธีใด ๆ ที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ

อีกอย่างคือ
นะซีฮะ ยากทั้งผู้ให้และผู้รับ

ผู้ให้ >>> พูดยังไงดี ? ให้เขาฟัง  .. เด๋วเตือนแล้วเค้าโกรธเราทำไง
ผู้รับ1 >>> มีคนมาเตือนนี่แสดงว่าเขาต้องหมั่นไส้เราแน่ ๆ
หรือ
ผู้รับ 2>>> อายจริง .. เตือนเสียงดั๊ง ดัง ...


เพราะงั้นใครอยู่ตรงไหน ระลึกถึงอีกฝ่ายด้วยเน้อ ผู้ให้ก็คิดถึงจิตใจของผู้รับที่จะถูกตำหนิ   .. ผู้รับก็คิดถึงจิตใจคนเตือนด้วยว่าเขาเกรงใจเราแค่ไหน กว่าจะมาเตือนเราล

แค่นี้ก่อน
แล้วสังคมเราจะดีขึ้น อินชาอัลลอฮฺ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version