เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
sunnah 50:
--- อ้างจาก: bashir ที่ ก.ย. 29, 2007, 10:47 AM ---ผมอยากชวนบังอัซฮารีไปเยี่ยมอาจารย์มุรีดด้วยกันจังเลย
ซื้อของไปฝากด้วยก็จะดี
แล้วเราก็สนทนาในเรื่องศาสนากัน
แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเขาอีก
ดุอานะครับบัง ให้ฮิดายะฮฺกับพี่น้องของเราในเมืองไทย
--- End quote ---
จะไปสอนอาจารย์มุรีดหรือจ้ะ
Goddut:
--- อ้างจาก: sunnah 50 ที่ พ.ย. 13, 2007, 12:22 AM ---
--- อ้างจาก: bashir ที่ ก.ย. 29, 2007, 10:47 AM ---ผมอยากชวนบังอัซฮารีไปเยี่ยมอาจารย์มุรีดด้วยกันจังเลย
ซื้อของไปฝากด้วยก็จะดี
แล้วเราก็สนทนาในเรื่องศาสนากัน
แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเขาอีก
ดุอานะครับบัง ให้ฮิดายะฮฺกับพี่น้องของเราในเมืองไทย
--- End quote ---
จะไปสอนอาจารย์มุรีดหรือจ้ะ
--- End quote ---
ไปชวนละหมาดฟัรดู ที่มัสยิดก็พอแล้วครับ
herooes:
แล้วหลัง ละหมาดฟัรฎู มีบรรยาย ป่ะล่ะ บัง
หากบรรยายก่อน คงต้องขอตัว
หากบรรยายหลัง อืม ... ทนได้อยู่
ILHAM:
^
^
^
หลังบรรยายมีเลี้ยงด้วยนะ หมายถึงตัฟเซของเชคน่ะ น่าลองไป(กิน)
UBAIDILLAH:
--- อ้างจาก: คนอยากรู้ ที่ ต.ค. 26, 2006, 12:05 PM ---อัสลามูอาลัยกุมฯ
พี่น้องครับ .เป็นที่ทราบกันมาตั้งแต่อดีตแล้วว่า ก่อน ปีฮิจเราะที่300ปีถัดมา นั้นบรรดาผู้มีความรู้ด้านฟิกฮ์ในสมัยนั้น ต่างก็เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางโดยนักปราชญ์มุสลิมทั่วโลก ไม่ว่า
ท่านอีหม่าม ฮะนาฟี ท่านอีหม่ามมาลิกี ท่านอีหม่าม ชาฟีอี ดาวุดซอฮีรีย์ ท่านอีหม่ามอัชเชารี ท่านอีหม่ามฮัมบาลี ฯลฯและบรรดานักฟิกฮ์ที่สืบเจตนารมณ์ยุคหลังๆก็มีมากเช่นผู้ที่ตักลีดตามทัศนะของท่านอีหม่ามชาฟีอี ไม่ว่า อีหม่ามฆอซาลี ฮีหม่ามรอฟี อีหม่ามนาวะวีย์ อีหม่ามอิบนุฮะญัร-อัลฮัยตามี อีหม่ามรอมลี เป็นต้น
ท่านเหล่านี้คือ ผู้ที่มีความรู้ทั้งในด้านฟิกฮ์และอากีดะซึ่งเป็นที่รู้จักยอมรับในชื่อเสียงของบุคคลผู้ทรงเกียตริเหล่านี้...
หลักการสำคัญของของผู้รู้เหล่านั้นคือ
ยึดตาม กิตาบุลลอฮ์ และซุนนะนบี เป็น2สิ่งแรก
ซึ่งทัศนะท่านเหล่านั้นต่างก็ดำเนินชีวิตที่ สอดคล้องกับ สิ่งที่ท่านนบีใช้ ก่อนที่ท่านจะจากเราไปคือซึ่งท่านกล่าวว่า ..หลังจากฉันจากไปแล้ว...ทั้งหลายก็จะพบความขัดแย้งมากมาย....และฉันจะทิ้งสิ่งทั้งสองไว้ คือ อัลกรอาน และซุนนะชของฉัน....เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่หลงทาง.........และจงปฏิบัติมัน.....บุคอรี..
แต่บางอย่างที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับศาสนาโดยตรง กับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจุบันหรืออดีตก็ตาม โดยบางครั้งไม่มีในสมัยท่านนบี ...บรรดาผู้รู้เหล่านั้นก็ต่างค้นคว้าและสืบเสาะ จากการกระทำของบรรดาซอฮาบะที่ดี จากตาบีอีน จากตาบีอีตตาบีอีน หรือ จากบุคลที่ชาวสลัฟที่ดี
...ในการแก้ปัญหาศาสนาของพระองค์เกิดทางตัน.จนไม่สามารถแก้ไขได้..
จะเห็นว่าจากบรรดาเจ้าของทัศนะที่กล่าวมาแล้วนั้นล้วนไม่ได้คิดหรือสร้างเหตุผลขึ้นมาเองเลย แต่ตรงกันข้าม พวกเขารอบคอบในการค้นคว้าและวินิจฉัย...
เช่น สิ่งใดที่ไม่มีจากอัลกรุอ่าน พวกเขาก็ค้นหาจากอัลฮาดิสหรือซุนนะของท่านฉนั้นการที่นักมุฮาดีษีนทำการวิจัยฮาดีสนั้นถึงว่าเขามากด้วยความพยายามที่จะค้นหาความจริงกับศาสนาของพระองค์ด้วยความอิคลาสใจ...
ตัวอย่าง
ท่านอีหม่ามชาฟีอี(รฮ)เมื่อ ท่านพบปัญหาสักอย่างที่ไม่สามารถค้นหามาจากอกีตาบุลลออ์และซุนนะบีได้แล้ว สิ่งที่ท่านทำต่อไปคือ..อิจมะฮ์มุตาญิด...แต่ถ้าไม่มีสิ่งนั้นท่านก็จะใช้หลักการเปรียบเทียบ..(กิยาส) ว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ท่านอีหม่ามฮัมบาลี (รฮ)ก็เช่นกัน สิ่งใดที่ไม่มีพบจากกีตาบุลลออ์และซุนนะบี ท่านก็จะเอาคำฟัตวาของสาวกนบี ถัดจากสองสิ่งนั้น รองลงมาคือ ฮาดีสมุรซาลและฮาดีสดออีฟ.และถัดมาคือ การกิยาส..
เราจะพบว่า...ถ้าสิ่งใดที่ไม่ปรากฏข้อห้ามข้อใช้ อย่างชัดเจน แล้ว ท่านเหล่านั้นจะทิ้งปัญหานั้นให้พ้นไปโดยให้ผ่านมาถึงมือเราเลย แต่ทุกอย่าง ต้องได้รับการตรวจสอบและค้นคว้าเสมอ
...
--- End quote ---
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version