เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์

<< < (10/39) > >>

คนอยากรู้:
:lol:
เป็นที่รู้ว่า พวกวะฮาบีย์นั้นพอพูดถึงบิดอะแล้ว พวกเขามักอ้างถึงสิ่งที่อุลามะบางท่านพูดไว้ ซึ่งวะฮาบีย์เข้าใจไปเองว่า อุลามะที่เขายกมาอ้างนั้นมีความเข้าใจแบบเดียวกับยพวกเขา

ตัวอย่างหนึ่งที่วะฮาบีย์มักจะหมกเม็ดต่อท่าน ท่านอิบนิกะษีร ที่ท่านกล่าวว่า

بَدِيعُ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ وَإِذَا قَضَى أَمْرًا فَإِنَّمَا يَقُولُ لَهُ كُنْ فَيَكُونُ
سورة البقرة/117

โดยท่านกล่าวว่า

وَالْبِدْعَة عَلَى قِسْمَيْنِ تَارَة تَكُون بِدْعَة شَرْعِيَّة كَقَوْلِهِ " فَإِنَّ كُلّ مُحْدَثَة بِدْعَة وَكُلّ بِدْعَة ضَلَالَة" وَتَارَة تَكُون بِدْعَة لُغَوِيَّة كَقَوْلِ أَمِير الْمُؤْمِنِينَ عُمَر بْن الْخَطَّاب عَنْ جَمْعه إِيَّاهُمْ عَلَى صَلَاة التَّرَاوِيح وَاسْتِمْرَارهمْ : نِعْمَتْ الْبِدْعَةُ هَذِهِ

และบิดอะฮนั้น แบ่งออกเป็น สองประเภท บางที่ก็เป็นบิดอะฮชัรอียะฮ(บิดอะที่เลว) และบางที ก็เป็นบิดอะฮที่ดี  เช่น คำพูดของผู้นำแห่งบรรดาผู้ศรัทธา อุมัร บุตร อัลคอฏฏอ็บ เกี่ยกับการที่ท่านได้รวมผู้คนให้ละหมาดตะรอเวียะ20รอกาอัต  ให้อยู่ภายใต้การนำของอิหม่ามคนเดียวกัน) และ ให้พวกเขาดำเนินการ ต่อไป ว่า ? นี้คือ บิดอะฮที่ดี? - ดูตัฟสีรอิบนิกะษีร อธิบาย

--จากคำพูดข้างบนนั้น  วะฮาบีย์เขาหารู้ไม่ว่า   คำพูดของท่านอิบนิกกะษีรถูกยกมาอ้างนั้น..จริงๆแล้ว

ท่านเองไม่ได้เหมารวมว่า บิดอะมีอย่างเดียวหรือกล่าวว่า..ทุกบิดอะคือการหลงผิด อย่างที่วะฮาบีย์เข้าใจและยกฮาดิสของท่านนบีมาอ้าง  ก็หาเป็เช่นนั้นไม่..

ฉนั้นบางครั้ง วะฮาบีย์จึงมักแบ่งกันเองว่าบิดอะ นั้นมี 2ประเภท
เช่นกัน
1.บิดอะศาสนาและบิดอะดุนยา...ทั้งที่ฮาดิสข้างบนของท่านนบีมี่พวกเขามักยกมาอ้างนั้น หมายถึงบิดอะมีอย่างเดียวเท่านั้น...จึงไม่เข้าใจว่า วะฮาบีย์นั้นกำลังพูดอะไรกับเราเรื่องบิดอะ

ก็ในเมื่อ ท่าน อุมัร (รด) ท่านอิบนุกะษีร ท่านอิม่ามชาฟีอี ยอมรับว่าบิดอะนั้นมีสองประเภท...

แล้วไฉน อุตริกรรมทางความคิดแบบฉบับบของวะฮาบีย์จึงพึ่งเริ่มมี..ในยุคหลังๆๆ

บิดอะฮ์นี้  เท่าที่ผมติดตามการเสวนา เราจะพบว่า  บิดอะฮ์เชิงภาษานั้น  มี 2 ประเภท  คือ
1.บิดอะฮ์เชิงภาษาที่สอดคล้องกับตัวบทอัลกุรอาน  ซุนนะฮ์  อิจญมาอ์ และคำพูดของซอฮาบะฮ์   เป็นบิดอะฮ์เชิงภาษาที่ดี ถูกสรรเสริญ หรือเรียกอย่างว่าเป็นบิดอะฮ์ที่ดี

2. บิดอะฮ์เชิงภาษาที่ขัดกับอัลกุรอาน ซุนนะฮ์ อิจญมาอ์ และคำพูดของซอฮาบะฮ์  คือเป็นบิดอะฮ์เชิงภาษาที่ถูกตำหนิ  ลุ่มหลง

และสิ่งดังกล่าวนี้ทัศนะดังกล่าวนี้   ก็มาจากคำกล่าวของท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ (รฮ)ที่ได้อ้างหลักฐานมาจากคำกล่าวของซอฮาบะฮ์ ..คือท่านอุมัร(รด)นั้นเอง..

ubaid:
ท่านอบูหาติมได้กล่าวว่า

وعلامة الجهمية تسميتهم أهل السنة مشبهة

และสัญลักษ์ของพวกญะฮฺมียยะฮฺคือการเรียกชื่ออะฮฺลุสสุนนะฮฺว่า (มุชับบิฮะฮฺ)

(ดู อัลอุลูวฺ หน้า139  และ ชัรหฺ อุศูลุลอิอฺติกอด อะลิสุนนะฮฺ เล่มที่2 หน้า 179)

ubaid:
มันเป็นเรื่องที่อธรรมที่สุด การที่ใครบ้างคนกุคำพูดหนึ่งหรือทัศนะหนึ่ง แล้วพาดพิงคำพูดนั้นหรือทัศนะนั้นถึงคนๆหนึ่ง ทั้งๆที่เขาไม่ได้กล่าวหรือยึดถือแต่ประการใด หนึ่งในคำพูดที่อุปโลกขึ้นนั้นคือ

1. การกล่าวว่าพวกวะหะบีย์ (ศัพย์ที่บางคนพาดพิงถึงบางกลุ่ม ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้ยอมรับแต่ประการใด) ว่า พวกเขานั้น ((ไม่ยอมรับทัศนะจากผู้รู้ทั้ง4 ))
ทั้งๆ ที่จริงแล้ว พวกเขายอมรับทัศนะของอุละมาอฺทั้งสี่ และอุละมาอฺอื่นๆก่อนหน้าท่านและหลังจากท่าน เพราะความรู้ศาสนาจะถ่ายทอดสู่ชนรุ่นหลังได้อย่างไร หากไม่มีพวกท่านเหล่านั้น ที่จริงแล้วพวกเขาไม่ยึดติดกับมัซฮับทั้งสี่หรือยึดติดกับอุละมาอฺคนใดคนหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่ไม่ยอมรับทัศนะของพวกท่าน เพราะท่านนบีให้ปฏิบัติตามท่าน ไม่ใช่ให้ปฏิบัติตามมัซฮับใดมัซฮับหนึ่ง มัซฮํบใดพ้องกับซุนนะฮฺของท่านนบีในปัญหาหนึ่งๆ เราก็ปฏิบัติตามมัซฮับนั้น
ส่วนการกล่าวคำพูดเช่นนั้นลอยๆโดยไม่มีหลักฐาน ไม่ว่าจะกล่าวขึ้นมาเอง หรือตักลีดเขามา เช่นนี้จะเรียกว่าอย่างๆไร

2. การกล่าวว่าพวกวะหะบีย์หรือแนวคิดของอิบนุตัยมียยะฮฺ คือแนวคิดของ มุชับบิฮะฮฺ หรือ มุชัสสิมะฮฺ นี้ก็แล้วไปใหญ่
กล่าวขึ้นมาลอย โดยไม่มีหลักฐาน การที่พวกเขายอมรับว่าอัลลอฮฺมีพระหัตถ์ มันก็ไม่จำเป็นว่าพระหัตถ์ของอัลลอฮฺจะต้องเหมือนกับพระหัตถ์ของท่าน ๆ แต่ทว่าพวกเขายอมรับว่าพระองค์มีพระหัตถ์ แต่พระหัตถ์ของพระองค์ไม่เหมือนกับมัคลูก ไม่มีการเปรียบเทียบ
ดังจะเห็นได้จากคำกล่าวของท่านอิบนุตัยมิยะฮฺเอง ในหนังสือของท่านหลายๆเล่มเช่นในหนังสือ อัตตัดมุรียยะฮฺ มีอยู่บทหนึ่งท่านจะตอบโต้ของพวกมุชัสสิมะฮฺและมุชับบิฮะฮ (อัตตัดมุรียยะฮฺ หน้า 35,มักตะบะฮฺ อัลอุบัยกาน)
และท่านกล่าวในตอนหนึ่งว่า ((และแนวทางของพวกเขา(สลัฟ) รวมถึงการยอมรับในพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮฺ พร้อมกับปฏิเสธการเหมือนกับมัคลูก และยอมรับโดยไม่มีการเปรียบเทียบ .... )) (อัตตัดมุรียยะฮฺ หน้า 8 )

ท่านอบูหาติมได้กล่าวว่า

وعلامة الجهمية تسميتهم أهل السنة مشبهة

และสัญลักษ์ของพวกญะฮฺมียยะฮฺคือการเรียกชื่ออะฮฺลุสสุนนะฮฺว่า (มุชับบิฮะฮฺ)

(ดู อัลอุลูวฺ หน้า139 และ ชัรหฺ อุศูลุลอิอฺติกอด อะลิสุนนะฮฺ เล่มที่2 หน้า 179)

ubaid:
มันเป็นเรื่องที่อธรรมที่สุด การที่ใครบ้างคนกุคำพูดหนึ่งหรือทัศนะหนึ่ง แล้วพาดพิงคำพูดนั้นหรือทัศนะนั้นถึงคนๆหนึ่ง ทั้งๆที่เขาไม่ได้กล่าวหรือยึดถือแต่ประการใด หนึ่งในคำพูดที่อุปโลกขึ้นนั้นคือ

1. การกล่าวว่าพวกวะหะบีย์ (ศัพย์ที่บางคนพาดพิงถึงบางกลุ่ม ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้ยอมรับแต่ประการใด) ว่า พวกเขานั้น ((ไม่ยอมรับทัศนะจากผู้รู้ทั้ง4 ))
ทั้งๆ ที่จริงแล้ว พวกเขายอมรับทัศนะของอุละมาอฺทั้งสี่ และอุละมาอฺอื่นๆก่อนหน้าท่านและหลังจากท่าน เพราะความรู้ศาสนาจะถ่ายทอดสู่ชนรุ่นหลังได้อย่างไร หากไม่มีพวกท่านเหล่านั้น ที่จริงแล้วพวกเขาไม่ยึดติดกับมัซฮับทั้งสี่หรือยึดติดกับอุละมาอฺคนใดคนหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่ไม่ยอมรับทัศนะของพวกท่าน เพราะท่านนบีให้ปฏิบัติตามท่าน ไม่ใช่ให้ปฏิบัติตามมัซฮับใดมัซฮับหนึ่ง มัซฮํบใดพ้องกับซุนนะฮฺของท่านนบีในปัญหาหนึ่งๆ เราก็ปฏิบัติตามมัซฮับนั้น
ส่วนการกล่าวคำพูดเช่นนั้นลอยๆโดยไม่มีหลักฐาน ไม่ว่าจะกล่าวขึ้นมาเอง หรือตักลีดเขามา เช่นนี้จะเรียกว่าอย่างๆไร

2. การกล่าวว่าพวกวะหะบีย์หรือแนวคิดของอิบนุตัยมียยะฮฺ คือแนวคิดของ มุชับบิฮะฮฺ หรือ มุชัสสิมะฮฺ นี้ก็แล้วไปใหญ่
กล่าวขึ้นมาลอย โดยไม่มีหลักฐาน การที่พวกเขายอมรับว่าอัลลอฮฺมีพระหัตถ์ มันก็ไม่จำเป็นว่าพระหัตถ์ของอัลลอฮฺจะต้องเหมือนกับพระหัตถ์ของท่าน ๆ แต่ทว่าพวกเขายอมรับว่าพระองค์มีพระหัตถ์ แต่พระหัตถ์ของพระองค์ไม่เหมือนกับมัคลูก ไม่มีการเปรียบเทียบ
ดังจะเห็นได้จากคำกล่าวของท่านอิบนุตัยมิยะฮฺเอง ในหนังสือของท่านหลายๆเล่มเช่นในหนังสือ อัตตัดมุรียยะฮฺ มีอยู่บทหนึ่งท่านจะตอบโต้ของพวกมุชัสสิมะฮฺและมุชับบิฮะฮ (อัตตัดมุรียยะฮฺ หน้า 35,มักตะบะฮฺ อัลอุบัยกาน)
และท่านกล่าวในตอนหนึ่งว่า ((และแนวทางของพวกเขา(สลัฟ) รวมถึงการยอมรับในพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮฺ พร้อมกับปฏิเสธการเหมือนกับมัคลูก และยอมรับโดยไม่มีการเปรียบเทียบ .... )) (อัตตัดมุรียยะฮฺ หน้า 8 )

ท่านอบูหาติมได้กล่าวว่า

وعلامة الجهمية تسميتهم أهل السنة مشبهة

และสัญลักษ์ของพวกญะฮฺมียยะฮฺคือการเรียกชื่ออะฮฺลุสสุนนะฮฺว่า (มุชับบิฮะฮฺ)

(ดู อัลอุลูวฺ หน้า139 และ ชัรหฺ อุศูลุลอิอฺติกอด อะลิสุนนะฮฺ เล่มที่2 หน้า 179)

ubaid:
การที่อุละมาอฺแบ่งบิดอะฮฺออกเป็นสองหรือห้าประเภทนั้น พวกทางแบ่งในเชิงภาษาของคำว่าบิดอะฮฺ ดังที่ท่านอิบนุเราะญับ ได้กล่าวว่า
وأما ما وقع في كلام السلف من استحسان بعض البدع  فإنما ذلك في البدع اللغوية لا الشرعية
(( และส่วนคำพูดของสลัฟที่เห็นว่าบางบิดอะฮฺนั้นเป็นสิ่งที่ดี แท้จริงแล้วมันคือบิดอะฮฺเชิงภาษาไม่ใช่ทางศาสนะบัญญัติ ))
(ดู ญามิอุลูม วัลหิกัม หน้า 277)

ดังนั้นหะดีษของท่านนบีที่ว่า ทุกๆบิดอะฮฺคือสิ่งท่หลงผิด หมายถึง บิดอะฮฺตามความหมายของศาสนบัญญัติ ส่วนการแบ่งบิดอะฮฺออกเป็นประเภทต่างๆนั้น พวกท่านแบ่งตามความหมายเชิงภาษา

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version