เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม

บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์

<< < (12/39) > >>

al-azhary:

--- อ้างจาก: "ubaid" ---2. การกล่าวว่าพวกวะหะบีย์หรือแนวคิดของอิบนุตัยมียยะฮฺ คือแนวคิดของ มุชับบิฮะฮฺ หรือ มุชัสสิมะฮฺ นี้ก็แล้วไปใหญ่  กล่าวขึ้นมาลอย โดยไม่มีหลักฐาน การที่พวกเขายอมรับว่าอัลลอฮฺมีพระหัตถ์ มันก็ไม่จำเป็นว่าพระหัตถ์ของอัลลอฮฺจะต้องเหมือนกับพระหัตถ์ของท่าน ๆ แต่ทว่าพวกเขายอมรับว่าพระองค์มีพระหัตถ์ แต่พระหัตถ์ของพระองค์ไม่เหมือนกับมัคลูก ไม่มีการเปรียบเทียบดังจะเห็นได้จากคำกล่าวของท่านอิบนุตัยมิยะฮฺเอง ในหนังสือของท่านหลายๆเล่มเช่นในหนังสือ อัตตัดมุรียยะฮฺ มีอยู่บทหนึ่งท่านจะตอบโต้ของพวกมุชัสสิมะฮฺและมุชับบิฮะฮ (อัตตัดมุรียยะฮฺ หน้า 35,มักตะบะฮฺ อัลอุบัยกาน)  
--- End quote ---


หากคุณต้องการจะรู้หลักการต่าง ๆ ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์  ทำไมถึงไม่ถามเราล่ะครับ  ผมแนะนำไปคุณไปตั้งกระทู้กระดาน"ชี้แจงแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์"  เกี่ยวกับประเด็นของท่านอิบนุตัยมียะฮ์มาได้เลยครับ แล้วผมจะร่วมชี้แจงการหลักการต่าง ๆ ที่เป็นข้อเท็จจริง  ซึ่งบางครั้ง  คุณอาจจะได้รู้อะไรดี ๆ ถึงแนวทางวะฮาบีย์ที่คุณยึดอยู่  อินชาอัลเลาะฮ์

และทางที่ดี  ผมอยากให้คุณตั้งกระทู้ขึ้นมาในการวิจารณ์หนังสือ  อัตตัดมุรียะฮ์  ของท่านอิบนุตัยมียะฮ์  เป็นการเฉพาะ  แล้วเราจะร่วมสนทนาเปิดเผยหลักอากีดะฮ์ที่มีอยู่ในหนังสือ  อัตตัดมุรียะฮ์  ที่ตีพิมพ์จาก  อัลอุบัยกาน  อินชาอัลเลาะฮ์


--- อ้างจาก: "ubaid" ---และท่านกล่าวในตอนหนึ่งว่า ((และแนวทางของพวกเขา(สลัฟ) รวมถึงการยอมรับในพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮฺ พร้อมกับปฏิเสธการเหมือนกับมัคลูก และยอมรับโดยไม่มีการเปรียบเทียบ .... )) (อัตตัดมุรียยะฮฺ หน้า 8 )
--- End quote ---


แล้วหลักอากีดะฮ์ในหนังสืออัตตัดมุรียะฮ์  ที่วะฮาบีย์ยึดถืออยู่นั้น  มีแค่ หน้า 8 หรือครับ ?  เนื่องจากหน้าอื่น ๆ อีกมากมายที่มีอะกีดะฮ์ที่สู่ไปในหนทางของ อัลมุชับบิฮะฮ์และอัลมุญัสสิมะฮ์  และเป็นที่ทราบกันดีว่า  ท่านอิบนุตัยมียะฮ์มักจะพาดพิงทัศนะของตนไปยังสะลัฟ  ทั้งที่พวกเขาไม่เกี่ยวข้องด้วยเลยแม้แต่น้อย วัลลอฮุอะลัม

al-azhary:

--- อ้างจาก: "ubaid" ---ท่านอบูหาติมได้กล่าวว่า

وعلامة الجهمية تسميتهم أهل السنة مشبهة

และสัญลักษ์ของพวกญะฮฺมียยะฮฺคือการเรียกชื่ออะฮฺลุสสุนนะฮฺว่า (มุชับบิฮะฮฺ)

(ดู อัลอุลูวฺ หน้า139  และ ชัรหฺ อุศูลุลอิอฺติกอด อะลิสุนนะฮฺ เล่มที่2 หน้า 179)
--- End quote ---


คุณ ubaid ครับ  ผมไม่ทราบว่า  สิ่งที่คุณอ้างมานั้น  ไปก๊อบมาจากโกเกิ้ล หรือว่า ไปดูมาจากหนังสือต้นฉบับจริง ๆ เนื่องจากสิ่งที่คุณอ้างมานั้น  มันไม่ตรงกับคำกล่าวกุและอ้างที่พาดพิงไปยังท่านอบูหาติม(ร.ฮ.)  สิ่งที่คุณกล่าวอ้างมานั้น  ถือว่าเป็นการกุและไส่ไคล้ท่านอบูหาติม  หากเรากลับไปดูหนังสือ  อัลอุลูว์  เราจะพบว่า  ผู้ที่รายงานคำพูดของท่านอบูหาติมนั้น คือ อัลลาลิกาอีย์  ซึ่งในหนังสือ อัลอุลูว์ ดังกล่าว ได้ระบุผู้รายงานไว้ว่า

قال الحافظ أبو القاسم الطبرى : وجدت فى كتاب أبى حاتم ............... علامة الجهمية : أن يسموا أهل السنة مشبهة

1. อบูกอซิม  ท่านนี้  คือ  อัลลาลิกาอีย์  ซึ่งไม่เคยเจอกับท่านอบูหาติมและเขาไม่ได้รายงานจากท่านอบูหาติมโดยตรง  ดังนั้น  สายรายงานนี้ถือว่า ขาดตอน منقطع

2. อัลลาลิกาอีย์ อ้างว่าไปพบมาจากหนังสือของท่านอบูหาติม เราจึงไม่ทราบว่าไปพบมาจากหนังสือเล่มใหน ? แต่หากเป็นหนังสือ "อัรร๊อด อัลญะฮ์มียะฮ์"  ย่อมไม่ใช่หนังสือของท่านอบูหาติมและท่านอบูหาติมก็ไม่ได้ประพันธ์หนังสือเล่มดังกล่าว  

และหนังสือดังกล่าว  ได้ถูกมือดีจากบางกลุ่มของหะนาบิละฮ์ ที่กลุ่มวะฮาบีย์ปัจจุบันได้เจริญรอยตาม ทำการเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงข้อความให้เข้ากับความต้องการของตนเพื่อต่อต้านกับผู้กับเห็นด้วยกับตน  โดยทำการกุแล้วอ้างอิงไปยังท่านอบูหาติม  ดังนั้น  การกล่าวอ้างคำพูดถึงท่านอบูหาติมนั้น  จึงฟังไม่ขึ้นและท่านอบูหาติมย่อมไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งดังกล่าว

และกลุ่มอัลญะฮ์มียะฮ์และกลุ่มอัลมุชับบิฮะฮ์ นั้น  เราอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอิชาอิเราะฮ์  ก็ทำการคัดค้านพวกเขาอยู่แล้ว  แต่ทั้งกลุ่มของอัลญะฮ์มียะฮ์และอัลมุชับบิฮะฮ์  ก็มักอ้างว่าแนวทางของตนคือ อะฮ์ลิสซุนนะฮ์ ??!! เหมือนกับที่วะฮาบีย์พยายามอ้างตนว่า เป็นอะฮ์ลิสซุนนะฮ์  ดังนั้น  การกล่าวอ้าง  ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกครับ แม้ชีอะฮ์ยังกล่าวอ้างตนเองว่าคืออะฮ์ลิสซุนนะฮ์เลยครับ แต่อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ คือผู้ที่ปกป้องและแบกรับหลักการของศาสนา คุณอย่าคิดว่าน่ะว่า นักปราชญ์อัลอิชาอิเราะฮ์และอัลมุตูริดียะฮ์ อันมากมาย คือผู้ที่ไม่ได้แบกรับหลักการจากสะละฟุศศอลิหฺ   วัลลอฮุอะลัม

ubaid:
คุณ ubaid ครับ ผมไม่ทราบว่า สิ่งที่คุณอ้างมานั้น ไปก๊อบมาจากโกเกิ้ล หรือว่า ไปดูมาจากหนังสือต้นฉบับจริง ๆ
*****
ท่านครับผมว่าท่านอย่าเดาเลยดีกว่าครับ ผมพอจะมีจรรยาบรร   ผมไม่ได้ก็อปและไม่ได้แปลจากหนังสือหรือเว็ปไหนๆ เพราะการก็อปและการแปลจากเว็ปอื่นหรือหนังสืออื่นโดยไม่ได้ระบุว่าตัวเองแปลมา ถือว่าเป็นนักค้นคว้าที่ไม่มีอะมานะฮฺในการค้นคว้า
--------------------------------------------------------
เนื่องจากสิ่งที่คุณอ้างมานั้น มันไม่ตรงกับคำกล่าวกุและอ้างที่พาดพิงไปยังท่านอบูหาติม(ร.ฮ.) สิ่งที่คุณกล่าวอ้างมานั้น ถือว่าเป็นการกุและไส่ไคล้ท่านอบูหาติม หากเรากลับไปดูหนังสือ อัลอุลูว์ เราจะพบว่า ผู้ที่รายงานคำพูดของท่านอบูหาติมนั้น คือ อัลลาลิกาอีย์ ซึ่งในหนังสือ อัลอุลูว์ ดังกล่าว ได้ระบุผู้รายงานไว้ว่า

قال الحافظ أبو القاسم الطبرى : وجدت فى كتاب أبى حاتم ............... علامة الجهمية : أن يسموا أهل السنة مشبهة

1. อบูกอซิม ท่านนี้ คือ อัลลาลิกาอีย์ ซึ่งไม่เคยเจอกับท่านอบูหาติมและเขาไม่ได้รายงานจากท่านอบูหาติมโดยตรง ดังนั้น สายรายงานนี้ถือว่า ขาดตอน منقطع

2. อัลลาลิกาอีย์ อ้างว่าไปพบมาจากหนังสือของท่านอบูหาติม เราจึงไม่ทราบว่าไปพบมาจากหนังสือเล่มใหน ? แต่หากเป็นหนังสือ "อัรร๊อด อัลญะฮ์มียะฮ์" ย่อมไม่ใช่หนังสือของท่านอบูหาติมและท่านอบูหาติมก็ไม่ได้ประพันธ์หนังสือเล่มดังกล่าว
*****
มันจะไม่รุนแรงเกินไปหรือเปล่าหรือครับที่ว่าเป็นการกล่าวกุขึ้นมา คุณก็รู้อยู่ว่าคำพูดของอบูหาติมนั้นท่านอัซซะหะบีย์นำมาอ้างในหนังสือของท่าน และอัลลาละกาอีย์ก็นำมาอ้างในหนังสือของท่านเช่นกัน ดังนั้นถ้าผมจะกุขึ้นมา ผมก็คงจะกุตามอัซซะฮะบีและอัลละกาอีย์ ส่วนถ้าหากท่านเห็นว่าคำพูดดังกล่าวไม่ใช่คำพูดของท่านอบูหาติม ผมคิดว่าก็ไม่ควรที่จะกล่าวว่าเป็นการกุคำกล่าวขึ้น เพราะไงๆท่านอัซซะบีย์ก็นำมากล่าวอ้าง ถ้ามันเป็นการกุขึ้นมาแล้วไซร้ ก็เท่ากับว่าท่านอัซซะหะบีย์ร่วมกันเผยแพร่คำเท็จถึงท่านอบูหาติม หรือถ้าหากท่านเห็นว่าหนังสืออัลอุลูวฺเป็นหนังสือของพวกวะฮฺหะบีแต่งขึ้นมาแล้วพาดพิงว่าเป็นหนังสือของอัซซะหะบี อันนี้ก็คืออีกประเด็นหนึ่งต่างหาก
ที่นี้ลองมาดูคำพูดของอัซซะหะบีอย่างเต็มๆ ท่านอัซซะหะบีย์กล่าวในหนังสืออัลอุลูวฺว่า
قال الحافظ أبو القاسم الطبري وجدت في كتاب أبي حاتم محمد بن إدريس بن المنذر الحنظلي -مما سمع منه- يقول......
ท่านอัลหาฟิซอบุลกอซิมอัฏเฏาะบะรีย์ได้กล่าวว่า ฉันได้พบในหนังสือของท่านอบูหาติม มุหัมมัด อิบนุ อัลมุนซิร อัลหันเซาะลี ? ซึ่งสิ่งที่เขาได้ยินจากท่าน- ท่านได้กล่าวว่า
ตามความเข้าใจอันน้อยนิดของผม ผมเข้าใจว่าคำพูดที่ว่า ?ซึ่งสิ่งที่เขาได้ยินจากท่าน? เป็นญุมละฮฺ อิอฺติรอฎียยะฮฺ ที่กล่าวโดยอัซซะหะบีย์ ซึ่งมีความหมายว่า หนังสือของอบูหาติมที่ท่านอัลละกาอีย์พบนั้น ท่านได้ยินจากท่าน ...แล้วท่านจะได้ยินจากท่านอบูหาติมได้ไง ? มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่อุละมาอฺจะมีสายงานถึงเจ้าของหนังสือ อย่างกับที่ท่านอิบนุหะญัร ท่านก็มีสายรายงานของท่านถึงอิหม่ามอัลบุคอรีย์ในหนังเศาะหี้หของท่าน
ที่นี้ลองมาดูในหนังสือของอัลลาละกาอีย์เอง ท่านกล่าวว่า
      ذكره عبد الرحمن قال سمعت ابي يقول علامة الجهمية تسميتهم أهل السنة مشبهة
และท่านก็ได้อ้างคำพูดแบบนี้ถึงอุละมาอฺคนอื่นด้วยไม่ใช่เฉพาะอบูหาติม
ومن قال لفظي بالقرآن مخلوق فهو جهمي أو القرآن بلفظي مخلوق فهو جهمي قال أبو محمد وسمعت أبي يقول وعلامة أهل البدع الوقيعة في أهل الأثر وعلامة الزنادقة تسميتهم أهل السنة حشوية يريدون إبطال الآثار وعلامة الجهمية تسميتهم أهل السنة مشهبة

وكذلك قول الأوزاعي ايضا وعلامة أهل البدع الوقيعة في أهل الأثر وعلامة الجهمية أن يسموا أهل السنة مشبهة
นี้คือพยานหลักฐานต่างๆ ที่ผมสามารถหามาได้ ที่ยกมานี้ก็ไม่ใช่เพื่ออะไร เพียงแค่อยากให้ระมัดระวังในการใช้คำพูด

ส่วนที่ท่านไม่ยอมรับว่าหนังสือ อัรร็อด อะลัล ญะฮฺมียะฮฺ เป็นงานเขียนของอบูหาติม หากแต่มันเป็นหนังสือที่วะฮฺหะบีกุขึ้นลัวมาอ้างว่าอบูหาติมเป็นคนแต่ง????????
ไม่เฉพาะหนังสือเล่มนี้ แต่มีหนังสืออีกหลายๆเล่ม ที่เนื้อหาไม่ถูกเนื้อต้องใจกับทัศนะของตน ก็เลยกล่าวหาไปว่า เป็นหนังสือที่วะฮฺหะบีย์กุขึ้นมา งั้นผมขอคำชี้แจงและหลักฐานประเด็นนี้ด้วย
قل ها توا برهانكم إن كنتم صادقين

คนอยากรู้:
จริงๆแล้วผมไม่อยากต่อความยาวสาวตความยืดกับ วะฮาบีย์สลัฟพันะเทียมหรอกครับ  แต่เมื่ออ่านข้อความข้างล่างนี้แล้ว มันสะกิดใจนะครับ

คุณ ubaidกล่าวว่า..

การกล่าวว่าพวกวะหะบีย์ (ศัพย์ที่บางคนพาดพิงถึงบางกลุ่ม ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้ยอมรับแต่ประการใด) ว่า พวกเขานั้น ((ไม่ยอมรับทัศนะจากผู้รู้ทั้ง4 ))
ทั้งๆ ที่จริงแล้ว พวกเขายอมรับทัศนะของอุละมาอฺทั้งสี่ และอุละมาอฺอื่นๆก่อนหน้าท่านและหลังจากท่าน เพราะความรู้ศาสนาจะถ่ายทอดสู่ชนรุ่นหลังได้อย่างไร หากไม่มีพวกท่านเหล่านั้น ..

..วิจารณ์ คุณubaid..

ที่เราเรียก คุณว่าวะฮาบีย์นั้น คุณก็ไม่ชอบ..และจะให้เราเรียกท่านว่า อะไรหรือครับ.คุณubaid
..ก็ใครๆเขารู้ว่า พวกคุณ เดินตามทัศนะ ของท่านมุฮำมัด บินอับุลวะฮาบหรือที่เรียก ว่า วะฮาบียะ และทำไมคุณถึงไม่ภูมิใจในคำๆนี้เลยครับคุณubaid
..ผู้รู้หรืออุลามะของทัศนะวะฮาบี นั้นส่วนมากก็มีแนวความคิดเหมือนๆกัน  ไม่ว่าท่านย อิบนุตัยมียะ ท่านอิบนุกอยยิม ท่านอัลบานีย์ ท่านอัลอุษัยมี
ท่านอัลมะซุมีย์ ท่านเชคบิมบาสฯลฯ..

--เรื่องอะกีดะ ขิองแนวทางที่คุณยึดถือก็ไม่เหมือนใคร และก็ไม่เหมือนแนวทางอาชาอิเราะและมัสหับทั้ง 4 ..การตะวีลความหมายอัลกรอานบางโองการที่เป็นนัยยะ ทัศนะของคุณก็บอกว่าเป็นบิดอะกระทำไม่ได้และอีกหลายๆอย่างที่ทัศนะของคุณมีความเชื่อในเรื่องนี้ไม่เหมือนชนในอดีต
แล้วคุณจะให้เราเรียกคุณเป็นแนวทางใดละครับคุณubaid..

เรื่อง หลักการของฟิกฮ์..ก็ไม่เหมือน จากแนวทางของมัสหับทั้งสี่ในอดีต..
ทัศนะของคุณ ยึดในตัวบทฮาดิสที่เป็นชารีอัตของท่านนบี ที่เห็นว่ามันซอเหียะ เท่านั้น  และ ตัวบทใดที่เป็นดออีฟ จะละทิ้งมัน   ทั้งๆที่มันเป็นชารีอัตของท่านบีเช่นกัน..เพียงแต่แตกต่าง เพียงสายรายงานที่ได้มาที่มันขึ้นอยู่ที่การค้นคว้าหรือสืบเสาะและวินิจฉัยของนักฮาดิสเท่านั้น
ซึ่งคุณค่าและแหล่งที่มานั้นก็มาจากท่านนบีเช่นกัน ของฮาดิส .แต่ทัศนะวะฮาบีย์ของคุณนั้น จะเอามันทิ้งลงตะกร้าไปเลย..


..ฉนั้น คุณubaid..คงจะเปิดใจสิ่งที่เรานำมาบอกกล่าวบ้างงว่า เรานั้น ศรัทธาต่ออัลลออ์และร้อซุ้ลเสมอ  และอย่าได้เอาพระองค์มาเทียบเคียงกับมัคโลคต่างๆ และอย่าได้เอาบรรดานบี มาเทียบเคียงกับมนุษย์ปถุชนธรรมดา ให้มัวหมองเลยครับคุณคุณ..ubaid..

คนอยากรู้:
[ที่คุณubaidกล่าวว่า..

..ที่จริงแล้วพวกเขาไม่ยึดติดกับมัซฮับทั้งสี่หรือยึดติดกับอุละมาอฺคนใดคนหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่ไม่ยอมรับทัศนะของพวกท่าน..

..วิจารณ์ คุณubaid..
..ที่คุณ..คุณubaid..บอกว่า ไม่ยึดติมัสหับ นั้น ผมขอค้านว่าไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย..ก็ปัจจุบันนี้ สิ่งทมี่คุณยึดถือและตามมันนั้น มันก็คือมัสหับที่คุณปฏิเสธนั้นแหละครับ..เช่น การยกคำพูดหรือคำอ้างของใครคนหนึ่ง เช่น จากท่านอิบนุตัยมียะ จากอัลบานีย์ฯลฯ มาหักล้างหรือตอบโต้กับ เราหรือผู้ที่อยู่อีกทัศนะหนึ่ง นั้น โดยหลัการตักลีดแล้ว ก็ถือ คุณว่าได้ตามในแนวทางหรือการวินิจฉัยของผู้ที่คุณได้ยกมาอ้างโดยอัติโนมัติแล้วครับ..คุณubaid..เพียงแต่คุณไม่รู้ตัวเองว่า สิ่งที่คุณยกมาอ้างนั้น มันเป็นทัศนะของพวกวะฮาบีย์.เขานั้นเอง..

-อีกอย่างบางเรื่องที่เจ้าของทัศนะเขาอิตญาดมุตะญิดหรืออิติมะอะกันแล้ว  
ทัศนะของคุณกลับไม่ยอมรับ เช่น
 การยกมืออ่านกุหนุตในละหมาดซุบฮิของมัสหับชาฟีอี..การแบ่งบิดอะเป็น2ประเภทที่ท่านอีม่ามชาฟีอี..
การจ่ายซากาติฟีตเราะด้วยเงิน และการกระดิกนิ้วระหว่างตะฮายุดของมัสหับฮานาฟี.
การเอาฮาดิสดออีฟในใช้ในบทบัญยัติของมัสหับฮัมบาลีฯลฯ..
การกล่าวอุศอลลี ที่อีม่ามนาวาวีย์ว่ากระทำได้..เป็นต้น...

..แล้วตรงไหนหรือครับที่คุณบอกว่า ..ไม่ใช่ไม่ยอมรับทัศนะของพวกท่านเหล่านั้น...ก็ที่ผมยกตัวอย่างคร่าวๆมานั้นวะฮาบีย์จะแช่เเข็งเรื่องนี้ตลอดมา..

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version