เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
คนอยากรู้:
คุณubaidครับที่เรายกมานั้นล้วนมีที่มาครับ
คุณกล่าวว่า..ที่ผมยกมานั้นก็ไม่ใช่เพื่ออะไรหรอกครับ เพียงแต่จะบอกว่า ที่บรรดาอุละมาอฺแบ่งมานั้นเขาแบ่งตามความหมายในเชิงในภาษา ซึ่งจะเห็นได้จากตัวอย่างที่พวกท่านยกมา
ส่วนที่ว่า เขาแบ่งตามบิดอะฮฺดุนยา อันนี้ผมก็เคยจะเพิ่งได้ยิน
ขอความกรุณาว่าวะฮิหะบีย์ท่านไหนมีทัศนะเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าเอาคำพูดของคนๆหนึ่งที่คิดว่าเขาเป็นวะฮฺหะบี แล้วเหมารวมว่า นี้คือทัศนะของวะฮฺหะบี
ข้างล่างนี้คือ..หลักฐานที่ผู้ที่อ้างว่ารู้ในทัศนะวะฮาบีย์เขาชอบยกมาอ้างครับ.
เขากล่าว่า..เรื่อง ศาสนา โดยรวมนั้น มีทั้งเรื่อง กิจการทางศาสนา (دينية )(บิดอะทางศาสนา) และ กิจการทางโลก(دنيوية ) (บิดอะทางดุนยา)ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตมนุษย์
เพราะฉะนั้น บิดอะฮก็แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. بدعة دنيوية (บิดอะฮดุนยะวียะฮ) หมายถึง การคิดสิ่งใหม่ขึ้นมา ขึ้นมาที่เกี่ยวกับกิจการทางโลก 1.1 หากเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ต่อสังคมมนุษย์ เรียกว่า บิดอะฮหะสะนะฮ.
1.2 และหากเป็นสิ่งที่ไม่ดี มีผลร้ายต่อบุคคลและสังคม เรียกว่า บิดอะฮสัยยิอะฮ - อุศูลุ้ลฟิกฮ ของ อุสตาซ อับดุลเกาะดีร หะซัน หน้า 176 (ภาษามาเลย์)
ในกิจการทางโลก(ทางดุนยา)นั้น เปิดกว้าง เพราะ ความหลากหลาย ในด้านเผ่าพันธุ์ และสภาพทางคมของมนุษย์นั้น เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เวลา เพราะฉะนั้น หลักการเกี่ยวกับศาสนาอิสลามในด้านทางโลก จึงมีกฎอยู่ว่า
ผมตัดต่อยกมาให้คร่าวๆครับดูหะดิษข้างล่างนี้ว่าวะฮาบีย์ของคุณนั้นเขามักจะอ้างุงฮาดิสนี้ประจำว่า
عن أنس؛ أن النبي صلى الله عليه وسلم مر بقوم يلقحون. فقال "لو لم تفعلوا لصلح" قال فخرج شيصا. فمر بهم فقال "ما لنخلكم؟ " قالوا: قلت كذا وكذا. قال "أنتم أعلم بأمر دنياكم
มีรายงานจากท่านอะนัสว่า ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้เดินผ่านชนกลุ่มหนึ่ง กำลังเพาะต้นอินทผาลัม(โดยการผสมเกสร) แล้วท่านนบีกล่าวว่า ?ถ้าท่านไม่ทำอย่างนั้น ก็จะดี (แล้วพวกเขาก็ทำตามที่ท่านบีแนะนำ) แล้วต้นอินทผาลัมก็ออกมาเสีย แล้วต่อมาท่านได้เดินผ่านพวกเขาอีก แล้วกล่าวถามขึ้นว่า ? ต้นอินทผาลัมของพวกท่าน เป็นอย่างไรบ้าง ? พวกเขาตอบว่า ?ก็ท่านบอกไว้อย่างนี้ อย่างนี้นะซิ (มันจึงเสีย) ท่านนบีก็กล่าวว่า ? พวกท่านรู้ในกิจการทางโลกของพวกท่านดีกว่าฉัน? - รายงานโดย มุสลิม บทที่ 13 บาบที่ 31 ................................................
..ท่านผู้รู้คนเดิมยังพูดต่อว่า นี้แหละครับ กิจการทางโลก(บิดอะทางดุนบยา) เราคิดค้นอะไรก็ได้ที่เป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ เช่น ผมทำส่วนยางพารา ผมไม่ต้องรอดูว่า แบบอย่าง(สุนนะฮ)นบี เป็นอย่างไร ท่านไม่ทำสวนยาง แล้วผมจะเอาแบบอย่างที่ใหน แบบนี้ ไม่มีคนปัญญาอ่อนที่ใหน เขาพูดกัน เพราะนี้คือ บิดอะฮดุนยะวียะฮ(บิดอะฮทางโลก)
...เมื่อผมยกมาให้คุณได้เห็นแล้ว คุณจะว่ายังไรต่อครับคุณubaid..
-------------------------------------------------------------
จากนั้นท่านผู้รู้ในทัศนะเดียวกับคุณubaid ยังกล่าวต่อพร้อมยกตัวอย่างมาอ้างว่า..
2. بدعة دينية (บิดอะฮในทางศาสนา) หมายถึง นิยามที่ระบุข้างล่างนี้
โดยแอบอ้างสิ่งที่ท่าน อิหม่ามอัชชาฏิบีย์กล่าวว่า
البدعة: طريقة في الدين مخترعة، تضاهي الشرعية، يقصد بالسلوك عليها ما يقصد بالطريقة الشرعية
บิดอะฮคือ แนวทางในเรื่อง ศาสนา ซึ่งถูกอุตริขึ้นมาใหม่ เลียนแบบศาสนบัญญัติ โดยมีจุดมุ่งหมายในการปฏิบัติ เหมือนกับจุดมุ่งหมายตาม..ฯลฯ..
----------------------------------------------------------
---คุณubaid นี้คือหลักฐานที่ที่ผมยกมาว่า วะฮาบีย์นั้น เขาแบ่งบิดอะออกเป็น2จริงๆ คือบิดอะศาสนาและบิดอะดุนยา ตามที่ยกมาแล้วครับ
ubaid:
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
เช่นกันครับ
ก่อนอื่นผมอยากบอกว่า ผมรักคุณเพื่ออัลลอฮฺ
ได้มีรายงานจากท่านนบีว่า ท่านได้กล่าวว่า เมื่อท่านรักพี่น้องของท่าน ท่านก็จงบอกเขา ว่าท่านนั้นรักเขา
แต่สิ่งที่ผมอยากแนะนำคือ
การสนทนาไม่ควรใช้ถ้อยคำที่ดูแคลน ดูถูก และรุนแรง เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร เรื่องนี้ นักศึกษาย่อมรู้ดีทุกคน แต่บางคน(ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใครจะวะหะบี หรือ ไม่วะหะบีย์) มักไม่ค่อยมีมารยาทในการสนทนาและแสดงทัศนะ
ความคิดที่แตกต่างไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ที่ผิดและหะรอมคือความขัดแย้งความเป็นพี่น้อง
ผมบอกจากใจจริงว่า ผมชอบท่านในความอิริยะอุตสาหะ แต่ถ้าหากใช้ถ้อยคำที่นุ่มนวลก็จะเป็นการดีใหญ่ ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมาแบบรุนแรงก็ตาม
ادفع بالتي هي أحسن
ทั้งนี้ที่ชี้แนะมานี้ก็เพื่อตัวผมเองด้วย ถ้าผมหยาบคายประการใด ก็ขอมอัฟ ไว้ ณ ตรงนี้ด้วย
คนอยากรู้:
السلام عليكم ورحمة الله وربكاته
คุณคุณubaid ครับผมยินดีที่ได้ร่วมสนทนากับคุณครับ[/quote]..
แต่ยังไงก็สนทนากับคุณอัลอัชฮารีย์พลางๆก่อนนะครับ.เสร็จธุระแล้วผมจะเข้ามาดูครับ
วัสลาม
al-azhary:
อ้างอิงจากคุณubaid
เอาเป็นกระทู้ต่างหากก็ยิ่งดีครับ
งั้น ผมจะไปตั้งกระทู้ให้คุณเองที่กระดาน"เสวนาชี้แจงแนวาทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์" ซึ่งการเสวนาจะเป็นไปด้วยเราเพียงสองคนเป็นหลัก เพื่อการสนทนาจะเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อผมจะได้รับความรู้และปรับทัศนะอันนี้ที่มีอยู่ในหนังสือ อัตตัดมุรียะฮ์ ด้วยการชี้แจงของคุณอินชาอัลเลาะฮ์
หนังสือเล่มดังกล่าว ความจริงก็ไม่หนาอะไร แต่ผู้ที่อธิบายและวิจารณ์นั้น ได้กล่าวอธิบายเพิ่มเติม จนหนังสือกลายเป็นเล่มหนา คุณมีหนังสือฉบับอุบัยกาน ผมก็มีฉบับของอุบัยกานเช่นกัน งั้นเราลองมาศึกษาปรับความเข้าใจในทัศนะนะครับ คือเราจะมาจับประเด็นหลัก ๆ ที่เราต้องการจะเสวนากัน อินชาอัลเลาะฮ์
ubaid:
ขอบคุณครับที่อุตาส่าห์หามาให้
ผมก็นึกว่านักปราชคนไหนกล่าวไว้
มันเป็นการเพียงพอแล้วหรือครับที่อ้างคำพูดจากคนไทยคนหนึ่ง แล้วบอกว่านี้คือทัศนะของวะหะบี เพราะพวกเขาเองก็มีอะไรอีกหลายๆปัญหาที่มีทัศนะที่แตกต่างกัน
อนึ่งการกล่าวว่า เขามีทัศนะเดียวกับผม อันนี้ผมว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปเลยดีกว่าครับ เรื่องฆออิบก็ปล่อยให้เป็นเรื่องฆออิบไป
ถ้าไง ถ้าได้จากอุละมาอฺระดับบิ๊กๆ กว่านี้ ผมว่าน่าจะดีกว่าน่ะครับ
ส่วนทัศนะที่ผมยึดคือ ตามที่ผมกล่าวมานั้นแหละครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version