เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
บิดอะฮ์ของวาฮาบีย์
ubaid:
คุณไม่สมควรกล่าวว่า ท่านอัซซะฮะบีย์นำมาอ้างในหนังสือของท่านโดยตรง เนื่องจากท่านอัซซะฮะบีย์ได้ทำการรายงานอ้างอิงมาจากหนังสือของท่านอัลลาละกาอีย์ ไม่ใช่ท่านอัซซะฮะบีย์รายงานมาจากท่านอบูหาติม เนื่องจากท่านอัซซะฮะบีย์ ในขณะที่อายุ 18 ปี ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลอุลูว์ ว่า
قال الحافظ أبو القاسم الطبرى : وجدت فى كتاب أبى حاتم
ซึ่ง อัลหาฟิซ อบู อัลกอซิม ก็คือ ท่านอัลลาละกาอีย์ "ดู หนังสือ มุกตะซ๊อร อัลอุลู้ว์ หน้า 206
ดังนั้น การอ้างว่าท่านอบูหาติมมีหนังสือเล่มนั้น เราจึงไม่ทราบท่านอบูหาติมมีหนังสือเล่มดังกล่าวและเป็นหนังสืออะไรกัน
คุณแน่ใจมากแค่ใหนว่า ท่าอัลลาละกาอีย์ ไม่ได้มีการเพิ่มเติมคำพูดของอุลามาอ์
แต่เมื่อผมได้ไปเปิดดูจากหนังสือ มุคตะซ๊อร อัลอุลุว์ ของท่านอัซซะบีย์ ที่ทำการย่อโดย ท่าน อัลบานีย์ หน้า 159 เราจะพบว่ามีข้อความที่แตกต่างกันดังนี้
نقل أبو القاسم هبة الله اللالكائي و والشيخ موفق الدين المقدسي وغيرهما بالإسناد عن أبي عبد الله بن ابي حنيفة الدبوسى سمعت محمد بن الحسن، يقول : اتفق الفقهاء كلهم من المشرق إلى المغرب على الإيمان بالقرآن والأحاديث التي جاء بها الثقات عن رسول الله صلى الله عليه وسلم في صفة الرب عز وجل من غير تفسير ولا وصف ولا تشبيه، فمن فسر شيئاً من ذلك فقد خرج عما كان عليه النبي صلى الله عليه وسلم وفارق الجماعة،( فإنهم لم ينفوا ولم يفسروا، ولكن آمنوا بما في الكتاب والسنة ثم سكتوا،
فمن قال بقول جهم فقد فارق الجماعة)؛ لأنه وصفه بصفة لا شيء
วิจารณ์
คำสิ่งที่ผมได้อ้างอิงไปนี้ จะพบว่ามีคำพูดที่ ท่านอัลบานีย์วงเล็บ(...) เอาไว้ คือคำว่า
( فإنهم لم ينفوا ولم يفسروا، ولكن آمنوا بما في الكتاب والسنة ثم سكتوا، فمن قال بقول جهم فقد فارق الجماعة)
และท่านอัลบานีย์ได้กล่าววิจารณ์มันเอาไว้ว่า
زيادة من اللالكائى
"(คำกล่าวนี้) เป็นการเพิ่มมาจากคำพูดของ อัลลาลิกาอีย์" ดู มุคตะซ๊อร อัลอุลุว์ ของท่านอัซซะบีย์ ที่ทำการย่อโดย ท่าน อัลบานีย์ หน้า 159
เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณจะแน่ใจได้สักแค่ใหนว่า จะไม่มีการเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงคำกล่าวของอุลามาอ์ ท่านอัลอัลลาละกาอีย์ ยังเพิ่มเติมข้อความของอุลามาอ์ โดยเฉพาะการโจมตีพวก อัลญะฮ์มียะฮ์ ดังที่กล่าวมาข้างต้น
***********
ผมก็ไม่รู้ว่ามันผิดตรงไหนกับการกล่าวว่า อัซซะฮะบีย์ได้กล่าวอ้างไว้ในหนังสือของท่าน เพราะมันไม่ใช่เงือนไขว่า การจะกล่าวว่า ?อ้าง? นั้น เขาผู้นั้นจะต้องรายงานจากตัวผู้พูดจริงๆ เช่น เราพูดว่า อาจารย์อามีนอ้างหะดีษจากท่านนบี การกล่าวเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ แน่นอนมันถูกต้อง คงไม่มีใครปฏิเสธ ทั้งๆที่อ.อามีน ไม่ได้รายงานจากท่านนบีโดยตรง แต่อาจจะอ่านเจอในหนังสือของอัลบุคอรีย์
**************
ส่วนที่ว่า มีความแน่ใจแค่ไหนว่าอัลลาละการอีย์ ไม่ได้เพิ่มเติ่มคำพูดของอุละมาอฺ
ท่านครับเราคงไม่กล้าที่จะไปกล่าวบรรดาอุละมาอฺหรอกว่าเขาไปเสริมแต่ง
และท่านก็คงรู้กฎข้อหนึ่งอยู่ว่า
الأصل البراءة
ฐานเดิมของมนุษย์นั้นคือความบริสุทธิ์
ฉะนั้นเราจะไม่กล่าวว่ามุสลิมคนหนึ่งผิด นอกจากมันจะต้องมีหลักฐานบ่งชี้อย่างแน่ชัด
ส่วนข้อความที่ท่านยกมาเพื่อจะบอกว่ามีคำพูดที่อัลลาละกาอีย์เพิ่มเติ่มจากคำพูดของอุละมาอฺ ประโยคที่ยกมานั้นถ้าอัลลาละอีย์เพิ่มเติ่มจริง ก็ไม่ใช่ว่า ท่านจะต้องเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆด้วย เพราะถ้าเราคิดเช่นนั้นแล้ว ก็หมายความว่า หนังสือของท่านทั้งเล่มย่อมเป็นที่ครหา
และหากเราจะดูเรื่องเพิ่มเติม ในหะดีษของท่านนบีก็มีการเพิ่มเติ่ม หรือที่เรียกว่า อัลมุดร็อจญ์ ซึ่งการเพิ่มเติมนั้นอาจจะมีจุดประสงค์เพื่ออธิบายคำหรือประโยคในหะดีษเพื่อในชัดเจนยิ่งขึ้น และถ้าเราศึกษาเรื่องนี้ เราจะเห็นว่า มีบรรดาเศาะหาบะฮฺที่เพิ่มเติ่มจากคำพูดของท่านนบี(มุดร็อจญ์) ดังเช่นท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ในหะดีษ
ويل للأعقاب
และก็มีบรรดาตาบิอีนที่มีการเพิ่มเติ่มเช่นท่านอัซซุฮฺรีย์
ที่นี้เรามาถามว่า หะดีษของท่านรายงานโดยอบูหุร็อยเราะฮฺและอัซซุฮฺรี สามารถใช้ได้ไหม แน่นอนใช้ได้
แล้วที่ว่า เขามีการเพิ่มเติมล่ะ
คำตอบคือ มันไม่ใช่ว่าท่านจะเพิ่มเติมทั้งหมดในหะดีษที่ทั้งสองรายงานนี้หน่า เราจะไม่กล่าวว่าเขาเพิ่มเติมนอกจากจะมีหลักฐาน และถ้าไม่มีหลักฐาน เราก็ไม่สามารถบอกได้ว่า ท่านเพิ่มเติม
และกรณีของอัลลลาะกาอีย์ ก็เช่นเดียวกัน
อีกทั้งการกล่าวแบบนี้มันจะทำให้หนังสือของอิสลามหลายๆเล่มมั่วหมองไป เพราะอาจจะมีบางคนกล่าวว่า ท่านแน่ใจหรือ ว่า ผู้แต่งไม่ได้เสริมจากคำพูดของอุละมาอฺที่เขาอ้างอิงมา???
ubaid:
ผมคิดว่าคุณไม่น่าเอาจะเอาการรายงานของ ท่านอัลลาลิกาอีย์ที่รายงานแบบ วะญาดะฮ์ มาเทียบกับการรายงานของท่านอิบนุหะญัรจึงถึงอิมามอัลบาคอรีย์ ซึ่งจากการรายงานของท่านอิบนุหะญัรจนถึงซอฮิหฺท่านอัลบุคอรีย์นั้น มีสายรายงานที่สืบเนื่องจนถึงหนังสือซอฮิหฺอัลบุคคอรีย์
แต่ท่านอัลลาลิกาอีย์ ได้รายงานแบบวิญาดะฮ์ คือแค่ไปพบหนังสือเล่มหนึ่งที่เขาอ้างว่าเป็นของท่านอบูหาติม(ร.ฮ.) ซึ่งเป็นการรายงานที่ไม่ได้รับ อิญาซะฮ์ อนุญาติจากท่านอบูหาติม และหนังสือดังกล่าวของท่านอบูหาติมนั้น ได้ทำการยืนยันเพียงแค่ท่านอัลลาลิกาอีย์เท่านั้น ส่วนท่านอัซซะฮะบีย์ก็ตักลีดรายงานมาจากท่านอัลลาลิกาอีย์อีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ท่านอัซซะฮะบีย์อายุ 18 เท่านั้น แต่หลังจากที่ท่านอัซซะฮะบีย์ ได้รำเรียนความวิชาการเพิ่มและแกร่งกล้า ท่านก็ยกเลิกทัศนะของท่านจากหนังสือ อัลอุวู้ ที่ท่านได้เขียนไว้
ดังนั้น คุณจะเอากรณีของท่านอิบนุหะญัรกับท่านอัลลากิลาอีย์มาเทียบกันนั้น ผมคิดว่ามันไม่ตรงประเด็นและเทียบกันไม่ได้ตามหลักพิจารณาหะ
*************************
ที่ผมพยายามจะบอกคือ การรายงานของรายงานของอัลลาละกาอีย์ถึงท่านอบูหาติมนั้นไม่ใช่การรายงานแบบ อัลวิญาดะฮฺ แต่เป็นการรายงานที่มีสายรายงานถึงท่านอบูหาติม เหมือนกับที่อิบนุหะญัรรายงานจากท่านอัลบุคอรีย์
ท่านอัซซะหะบีย์กล่าวว่า
قال الحافظ أبو القاسم الطبري وجدت في كتاب أبي حاتم محمد بن إدريس بن المنذر الحنظلي -مما سمع منه- يقول
ดังจะเห็นได้จากประโยคที่ว่า
-مما سمع منه
ซึ่งสิ่งที่เขา(อัลลาละกาอีย์)ได้ยินจากเขา(อบูหาติม) เราไม่อาจกล่าวได้ว่า อัลลาละกาอีย์ได้ยินจากอบูหาติม นอกจากเขาจะต้องรายงานจากอบูหาติม
นี้คือความเข้าใจของผม ในประโยคข้างต้น
อีกทั้งผมยังได้ยกคำกล่าวนั้นในหนังสือของอัลลาละกาอีย์อีก 3 ที่
al-azhary:
--- อ้างจาก: "ubaid" ---ผมก็ไม่รู้ว่ามันผิดตรงไหนกับการกล่าวว่า อัซซะฮะบีย์ได้กล่าวอ้างไว้ในหนังสือของท่าน เพราะมันไม่ใช่เงือนไขว่า การจะกล่าวว่า ?อ้าง? นั้น เขาผู้นั้นจะต้องรายงานจากตัวผู้พูดจริงๆ เช่น เราพูดว่า อาจารย์อามีนอ้างหะดีษจากท่านนบี การกล่าวเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ แน่นอนมันถูกต้อง คงไม่มีใครปฏิเสธ ทั้งๆที่อ.อามีน ไม่ได้รายงานจากท่านนบีโดยตรง แต่อาจจะอ่านเจอในหนังสือของอัลบุคอรีย์
--- End quote ---
กล่าวสมมุติว่า อาจารย์อามีนอ้างหะดิษจากท่านนบี ซึ่งการกล่าวอย่างนี้ ถือว่าถูกต้องหากว่ามีหะดิษที่ท่านนบีได้กล่าวไว้จริง แต่การกล่าวว่าได้พบจากหนังสือของท่านอบีหาติม โดยหนังสือไม่มีตนมายืนยัน แล้วมันจะไปน่าเชื่อถือได้อย่างไร ? ดังนั้น การกล่าวว่ามีหนังสือของท่านอบูหาติมอาจจะกล่าวลอย ๆ ขึ้นมาก็ได้หรืออาจจะกล่าวจริงก็ได้ ซึ่งสามารถตีความได้ทั้งสองอย่างโดยมีน้ำหนักเท่ากัน
al-azhary:
--- อ้างจาก: "ubaid" ---ส่วนที่ว่า มีความแน่ใจแค่ไหนว่าอัลลาละการอีย์ ไม่ได้เพิ่มเติ่มคำพูดของอุละมาอฺ
ท่านครับเราคงไม่กล้าที่จะไปกล่าวบรรดาอุละมาอฺหรอกว่าเขาไปเสริมแต่ง
และท่านก็คงรู้กฎข้อหนึ่งอยู่ว่า
الأصل البراءة
ฐานเดิมของมนุษย์นั้นคือความบริสุทธิ์
ฉะนั้นเราจะไม่กล่าวว่ามุสลิมคนหนึ่งผิด นอกจากมันจะต้องมีหลักฐานบ่งชี้อย่างแน่ชัด
--- End quote ---
เราต้องพิจารณาดูด้วยว่า การเพิ่มของอุลามาอ์นั้น เพื่ออธิบายตัวบทหรือเพื่ออธิบายทัศนะของตน อุลามาอ์หะดิษเขาจะไม่รับรายงานของผู้เรียกร้องไปสู่บิดอะฮ์ของตนหรือหรือเรียกร้องไปสู่แนวทางของตนเอง และการอ้างอิงคำกล่าวของอุลามาอ์ด้วยเพิ่มเติมคำพูดของตนเอง โดยการระบุว่า قلت "ฉันกล่าว" นั้น ถือว่าไม่มีอะมานะฮ์ในการอ้างอิงคำกล่าวของอุลามาอ์ นี่คือผมพูดตามหลักการ
al-azhary:
--- อ้างจาก: "ubaid" ---ส่วนข้อความที่ท่านยกมาเพื่อจะบอกว่ามีคำพูดที่อัลลาละกาอีย์เพิ่มเติ่มจากคำพูดของอุละมาอฺ ประโยคที่ยกมานั้นถ้าอัลลาละอีย์เพิ่มเติ่มจริง ก็ไม่ใช่ว่า ท่านจะต้องเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆด้วย เพราะถ้าเราคิดเช่นนั้นแล้ว ก็หมายความว่า หนังสือของท่านทั้งเล่มย่อมเป็นที่ครหา
--- End quote ---
แล้วคุณไม่ลองพิจาณาข้อความแวดล้อมดูบ้างหรือว่า การเพิ่มของท่านอัลลาละกาอีย์นั้น จะอยู่ในแนวทางของการโต้ตอบพวกอัลญะฮ์มียะฮ์ ซึ่งตัวบทที่ผมอ้างมาและตัวบทที่ผมอ้างไป มันก็อยู่ในกรณีเดียวกัน ดังนั้น นักปราชญ์หะดิษนั้น เขาจะไม่รับสายรายงานของผู้เรียกร้องไปสู่บิดอะฮ์ อันเนื่องจากว่าเป็นไปได้ที่เขาจะทำการรายงานเพื่อสนองในแนวทางของตน ทั้งที่นักหะดิษเองก็น่าจะคาดการณ์เหมือนคุณที่ว่า เขาอาจจะไม่เพิ่มเติมหลักการของตนไปทั้งหมด
การที่ผมได้พูดไปนั้น ไม่ใช่จะสรุปว่า หนังสือของท่านทั้งเล่มเป็นที่ครหา แต่เราเน้นจุดตรงที่ว่า หากโจมตีแนวทางอื่นที่ท่านอัลลาละกาอีย์ไม่พอใจนั้น อาจจะไม่มีการเพิ่มเติมก็เป็นได้ ซึ่งการคาดการณ์นี้เป็นไปได้ทั้งสองแง่
และหนังสือ ชัรหฺเอี๊ยะอฺติก๊อต อัซซุนนะฮ์ ของท่านอัลลาละกาอีย์นี้ ก็ไม่มีนักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์เท่าใดนำมาอ้างหลักฐานเกี่ยวกับอากีดะฮ์ นอกจากวะฮาบีย์เท่านั้นที่หรือฟื้นขึ้นมา นั่นมันมาจากสาเหตุอันใด? และยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่อุลามาอ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์ไม่นำมาใช้ในการอ้างหลักการของอากีดะฮ์ แต่วะฮาบีย์ฟื้นฟูมันขึ้นมาเพราะเหตุใด?
--- อ้างจาก: "ubaid" ---และหากเราจะดูเรื่องเพิ่มเติม ในหะดีษของท่านนบีก็มีการเพิ่มเติ่ม หรือที่เรียกว่า อัลมุดร็อจญ์ ซึ่งการเพิ่มเติมนั้นอาจจะมีจุดประสงค์เพื่ออธิบายคำหรือประโยคในหะดีษเพื่อในชัดเจนยิ่งขึ้น และถ้าเราศึกษาเรื่องนี้ เราจะเห็นว่า มีบรรดาเศาะหาบะฮฺที่เพิ่มเติ่มจากคำพูดของท่านนบี(มุดร็อจญ์) ดังเช่นท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ในหะดีษ
ويل للأعقاب
และก็มีบรรดาตาบิอีนที่มีการเพิ่มเติ่มเช่นท่านอัซซุฮฺรีย์
ที่นี้เรามาถามว่า หะดีษของท่านรายงานโดยอบูหุร็อยเราะฮฺและอัซซุฮฺรี สามารถใช้ได้ไหม แน่นอนใช้
--- End quote ---
มันเกี่ยวอะไรกับการเพิ่มเติมกับสิ่งที่ตนต้องการและทำให้ทัศนะของนักปราชญ์นั้น ๆ ต้องเสียไป การเพิ่มเติมแบบ อัลมุดรีอจญ์ ส่วนหนึ่งคือการเพิ่มเติมเพื่ออธิบายคำ และไม่ทำให้ความหมาของหะดิษเปลี่ยนแปลง แต่การเพิ่มเติมโดยนำมารวมกับคำพูดผู้อื่น โดยที่ดูแล้วมันเหมือนกับว่าเป็นคำพูดของอิมามคนนั้น ย่อมเป็นการเพิ่มคำพูดของอุลามาอ์โดยที่พวกเขาไม่ได้กล่าวเอาไว้ และทำให้ทัศนะของนักปราชญ์ท่านนั้น ต้องเสียความหมายจริงตามที่นักปราชญ์ท่านนั้นมุ่งหมาย และความหมายของนักปราชญ์ท่านนั้น ๆ ก็ชัดเจนอยู่แล้วโดยต้องการไปยังการสอดแซรกทัศนะของตนเพื่อให้ความหมายมายังทัศนะของที่ตนต้องการ และคุณเอาหลักการ อัลมุดร๊อจญ์ เป็นหลักการในการเพิ่มคำพูดได้ละก็ มันเป็นอันตรายในการเพิ่มเติมคำพูดของอุละมาอ์ทั้งที่พวกเขาไม่ได้กล่าวมันเอาไว้ และผมก็ไม่คิดว่าคุณจะยกคำกล่าวอ้างนี้ เพื่อมาแก้ตัวให้กับผู้ที่เพิ่มเติมคำพูดของอุลามาอ์
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version