สวัสดีครับคุณ TruthSeeker
อัลลอฮฺได้กล่าวว่า
وما ينطق عن الهوى ؛ إن هو إلا وحيٌ يوحى
ลองแปลหน่อยสิครับ
ฉะนั้นสิ่งที่ท่านนบีมุหัมหมัดพูดมานั้นเป็นสัจธรรมครับเพราะเป็นวะห์ยูที่มาจากอัลลอฮฺ
อัลลอฮฺได้กล่าวว่า
قل إن كنتم تحبون الله فاتبعوني يحببكم الله ويغفر لكم ذنوبكم والله غفور رحيم الخيمه
ลองแปลหน่อยสิครับ
อัลลอฮฺสั่งให้ตามนบีมุหัมหมัดครับ
แล้วคุณ TruthSeeker ละหมาดยังไงครับ ตอบด้วย
เพราะไม่ตามหะดีษ
ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอาหรับอย่างท่านหรอกนะครับ ผมเพียงดูจากคำแปลหลายๆเล่ม ดูจากรายชื่อรากศัพท์ ถ้าช่วยบอกเลขซูเราะห์เลขอายะห์จะทำให้เร็วขึ้นนะครับ
وما ينطق عن الهوى ؛ إن هو إلا وحيٌ يوحى
[53.3] และเขามิได้พูดตามอารมณ์ [53.4] อัลกุรอานมใช่อื่นใดนอกจากเป็นวะฮีย์ที่ถูกประทานลงมา
ชัดเจนว่าอัลลอฮกำลังหมายถึงมูฮัมมัดในฐานะรอซูล เพราะรอซูลเป็นผู้ส่งสารนั่นคือวะหีย์จากพระเจ้า ถ้าคุณคิดว่านี่หมายถึงทุกอย่างที่มูฮัมมัดกล่าวแล้วมันจะขัดแย้งกับ 66:1 อย่างชัดเจน แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นดังที่เคยอธิบายในโพสก่อนๆมาแล้ว ว่านี่เป็นวความต่างระหว่างนบี และ รอซูล
ไม่ใช่ว่าผมไม่รักนบีนะครับ ผมรักแน่นอน ผมก็เลยไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่อ้างว่าเป็นคำพูดของนบี เพราะอัลลอฮได้บอกแล้วว่าจะมีศัตรูของแต่ละนบีมาใส่ร้ายนบี ดังที่ได้เสนอในโพสก่อนหน้านี้มาแล้ว และอัลลอฮไม่ได้รักษหะดิษพวกนั้น และอัลลอฮถามว่าหะดิษใหนหลังจากกุรอานนี้ที่เจ้านะศรัทธา และอัลลอฮรักษากุรอานนี้ครับقل إن كنتم تحبون الله فاتبعوني يحببكم الله ويغفر لكم ذنوبكم والله غفور رحيم الخيمه
[3.31] จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า พวกเขาหากพวกท่านรักอัลลอฮ์ ก็จงปฏิบัติตามฉัน อัลลอฮ์ก็จะทรงรักพวกท่าน และจะทรงอภัยให้แก่พวกท่านซึ่งโทษทั้งหลายของพวกท่าน และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
ชัดเจนว่าอัลลอฮกำลังหมายถึงมูฮัมมัดในฐานะรอซูล โดยเฉพาะที่อัลลอฮบอกว่า จงกล่้าว ซึ่งหมายถึงว่าให้กล่าวสารของอัลลอฮ ไม่ใช่คิดเอง และนั่นหมายถึงการส่งสารของรพระเจ้า นั่นคือฐานะ รอซูล และนี่สอดคล้องกับที่อัลลอฮให้ปฏิบัติตามอัลลอฮและรอซูลเป็นสิ่งเดียวกันเช่นเดียวกับใน 4:80 ตามที่ผมได้อธิบายใน link ที่ได้โพสไปแล้ว
ปัญหาคือ คุณคิดหรือว่าคำสิ่งของอัลลอฮกุรอานจะขัดแย้งกันเอง ในเมื่อผมได้นำเสนอแล้วว่าอัลลอฮกล่าวเกียวกับหะดิษอื่นนอกจากกุรอานว่าอย่างไร และกุรอานสมบูรณ์ครบถ้วน และอัลลอฮรักษากุรอาน ที่ผมได้โพสไว้อย่างละเอียดมาแล้ว
แน่นอนครับ จะต้องมีคำถามยอดฮิตเรื่องซาลาต ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากและมีรายละเอียดต้องศึกษามาก ผมขอเริ่มจาก
-ดังที่ผมเคยเสนอแล้วว่าอัลลอฮกล่าวในกุรอานว่าพอเพียงครบถ้วน และกล่าวกับหะดิษอื่นเช่นไรบ้าง แล้ว ทำไมในกุรอานไม่มีท่าละหมาดอย่างละเอียดที่เราทำกัน และทำไมไม่มีบอกว่าต้องทำละหมาดวันละห้าเวลา ทั้งๆที่พระจ้านั้นไม่ได้ทิ้งอะไรไว้นอกกุรอาน
-ท่านช่วยบอกหะดิษให้ผมสักอันที่อ้างว่านบีบอกท่าละหมาดอย่างครบถ้วนอย่างที่เราทำกัน (เท่าที่พบมามีแต่ที่กระจัดกระจายและขัดแย้งกันเอง)
- ไม่มีคำว่า ละหมาด ในกุรอาน
นอกจากนี้ ค่อนข้างน่าสนใจว่า คำว่าละหมาด หรือ นมาซ เป็นภาษาเปอร์เชีย ซึ่งน่าสนใจว่าในเปอร์เซียมีศาสนา โซแรสเตอร์ ซึ่งทำการ ละหมาดของเขา วันละ 5 เวลา
http://tenets.zoroastrianism.com/geh33.htmlhttp://free-minds.org/forum/index.php?topic=10099.0- มีคำว่า ซาลาต ในกุรอาน ที่คนมักเข้าใจว่าแปลว่าละหมาด
- คำว่า ซาลาต แปลว่าอะไร
- ถ้าซาลาต แปลว่า ละหมาด แล้ว ใน 9:1-12 ความหมายดูเป็นเหตุผลหรือไม่ที่จะให้ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมทำการละหมาดและจ่ายซากาต
- ถ้าซาลาต แปลว่า ละหมาด แล้ว ใน 11:87 ละหมาดเป็นแหล่งของกฏว่าด้วยแต่ละเรื่องได้เหรอ
- ถ้าซาลาต แปลว่า ละหมาด แล้ว ทำไมมีหลายคนที่ทำละหมาด แต่กลับไปทำการบาปเช่นโกหก พูดก้าวร้าวต่อพ่อแม่ ทำซีนา หรืออื่นที่ขัดแย้งกับคำสั่งของพระเจ้าในกุรอาน ทั้งๆที่ การซาลาตนั้นยับยั้งจากความชั่ว (29:45)
- ถ้าซาลาต แปลว่า ละหมาด และซูยูดแปลว่ากราบ แล้วคุณ เคย ซูยูดจรดคางหรือไม่ 17:107
- ถ้าซาลาต แปลว่า ละหมาด แล้วทำไมเจอคกว่า อากีมุสซาลาต หลายที่ในกุรอานในบริเวณที่ไม่ได้เกียวกับการสักการะ เช่น [2.238]
- ถ้าซาลาต แปลว่า ละหมาด และรุกะอาน แปลว่าโค้งคำนับ แล้วทำไม [2.43] (และจงดำรงนมาซ และจ่ายซะกาต และจงโค้งคำนับต่อฉัน ร่วมกับบรรดาผู้ที่โค้งคำนับ) ถึงกล่าวแต่เฉพาะการโค้ง
- ถ้าซาลาต แปลว่า ละหมาด แล้วคุณเคยละหมาดใน สี่ิงที่เขาเรียกว่า มะกอมอิบรอฮีม หรือไม่ เพราะอัลลอฮสั่งให้ยึดเอา "มะกอมอิบรอฮีม" เป็นที่ "ซาลาต" [2.125]
นอกจากนี้ ท่านสามารถ อ่าน
http://www.mypercept.co.uk/articles/disproved_traditional_salat.htmhttp://mypercept.co.uk/articles/slw.htmเพื่อจะรู้ว่าผม และหลายๆคน ที่ยึ่ดมั่นตามที่พระเจ้าได้บอกว่ากุรอานนี้ครบถ้วนและพอเพียงตามที่เคยเสนอมาแล้ว เข้าใจเกี่ยวกับซาลาตว่าอย่างไร
ถ้าผมล่วงเกินความคิดของท่านผมต้องขออภัยในที่นี้ด้วยครับ
ขอพระเจ้านำทางครับ