ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเพศกับอิสลาม  (อ่าน 8136 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ budu

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 30
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
เรื่องเพศกับอิสลาม
« เมื่อ: ต.ค. 10, 2007, 09:44 PM »
0

เรื่องเพศกับอิสลาม
 อิสลามคือระบอบการดำเนินชีวิต กล่าวคือ ทุกพฤติกรรมที่เกี่ยวกับความเป็นอยู่ต้องเป็นไปตามที่ศาสนาบัญญัติด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว สังคม การเมือง การทำมาหากิน และเรื่องเพศ

อิสลามไม่สนับสนุนให้คนฝืนธรรมชาติโดยไม่แต่งงาน แต่ส่งเสริมให้แต่งงานอย่างถูกต้องตามหลักศาสนา และห้ามการผิดประเวณีทุกลักษณะกับคนที่มิใช่สามีหรือภรรยาของตนเอง

เนื้อหาที่จะเน้นเรื่องเพศมีอยู่ทุกสมัย แต่ในเชิงศาสนาก็ไม่ค่อยมีใครกล้าอธิบายให้มวลชนได้รับรู้เท่าไรนัก คือ

การสำเร็จความใคร่ (Masterbation) หมายความรวม ทั้งด้วยมือ
หรือวัตถุที่มุ่งให้สำเร็จสมอารมณ์เพศ ในอิสลามมีทัศนะต่างกัน คือบางส่วนว่าหะรอม-ต้องห้าม บางทีว่าหะรอมบางกรณี บางกรณีจำเป็นให้กระทำได้ และกลุ่มสุดท้ายเห็นว่า เป็นเรื่องน่ารังเกียจ (มักโระห์)

กลุ่มที่เห็นว่าเป็นที่หะรอมโดยเด็ดขาด ยึดตามอัลกุรอานความว่า

?และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้รักษาอวัยวะเพศ(ไม่ละเมิดประเวณี) เว้นแต่กับบรรดาภรรยาของพวกเขาที่มือขวาของเขาครอบครอง (ทาสหญิง) แท้จริงพวกเขาจะไม่ถูกตำหนิ ดังนั้นบุคคลใดที่แสวงหาอื่นจากนั้น ชนเหล่านั้นแหละ พวกเขาคือบรรดาผู้ละเมิด?

กลุ่มที่เห็นว่าการสำเร็จความใคร่ด้วยมือต้องห้ามในบางกรณี และบางกรณีจำเป็นต้องกระทำ ยึดตามแนวหะนะฟีย์ ให้เหตุผล จำเป็นต้องสำเร็จความใคร่ด้วยมือเพราะกลัวจะถลำไปละเมิดประเวณี (ทำซินา) ใช้หลักว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการทำบาปใหญ่ แต่ถ้าทำไปเพื่อสนองอารมณ์เพศ หรือมุ่งปลุกกระตุ้นอารมณ์ก็เป็นที่หะรอม-ต้องห้าม

หากทำไปเพื่อระงับอารมณ์ โดยยังมิได้แต่งงาน การสำเร็จความใคร่ด้วยมือถือว่าอนุญาต เพราะไม่ต้องการให้อารมณ์ฟุ้งซ่าน

อีกทัศนะหนึ่งกล่าวว่า การสำเร็จความใคร่ถือเป็นสิ่งต้องห้าม ยกเว้นกรณีกลัวว่าจะถลำไปทำซินา หรือยังไม่ได้แต่งงาน หรือไม่มีความสามารถที่จะแต่งงานได้ ซึ่งกลัวว่าจะมีผลต่อระบบประสาท เช่นนี้อนุญาตให้กระทำ

กลุ่มที่เห็นว่าการสำเร็จความใคร่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ แต่ไม่เป็นบาป เนื่องจากผู้ที่สัมผัสอวัยวะเพศของเขาด้วยมือซ้ายเป็นที่อนุมัติ เมื่อการสัมผัสกระทำได้ การทำให้อสุจิออกมาก็ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม

การสำเร็จความใคร่ไม่ได้มีข้อห้ามตามหลักศาสนาไว้ชัดเจน อัลกุรอานมีกล่าวถึงความว่า ?ทั้งๆที่พระองค์ทรงแจกแจงแก่พวกท่านแล้ว สิ่งซึ่งพระองค์ทรงห้ามแก่พวกท่าน? และ ?สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหมดถูกสร้างไว้สำหรับท่าน?

ดังนั้น เรื่องนี้จึงขอให้ผู้ศรัทธาพิจารณาถึงตนเองว่าเข้าอยู่ในทัศนะใด ทั้งนี้เพราะความจำเป็น อารมณ์ ความรู้สึก ความต้องการของแต่ละคนแตกต่างกัน โดยการสำเร็จความใคร่นั้น ทั้งเพศชายและเพศหญิงก็อยู่ในขอบข่ายดังที่กล่าว

เลสเบี้ยน (Lesbian) หรือการร่วมเพศระหว่างเพศหญิงด้วยกัน ไม่
ค่อยมีการสำส่อน มักเป็นคู่แน่นอน อาจมีปัญหาเรื่องอิจฉาริษยา โกรธแค้นรุนแรงนำไปสู่การฆ่าได้ ซึ่งแน่นอนเป็นที่ต้องห้ามในอิสลาม

ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล. กล่าวว่า ?ชายและหญิงต้องไม่มองสิ่งพึงสงวนของกันและกัน แม้จะเป็นเพศเดียวกันก็ตาม ชายหญิงต้องไม่ห่มผ้าผืนเดียวกับเพศเดียวกับตน?

หลักฐานนี้แสดงว่า แม้แต่ผู้หญิงจะห่มผ้าผืนเดียวกันยังเป็นที่ต้องห้าม การแสดงบทรักทั้งด้วยสรีระ อวัยวะ อุปกรณ์ร่วมกับเพศหญิงด้วยกันจึงย่อมเป็นที่ต้องห้าม ไม่ว่าจะร่วมเพศหรือไม่ ต้องถูกลงโทษจากอัลลอฮฺเหมือนกัน

รักร่วมเพศ (Homosexual) เกิดกับเพศชายมีหลายลักษณะคือเป็นผู้กระทำ ยอมถูกกระทำ ได้ทั้งสองลักษณะ และบางคนก็ร่วมกับผู้ชายด้วยกันก็ได้ และมีภรรยาด้วยก็มี
ประเด็นสำคัญที่อิสลามห้ามคือการร่วมเพศทางทวารหนักไม่ว่าจะชายต่อชาย หรือชายกับหญิงแม้แต่ภรรยาของตนเอง รักร่วมเพศของชายจะได้ทั้งเป็นผู้กระทำและถูกกระทำ

คนที่ชอบเป็นหญิงจะกระตุ้งกระติ้ง คนที่เป็นชายก็จะแข็งแรงบึกบึน อิสลามถือว่าการรักร่วมเพศเป็นบาปอย่างมหันต์ อัลลอฮฺ กล่าวไว้ความว่า

"และจงรำลึกถึงนบีลู๊ตขณะกล่าวกับชุมชนของเขาว่า พวกท่านปฏิบัติสิ่งที่น่ารังเกียจ โดยไม่มีบุคคลในหมู่ประชาชาติของท่านได้กระทำไว้ก่อนหรือ แท้จริงพวกท่านจะสมสู่กับเพศชายด้วยตัณหาราคะอื่นจากเพศหญิง ใช่แต่เท่านั้น พวกท่านยังเป็นผู้ละเมิดอีกด้วย?

ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล. กล่าวว่า ?บุคคลใดที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่นกลุ่มชนนบีลู๊ตปฏิบัติมา แน่นอนยิ่ง พวกเขาถูกสาปแช่งจากอัลลอฮฺ ซ.บ.?

อิสลามไม่ยอมรับ ทั้งชายอยู่กินกับหญิงโดยไม่แต่งงาน ท้องก่อนแล้วมาแต่งก็ถือว่าละเมิดประเวณ-ทำซินา ชายแต่งงานกับชาย หญิงแต่งงานกับหญิง ล้วนผิดบาป เป็นการทำลายศีลธรรม ทำลายกฎธรรมชาติที่อัลลอฮฺให้มา

อัลลอฮฺมิได้สร้างมนุษย์มาเพื่อมุ่งเสวยสุขเสพสมทางเพศ จนคิดลองรูปแบบต่างๆที่ผิดธรรมชาติ แต่พระองค์ต้องการให้มนุษย์เคารพภักดีพระองค์ โดยดำเนินชีวิตตามที่บอกไว้ในอัลกุรอาน และตามแบบอย่างของนบีมุฮัมมัด ซ.ล.

โดยสรุป เรื่องเพศที่อิสลามห้ามคือ ห้ามชายหญิงอยู่กันโดยไม่ได้นิกาห์ ห้ามร่วมเพศทางทวารหนัก ห้ามชายกับชาย หญิงกับหญิงอยู่ร่วมให้ความสุขทางเพศกัน หากใครมีลักษณะเบี่ยงเบนทางเพศมาแต่วัยเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองต้องพยายามแก้ไขพฤติกรรม และอธิบายหลักการศาสนาให้รู้อยู่ตลอดเวลาและต่อเนื่อง แก้ไขสิ่งแวดล้อมทุกอย่างจึงจะเป็นการแก้ต้นเหตุของปัญหา


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 24, 2009, 04:28 AM โดย al-azhary »

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องเพศกับอิสลาม *********....////
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ต.ค. 12, 2007, 01:36 AM »
0
 :jazakallah

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องเพศกับอิสลาม *********....////
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ต.ค. 12, 2007, 08:08 AM »
0
เอ แล้วพี่น้องส่วนใหญ่ถือทัศนะไหนนะ
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ เด็กท่าเรือ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 194
  • เพศ: ชาย
  • ความยำเกรงนั้น คือ กุญแจแห่งทางที่เที่ยงตรง
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • bantharua
Re: เรื่องเพศกับอิสลาม *********....////
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ต.ค. 12, 2007, 03:25 PM »
0
เรื่องเพศกับอิสลาม
 

ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล. กล่าวว่า ”บุคคลใดที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่นกลุ่มชนนบีลู๊ตปฏิบัติมา แน่นอนยิ่ง พวกเขาถูกสาปแช่งจากอัลลอฮฺ ซ.บ.”


 


 fouet:บ้านเราหยับอีมากขึ้นทุกทีแล้ว พวกแบบนี้...... :: fouet:
" ท่านพึงเป็นผู้รู้ หรือผู้เล่าเรียน หรือผู้รับฟัง หรือผู้รักใคร่ (ในบุคคลเหล่านั้น)
และท่านอย่าเป็นคนที่ห้า แล้วท่านจะวิบัติอย่างแน่นอน "

 

GoogleTagged