ผู้เขียน หัวข้อ: ความเห็นเกี่ยวกับ"ไซตอนถูกล่ามโซ่ทำไมยังทำชั่ว"  (อ่าน 3731 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ azri

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 36
  • จะรู้จักพระเจ้าได้อย่างไรในเมื่อตัวเองยังไม่รู้จัก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

                           ไซตอนมีหน้าที่ล่อลวงมนุษย์ เวลาเดือนบวช พระเจ้าจะลามโซ่พวกมันไว้แล้วทำไมยังทำชั่ว
                                           

                                         เพราะในหัวใจของมนุษย์มีนัฟซูที่ดีและไม่ดี   นัฟซูที่ไม่ดีมิได้ถูกกักขังเหมือนไซตอนแต่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจทุกคน
                            ไม่สามารถขจัดออกไปได้ เพียงแต่สามารถควบคุมมัน   
                                         แต่ถ้ามันอยู่เหนือท่านก็จะยุยงให้ท่านทำผิด
   "สูเจ้าควรพิจารณาอีกด้วยว่า ด้วยสาเหตุใดที่สูเจ้าจึงถูกสร้างขึ้นมา โดยให้มีทั้งกิเลสตันหาและโทสะ ซึ่งทั้งสอง ก็เป็นสัญชาติญาณของสัตว์" 



                                 นี่เป็นข้อความส่วนหนึ่งจาก  สูตรบำบัดจิตใจให้เป็นสุขของ อิมามฆอซาลี ที่หาอ่านได้จากด้านหน้า

         http://www.sunnahstudents.com/index.phpoption=com_content&task=view&id=16&Itemid=1                             
               



                  แท้จริง  ภายในจิตใจของท่านนั้น มีอยู่หลายลักษณะด้วยกัน

                 1.   ลักษณะของสัตว์เดรัจฉาน

                 2.   ลักษณะของสัตว์ร้าย

                 3.   ลักษณะของชัยฏอน

                 4.   ลักษณะของมะลาอิกะฮ์

                                ดังนั้น  จิตวิญญาณจึงเป็นรัตถะแก่นแท้ของท่าน  สิ่งที่นอกเหนือจากจิตวิญญาณนั้น  ย่อมเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ 
            และเป็นสิ่งที่ถูกให้ยืมแก่ท่าน(ที่ไม่จีรัง)  เพราะฉะนั้น  จึงจำเป็นที่ท่านจะต้องรู้จักต่อสิ่งนี้  คือต้องรู้ว่าสิ่งเหล่านั้น  ย่อมต้องการ
            อาหารและความผาสุก  ความสุขของสัตว์เดรัจฉาน  คือการที่มันได้มีการกิน  การดื่ม  การหลับนอน  การสืบพันธุ์  ดังนั้น  หากท่าน
           เป็นส่วนหนึ่งจากพวกเขา   ท่านก็จงหาปัจจัยยังชีพและการสืบพันธุ์
  ความสุขของสัตว์ร้าย  คือการจู่โจมและสังหารเยื่อ  ความสุขของ
           ชัยฏอน  คือ  การหลอกลวง  ความชั่วและกลอุบาย  ดังนั้น  ถ้าหากท่านเป็นส่วนหนึ่งจากพวกเขา  ท่านก็จงกระทำเหมือนกับที่
           พวกเขาได้กระทำ
  ,  และความผาสุกของมะลาอิกะฮ์อยู่ในการเพ่งพิศ(คุณลักษณะ)ความวิจิตรแห่งพระผู้เป็นเจ้า  พวกเขาไม่มีความ
           โทสะ  ไม่มีความใคร่  ดังนั้น  หากท่านเป็นส่วนจากพวกเขา  ท่านก็จงเพียรพยายามในการรู้จักจุดกำเนิดของท่าน  จนกระทั่ง
           รู้หนทางในสู่พระผู้เป็นเจ้า
  แล้วท่านจะบรรลุไปสู่การเพ่งพิศ(คุณลักษณะ) ความยิ่งใหญ่และ(คุณลักษณะ) ความวิจิตรงดงามของ
           พระองค์ (5)   ท่านจะหลุดพ้นจากข้อผูกมัดทางอารมณ์และความโกรธ  ท่านจะรู้ว่าคุณลักษณะเหล่านี้ว่ามีสิ่งใดบ้างที่ถูกประกอบขึ้น
           ในตัวของท่าน   ซึ่งอัลเลาะฮ์จะไม่ทรงสร้างมัน(คือคุณลักษณะที่สี่) เพื่อให้ท่านเป็นจำเลยของมัน  แต่พระองค์จะทรงสร้างมันเหล่านั้น
            เพื่อให้มันเป็นจำเลยของท่าน   ท่านสามารถมัน(คุณลักษณะทั้งสี่) เพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทาง  สามารถใช้มันเป็น
           พาหนะ  ทำให้เป็นอาวุธเพื่อทำการล่า(สัตว์)  โดยหาความสุขสำราญด้วยกับมันได้  ดังนั้น  เมื่อท่านบรรลุถึงเป้าหมาย (แห่งการรู้จัก
           พระองค์) ท่านก็จงต่อสู้มันภายใต้สองเท้า(ที่มั่นคง)ของท่าน  และจงหวนกลับไปยังที่พำนักอันผาสุกของท่านเถิด  ซึ่งนั้นก็คือ  สถานที่
           พำนักสำหรับบุคคลพิเศษสำหรับพระองค์  แต่ที่พำนักของคนทั่วไปเป็นเพียงชั้นของสวรรค์ธรรมดาเท่านั้นเอง  ดังกล่าวนี้  ท่านจึงจำเป็น
           ที่จะต้องรู้จักความหมายต่างๆ  เหล่านั้น(คุณลักษณะทั้งสี่)  ด้วยการรู้จักตัวของท่านเองทีละน้อยๆ (เป็นลำดับขั้นตอน)  ดังนั้น  ผู้ใดที่ไม่
           ทำความรู้จักความหมายเหล่านี้  ส่วนที่ได้รับของเขาก็คงเป็นเพียงแค่เปลือกนอก  เนื่องจากสัจจะธรรมจะถูกปิดบังด้วยเปลือกนอกนั้น...


                                       อ่านสับสนนิดนึงแต่พยายามอ่านทำความเข้าใจเถอะ จะทำให้ท่านรู้จักตัวเอง
     การรู้จักตนเอง จะทำให้หลุดพ้นจากการตกเป็นทาสของกิเลสตันหาและโทสะ แต่ที่สำคัญคือ ได้รับรู้และได้สัมผัสยังพระผู้เป็นเจ้าผู้สูงส่ง



                                                                      สูเจ้ามิได้พิจารณาที่ตัวของสูเจ้าเองดอกหรือ 




  รักพระเจ้าให้มากๆ      ซอลาวาตให้เยอะๆ    อย่างอื่นเฉยๆไว้ 




                                                                                                                                     จากมุอัลลัฟผู้ยะเฮล ผู้ต่ำต้อยและโง่เขลา......             
ใจฉันเปรียบได้ยังทุกรูปแบบ
ดังทุ่งหญ้าสำหรับเนื้อทราย    ดังโบสถ์สำหรับพระคริสต์
ดังวิหารสำหรับรูปเคารพ        ดังกะบะห์สำหรับผู้แสวงบุญ
ดังแผ่นจารึกของเตารอต       และ ดังคู่มือของกุรอาน
 
ฉันดำเนินบนศาสนาแห่งความรัก
ไม่ว่าวิถีของอูฐแห่งรักเป็นเช่นใด
นั่นแหละ ศาสนาและศรัทธาของฉัน

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ทำชั่วแล้วอย่าโทษชัยฏอน...ต้องโทษตนเอง...

ออฟไลน์ บุคคลธรรมดา

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 433
  • live&learn in Islam
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด



อืม  อยากได้คำตอบที่เคลียร์กว่านี้ น่ะ

อ่าน ของคุณอัซรี่ แล้วไม่ค่อยเข้าใจค่ะ  มันล้ำลึกไปหน่อย

อยากให้ผู้รู้อื่น ๆ มาอธิบาย เพิ่มเติม

.........................................................


เคยได้อ่านนานแล้ว ว่า คนเรา จะมี ไชฏอน ประจำตัว อยู่ด้วย

ที่ถูกล่ามคือ ไชฏอน หัวหน้า อะไรแบบนี้

ขอเคลียร์ๆ อีกที

..........................................................


ถ้าหากว่าเราจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยแอ่งปลักโคลน
แน่นอนที่สุด เราจะถึงฝั่งนั้นในสภาพที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลน...
โคลนที่อยู่ในแอ่งนั้น มันจะทิ้งร่องรอยที่เท้าของเรา
และในที่ที่ เราได้เหยียบย่างไป

                        "อัลชะฮีด ซัยยิด กุฏุบ"

ออฟไลน์ บุคคลธรรมดา

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 433
  • live&learn in Islam
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
อัสลามมุอะลัยกุ้ม


ได้คำตอบมาแล้วค่ะ  ตามลิงค์ นี้เลย  ;D


http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1381.new#new
ถ้าหากว่าเราจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยแอ่งปลักโคลน
แน่นอนที่สุด เราจะถึงฝั่งนั้นในสภาพที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลน...
โคลนที่อยู่ในแอ่งนั้น มันจะทิ้งร่องรอยที่เท้าของเรา
และในที่ที่ เราได้เหยียบย่างไป

                        "อัลชะฮีด ซัยยิด กุฏุบ"

 

GoogleTagged