ผู้เขียน หัวข้อ: การโพสต์รูปของสตรีให้กับผู้อื่นดู  (อ่าน 5337 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tamjai

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 123
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การโพสต์รูปของสตรีให้กับผู้อื่นดู
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ก.ค. 23, 2009, 10:32 AM »
0
 salam  แหมออกความเห็นก้ได้ ไม่ต้องตั้งกล้องหรอกมั้ง พูดไม่ค่อยเก่งอ่านะ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: การโพสต์รูปของสตรีให้กับผู้อื่นดู
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: พ.ย. 24, 2012, 01:01 PM »
0


อ้างถึง


ใน History ของคอมพิวเตอร์ที่ฉันใช้อยู่มีที่อยู่ของ Hi5

ฉันคลิกเข้าไปดู Hi5

ฉันพบโลกอีกใบใน Hi5

มีพลเมืองมากมายในสาธารณรัฐ Hi5

พลเมืองแต่ละคนมีการติดต่อสัมพันธ์กันใน Hi5

หลายคนก็รวมกลุ่มกันและประกาศตั้งหมู่บ้านขึ้นใน Hi5

กฏหมายว่าด้วยการแสดงรูปภาพและการพูดคุยอย่างเสรีถูกประกาศใช้ในอาณาจักร Hi5

 

ฉันจึงพบใครต่อใครทั้งที่หวังและไม่หวังว่าจะได้เจอใน Hi5

พี่น้องมุสลิมจำนวนมากทั้งที่ฉันรู้จักและไม่รู้จักก็เป็นพลเมืองของ Hi5

พี่น้องมุสลิมะฮฺหลายคนทั้งที่ฉันรู้จักและไม่รู้จักมีรูปของพวกเธอแสดงอยู่ใน Hi5

ภาพของพี่น้องมุสลิมะฮฺของฉันที่ผู้ชายทั้งโลกไม่มีสิทธิ์ได้เห็นถูกจัดแสดงไว้ใน Hi5

คนทั้งโลกมีสิทธิ์จะเชยชมความงามของพี่น้องมุสลิมะฮฺของฉันด้วยสายตาผ่านทาง Hi5

ผู้ชายหลายคนเข้ามาพูดจาแทะโลมหยอกเอิงพี่น้องมุสลิมะฮฺของฉันผ่านทาง Hi5

 

ฉันโกรธ Hi5

ฉันอยากฟ้องร้องให้ศาลดำเนินคดีกับฆาตรกรที่ชื่อ Hi5

เกียรติของพี่น้องมุสลิมะฮฺของฉันถูกฆ่าโดย Hi5

 

แต่ฉันไม่รู้จะฟ้องใครนอกจากผู้บังเกิดมนุษย์ทุกคนรวมถึงพลเมืองของอาณาจักร Hi5

ขอให้พระองค์คืนเกียรติแห่งมุสลิมะฮฺให้แก่พี่น้องของฉันใน Hi5

ขอให้กฏของพระองค์ถูกสถาปนาขึ้นเหนือกฏของ Hi5

และอย่าให้ความงดงามแห่ง “ดอกไม้ของอัลลอฮฺ” มีราคาแค่อาหารตาของผู้ชายใน Hi5

 

ฉันขอความคุ้มครองจากผู้ทรงคุ้มครองให้ฉันและพี่น้องมุสลิมทุกคนรอดพ้นจากความชั่วร้ายของ Hi5

 

มีคนเคยบอกว่าคำว่า Hi-fi เป็นที่มาของชื่อ Hi5

แต่ฉันว่าน่าจะเป็น Hi fire มากกว่า...เพราะทุกคนมีสิทธิ์ทักทายเปลวไฟได้เท่า ๆ กัน ใน Hi5 !



เอามาจากเสปซพี่หนูดี
ให้เรามาร่วมประนาม Hi5
และขอดุอาอฺให้พี่น้องของเรา



ใน History คอมพิวเตอร์ของฉันไม่มีที่อยู่ของ Hi5

แต่ในอีเมล์ของฉันมีคำเชิญชวนให้ไปเป็นเพื่อนมากมายใน Hi5

ฉันไม่เคยสนใจ จึงกดลบทิ้งมันไปรายแล้วรายเล่า

ซึ่งต่อมาฉันพบว่ามีเกือบร้อยคนชวนให้ป็นเพื่อนใน Hi5



แต่ไม่นานมานี้ฉันได้ยินคนรอบข้างพูดถึง Hi5

บางคนบ่นที่ Hi5 เข้าไม่ได้

บางคนบอกว่ารู้จักคนนู้น คนนี้ใน Hi5 ไหม

และ รุ่นน้องคนนึงบอกให้รับรู้มหันตภัยของ Hi5

ดังนั้นเมื่อฉันได้รับคำเชิญอีก ฉันจึงตกลงใจเข้าไปศึกษามัน - Hi5



ทันทีที่ได้สัมผัสในโลก Hi5

ฉันพูดไม่ถูก .. และไม่รู้ว่าจะพูดให้ใครฟัง

ที่นั่นมีพี่น้องเราเยอะจริง ๆ

เยอะ .. อย่างกับฟองในมหาสมุทร

เยอะ .. จริง ๆ

ต่อมาฉันจึงได้รู้ว่าฉันทำผิดถนัดที่ไม่สนใจ Hi5

ฉันทิ้งการตามศึกษาเทคโนโลยีที่ทำลายพี่น้องฉันได้อย่างไร

Hi5 ทำงานด้วยระบบอีเมล์

การแอดเพื่อน การเชิญชวนพวกพ้องทำผ่านอีเมลที่มีในลิสต์ในที่อยู่อีเมล์(เช่นฮอทเมล์)ของเรา



นั่นทำให้สังคม Hi5 ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ (เหมือนการแบ่งตัวของจุลินทรีย์อะไรซักอย่าง)

ความง่ายของมันนี่ล่ะ ทำให้มันเป็นที่แพร่หลาย

ซึ่งจริง ๆ บลอกในค่ายต่าง ๆ ก็มีมานานแล้วนะ เพียงแต่ไม่ได้ใช่ระบบอีเมลแบบนี้

อีกอย่างบลอกค่ายอื่น ๆ จะเน้นด้านบทความมากกว่า แต่ใน Hi5 เท่าที่เข้าไปดูมีแต่รูปและรูป ที่นั่นจึงศูนย์รวมวัฒนธรรมการโพสต์รูปเลย



อย่างไรก็ดี ส่วนดีของมันก็คงมี (เช่น กรุ๊บมุจาฮิดีน ที่รุ่นน้องคนนึงส่งมาให้ดู)

แต่ก็น้อยคนที่สนใจประโยชน์ของมัน

มุสลิมเราจึงถูกทำให้อ่อนแอลงเรื่อย ๆ ..

เฮ้อ ~ หวังว่าเราจะได้รับอะไรมากมายจาก hi5

และอย่างแรกนั่นคือบทเรียน !



เอามาจาก ... (ใครก็ไม่รู้ save ลงใน คอมพ์ของผม - -')

มาอัฟเจ้าของบทความด้วยที่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มา  :-[



ใครท่ีเข้ามาอ่านกระทู้นี้ อาจจะเห็นวันเดือนปีของกระทู้นี้

ปี 2007 เคยเกิดปรากฏการณ์ "Hi5 Fever" อย่างหนักในหมู่ชน

ไม่มีใครไม่รู้จักมัน...

และขณะนั้น ข้าน้อยกลายเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ปฏิเสธมัน
แต่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับมัน...อาจเป็นเพราะชีวิตมันยุ่งกับเรื่องเรียน
จนปลีกเวลาให้กับมันไม่ได้...
แต่ก็พอมีเวลาได้ดูความเป็นไปของผู้อื่น...

แล้ว ณ วันนี้ Hi5 ได้หายไปไหนกัน...
มันมาได้อย่างไร แล้วหายไปได้อย่างไรกัน...

อันนี้น่าคิดเป็นที่สุดค่ะ...

แล้วอะไรที่เข้ามาแทนที่มัน...

ข้าน้อยไม่เคยคิดอะไรไปมากกว่า
ไม่ว่าอะไรใหม่ๆจะเข้ามาสักแค่ไหน
เราอาจไม่จำเป็นต้องปฏิเสธมันแบบหัวชนฝาก็ได้
แค่่ขอให้เราคงความเป็นเรา มีจุดยืนของเรา
และยืนอยู่อย่างมั่นคง...

มองหาประโยชน์จากสิ่งใหม่ และหลีกเลี่ยงโทษทัณฑ์
หรือให้ตระหนักถึงภัยของมัน...

เพราะมันมาพร้อมกับประโยชน์และโทษ...

แม้จะไม่มี twitter ไม่มี face book
แต่ก็ได้เห็นว่าความเป็นไปในนั้นจากการสอดส่อง
ของน้องๆที่บ้าน...บอกน้องตลอดว่า อย่าได้เปิดเผยสิ่งที่
ไม่ควรเปิดเผยออกไป...

ไม่เคยห้ามน้องให้เล่น ไม่เคยห้ามให้ใครเล่น
แค่อยากบอกว่า...เราต้องมีจุดยืนของเรา...
แล้วต้องยืนให้ได้ตลอดรอดฝั่ง...

สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ...

รูปถ่ายของเรากับคนที่เรารักหรือคนในครอบครัวของเรา
มันไม่น่าจะไปโผล่ในที่สาธารณะที่ใครๆก็สามารถเข้ามาวิจารณ์ได้เลย

หรือเราไม่รักตัวเรา ไม่รักคนที่เราบอกว่ารักเขา
ไม่รักครอบครัว เราถึงยอมให้ใครก็ได้เข้ามาวิพากวิจารณ์
พวกเขาเหล่านั้น รวมท้ังตัวเราด้วย...

หากเป็นรูปสัตว์ รูปดอกไม้ รูปสถานที่ที่ไปเที่ยวมา
ข้าน้อยว่ามันน่าจะสร้างสรรกว่าน่ะค่ะ...
อย่างน้อย มองแล้วมันจรรโลงใจ...

รูปเรียวขาของเราในชุดที่เพิ่งซื้อมาใหม่
ผิวพรรณที่เพิ่งไปขัดมา รูปร่างที่เพิ่งไปยกกระชับมา
สัดส่วนและเรือนร่างของเรามันไม่น่าจะไปโผล่
ให้คนอื่นในโลกไซเบอร์วิพากวิจารณ์โดยที่เรา
ไม่ได้เงินสักบาทเดียวเลย...

อย่างน้อยแม้จะไม่สนับสนุนอาชีพนางแบบ
เพราะบางทีก็แทบเหมือนจะแก้ผ้า...
แต่นั่นเขาทำแล้วได้เงินนะคะ...
เขายังเรียกมันว่าอาชีพ
แม้จะเป็นอาชีพที่ต้องพึ่งพาเรือนร่างก็ตาม

แต่เราล่ะ...เราโชว์เรือนร่างที่เกือบเปลือยของเรา
แล้วเราได้อะไรกลับมา เงินหรือก็ไม่ได้สักบาท
ซ้ำอาจได้คำตำหนิและเสียงวิพากวิจารณ์กลับมาอีก

ผู้ชายก็มองกันสนุกตา วิจารณ์กันสนุกปากเลยล่ะงานนี้...


เคยถามตัวเองว่า ถ้าเราสวยจนมีคนมาทาบทาม
ให้ไปเป็นดารา นางแบบ ที่มีค่าตัวเจ็ดหลักต่อครั้ง
จะยอมมั้ย

บอกได้คำเดียวว่า ไม่ยอมค่ะ...
ต่อให้จนจนไม่มีอะไรกิน ก็ไม่ยอมค่ะ...

รูปเราจะไปแปะที่ประตูรถไฟ
หรือทางเข้าออกของห้างสรรพสินค้าและท่ีต่างๆ
ที่เราอาจไม่ชอบนั้น ข้าน้อยคนนึงที่ ยอมไม่ได้เลยค่ะ...
ไม่รู้ทำไมสิ...เพราะคงยากที่จะได้ยินแต่คำชื่นชม
อย่างน้อยคงมีคนวิพากวิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ
เกี่ยวกับภาพของเราและตัวของเรา...

ไม่แปลกเลยที่ท่านนบี บอกว่า
สถานที่ที่ดีและเหมาะกับสตรีที่สุดคือ บ้านของเธอ

เพราะข้าน้อยคิดว่า

เธอจะไม่ตกเป็นขี้ปากใครหรือได้ยินใคร
พูดเสียๆหายๆเกี่ยวกับเธอ หากเธออยู่ในบ้านของเธอ....

แต่เพราะความจำเป็นต้องออกไปทำมาหากิน
อย่างที่โลกปัจจุบันต้องทำให้ออกไป...มันจึงเลี่ยงไม่ได้
ที่จะต้องฟังเสียงวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับตัวบุคคลนัั้นบุคคลนี้

และมันคือ ภาพสะท้อนชั้นเยี่ยมท่ีทำให้ต้องกลับมาคิดว่า...
เราจะทำอย่างไร ให้ศาสนาของเรายังอยู่ในใจเรา....
ไม่สั่นคลอน...

ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนไหวง่ายค่ะ...ซ้ำยังอ่อนแอ
เธอไม่ค่อยเหมาะเลยกับโลกภายนอกที่อยู่นอกประตู
สักเท่าไหร่นัก...
แม้จะดูเข้มแข็งแค่ไหน แต่สุดท้ายก็คือ ผู้หญิง...

ที่ยังต้องการการปกป้องดูแล...และทะนุถนอม...

แม้จะผ่านสังคมที่เน้นเรื่องของแฟชั่นอย่างญ่ีปุ่นมา
แต่ก็ยังยอมรับกับการที่ผู้หญิงเราถูกหลอกให้แก้ผ้า
ให้ผู้ชายดูไม่ได้อยู่ดี...

เหมือนเราถูกเขาหลอกให้แก้ผ้าให้ดู...

เขามีความสุขที่ได้ดูเราแก้ผ้า

แล้วเราล่ะมีความสุขไหมที่ต้องแก้ผ้าให้เขาดู...

เรามีความสุขเพราะแก้ผ้าให้คนอื่นดู
หรือมีความสุขที่ได้เงินและสิ่งตอบแทนจากมัน...

หรือเป็นเพราะเรามีความภูมิใจในเรือนร่าง
จึงอยากนำเสนอ...

โจทย์ข้อหลังสุด น่าคิดที่สุดค่ะ...
เพราะถ้ามันเกิดจากความภูมิใจที่ได้โชว์แล้วล่ะก็...

ผู้หญิงเราจะตกอยู่ในสภาพเช่นไรในสายตาผู้ชาย!!!...


ร่ายเสียยาวค่ะ...อาจเป็นเพราะรู้สึกว่าหญิงไทยเรา
แต่งตัวโชว์เนื้อล้ำหน้าสาวญี่ปุ่นไปไกลแล้วน่ะค่ะ...
ต่างจากแต่ก่อนมาก...เห็นภาพในface book
ของเพื่อนๆแล้วแปลกใจ ไม่คิดว่าเพื่อนเราสมัยเด็กๆ
จะเปลี่ยนไปมาก...จนเราจำแทบไม่ได้...

และแน่นอนเพื่อนเราอาจจำเราไม่ได้ก็ได้ด้วย...อิอิ...
เพราะตัวเราก็ไม่ได้เด็กแล้ว...เฮะๆ

มีคนเคยทักอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ว่าข้าน้อยเรียนจบนอกมา...
เพราะเขาบอกว่าแต่งตัวได้หลุดเทรนมาก...
ไม่มีลุคของเด็กนอกเลย...ซ้ำยังจบออกแบบมาอีก
มันทำให้เขาพูดว่า...นักออกแบบเป็นแบบนี้หรือ...

ข้าน้อยบอกว่า ไม่รู้นักออกแบบคนอื่นเป็นแบบนี้มั้ย
แต่ข้าน้อยเป็นมุสลิมมะฮฺ แต่งตัวในแนวของมุสลิม
แม้ไม่เข้าขั้นเคร่งครัดมาก แต่ก็พยายามไปให้ถึง
ขั้นที่ว่าอยู่...แค่แต่งตัวตามปกติเหมือนคนทั่วๆไป
ที่พอเดินออกไปข้างนอก
แล้วคนไม่มองมาเป็นจุดเดียวกันก็เป็นพอแล้วค่ะ
ยิ่งคนไม่มองมาเลยยิ่งดีนักแล...อิอิ...

สรุปว่า...คงจะเชยในสายตาชาวบ้าน
แต่ในสายตาของนักออกแบบ มันไม่มีคำว่าเชยค่ะ
เพราะเรื่องแฟชัั่นมันหมุนไปเรื่อยๆ
วกไปวนมาอยู่อย่างนั้นแหล่ะค่ะ...
เราเลือกอะไรที่เหมาะกับเราและเข้ากับเรา
แล้วเราจะมีความสุข ไม่อึดอัดใจ...
ตามคอนเซปต์ของเราค่ะ...จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนไป
เปลี่ยนมาให้เปลืองตังค์บ่อยๆด้วย...
จะได้เอาตังค์ไปเลี้ยงไอติมหลานๆแทน...ฮา...

อย่างถ้าเราเห็นเขาใส่กางเกงคับๆแล้วเราใส่ตามเขา
ทั้งๆที่มันทำให้เราอึดอัด เราคงต้องกลับมาถามตัวเอง
แล้วล่ะค่ะว่า เราใส่มันเพื่ออะไร...

แต่ถ้าเราชอบที่จะใส่มัน ก็ไม่แปลก
ปัญหาก็คือ...เราใส่เพื่ออะไรมากกว่าค่ะ...

เราใส่ตามเขา หรือตามอารมณ์เรา
หรือตามหลักศาสนาของเรา หรือเขาบังคับให้ใส่
หรือว่าไม่มีอะไรให้ใส่...ร้อยแปดพันเหตุผลค่ะ
หามาให้ได้สักเหตุผลว่าใส่ทำไม
แล้วเราจะรู้ว่า เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเหตุผล...อิอิอิ...

จะได้มีคำตอบเวลาโดนถาม...
มิใช่ตอบออกไปแค่ว่า

...ก็จะใส่อ่ะ...ใครจะทำไม...

อันนี้ดูขาดเหตุผลไปนิดส์นึงนะคะ...

พ่อเคยตกใจตอนถามว่า ชุดที่ดาราเขาใส่ๆกันนั้น
ราคามันเท่าไหร่ ไอ้เราก็พอรู้จักยี่ห้อชุดนั้นเสียด้วย
เลยตอบไปแบบประมาณๆ...

พ่อตกใจพร้อมกับพูดว่า ชุดที่ใช้ผ้าตัดแค่ไม่กี่คืบเนี่ยนะ
ราคาเป็นหมื่นๆ...คนตัดชุดคงรวยกันล่ะงานนี้...
เพิ่งรู้ว่ากางเกงในเดี๋ยวนี้ราคาเป็นหมื่นๆ...
ทำไมของพ่อใส่มันไม่กี่บาทเอง...เห็นใส่ได้ตั้งนาน...

ก็เลยบอกพ่อไปว่า...เขาขายยี่ห้อพ่อ...
ไม่ได้ขายแค่กางเกงใน...และนั่นน่ะชุดพ่อ
ไม่ใช่กางเกงในอย่างที่พ่อคิด...ชุดแฟชั่นกำลังมาแรง
นะพ่อนะ...อิอิ...พ่อไม่ต้องห่วงหรอก
เดี๋ยวกางเกงในที่พ่อว่าก็จะมีของปลอมออกมา
ขายในราคาไม่กี่บาทอยู่ดี...แล้วเราก็จะได้เห็นคนใส่กัน
ทั่วบ้านทั่วเมือง...

เลยไม่แปลกที่สาวๆจะใส่ชุดที่ซื้อมาราคาแพงๆ
แล้วถ่ายรูปโชว์ในเฟสบุ้คให้เพื่อนๆอิจฉาเล่นๆกัน
ก็มันน่าภูมิใจอยู่ไม่น้อยนี่คะ
ที่เราสามารถซื้อชุดดังกล่าวมาได้...
ชุดที่ดาราเขาใส่กัน...เราจะเจริญรอยตามดารา...
เขาใส่อะไรเราก็จะใส่ด้วย...

ซึ่งความคิดเช่นนี้จะไม่ค่อยถูกพบ
ในพวกที่เรียนออกแบบมาน่ะค่ะ


วัสลามค่ะ





"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ chocolatesunday

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 149
  • "ของหวาน" ที่มีเอกลักษณ์ตรง "ความขม" >o<
  • Respect: +26
    • ดูรายละเอียด
Re: การโพสต์รูปของสตรีให้กับผู้อื่นดู
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: พ.ย. 27, 2012, 11:01 AM »
0
 :salam:

   มีรุ่นน้องคนหนึ่งโพสใน FB ว่า "ความอดทนที่มีเกียร์ติอย่างนึงของมุสลิมะห์ คือ การไม่แสดงรูปตัวเองลงเฟสบุ๊ค" loveit:

   สำหรับบางคนมันอาจจะไม่ถึงกับต้องอดทน เพราะไม่ได้อยากที่จะนำเสนอขนาดนั้น
แต่ถ้ามองในมุมของคนที่อยากโพส อยากถูกชม อยากถูกไลค์ มันก็คงเป็นสิ่งที่อดทนอยุ่พอควรที่จะเก็บรูปสวยๆของตัวเองไม่ให้ออกมาสู่สาธารณะ

 ปล. คิดว่าการที่ไม่ไปกดไลค์ แสดงความคิดเห็น ชมนู่นนี่นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เคยเจอบางคนโพสเรื่องการที่มุสลิมะฮฺเอารูปโชว์บนเฟสบุ๊คว่าไม่สมควร แต่ตัวเองกลับไปกดไลค์คอมเม้นใต้ภาพของมุสลิมะฮฺเกือบทุกรูปเลยแฮะ  Oops:
,,,,,,,แล้วอยากรู้ว่าขอบเขตของมุสลิมีนในการโพสรูปตัวเองลงเฟซบุคมีความเหมาะสมหรือไม่ค่ะ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: การโพสต์รูปของสตรีให้กับผู้อื่นดู
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: เม.ย. 20, 2013, 09:49 AM »
0
มีเพื่อนที่กำลังศึกษาอิสลามมาถามข้าน้อยว่า....

เมื่อวันก่อนเห็นมุสลิมะฮฺของเราโพสต์ภาพตัวเอง
ที่นอนแช่น้ำอยู่ในอ่างในเฟสบุ้ค แต่ว่าไม่ได้เห็นอะไรโป๊
เพราะร่างกายแช่อยู่ในน้ำ...พร้อมกับพิมพ์ว่า
หลังจากอาบน้ำเสร็จเราก็จะขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮฺก่อนนอน...

เพื่อนจึงถามว่า...มันผิดหลักศาสนามั้ยที่ผู้หญิงคนนั้น
เขาโพสต์รูปที่ตัวเองนอนแช่ในอ่างอาบน้ำให้คนที่สาธารณะเห็น
เพราะภาพนั้นใครๆก็สามารถเข้าไปดูไปชมได้...

ข้าน้อยเลยได้แต่อึ้ง...
ที่อึ้ง ไม่ใช่เพราะตอบไม่ได้ อึ้งเพราะ...

...มุสลิมะฮ์ท่านนี้กำลังคิดอะไรอยู่...

พี่น้องเราในที่นี้ล่ะคะ...คิดอย่างไรกับเรื่องนี้...

วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged