ผู้เขียน หัวข้อ: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์  (อ่าน 10268 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป

อัสลามุอะลัยกุ้มครับท่านพี่น้อง

เจอบทความดีๆ เรื่องความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์  ที่สมควรนำเสนอในหมวดกระทู้นี้  เพื่อปลุกจิตสำนึกตัวของเราและพี่น้องกันครับ

คำนิยาม

ตักวาตามหลักภาษาอาหรับ

อัตตักวาตามหลักภาษาอาหรับ : มาจากคำว่า وَقَى (วะกอ) หมายถึง "การหักห้ามหรือป้องกัน" หรือมีความหมายอีกนัยหนึ่งว่า "ความยำเกรง" ดังนั้น คำว่าตักวาตามหลักภาษาอาหรับ ย่อมหมายถึง "การรักษาป้องกันจากสิ่งที่น่ารังเกียจและควรหลีกห่าง"

ท่านอิบนุกะษีร ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า "รากศัพท์เดิมของคำว่า ตักวา นั้น หมายถึง การรักษาป้องกันจากสิ่งที่น่ารังเกียจ"

ท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้ถามท่านอุบัย บิน กะอับ ถึงเรื่อง ตักวา ? ท่านอุบัย ตอบว่า "ท่านไม่เคยเดินบนทางที่มีขวากหนามกระนั้นหรือ?" ท่านอุมัรตอบว่า "หามิได้" ท่านอุบัยกล่าวว่า "แล้วท่านปฏิบัติสิ่งอันใดหรือ?" ท่านอุมัรตอบว่า "ฉันได้ทุ่มเทและมีความพากเพียรในการทำอิบาดะฮ์" ท่านอุบัยกล่าวว่า "ดังกล่าวนั่นแหละคือการตักวา"

ท่านอิบนุมันซูร กล่าวว่า "ตักวานั้นมาจากคำว่า وِقَايَة (วิกอยะฮ์) หมายถึงการปกป้อง เช่นกล่าวว่า "อัลเลาะฮ์ทรงปกป้องท่านจากความชั่วของชายคนหนึ่ง"

ในอัลกุรอานระบุว่า "และไม่มีผู้ใด(วิกอยะฮ์)ปกป้องพวกเขาให้พ้นจาก(การลงโทษ)ของอัลเลาะฮ์ได้" (40:21)

คำว่า ตักวา เป็นอาการนาม ซึ่งอัลกุรอานได้ระบุความว่า "และพระองค์ทรงประทานแก่พวกเขาซึ่งความตักวาของพวกเขา" (47:17) หมายถึง พระองค์ทรงตอบแทนความยำเกรงของพวกเขา บางทัศนะกล่าวว่า หมายถึง อัลเลาะฮ์ทรงดลใจให้พวกเขามีความยำเกรง

และคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตะอาลา ความว่า " พระองค์เท่านั้นคือพระเจ้าแห่งการตักวาและพระเจ้าแห่งการให้อภัย" (74:56) หมายถึง พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งการปกป้องผู้ยำเกรงจาการลงโทษของพระองค์และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงกระทำสิ่งที่นำไปสู่การอภัยโทษต่อผู้ที่ทำการขออภัยโทษต่อพระองค์

และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า "โอ้ นบีเอ๋ย เจ้าจงตักวาต่ออัลเลาะฮ์" (33:1) หมายถึง เจ้าจงยืนหยัดและมั่นคงต่อการยำเกรงอัลเลาะฮ์"

ตักวาตามหลักศาสนา

ตักวาตามหลักศาสนา หมายถึง "การป้องกันตนเองจากการฝ่าฝืน ละทิ้งการตั้งภาคี การกระทำสิ่งที่น่าเกียจ และบาปใหญ่ทั้งหลาย และปฏิบัติตามครรลองของชะรีอัต" ดังนั้น การตักวา ย่อมหมายถึง "กระทำการภักดีต่าง ๆ และหลีกห่างจากบรรดาความชั่ว"

ท่านอัลมุนาวีย์ กล่าวว่า "ตักวา คือ การห่างไกลจากสิ่งที่น่ารังเกียจ เพราะเกรงกลัวอัลเลาะฮ์หรือการป้องกันตนเองจากการลงโทษของอัลเลาะฮ์ด้วยการภักดีซึ่งก็คือการรักษาจิตใจให้พ้นจากสิ่งที่น่ารังเกียจ"

บางทัศนะให้คำนิยามว่า "ตักวา คือ การห่างไกลจากทุก ๆ สิ่งที่ทำให้ท่านห่างไกลจากอัลเลาะฮ์"

บางทัศนะให้คำนิยามว่า "ตักวา คือ การที่ท่านไม่เคยเห็นว่าตนเองนั้นดีเลิศกว่าคนอื่น"

ท่านอัลกุรตุบีย์ กล่าวว่า "ตักวา คือ การประมวลไว้ซึ่งคุณงามความดีทั้งหมด ซึ่งดังกล่าวคือการกำชับของอัลเลาะฮ์ที่มีต่อบรรพชนยุคแรกและยุคสุดท้าย ตักวา คือ ความดีงามอันเลอเลิศที่มนุษย์ได้รับผลประโยชน์จากมัน"

http://deen2do.com/taqwa/archives/29

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พ.ย. 20, 2007, 02:38 PM »
0
คำกล่าวของนักปราชญ์เกี่ยวกับตักวา

ท่านอะลี ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "ตักวาคือ การเกรงกลัวอัลเลาะฮ์ผู้ทรงเกียรติ การปฏิบัติตามบทบัญญัติที่ประทานลงมา มีความพอเพียง และมีการเตรียมพร้อมสำหรับวันที่ลาจากโลกนี้ไป"

ท่านอิบนุอับบาส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "บรรดาผู้มีความตักวานั้น คือบุคคลซึ่งมีความระวังการลงโทษของอัลเลาะฮ์จากการละทิ้งสิ่งที่พวกเขาทราบว่ามันเป็นทางนำและการที่พวกเขาหวังในความเมตตาของพระองค์ด้วยการเชื่อมั่นในสิ่งที่พระองค์ทรงประทานมา"

ท่านอบีดัรดาอ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "การตักวาที่สมบูรณ์นั้น คือการที่บ่าวคนหนึ่งได้มีความยำเกรงต่ออัลเลาะฮ์ จนกระทั่งพระองค์ทรงปกป้องเขาจากทุกอณูความผิด และจนกระทั่งเขาละทิ้งบางสิ่งบางอย่างที่เขาเห็นว่าอนุมัติ เพราะกลัวว่ามันจะกลับกลายเป็นสิ่งที่ต้องห้าม"

ท่านอบีดัรดาอ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวเช่นกันว่า "บุคคลหนึ่งต้องการได้รับสิ่งที่มุ่งหวัง ทว่าอัลเลาะฮ์ทรงปฏิเสธจะให้นอกจากสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์เท่านั้น บุคลลหนึ่งกล่าวว่า นี้คือผลประโยชน์ของฉันและนี้คือทรัพย์สินของฉัน ทั้งที่การตักวาต่ออัลเลาะฮ์นั้นย่อมเลอเลิศกว่าสิ่งที่เขาได้รับประโยชน์"

ท่านอัลหะซัน อัลบะซ่อรีย์ กล่าวว่า "บรรดาผู้มีความตักวา คือบุคคลที่ปกป้องตนเองจากสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงบัญญัติห้ามแก่พวกเขาและบุคคลที่ปฏิบัติตามสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงกำหนดเหนือพวกเขา"

ท่านฏ่อลิก บิน หะบีบ กล่าวว่า "ตักวาคือการที่ท่านได้ปฏิบัติการภักดีต่ออัลเลาะฮ์ที่อยู่บนรัศมีทางนำของพระองค์ โดยมุ่งหวังในผลบุญ และการที่ท่านได้ละทิ้งการฝ่าฝืนต่ออัลเลาะฮ์ด้วยรัศมีทางนำจากอัลเลาะฮ์ โดยมีความเกรงกลัวต่อการลงโทษ"

ท่านอิบนุมัสอูด ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "ตักวาคือการที่อัลเลาะฮ์ได้รับการภักดี ดังนั้นพระองค์จะไม่ถูกฝ่าฝืน พระองค์จะถูกรำลึกถึง ดังนั้นพระองค์จะไม่ถูกลืม พระองค์ทรงได้รับการกตัญญูรู้คุณ ดังนั้นพระองค์จะไม่ถูกเนรคุณ"

ท่านอิบนุมุอฺตะมิร กล่าวว่า "ท่านจงละทิ้งบาปไม่ว่าบาปเล็กหรือบาปใหญ่ เขาย่อมเป็นผู้ตักวา ท่านจะทำงานเสมือนผู้ที่เดินอยู่บนผืนดินที่มีขวากหนามซึ่งเขาจะระวังขวากหนามที่เขามองเห็นและท่านอย่ามองข้ามบาปเล็กเนื่องจากบรรดาขุนเขานั้นก็มาจากก้อนหิน"

ดังนั้น จากคำกล่าวของปวงปราชญ์เกี่ยวกับเรื่องตักวา เน้นความหมายของการทำให้หัวใจมีความตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ มีความรู้สึกความน่าเกรงขามและความทรงเกียรติของพระองค์ และมีความเกรงกลัวถึงการสอบสวนและการลงโทษของพระองค์อีกด้วย พวกเขามิได้จำกัดความหมายของการตักวาเพียงแค่ห่างไกลจากบาปใหญ่เท่านั้น แต่ทว่ายังรวมถึงบาปเล็กด้วยเช่นกัน และยิ่งกว่านั้นพวกเขาได้ทำให้ความหมายของการตักวามีความสมบูรณ์ด้วยการหลีกจากสิ่งอนุมัติที่อาจจะนำไปสู่สิ่งต้องห้าม

http://deen2do.com/taqwa/archives/30

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พ.ย. 20, 2007, 02:42 PM »
0
ผลประโยชน์จากการตักวาในโลกดุนยา

1. การตักวา เป็นเหตุให้กิจการงานต่าง ๆ มีความง่ายดาย อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และผู้ใดตักวาต่ออัลลอฮ์ พระองค์จะทรงทำให้กิจการของเขาสะดวกง่ายดายแก่เขา" 65:4

2. การตักวา เป็นสาเหตุในการปกป้องโทษต่าง ๆ ของชัยฏอน อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "แท้จริงบรรดาผู้ที่มีความตักวานั้น เมื่อมีคำชี้นำใด ๆ จากชัยฏอนประสบแก่พวกเขา พวกเขาก็รำลึกได้แล้วทันใดพวกเขาก็มองเห็น" 7:201

3. การตักวา เป็นเหตุให้ความจำเริญได้เปิดและเพิ่มพูนริสกีจากฟากฟ้าและแผ่นดิน อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และหากว่าชาวเมืองนั้นได้ศรัทธากันและมีความตักวาแล้วไซร้ แน่นอนเราก็เปิดให้แก่พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาความเพิ่มพูนจากฟากฟ้าและแผ่นดิน" 7:96

4. การตักวา เป็นเหตุให้บ่าวได้รับทางนำในการจำแนกความจริงและความเท็จได้ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! หากพวกเจ้ายำเกรงอัลลอฮ์ พระองค์ก็จงทรงให้มีแก่พวกเจ้าซึ่งสิ่งที่จำแนกความจริงและความเท็จ" 8:29

5. การตักวา เป็นเหตุทำให้รอดพ้นจากความยากลำบาก ได้รับริสกีและมีความสะดวกสบายสำหรับผู้ที่มีความตักวาอย่างไม่สามารถคำนวนได้ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และผู้ใดมีความตักวาต่ออัลลอฮ์ พระองค์ก็จะทรงหาทางออกให้แก่เขาและจะทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่เขาจากที่ที่เขามิได้คาดคิด และผู้ใดมอบหมายแด่อัลลอฮ์ พระองค์ก็จะทรงเป็นผู้พอเพียงแก่เขา แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงบรรลุในกิจการของพระองค์ โดยแน่นอนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนั้น อัลลอฮ์ทรงกำหนดกฎสภาวะไว้แล้ว" 65:2-3

6. การตักวา เป็นเหตุทำให้เขาเป็นคนรักของอัลเลาะฮ์ตาอาลา พระองค์ทรงตรัสความว่า "บรรดาผู้เป็นที่รักของอัลเลาะฮ์นั้น มิใช่ใครอื่น นอกจากบรรดาผู้มีความตักวา" 8:34

7. การตักวา เป็นสาเหตุให้อะมัลมีคุณค่าและถูกตอบรับและทำให้ได้รับการอภัยโทษ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! จงตักวาต่ออัลลอฮ์ และจงกล่าวถ้อยคำที่เที่ยงธรรมเถิด พระองค์จะทรงปรับปรุงการงานของพวกเจ้าให้ดีขึ้นสำหรับพวกเจ้า และจะทรงอภัยโทษความผิดของพวกเจ้าให้แก่พวกเจ้าและผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์แล่ะร่อซู้ลของพระองค์ แน่นอนเขาได้รับความสำเร็จใหญ่หลวง" 33:70-71

8. การตักวา เป็นสาเหตุทำให้ได้รับความรักต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา ซึ่งความรักนี้จะได้รับทั้งในโลกนี้เฉกเช่นเดียวกับโลกหน้า อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "มิใช่เช่นนั้นดอก ผู้ใดที่รักสัญญาของเขาโดยครบถ้วน และตักวา (อัลลอฮ์) แล้วแน่นอนอัลลอฮ์ทรงรักผู้ที่มีความตักวานั้น" 3:76

9. การตักวา เป็นเหตุให้เราได้รับความรู้ อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และพวกเจ้าจงตักวาต่ออัลลอฮ์เถิด และอัลเลาะฮ์จะทรงสอนพวกเจ้า" 2:282

10. การตักวา เป็นสาเหตุให้ได้รับข่าวดีในโลกนี้ ไม่ว่าจะได้รับการฝันเห็นสิ่งดี ๆ บรรดาผู้คนให้ความชื่นชอบ มอบความรักและให้การสรรเสริญต่อเขา อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "คือบรรดาผู้ศรัทธา และพวกเขามีความตักวา สำหรับพวกเขาจะได้รับข่าวดีในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ (เช่นการฝันเห็นสิ่งดีงาม) และในโลกหน้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในลิขิตของอัลลอฮ์ นั่นคือชัยชนะอันยิ่งใหญ่" 10:63-64

http://deen2do.com/taqwa/archives/31

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พ.ย. 20, 2007, 02:45 PM »
0
หากมีเพิ่มเติมอีกก็จะนำมาเสนออีกนะขอรับท่านพี่น้อง  ;D

วัสลามขอรับ

ออฟไลน์ hasanah

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 21
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พ.ย. 20, 2007, 05:04 PM »
0
 :jazakallah

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พ.ย. 21, 2007, 12:11 PM »
0
ตอนต่อล่าสุดมาแล้ว  แต่ก๊อบยากส์  เลยนำลิงค์มาอ้างอิงไว้ก่อน  ใครที่ก๊อบมาได้ก็จัดการนำเสนอได้ล่ะกัน  ;D

http://deen2do.com/taqwa/archives/32#comments

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พ.ย. 21, 2007, 12:23 PM »
0

ผลประโยชน์ที่ได้รับในโลกอาคิเราะฮ์

1. การตักวา  ทำให้ได้รับข่าวดีทั้งโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮ์

กล่าวคือความน่าสะพึงกลัวครั้งยิ่งใหญ่ในวันนั้นไม่ทำให้พวกเขาโศกเศร้า  และบรรดามะลาอิกะฮ์จะยินดีต้อนรับพวกเขา  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "พึงสังวรณ์ ! แท้จริงบรรดาผู้เป็นที่รักของอัลเลาะฮ์นั้น  พวกเขาย่อมไม่ประสบความหวั่นกลัวใด ๆ และพวกเขาจะไม่มีความโศกเศร้า (พวกเขาเหล่านั้น) เป็นพวกที่มีความศรัทธาและพวกเขามีความตักวา  พวกเขาได้รับข่าวดีในชีวิตทางโลกนี้และในโลกหน้า" 10: 62-63-64

ท่านอิมามอะห์มัด รายงานจากท่านอบีอัรดาอฺว่า  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวถึงคำตรัสของอัลเลาะฮ์ที่ว่า "พวกเขาได้รับข่าวดีในชีวิตทางโลกนี้"  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "มันคือความฝันที่ดีงามที่มุสลิมคนหนึ่งได้ฝันเห็น"

รายงานจากอบูซัรร์ รอฏิยัลลอฮุอันฮุ  เขากล่าวว่า "โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ บุรุษคนหนึ่งได้ปฏิบัติการงานหนึ่ง แล้วบรรดาผู้คนได้การสรรเสริญและยกย่องเขา ดังนั้นท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ดังกล่าวนั้นคือกล่าวข่าวดีของมุอฺมินที่ได้รับในโลกนี้"

ท่านอิบนุกะษีรได้กล่าวไว้ในตัฟซีรของท่านว่า "ข่าวดีของพวกเขาในโลกหน้านั้น ดังที่อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า "ความวิกฤติอันใหญ่หลวง (ของวันกิยามะฮ์) ไม่ทำความโศกเศร้าแก่พวกเขาเลยและมวลมะลาอิกะฮ์ต่างก็ต้อนรับพวกเขาว่า นี้คือวันของพวกท่าน  ตามที่พวกท่านได้ถูกสัญญาไว้(จากอัลเลาะฮ์)" 21:103

 

2.  การตักวา  เป็นเหตุทำให้เขาเป็นผู้มีเกียรติ ณ ที่อัลเลาะฮ์ตาอาลา

พระองค์ทรงตรัสความว่า "แท้จริงผู้มีเกียรติที่สุดในหมู่พวกเจ้า ณ อัลเลาะฮ์คือผู้มีความยำเกรงอัลเลาะฮ์ที่สุดในหมู่พวกเจ้า" 49:13

 

3.  การตักวา  เป็นเหตุให้พวกเขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์  โดยได้ขี่พาหนะไปยังอัลเลาะฮ์ตาอาลา

พระองค์ทรงตรัสว่า "ในวันซึ่งเราจะชุมนุมมวลชนที่มีความตักวา  สู่พระองค์ผู้ทรงเมตตา  โดยพวกเขาขี่พาหนะมา" 19:85

ท่านอิบนุกะษีร กล่าวว่า "รายงานจากนั๊วะอฺมาน บิน สะอีด ซึ่งเขากล่าวว่า  เราได้นั่งอยู่กับท่านอะลี  ดังนั้นได้อ่านอายะฮ์หนึ่งความว่า "ในวันซึ่งเราจะชุมนุมมวลชนที่มีความตักวา  สู่พระองค์ผู้ทรงเมตตา  โดยพวกเขาขี่พาหนะมา"

ท่านอะลีกล่าวว่า บรรดาผู้มีความตักวามิได้ชุมกันโดยยืนด้วยเท้า  ผู้ที่ได้ขี่พาหนะจะไม่ต้องยืนบนเท้าของพวกเขา  แต่ทว่าพวกเขาจะได้ขี่อูฐที่บรรดามนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย  ซึ่งอานสำหรับนั่งบนอูฐทำมาจากทองคำ  แล้วพวกเขาก็ทำการขี่จนกระทั่งได้เคาะบรรดาประตูสวรรค์"

 

4.  การตักวา  เป็นเหตุให้มีธารน้ำหลายสายที่แตกต่างกัน

คือมีธารน้ำจืดที่รสชาติจืดสนิท  ธารน้ำนมที่รสชาติไม่เปลี่ยนแปลง และธารน้ำสุราที่มีรสชาติโอชา อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ลักษณะของสวรรค์ที่ถูกสัญญาไว้แก่บรรดาผู้มีความตักวานั้น  คือในนั้นมีธารน้ำหลายสายมีน้ำซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงสภาพ และธารน้ำอีกหลายสายที่เต็มไปด้วยน้ำนมซึ่งรสชาดไม่เคยเปลี่ยนแปลง  อีกทั้งธานน้ำหลายสาย  สายที่มีสุราอันยังความโอชาแก่ผู้ดื่มกิน  และธานน้ำอีกหลายสายที่มีน้ำผึ้งอันสะอาดบริสุทธิ์ และพวกเขามีผลไม้ทุกชนิดในสวรรค์  และได้รับนิรโทษจากองค์อภิบาลของพวกเขา" 47:15

มีฮะดิษรายงานว่า  ท่านนบี ซ๊อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "เมื่อพวกท่านทำการขอต่ออัลเลาะฮ์  ดังนั้นพวกท่านจงขอสวรรค์ฟิรเดาซ์ต่อพระองค์เถิด  เพราะมันเป็นสรวงสวรรค์ชั้นสูงที่สุด  ธานน้ำในสวรรค์จะผุดออกมาจากมัน  และเบื้องบนของมันนั้นมีบัลลังก์ของพระองค์ผู้มีความเมตตา" 

 

5.  การตักวา  เป็นเหตุให้พวกเขาเป็นมิตรสหายซึ่งกันและกัน

ดังที่อัลเลาะฮ์ทรงตรัสไว้ความว่า "บรรดามิตรสหายในวันนั้นต่างเป็นศัตรูซึ่งกันและกัน ยกเว้นบรรดาผู้มีความตักวาเท่านั้น" 43:67






(ก๊อบยากงัยอ่ะ เง้อ  ไม่เป็นไรตานี้ชาได้บุญ ฮุฮุ) ;D
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พ.ย. 23, 2007, 12:36 AM »
0
6.  การตักวา  เป็นเหตุให้พวกเขาได้รับปราสาทที่มีปราสาทอีกหลายหลังถูกสร้างไว้ข้างบนของมัน  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "แต่บรรดาผู้มีความตักวาต่อองค์อภิบาลของพวกเขานั้น  พวกเขาจะได้รับปราสาทหลายหลัง  ซึ่งมีปราสาทอีกหลายหลังที่ถูกก่อสร้างไว้ด้านบนของมัน  มีธานน้ำไหลอยู่จากเบื้องใต้ของมันเป็นสัญญาแห่งอัลเลาะฮ์! ซึ่งพระองค์ย่อมไม่ผิดสัญญา" 39:20

7.  การตักวา  เป็นเหตุให้พวกเขาได้อยู่พี่พำนักอันปลอดภัย  ได้อยู่ในบรรดสร้างสวรรค์ที่มีแหล่งน้ำอันมากมายและอื่น ๆ อีกมากมาย  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "แท้จริงบรรดาผู้มีความตักวา  ย่อมได้อยู่ในที่อยู่อันปลอดภัย  ในสวนสวรรค์  และแหล่งน้ำอันมากมาย  พวกเขาจะสวมใส่อาภรณ์จากผ้าไหมทั้งหยาบและละเอียด  พวกเขาต่างหันหน้าเข้าหากัน  เช่นนั้น! และเราได้จัดสมรสพวกเขากับนางสวรรค์ผู้มีร่างกายขาวผ่อง  มีดวงตากลมโต  พวกเขาจะวอนขอผลไม้ทุกชนิดในนั้น  อีกทั้งได้อยู่โดยปลอดภัย  พวกเขาจะไม่ลิ้มรสความตายในนั้นอีกต่อไป  นอกจากความตายครั้งแรกเท่านั้นและพระองค์ทรงป้องกันพวกเขาไว้จากการลงโทษในนรก" 44:51-56

8.  การตักวา  เป็นเหตุให้เขาได้รับสิ่งที่อารมณ์ของเขาปรารถนาและบรรดาสายตามีความชื่นชอบ  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และได้มีผู้พูดถามกับบรรดาผู้มีความตักวาว่า "องค์อภิบาลของพวกท่านได้ประทานสิ่งใดลงมาบ้างเล่า?" พวกเขาก็ตอบว่า "(พระองค์ประทานแต่) ความดี! ปวงชนผู้ประกอบความดีงามในพื้นพิภพนี้  ย่อมได้รับความดีเป็นสิ่งตอบแทน  และที่จริงโลกหน้าย่อมจะดีกว่า  และเป็นที่อยู่อันเยี่ยมยอดที่สุด  ของบรรดาผู้มีความตักวาทั้งมวล  นั่นคือ  บรรดาสวรรค์อันนิรันดร์  ซึ่งพวกเขาจะได้เข้าไปในนั้น  มีธานน้ำหลายสายไหลอยู่ ณ เบื้องใต้ของมัน  พวกเขาได้ทุกสิ่งที่พวกเขาประสงค์ในนั้น  เช่นนั้น! อัลเลาะฮ์ทรงตอบแทน  แก่บรรดาผู้มีความตักวาทั้งมวล" 16:30-31

9.  การตักวา  เป็นเหตุให้พวกเขาได้มีโอกาสเดินบรรดาใต้ต้นไม้ในสรวงสวรรค์ และได้รับความสุขสำราญด้วยกับรมเงาของมัน  อัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงตรัสความว่า "แท้จริงบรรดาผู้มีความตักวา(ต่ออัลเลาะฮ์) ย่อมได้อยู่ในร่มเงา และ(ใกล้) ธานน้ำ  และมีผลไม้ต่าง ๆ จากสิ่งที่พวกเขาใคร่รัปทาน (และมีผู้ประกาศว่า) "พวกเจ้าจงรัปทาน  และจงดื่มให้สุขสำราญเถิด  อันเนื่องมาจากความดีที่พวกเจ้าได้ประพฤติมา" 77:41-43

10.  การตักวา  เป็นเหตุให้พวกเขาได้รับผลการตอบแทนความดีงามเป็นสองเท่า  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "โอ้บรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลาย  จงตักวาต่ออัลเลาะฮ์  และจงศรัทธาต่อศาสนทูตของพระองค์เถิด  แน่นอนที่สุด  พระองค์จักประทานความเมตตาของพระองค์แก่พวกเจ้าเป็นสองเท่า และจักทรงบันดาลแก่พวกเจ้าให้มีรัศมี  ซึ่งพวกเจ้าเดินไปกับรัศมีนั้น  และทรงอภัยให้พวกเจ้า" 57:28

http://deen2do.com/taqwa/archives/32#comments
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พ.ย. 23, 2007, 01:37 AM »
0
اّللّهُمَّ اجْعَلْنَا مِنَ الْمُتَّقِيْنَ

"โอ้ อัลเลาะฮ์ โปรดทรงทำให้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งจากผู้มีความตักวายำเกรง" ยาร๊อบ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ก.ย. 30, 2009, 09:35 PM »
0
?????????? ?????????? ???? ??????????????

"โอ้ อัลเลาะฮ์ โปรดทรงทำให้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งจากผู้มีความตักวายำเกรง" ยาร๊อบ

 salam

อามีน ยาร็อบ

ญะซากัลลอฮุคอยรอน

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^____________^

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: ความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลเลาะฮ์
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ก.ค. 20, 2013, 11:44 AM »
0
อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

ท่านวะฮฺล์ อิบนุ อับดิลลาฮ์ อัตตุสฺตะรีย์ (มรณะ ฮ.ศ.283/ค.ศ.896) ได้เล่าว่า

ขณะที่ฉันมีอายุ 3 ขวบ ฉันได้ลุกขึ้นยามกลางคืนและเฝ้ามองการละหมาด
ของท่านมุฮัมหมัด อิบนุ เซาว๊ารฺ ผู้เป็นน้าชายของฉันเสมอ
อยู่มาวันหนึ่ง ท่านอิบนุ เซาว๊ารฺ ได้กล่าวแก่ฉันว่า "เจ้าจะไม่ระลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ
พระผู้สร้างเจ้ากระนั้นหรือ?" ฉันจึงถามท่านว่า "ฉันจะระลึกถึงพระองค์อย่างไร?"
ท่านตอบว่า "เจ้าจงกล่าวขึ้นในหัวใจของเจ้าขณะพลิกกายลงนอนในที่นอนของเจ้า
3 ครั้ง โดยไม่ต้องกระดิกลิ้นว่า อัลลอฮฺทรงอยู่กับฉัน อัลลอฮฺทรงมองดูฉัน
อัลลอฮฺทรงเป็นสักขีพยานของฉัน" ฉันได้กล่าวสิ่งนั้นในทุกค่ำคืน
ภายหลังฉันได้บอกสิ่งนั้นให้ท่านทราบ ท่านก็กล่าวว่า
"จงกล่าว 7 ครั้งในทุกค่ำคืน" ฉันก็ได้ปฏิบัติตามนั้น
ต่อมาฉันได้บอกให้ท่านทราบ ท่านก็บอกแก่ฉันว่า
"เจ้าจงกล่าวสิ่งดังกล่าวด้วยหัวใจของเจ้า 11 ครั้งในทุกค่ำคืน"
ฉันก็กล่าวตามนั้นจวบจนความหวานซึ้งของถ้อยคำดังกล่าวเกิดขึ้นในหัวใจของฉัน
ต่อมาหลังจากนั้น 1 ปี น้าชายของฉันได้กล่าวแก่ฉันว่า
เจ้าจงจดจำรักษาสิ่งที่เราสอนให้กับเจ้า และจงกระทำเป็นนิจศีล
จวบจนกระทั่งเจ้าได้เข้าสู่หลุมฝังศพ(จนตาย) เพราะนั่นจะยังประโยชน์
แก่เจ้าทั้งในโลกนี้และโลกหน้า"ฉันก็คงปฏิิบัติเช่นนั้นเป็นเวลาหลายปี
จนฉันพบว่าสิ่งนั้นมีความหวานซึ้งในเบื้องลึกของฉัน อยู่มาวันหนึ่ง
น้าชายของฉันได้กล่าวแก่ฉันว่า "โอ้ สะฮฺล์ เอ๋ย! บุคคลใดที่พระองค์อัลลอฮฺ
อยู่กับเขา และมองดูเขานั้น อีกทั้งเป็นสักขีพยานต่อเขาด้วยนั้น
บุคคลผู้นั้นจักกระทำการฝ่าฝืนต่อพระองค์ได้อีกหรือไร? ฉะนั้นเจ้าพึงระวัง
การฝ่าฝืนเถิด..."

และแล้ว ในที่สุด สะฮฺล์ อิบนุ อับดิลลาฮฺผู้นี้ ได้กลายเป็นนักศูฟีย์ผู้ยิ่งใหญ่
และดำรงมั่นในศีลธรรมด้วยคุณงามความดีของผู้เป็นน้าชายซึ่งฝึกฝน
และสั่งสอนเขาตั้งแต่เยาว์วัย ตลอดจนปลูกฝังความหมายแห่งศรัทธา
และการรับรูุ้ถึงการสอดส่องของพระผู้เป็นเจ้าให้เกิดขึ้นในใจของเขา
ทั้งที่เขายังมีอายุน้อยอยู่...

(คัดจากหนังสือ ตัรฺบียะตุ้ลเอาลาด 1/171)

ที่มา: หนังสือ "คัดมาให้คิด" โดย อาจารย์ อาลี เสือสมิง
เรื่อง การฝึกฝนจิตสำนึกในการระลึกถึงอัลลอฮฺ หน้าที่ 51-52

ผู้ที่ระลึกถึงอัลลอฮฺ...จะทำให้หัวใจของเขาสงบนิ่ง
และไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์...
ทำให้มีความยำเกรง(ตักวา)ต่ออัลลอฮฺ

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล จำต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก...
และต้องหมั่นกระทำอยู่เสมอๆ...เป็นนิจศีล...

เรื่องราวนี้จึงเป็นตัวอย่างหนึึ่งซึ่งสอนให้เรารู้ว่า
ไม่มีอะไรจะได้มาง่ายดาย และการฝึกฝนตัวเอง
การหักห้ามอารมณ์ของตัวเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
ต่อการมุ่งสู่เป้าหมายแห่งการตักวา...
และการเป็นคนรักของอัลลอฮฺ...


วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged