السلام عليكم
ตัวอย่างฮาดีสปลอมที่ถูกสร้างขึ้นที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จัก
عجلوابالصلاة قبل الفوت,وعجلوابالتوبة قبل الموت
จงรีบละหมาดก่อนจะหมดเวลา และ จงรีบเตาบัฮก่อนจะตาย
แต่อุสตาสแปลตลกๆว่า”“จงละหมาดก่อนเวลาจะหมด จงเตาบัตก่อนสวรรคต” เมื่อฟังดูแล้วตรงกับหลักการของปาตง(กลอน)พอดี
من تكلم بكلام الدنيافي السجد أحبط الله أعماله بأربعين سنة
ใครพูดด้วยคำพูดดุนยาในมัสยิด อัลลอฮจะพังการงานที่เป็นผลบุญของเขา40ปี
تروجواولاتطلقوا,فإن الطلاق نهتزله العرش
แต่งแล้วไม่หย่า แท้จริงแล้วการหย่านั้นเขย่าพระราชวัง
إن كان الكلام من فضة فالكون من ذهب
แท้จริงแล้วการพูดเป็นส่วนหนึ่งของทองแดง การนิ่งเป็นส่วนหนึ่งของทอง
แต่อุสตาสแปลว่า “พูดไป2ไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” ตรงกับสำนวนของไทยเลย
خيرالأمورأوساطها
การงานที่ดีคือปานกลาง
العلم في الصغركالنقش في الحجر
การรู้ตอนเด็กเหมือนกับการแกะสลักบนหิน
من عرف نفسه فقدعرف ربه
ใครรู้จะกตัวเองแล้ว เขาย่อมรู้จักพระเจ้า
من جدوجد
ใครพยายามแล้วจะสำเร็จ
อุสตาสแปลว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
الوقت سيف إن لم تقطعة قطعك
เวลาเปรียบเสมือนดาบ ถ้าเจ้าไม่ตัด มันจะตัดเจ้า
حب الوطن من الإيمان
รักแผ่นดินเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา
อ้างอิงจากหนังสือ
سلسلة
الأحاديث الضعيفة والموضوعة
وأشرهااليئ في الأمة
تخريج:محمدناصر الدين الألباني
دمشق 25/3/1379
หากผิดพลาด หรือแปลผิดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ เพราะผมเรียนแปลเป็นภาษามลายู พอแปลเป็นไทยอีกทีอาจจะเพี้ยนๆหน่อย แต่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
เอามาให้ดูเผื่อว่าคราวหลังเจอแบบนี้แล้วจะได้รู้ว่าเป็นของปลอมครับ มันดีก็จริงอยู่ แต่ไม่ใช่ฮาดีส อย่างมากเป็นแค่Perkataan Hikmat
ดังฮาดีสกล่าวว่าخذالحكمة ولا يضرك من أي وعاء خرجت จึงเป็นสิ่งที่ดีที่จะฮาดีสปลอมเหล่านี้ไปใช้ แต่ต้องคัดเลือกเอาอันที่ดีจริงๆ เพราะมีหลายอย่างที่ฟังแล้วเข้าท่าแต่พอคิดให้ลึกๆมันผิดอย่างมหันต์
หากผิดพลาดก็ขอโทษด้วยครับ
والله أعلم
والسلام
หะดิษเมาฏั๊วะอฺ แต่มีความหมายที่ถูกต้องสอดคล้องกับอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น มีมากมาย ซึ่งส่วนมากเป็นคำกล่าวของนักปราชญ์ แต่มักถูกพาดพิงไปยังท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ตัวอย่างหะดิษเมาฏั๊วะอฺต่าง ๆ ที่น้องได้อ้างอิงมานั้น นักปราชญ์ฮะดิษอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ ได้ทำการชี้แจงไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตำราหะดิษที่ระบุบรรดาหะดิษต่าง ๆ ที่เมาฏั๊วะอฺแต่ผู้คนทั้งหลายชอบยกนำมาอ้างกัน เนื่องจากความหมายมันดีนั้น จะมีอยู่ในหนังสือหะดิษต่าง ๆ เช่น
المقاصد الحسنة فى بيان كثير من الأحاديث المشتهرة على الألسنة
"เป้าหมายที่งดงามในการอธิบายถึงส่วนมากจากบรรดาหะดิษที่แพร่หลายในการพูด"
หรือเรียกสั้นว่า "หนังสืออัลมะกอซิดอัลหะซะนะฮ์" แต่โดยท่าน อัสซะคอวีย์ (ศิษย์ของท่านอิบนุหะญัรอัลอัสเกาะลานีย์)
หนังสือหะดิษเล่านี้จะพูดถึง ตัวบทที่ผู้คนทั่วไปชอบนำมาพูดและยกอ้างอิงกัน ซึ่งบางครั้งเป็นหะดิษซอฮิห์ บางครั้งเป็นหะดิษหะซัน บางครั้งเป็นหะดิษฏออีฟ และส่วนมากเป็นหะดิษเมาฏั๊วะอฺ ซึ่งผู้ประพันธ์จะกำกับว่า คำพูดนี้ เป็นคำพูดของซอฮาบะฮ์ เป็นคำพูดของตาบิอีนท่านนั้นท่านนี้ เป็นคำพูดของนักปราชญ์ หรือเป็นคำพูดสุภาษิตสอนใจ เป็นต้น
อิมามอัสสะยูฏีย์ ได้ประพันธ์หนังสือหะดิษแนวดังกล่าวเช่นเดียวกัน คือ หนังสือ
้الدرر المنتثرة فى الأحاديث المنتشرة
"อัดดุร๊อร อัลมุนตะษิเราะฮ์ ฟีลอะหาดิษ อัลมุนตะชิเราะฮ์"
หนังสือ
่่่تمييز الطيب من الخبيث
"ตัมยีซ อัฏฏ๊อยยิบ มินัลค่อบีษ"
ของท่าน อับดุรเราะห์ บิน อะลี อัชชัยบานีย์ (ศิษย์ของท่านอัสสะคอวีย์)
และหนังสือที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการนำเสนอฮะดิษที่ผู้คนทั่วไปชอบนำมาพูดกันนั้น คือหนังสือ
كشف الخفاء ومزيل الإلباس
"กัชฟุลค่อฟาอฺ วะมุซีลุลอิลบาส"
ของท่าน อิสมาอีล อัลอัจญฺลูนีย์
ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมหะดิษทั้งหมดที่นิยมนำมาอ้างกัน จากบรรดาหนังสือของนักปราชญ์คนก่อน ๆ ที่กล่าวถึงฮะดิษตามนัยยะนี้ และได้อธิบายถึงระดับของหะดิษ และมีชี้แจงว่า ตัวบทนี้มิใช่หะดิษแต่เป็นคำกล่าวของซอฮาบะฮ์ ตาบิอีน นักปราชญ์ หรือเป็นคำสอนใจ เป็นต้น
วัลลอฮุอะลัม