بسم الله الرحمن الرحيم
วิชาเตาฮีดนั้น คือ ใจความจากประมวลการยึดมั่น (เอี๊ยะติกอด) ทางศาสนาที่นำมาจากหลักฐานที่แน่นอน 
วิชานี้เป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องซ๊าตของอัลลอฮ์  ในเรื่องที่เกี่ยวกับ (วาญิบ) สิ่งที่จำเป็นต้องมีและ (มุสต้าฮี้ล) สิ่งที่ปัญญาไม่ยอมรับว่ามีตลอดจนสิ่งที่อาจมีหรือไม่มี(ฮาโรส) ณ เบื้องอัลลอฮ์ และร่อซูลของพระองค์  ตลอดจนว่าด้วยคำสอนต่าง ๆ ที่ร่อซูลนำมาสั่งสอน เช่น เรื่องของวันกิยามะฮ์ และอื่น ๆ 
ประโยชน์ของวิชานี้  คือ 
ผู้ศึกษาจะมีความสุขประสบโชคดีตลอดกาลศาสนานั้น คือ ใจความจากประมวล (หุ่ก่ม) หลักการของอัลเลาะฮ์ที่พระองค์ได้ทรงส่งผ่านร่อซูลมายังปวงบ่าวของพระองค์  อันทำให้เขาเหล่านั้นประสบแต่คุณงามความดีอันถาวรสืบไป
เครื่องหมายของศาสนานั้น มี 4 ประการ
1. การเชื่อที่ถูกต้อง  กล่าวคือ การเชื่อมั่นอย่างเด็ดขาดต่อสิ่งที่ชาวอะฮ์ลิสซุนนะฮ์เชื่อมั่น
2. มีเจตนาที่ถูกต้อง กล่าวคือ ทำอิบาดะฮ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
3. ปฏิบัติตามสัญญาในสมบูรณ์  กล่าวคือ  ทำในสิ่งที่ใช้
4.  ไม่ล่วงละเมิดขอบเขต กล่าวคือ ละทิ้งสิ่งที่ห้าม
คือการทำอิบาดะฮ์โดยความอิคลาศต่ออัลเลาะฮ์ไม่ทำอิบาดะฮ์ด้วยการมีหุ้นในสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์  อัลกุรอานกล่าวว่า
فمن كان يرجو لقاء ربه فليعمل عملا صالحا ولا يشرك بعبادة ربه أحدا
"ใครก็ตามหวังที่จะพบกับผู้อภิบาลของเขา  ก็จงทำอะมั้ลที่ดีโดยไม่ห้นส่วนสิ่งใด ๆ กับผู้อภิบาลของเขาในการทำอิบาดะฮ์"
บรรดาอุละมาอ์มีทัศนะต่างกันเกี่ยวกับผู้ทำอิบาดะฮ์ที่กระทำเพื่ออัลเลาะฮ์และดุนยาด้วย  อิหม่ามอิบนุอับอิสสลาม  และท่านอื่น ๆ มีทัศนะว่าผู้ทำอิบาดะฮ์ที่มีเจตนาเช่นนี้จะไม่ได้รับกุศลเลย  อิมามฆอซาลีมีทัศนะว่า  ต้องพิจารณาเหตุที่เป็นสิ่งจูงใจให้ทำอิบาดะฮ์นั้น  กล่าวคือ  หากแรงจูงใจทางอาคิเราะฮ์มีมากกว่า  ก็จะได้รับผลบุญตามจำนวนที่มี  แต่ถ้าหากแรงจูงใจ  ดุนยามีมากกว่าก็จะไม่ได้รับผลบุญเลย  และหากมีเท่า ๆ กัน ก็จะไม่ได้รับผลบุญอะไรเลยเช่นกัน  ทัศนะของท่านอิบนุหะญันในชัรหฺอีดอฮ์ให้ความเข้าใจว่า  จะได้รับผลบุญตามที่จะมีเจตนา  เนื่องจากมีโองการจากอัล-กุรอานว่า...
من يعمل مثقال ذرة خيرا يره
ความว่า " ใครที่ทำดีเท่าผงธุลีเดียว  เขาก็จะได้เห็นมัน"
ศาสนานั้นมีองค์ประกอบ 3 ประการ  คือ อิสลาม อีหม่าน และเอี๊ยะหฺซาน
อิสลามนั้นคือ  การตามและยอมรับโดยภายนอกของบุคคลต่อสิ่งที่ร่อซูล ศ๊อลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นำมา  ได้แก่  สิ่งที่พึงรับรู้จากศาสนาในทางด่อรูเราะฮ์  กล่าวคือ  โดยไม่ต้องพิจารณา  เช่น  สองกะลีมะฮ์ชะฮาดะฮ์  ละหมาด  เป็นต้น  
จุดมุ่งหมายของคำว่า 
ตามและยอมรับ  นั้นคือ  การยอมรับโดยวาจา  โดยไม่ปฏิเสธ  แม้จะไม่ได้ทำก็ตาม  เช่น ไม่ละหมาด และอื่น ๆ เป็นเนืองนิจ
รู่ก่นอิสลามนั้น มี 5 ประการ  
1. ปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้านอกจากอัลเลาะฮ์  และมูฮัมมัดเป็นร่อซูลของพระองค์  สำหรับรู่ก่นนี้บังคับเฉพาะกาเฟรที่ต้องการเข้ารับนับถืออิสลาม
2. ละหมาดห้าเวลา
3. บริจาคซะกาต
4. ถือบวชเดือนรอมดอน
5. บำเพ็ญฮัจย์ ณ ไบตุลลอฮ์  สำหรับผู้ที่สามารถจะเดินทางไปได้
อีหม่านนั้นคือ ใจเชื่อในสิ่งต่าง ๆ ที่ร่อซูลนำมาได้แก่  สิ่งที่พึงรับรู้จากศาสนาในทางด่อรูเราะฮ์
จุดมุ่งหมายของคำว่า "เชื่อ" นั้นคือ ใจคล้อยตามและยอมรับในสิ่งที่ต่าง ๆ ข้างต้น  ซึ่งมิใช่แต่เพียงรู้ว่านะบีเป็นนะบีที่แท้จริงโดยไม่ตามและยอมรับ  ด้วยเหตุนี้จึงไม่เรียกส่วนใหญ่ของกาเฟรที่รู้และเชื่อว่ามูฮัมมัดเป็นนะบีและร่อซูลว่าเป็นผู้ที่มีอีหม่าน  เพราะใจพวกเขามิได้เชื่อ  และยอมรับในสิ่งต่าง ๆ ที่นะบีนำมาเผยแพร่
รู่ก่นอีหม่านนั้นมี 6 ประการ
1. มีอีหม่าน คือ เชื่อมั่นในอัลลอฮ์
2. มีอีหม่านในมะลาอีกะฮ์
3. มีอีหม่านในบรรดาคัมภีร์
4. มีอีหม่านในบรรดาร่อซูล
5. มีอีหม่านในวันสุดท้าย
6. มีอีหม่านในกอดัร ไม่ว่าดีหรือชั่ว กล่าวคือ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าดี เช่น ภักดี (ตออัต) หรือไม่ดี เช่น ความชั่ว (ม๊ะซิยัต) เกิดขึ้น  โดยการกระทำของอัลลอฮ์ที่สอดคล้องกับเจตนาของพระองค์ที่มีอยู่แล้วตั้งแต่บรรพกาล (อะซัลลีย์)
เอี๊ยะหฺซาน (คุณธรรม) คือ การทำดีด้วยความอิคลาศ (บริสุทธิ์ใจ) กล่าวคือ เราทำอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ประหนึ่งเราเห็นอัลเลาะฮ์  จึงไม่ควรที่จะผินไปอื่นจากพระองค์  ไม่ว่าจะเป็นทางใจ (บาเต็น) หรือทางอวัยวะส่วนนอก (ซอเฮร) โดยที่เราก็รู้ว่าพระองค์ทรงเห็นเรา เราจึงเกิดความละอายขึ้น  ในขณะนั้น  หากเราขาดความสนใจในการทำอิบาดะฮ์
เอี๊ยะห์ซานนั้นเป็นเงื่อนไขที่ทำให้อสิลามและอีหม่านสมบูรณ์  ดังนั้น อิสลามหรืออีหม่านจะสมบูรณ์ไม่ได้  หากไม่มีเอียะห์ซาน