بسم الله الرحمن الرحيم
قال المصنف رحمه الله تعالي ونفعنا بعلومه فى الدارين
4. "มุคอละฟะตุฮูตะอาลาลิ้ลหะวาดิษ" المخالفة للحوادث แปลว่า "อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่เหมือนกับบรรดาของใหม่" ความว่า พระองค์ไม่เหมือนมัคลู๊กใด ๆ ไม่ว่าจะในทางหนึ่งทางใดก็ตาม เพราะบรรดาของใหม่นั้น ไม่เป็นสสาร (คือสิ่งที่มีตัวตน มีน้ำหนัก ต้องการที่อยู่และสัมผัสได้) ก็เป็นคุณลักษณะ (เช่นสีต่าง ๆ หรือกระดิก การนิ่งตลอดจนใกล้หรือไกล เป็นอาทิ) ซึ่งอัลลอฮ์ตะอาลา มิใช่สสารและก็มิใช่คุณลักษณะด้วย ดังนั้น อัลลอฮ์จึงไม่เหมือนสิ่งใด ๆ จากมัคลู๊กเลย
หากซาตานหลอกลวงหรือหลอกหลอน หรือทำให้เกิดการสับสนขึ้นในหัวใจของท่านว่า เมื่อพระเจ้าไม่ใช่สสาร และไม่ใช่คุณลักษณะ แล้วพระองค์จะเป็นเช่นไร? ท่านจงกล่าวผลักความสับสนที่เกิดขึ้นนั้นว่า ไม่มีใครรู้ว่าซ๊าตของอัลลอฮ์เป็นอย่างไร นอกจากพระองค์เท่านั้น
ليس كمثله شيء وهو السميع البصير
ความว่า "ไม่มีสิ่งใดเหมือนพระองค์ พระองค์คือผู้ทรงได้ยินและทรงเห็น"
(พึงรู้ว่า) ไม่สามารถรู้ได้นั่นแหละรู้แล้ว
และซีฟัตมุสตะฮีล ซึ่งเป็นซีฟัตที่ตรงกันข้ามกับมุคอละฟะตุฮูตะอาลาลิ้ลหะวาดิษ นั้นคือ พระองค์เหมือนกับบางสิ่งบางอย่างจากสิ่งที่ถูกสร้าง
พึงรู้ว่า เมื่ออัลกุรอาน หรืออัล-ฮาดิษให้ความเข้าใจว่า อัลลอฮ์เหมือนกับของใหม่ มัสฮับอัซซะลัฟมอบจุดมุ่งหมายนั้นต่ออัลลอฮ์ ส่วนมัซฮับอัล-ค่อลัฟจะตีความว่า เช่น อัลกุรอานที่ว่า
الرحمن على العرش استوي
ความว่า "อัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตานั้นอยู่เหนืออะรัชอันสูงส่ง"
มัซฮับสะลัฟอธิบายคำว่า "เหนือ" ว่า เป็นเบื้องบนที่เราไม่อาจจะสามารถรู้สถานภาพได้ ด้วยเหตุนี้จึงได้มอบจุดมุ่งหมายอันนี้ต่ออัลลอฮ์ ส่วนมัซฮับค่อลัฟ กล่าวความหมายของคำว่า "เหนือ" ณ ที่นี้คือ อำนาจการปกครอง หรือการมีกรรมสิทธิ์
สำหรับหลักฐานที่ว่า อัลลอฮ์ไม่เหมือนกับของใหม่นั้นคือ หากอัลลอฮ์เหมือนกับของใหม่ อัลลอฮ์ก็ต้องเป็นของใหม่ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมุสตะฮีล ทั้งนี้เพราะเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า อัลลอฮ์ท่านทรงมีมาแต่เดิมตามหลักฐานที่ได้กล่าวมาแล้ว ด้วยเหตุนี้ อัลลอฮ์ท่านจึงไม่เหมือนกับของใหม่ และเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่พระองค์จะเหมือนกับของใหม่