วันนี้ ผมมีโอกาสดีได้อ่านบทความจากหนังสือเล่มหนึ่งครับเกี่ยวกับเรื่อง การ.ฮิดายะฮ์ (هداية)
เลยนำบทความนั้นมาฝากพี่น้องที่นีกันนะครับ ส่วนหนึ่งก็มาจากบทความบวกกับคำพูดของผมบ้างนะครับเพื่อเสริมให้ได้สาระยิ่งขึ้น
เรื่อง ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว
พระองค์จะมีความเมตตาย่อมแกใครนั้น เป็นเอกสิทธิ์ของพระองค์ พระองค์จะถอดถอน ออกจากใคร ก็ย่อมเป็นเอกสิทธิ์ของพระองค์เพียงผู้เดียวเช่นกัน
ฮิดายะฮ์ (هداية) ไม่ได้ถูกโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า เหมือนเช่นฝนตกหรือหิมะตก และไม่ได้ ล่องลอยตามกระแสลมแต่อย่างใด? ผู้ใดมีโชคก็สามารถก้มเก็บอย่างง่ายดาย ผู้อับโชคกลับไม่มีโอกาสเห็น
เรามองว่า ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นเรืองเบา ๆ เหมือนสิ่งที่มีอยู่ดาษดื่น แสวงหามาได้อย่างง่ายดาย
หรือ ฮิดายะฮ์ (هداية)นั้นไม่หมือนกับสินค้า ที่วางขายตามห้างร้านหรือในเทศกาลแสดงสินค้า ถ้ามีเงินมากพอก็หาซื้อได้ตามแต่จิตวิญญาณจะหิวกระหาย เพียงเพื่อให้อยู่ในความครอบครอง หรือนำมาใช้เป็นเครื่องประดับประดาคฤหาสน์เพื่อความโก้หรู...ราวกับฮิดายะฮฺเป็นของเล่น เกมส์ที่ผ่อนคลายสมอง ส่งเสริมความสวยงามให้ชีวิต
พึงสังวรณ์...ฮิดายะฮ์ (هداية) ต้องได้มาจากการดิ้นรนที่บริสุทธิ์ เว้นแต่ กรณีพิเศษที่อัลลอฮฺเท่านั้นบงการ ไม่ใช่เกิดขึ้นบ่อยกับมนุษย์ธรรมดาอย่างเรา ๆ มนุษย์สามัญทั่วไปไม่มีความกระตือรือร้นที่จะดิ้นรนทุ่มเทในวิถีของอัลลอฮฺ อ้างว่าตนองได้รับฮิดายะฮฺในเรื่องละเอียดอ่อน
ถ้า ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นเช่นนั้น ก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเสาะแสวงหาด้วยตนเอง พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือแม้แต่คนแปลกหน้าก็ยังสามารถซื้อมาฝากเราได้ ถ้าพ่อแม่ได้รับฮิดายะฮ์ (هداية) ลูก ๆ หลาน ๆ ก็จะได้ลิ้มรสผลพวงของมันเช่นกัน ราวกับว่า ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นทรัพย์สินที่ถ่ายเทเป็นมรดก หรือ สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้!
โอ้ผู้มีสติปัญญาทั้งหลาย...ควรหรือที่จะถลำเชื่อตามที่กล่าวอ้าง ด้วยเหตุนี้เอง ถ้าอยากรู้ว่าคนผู้หนึ่งเป็นอุลามาอฺที่แท้จริง ควรแก่การเชื่อถือและปฏิบัติตามหรือไม่ ให้สังเกตจากประวัติการต่อสู้ของเขา ข้อพิสูจน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การตายชะฮีดของเขา !
1.ฮิดายะฮ์ (هداية) นั้น หัวใจต้องมีการเปิดกว้าง ไร้อคติ ไร้ผลประโยนชน์แอบแฝง ลดทิฐิ
2. เมื่อ ฮิดายะฮ์ (هداية) ขั้นพื้นฐานได้มาถึงเขาแล้ว เขาจะไม่บิดพริ้ว เลือกที่จะดำเนินชีวิต ตามอารมณ์ของตนเองหรือค่านิยมของสังคม หากมันขัดแย้งกับฮิดายะฮฺนั้น นั่นคือ เขาจะยอมรับการตัดสินของอัลลอฮฺโดยไม่มีเงื่อนไข
3. เขาจะต้องเข้าใจอย่างซาบซึ้งว่าอะไรก็ตามที่อัลลอฮฺอนุมัติโดยตัวของมันเองไม่ใช่รากเหง้าของปัญหา และอะไรก็ตามที่อัลลอฮฺไม่อนุมัติโดยตัวของมันเองเป็นรากเหง้าของปัญหาทั้งมวล
ในขณะเดียวกัน หากฟิตนะฮฺเกิดขึ้นไม่ว่ามันจะเป็นเช่นไร จงอย่าโทษสิ่งที่อัลลอฮฺได้อนุมัติ และหากความมั่งคั่งได้เกิดขึ้นแก่ประชาชาตินี้ก็อย่าชื่นชมว่าเกิดจากสิ่งที่อัลลอฮฺห้ามปราม
4.เขาจะต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเชิดชูให้โองการของอัลลอฮฺสูงส่ง (ญิฮาด) ด้วยเวลา กำลังกาย กำลังสมอง กำลังทรัพย์สิน ทุกเสี้ยวของชีวิตโดยไม่มีเป้าหมายอื่นใดนอกจากเพื่อเรียกร้องความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
5.เขาจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญาและใช้มันอย่างทุ่มเทในการค้นหาสัจธรรมของอัลลอฮฺ โดยพิจารณาสัญญาณของพระองค์อย่างต่อเนื่อง โดยพยายามเจาะลึกถึงแก่นแท้ของอิสลามที่มาจากแหล่งกำเนิดย่างแท้จริง
6.เขาจะต้องพยายามขัดเกลาจิตวิญญาณของเขาให้สะอาด บริสุทธิ์อยู่เสมอ ทำลายความรู้สึกทนง (ego)ออกไปให้หมดสิ้น เขาจะต้องพร้อมที่จะอยู่ในสภาพที่ไร้ค่าในสายตาของมนุษย์ แต่เปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอิบจากภายใน จนกระทั่งจิตวิญญาณของเขาร่ำให้ด้วยความปลาบปลื้มใจที่อัลลอฮฺได้ให้ความแข็งแกร่ง จนแค่เพียงอัลลอฮฺและรอซูลก็เพียงพอ ความบริสุทธิ์ของเขาสะท้อนออกมาโดยการให้อภัยแก่มนุษย์ทั้งมวลในความตื้นเขินของพวกเขา
7. เขาจะต้องกล้าหาญที่จะพูดความจริง แม้ต่อหน้าผู้ปกครองที่อธรรม เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม ยืนยันที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยใช้วิทยปัญญา เพื่อชี้ให้มนุษย์เห็นถึงสัจธรรมที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้โองการของอัลลอฮฺ และแบบอย่างของท่านรอซูลโดยไม่เสริมแต่ง หรือทำให้มันบิดเบี้ยว แค่เพียงทำให้มนุษย์ในยุคสมัยนั้นรับได้ ผู้กล้าหาญเหล่านี้ดุอาอฺของเขานั้นขอตายอย่างคนชะฮีด ผู้ซึ่งปลดปล่อยตัวเอง และคนรอบข้าง จากการยึดติดกับวัตถุทั้งมวล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องละทิ้งวิถีการดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ (ฟิตเราะฮฺ) ที่อัลลอฮฺได้กำหนดให้แก่เขา และมนุษย์โดยส่วนรวม แต่เขาจะดำเนินชีวิตที่สมดุล และมีประสิทธิภาพสูงสุด
[color=yellow]ดังนั้น ฮิดายะฮ์ (هداية) ไม่ใช่เป็นของทุกคนที่คิดอยากได้ แต่ไม่มีความเข้มแข็งพอที่จะรักษา แต่ฮิดายะฮ์ (هداية) คือรางวัลที่มีค่าสูงสุดสำหรับนักต่อสู้ทั้งมวลที่ก้าวเดินในฐานะแม่ทัพที่เด็ดเดี่ยว ตามคำบัญชาของอัลลอฮฺผ่าน ฮิดายะฮ์ (هداية) จึงกลายเป็นยุทธวิธีที่เขาใช้ในสนามรบ และ ฮิดายะฮ์ (هداية) ในเวลาเดียวกัน คือ เส้นทางที่อัลลอฮฺขีดให้เขาก้าวเดินในทุกซอกทุกมุมของชีวิตทั้งในยามสงบและในยามที่ว้าวุ่น และ ฮิดายะฮ์ (هداية) นี่แหละ คือ เสบียงอาหารที่จิตวิญญาณของเขาดูดซับอย่างต่อเนื่องจนขยายระบบรากแก้ว และรากฝอยครอบคลุมอย่างกว้างขวาง กลายเป็นรากฐานของชีวิตที่ถาวร แล้วใครเล่าที่จะโชคดีเท่ากับผู้ที่ได้รับฮิดายะฮ์ (هداية)
แล้วทำไม คนบางคนจึงเห็น ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นเสมือนก้อนเมฆ ที่เปลี่ยนรูปรางตามกระแสอารมณ์ และกระแสค่านิยมสังคมหรือความฝัน ตีความหมายมันตามจินตนาการที่เขาอยากจะให้เป็น
ก้อนเมฆก้อนเดียวกัน เด็กน้อยอาจจินตนาการถึงการ์ตูน มิคกี้เมาท์ของวอลท์ดิสนีย์
ก้อนเมฆก้อนเดียวกัน สาวรุ่นอาจจินตนาการถึงดาราในละครทีวีที่ตนเองชื่นชม
ก้อนเมฆก้อนเดียวกันนี้ นักอุตุนิยมวิทยา จินตนาการถึงพายุฝนที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ก้อนเมฆก้อนเดียวกันนี้ ผู้สูงวัย ผู้ซึ่งผ่านมรสุมชีวิตมาอย่างโชกโชน อาจร่ำให้เพราะนึกถึงความผันผวนของชีวิตในอดีต และความไม่เที่ยงแท้ของเวลาที่ไม่อาจเรียกคืนได้
ก้อนเมฆก้อนเดียวกันนี้ อุลามาอฺผู้บริสุทธิ์สามารถกลั่นกรองสัญญาณของอัลลอฮฺคณานับ
โอ้ผู้มีสติ...จินตนาการของใคร คือ ฮิดายะฮ์ (هداية) ? และจินตนาการของใครคือ ความเพ้อฝัน ? หรือทุกจินตนาการของปัจเจกชนที่เอ่ยมาทั้งหมดเป็น ฮิดายะฮ์ (هداية) ?
มิได้...ในความเข้าใจของพวกเรากรณีสุดท้ายเท่านั้นคือ ฮิดายะฮ์ (هدايةที่แท้จริง ทำไม ?
เพราะอุลามาะอฺผู้บริสุทธิ์เท่านั้นที่ผ่านเงื่อไขอย่างน้อย 7 ข้อ ที่ถือเป็นกุญแจเข้าสู่คลังแห่งสัจธรรมที่หลบซ่อยอยู่ พวกเราอาจจะโต้แย้งว่า ฮิดายะฮ์ (هداية) ก็มีหลายระดับ
ทารกแรกเกิดรู้วิธีดูดซับน้ำนมมารดา ก็ถือเป็น ฮิดายะฮ์ (هداية) ถูกต้อง! ถ้าเราต้องการจะชี้ถึงความเมตตาแก่ทุกชีวิตที่ถือกำเนิดมาในพิภพนี้ แต่ ณ ตรงนี้ เราหมายถึง ฮิดายะฮ์ (هداية) ที่เป็นบันไดสู่สรวงสวรรค์ อีกนัยหนึ่ง...เรากำลังหมายถึง ฮิดายะฮ์ (هداية) ที่เปรียบเสมือนขั้นบันไดที่ผู้ย่างก้าวอย่างไม่ลังเลจะได้หลักประกัน คือ โลกหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสงบสุข [/color]
ดังนั้น...จงตรวจสอบเงื่อนไขทั้งหมดเสียก่อน จึงค่อยเรียกว่าอะไร คือ ฮิดายะฮ์ (هداية)
หรือไม่...ก็ยอมรับเสียว่ามันเป็น ฮิดายะฮ์ (هداية) ระดับหนึ่ง ที่ไม่อาจยึดถือเป็นจุดยืน มันอาจจะไม่ใช่ ฮิดายะฮ์ (هداية) ที่เป็นหลักประกันสรวงสวรรค์ แต่เป็นเพียงบันไดขั้นหนึ่งที่ยังห่างไกลจากจุดหมายปลายทาง ที่เราต่างเรียกหา และที่สำคัญก็คือ ...ถ้าจะรับแนวความคิดจากใคร หรือข้อตัดสินจากใคร ตรวจสอบเสียก่อนว่าเขาอยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับ ฮิดายะฮ์ (هداية) หรือไม่ หรือเขาควรจะได้รับ ฮิดายะฮ์ (هداية) ระดับไหน
บางทีเราอาจจะมักพบว่า มีหลายคนที่ชอบอ้างว้าตนเองได้รับ ฮิดายะฮ์ (هداية)อย่างนั้นอย่างนี้
โดยที่เราไม่รู้ว่าบางครั้งเรากำลังโดนกระซิบกระซาบจากมารร้ายไชตอนที่มาแฝงในรูปของฮิดายะฮ์ (هداية)
จึงนับว่า ...การแอบอ้างในบางครั้งนั้นในผู้รู้บางคนนั้นไม่สามารถนำมาตัดสินได้เสมอไปในสิ่งที่เขาได้รับ ตราบใดที่เขาจะมีความทรนงอยู่ในตัว