ผู้เขียน หัวข้อ: ตัวละครจำเป็น  (อ่าน 7730 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: เม.ย. 24, 2007, 04:16 PM »
0
วันนี้ ผมมีโอกาสดีได้อ่านบทความจากหนังสือเล่มหนึ่งครับเกี่ยวกับเรื่อง การ.ฮิดายะฮ์ (هداية)

เลยนำบทความนั้นมาฝากพี่น้องที่นีกันนะครับ  ส่วนหนึ่งก็มาจากบทความบวกกับคำพูดของผมบ้างนะครับเพื่อเสริมให้ได้สาระยิ่งขึ้น

เรื่อง  ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว

   พระองค์จะมีความเมตตาย่อมแกใครนั้น เป็นเอกสิทธิ์ของพระองค์   พระองค์จะถอดถอน   ออกจากใคร   ก็ย่อมเป็นเอกสิทธิ์ของพระองค์เพียงผู้เดียวเช่นกัน

   ฮิดายะฮ์ (هداية) ไม่ได้ถูกโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า เหมือนเช่นฝนตกหรือหิมะตก และไม่ได้ ล่องลอยตามกระแสลมแต่อย่างใด? ผู้ใดมีโชคก็สามารถก้มเก็บอย่างง่ายดาย  ผู้อับโชคกลับไม่มีโอกาสเห็น

เรามองว่า ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นเรืองเบา ๆ  เหมือนสิ่งที่มีอยู่ดาษดื่น  แสวงหามาได้อย่างง่ายดาย

   หรือ ฮิดายะฮ์ (هداية)นั้นไม่หมือนกับสินค้า  ที่วางขายตามห้างร้านหรือในเทศกาลแสดงสินค้า ถ้ามีเงินมากพอก็หาซื้อได้ตามแต่จิตวิญญาณจะหิวกระหาย   เพียงเพื่อให้อยู่ในความครอบครอง  หรือนำมาใช้เป็นเครื่องประดับประดาคฤหาสน์เพื่อความโก้หรู...ราวกับฮิดายะฮฺเป็นของเล่น   เกมส์ที่ผ่อนคลายสมอง  ส่งเสริมความสวยงามให้ชีวิต

พึงสังวรณ์...ฮิดายะฮ์ (هداية) ต้องได้มาจากการดิ้นรนที่บริสุทธิ์  เว้นแต่ กรณีพิเศษที่อัลลอฮฺเท่านั้นบงการ  ไม่ใช่เกิดขึ้นบ่อยกับมนุษย์ธรรมดาอย่างเรา ๆ  มนุษย์สามัญทั่วไปไม่มีความกระตือรือร้นที่จะดิ้นรนทุ่มเทในวิถีของอัลลอฮฺ  อ้างว่าตนองได้รับฮิดายะฮฺในเรื่องละเอียดอ่อน

   ถ้า ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นเช่นนั้น  ก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเสาะแสวงหาด้วยตนเอง   พ่อแม่  ญาติพี่น้อง  เพื่อนฝูง  หรือแม้แต่คนแปลกหน้าก็ยังสามารถซื้อมาฝากเราได้  ถ้าพ่อแม่ได้รับฮิดายะฮ์ (هداية) ลูก ๆ  หลาน ๆ  ก็จะได้ลิ้มรสผลพวงของมันเช่นกัน  ราวกับว่า ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นทรัพย์สินที่ถ่ายเทเป็นมรดก หรือ สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้!

      โอ้ผู้มีสติปัญญาทั้งหลาย...ควรหรือที่จะถลำเชื่อตามที่กล่าวอ้าง ด้วยเหตุนี้เอง  ถ้าอยากรู้ว่าคนผู้หนึ่งเป็นอุลามาอฺที่แท้จริง   ควรแก่การเชื่อถือและปฏิบัติตามหรือไม่  ให้สังเกตจากประวัติการต่อสู้ของเขา   ข้อพิสูจน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การตายชะฮีดของเขา !

   1.ฮิดายะฮ์ (هداية) นั้น หัวใจต้องมีการเปิดกว้าง  ไร้อคติ  ไร้ผลประโยนชน์แอบแฝง ลดทิฐิ

   2.  เมื่อ ฮิดายะฮ์ (هداية) ขั้นพื้นฐานได้มาถึงเขาแล้ว  เขาจะไม่บิดพริ้ว  เลือกที่จะดำเนินชีวิต  ตามอารมณ์ของตนเองหรือค่านิยมของสังคม   หากมันขัดแย้งกับฮิดายะฮฺนั้น  นั่นคือ เขาจะยอมรับการตัดสินของอัลลอฮฺโดยไม่มีเงื่อนไข

   3. เขาจะต้องเข้าใจอย่างซาบซึ้งว่าอะไรก็ตามที่อัลลอฮฺอนุมัติโดยตัวของมันเองไม่ใช่รากเหง้าของปัญหา  และอะไรก็ตามที่อัลลอฮฺไม่อนุมัติโดยตัวของมันเองเป็นรากเหง้าของปัญหาทั้งมวล
ในขณะเดียวกัน หากฟิตนะฮฺเกิดขึ้นไม่ว่ามันจะเป็นเช่นไร  จงอย่าโทษสิ่งที่อัลลอฮฺได้อนุมัติ  และหากความมั่งคั่งได้เกิดขึ้นแก่ประชาชาตินี้ก็อย่าชื่นชมว่าเกิดจากสิ่งที่อัลลอฮฺห้ามปราม

   4.เขาจะต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเชิดชูให้โองการของอัลลอฮฺสูงส่ง (ญิฮาด) ด้วยเวลา กำลังกาย  กำลังสมอง  กำลังทรัพย์สิน  ทุกเสี้ยวของชีวิตโดยไม่มีเป้าหมายอื่นใดนอกจากเพื่อเรียกร้องความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ

    5.เขาจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญาและใช้มันอย่างทุ่มเทในการค้นหาสัจธรรมของอัลลอฮฺ  โดยพิจารณาสัญญาณของพระองค์อย่างต่อเนื่อง   โดยพยายามเจาะลึกถึงแก่นแท้ของอิสลามที่มาจากแหล่งกำเนิดย่างแท้จริง

   6.เขาจะต้องพยายามขัดเกลาจิตวิญญาณของเขาให้สะอาด บริสุทธิ์อยู่เสมอ  ทำลายความรู้สึกทนง  (ego)ออกไปให้หมดสิ้น เขาจะต้องพร้อมที่จะอยู่ในสภาพที่ไร้ค่าในสายตาของมนุษย์  แต่เปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอิบจากภายใน  จนกระทั่งจิตวิญญาณของเขาร่ำให้ด้วยความปลาบปลื้มใจที่อัลลอฮฺได้ให้ความแข็งแกร่ง   จนแค่เพียงอัลลอฮฺและรอซูลก็เพียงพอ ความบริสุทธิ์ของเขาสะท้อนออกมาโดยการให้อภัยแก่มนุษย์ทั้งมวลในความตื้นเขินของพวกเขา

  7. เขาจะต้องกล้าหาญที่จะพูดความจริง  แม้ต่อหน้าผู้ปกครองที่อธรรม   เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม  ยืนยันที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง   โดยใช้วิทยปัญญา  เพื่อชี้ให้มนุษย์เห็นถึงสัจธรรมที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้โองการของอัลลอฮฺ และแบบอย่างของท่านรอซูลโดยไม่เสริมแต่ง  หรือทำให้มันบิดเบี้ยว   แค่เพียงทำให้มนุษย์ในยุคสมัยนั้นรับได้   ผู้กล้าหาญเหล่านี้ดุอาอฺของเขานั้นขอตายอย่างคนชะฮีด  ผู้ซึ่งปลดปล่อยตัวเอง   และคนรอบข้าง   จากการยึดติดกับวัตถุทั้งมวล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องละทิ้งวิถีการดำเนินชีวิตตามธรรมชาติ (ฟิตเราะฮฺ) ที่อัลลอฮฺได้กำหนดให้แก่เขา  และมนุษย์โดยส่วนรวม แต่เขาจะดำเนินชีวิตที่สมดุล  และมีประสิทธิภาพสูงสุด

  [color=yellow]ดังนั้น  ฮิดายะฮ์ (هداية) ไม่ใช่เป็นของทุกคนที่คิดอยากได้  แต่ไม่มีความเข้มแข็งพอที่จะรักษา   แต่ฮิดายะฮ์ (هداية) คือรางวัลที่มีค่าสูงสุดสำหรับนักต่อสู้ทั้งมวลที่ก้าวเดินในฐานะแม่ทัพที่เด็ดเดี่ยว  ตามคำบัญชาของอัลลอฮฺผ่าน ฮิดายะฮ์ (هداية)  จึงกลายเป็นยุทธวิธีที่เขาใช้ในสนามรบ  และ ฮิดายะฮ์ (هداية) ในเวลาเดียวกัน คือ เส้นทางที่อัลลอฮฺขีดให้เขาก้าวเดินในทุกซอกทุกมุมของชีวิตทั้งในยามสงบและในยามที่ว้าวุ่น   และ ฮิดายะฮ์ (هداية) นี่แหละ คือ เสบียงอาหารที่จิตวิญญาณของเขาดูดซับอย่างต่อเนื่องจนขยายระบบรากแก้ว และรากฝอยครอบคลุมอย่างกว้างขวาง   กลายเป็นรากฐานของชีวิตที่ถาวร  แล้วใครเล่าที่จะโชคดีเท่ากับผู้ที่ได้รับฮิดายะฮ์ (هداية)

   แล้วทำไม  คนบางคนจึงเห็น ฮิดายะฮ์ (هداية) เป็นเสมือนก้อนเมฆ  ที่เปลี่ยนรูปรางตามกระแสอารมณ์ และกระแสค่านิยมสังคมหรือความฝัน   ตีความหมายมันตามจินตนาการที่เขาอยากจะให้เป็น

   ก้อนเมฆก้อนเดียวกัน  เด็กน้อยอาจจินตนาการถึงการ์ตูน  มิคกี้เมาท์ของวอลท์ดิสนีย์
   ก้อนเมฆก้อนเดียวกัน  สาวรุ่นอาจจินตนาการถึงดาราในละครทีวีที่ตนเองชื่นชม
   ก้อนเมฆก้อนเดียวกันนี้  นักอุตุนิยมวิทยา  จินตนาการถึงพายุฝนที่กำลังคืบคลานเข้ามา 
   ก้อนเมฆก้อนเดียวกันนี้    ผู้สูงวัย  ผู้ซึ่งผ่านมรสุมชีวิตมาอย่างโชกโชน   อาจร่ำให้เพราะนึกถึงความผันผวนของชีวิตในอดีต  และความไม่เที่ยงแท้ของเวลาที่ไม่อาจเรียกคืนได้
   ก้อนเมฆก้อนเดียวกันนี้   อุลามาอฺผู้บริสุทธิ์สามารถกลั่นกรองสัญญาณของอัลลอฮฺคณานับ
   

โอ้ผู้มีสติ...จินตนาการของใคร คือ ฮิดายะฮ์ (هداية) ? และจินตนาการของใครคือ ความเพ้อฝัน ?  หรือทุกจินตนาการของปัจเจกชนที่เอ่ยมาทั้งหมดเป็น ฮิดายะฮ์ (هداية) ?
   มิได้...ในความเข้าใจของพวกเรากรณีสุดท้ายเท่านั้นคือ ฮิดายะฮ์ (هدايةที่แท้จริง  ทำไม ?

   เพราะอุลามาะอฺผู้บริสุทธิ์เท่านั้นที่ผ่านเงื่อไขอย่างน้อย 7 ข้อ  ที่ถือเป็นกุญแจเข้าสู่คลังแห่งสัจธรรมที่หลบซ่อยอยู่  พวกเราอาจจะโต้แย้งว่า ฮิดายะฮ์ (هداية) ก็มีหลายระดับ

   ทารกแรกเกิดรู้วิธีดูดซับน้ำนมมารดา  ก็ถือเป็น ฮิดายะฮ์ (هداية) ถูกต้อง! ถ้าเราต้องการจะชี้ถึงความเมตตาแก่ทุกชีวิตที่ถือกำเนิดมาในพิภพนี้   แต่  ณ ตรงนี้ เราหมายถึง ฮิดายะฮ์ (هداية) ที่เป็นบันไดสู่สรวงสวรรค์   อีกนัยหนึ่ง...เรากำลังหมายถึง ฮิดายะฮ์ (هداية) ที่เปรียบเสมือนขั้นบันไดที่ผู้ย่างก้าวอย่างไม่ลังเลจะได้หลักประกัน คือ โลกหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสงบสุข
[/color]   

ดังนั้น...จงตรวจสอบเงื่อนไขทั้งหมดเสียก่อน   จึงค่อยเรียกว่าอะไร คือ ฮิดายะฮ์ (هداية)

   หรือไม่...ก็ยอมรับเสียว่ามันเป็น ฮิดายะฮ์ (هداية) ระดับหนึ่ง  ที่ไม่อาจยึดถือเป็นจุดยืน  มันอาจจะไม่ใช่ ฮิดายะฮ์ (هداية) ที่เป็นหลักประกันสรวงสวรรค์  แต่เป็นเพียงบันไดขั้นหนึ่งที่ยังห่างไกลจากจุดหมายปลายทาง  ที่เราต่างเรียกหา  และที่สำคัญก็คือ ...ถ้าจะรับแนวความคิดจากใคร   หรือข้อตัดสินจากใคร  ตรวจสอบเสียก่อนว่าเขาอยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับ ฮิดายะฮ์ (هداية) หรือไม่  หรือเขาควรจะได้รับ ฮิดายะฮ์ (هداية) ระดับไหน 

บางทีเราอาจจะมักพบว่า  มีหลายคนที่ชอบอ้างว้าตนเองได้รับ ฮิดายะฮ์ (هداية)อย่างนั้นอย่างนี้

โดยที่เราไม่รู้ว่าบางครั้งเรากำลังโดนกระซิบกระซาบจากมารร้ายไชตอนที่มาแฝงในรูปของฮิดายะฮ์ (هداية)

จึงนับว่า ...การแอบอ้างในบางครั้งนั้นในผู้รู้บางคนนั้นไม่สามารถนำมาตัดสินได้เสมอไปในสิ่งที่เขาได้รับ ตราบใดที่เขาจะมีความทรนงอยู่ในตัว

ออฟไลน์ isma-il

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 232
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: เม.ย. 25, 2007, 03:44 PM »
0
ญะซากั้ลลอฮฺ สำหรับ นะซีฮะฮฺ ของคุณคนอยากรู้

เป็นบทความที่ดีมากครับ

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: พ.ค. 03, 2007, 02:36 PM »
0
ยาอัลลอฮ...

โปรดฮิดายะฮให้กับข้าพระองค์ และพี่น้องผู้ร่วมศรัทธา จนกระทั่งรวมไปถึงผู้แสวงหาสัจธรรมอันเที่ยงแท้ด้วยเถิด

อามีน

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: พ.ค. 28, 2007, 11:16 AM »
0
ชอบกระทู้ที่ตั้งมั่กมาก  คิดไม่ผิดที่แวะเข้ามาเกือบทุกวัน  ชักรู้สึกว่าอนาคตสดใสขึ้นมาทันตาเห็นที่หลายคนดำเนินรอยตามแบบอย่างของเราโดยการเผยแพร่ความรู้ที่มีอยู่อย่างไม่คิดจะตระหนี่มัน  ไงก็สู้ ๆ ทุกคนนะคะ ;D
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: พ.ค. 29, 2007, 10:33 AM »
0
บางครั้ง ชีวิตความเป็นของมนุษย์เรานั้นของแต่ละคน ก็ใช่ว่า บทบาทชีวิตจะเหมือนกัน ในแต่ละวัน.......บางครั้งความวุ่นวาย ความสับสน ความสมหวังความผิดหวัง..ปัญหาเหล่านี้ ล้วนเป็นตัว  ผันแปรกับอารมณ์เสมอ..............


อะไรละเป็นตัวกำหนด ถ้าไมใช่ อารมณ์ที่มี ความรู้ ที่มีอีหมานมาเป็นเครื่องกระตุ้นใน..เรื่องนี้...ฉนั้นนัฟซุหรืออารมณ์นั้น อุลามะเขาเปรียบว่าเหมือนเด็กเล็กๆที่คอยต้องดูแลและคอยแนะนำตักเตือนตลอดเวลา......ไม่ให้มันหลงผิดและคล้อยตามในสิ่งที่ออกจากแนวทางของศาสนา.........

เป็นที่รู้ว่า ในโลกนี้นั้นมีแรงดึงดูด หรือแรงโน้ม ถ่วงของโลก ทุกๆอย่างที่อยู่ในโลกนี้แม้มันจะอยู่สุงแค่ไหน  มันก็จะตกลงมาที่ต่ำ    และถ้าสิ่งนั้นยังไม่พ้นชั้นบรรยากาศหรือหลุดจากแรงโน้มถ่วงของโลกแล้ว   หรือจาก วงโคจรของโลก... แล้ว   ต่อให้มันลอยไปนานหรือไกลแค่ไหน มันก็มีโอกาสตกลงมาที่พื้นดินหรือที่ต่ำสักวันหนึ่ง ..

บางครั้ง จะเห็นเราเอง สามารถจะสังเกตุหรือเห็นได้จากตัวเองว่า..คนๆหนึ่ง เคยมีอีหม่ามสูงสุดหรือที่ดีอยู่ช่วงหนึ่ง...........เขาเป็นคนที่เคร่งทั้งอีบาดัตทุกๆข้อกำหนด...    ไม่ว่าการกระทำที่ออกมาจากใจ วาจา กายล้วนแต่อยู่ในกรอบของศาสนบัญญัติ 

ฉันใดก็ฉันนั้น  นัฟซุของมนุย์เรา ต่อให้มีความสูงส่งหรือมีอีหม่านมากเพียงไหน   มนุษย์ก็ไม่สามารถจะหนีจาก ความใฝ่ต่ำ.ของนัฟซุในตัวเอง.ไปได้....

ปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เรามีอีหม่าม..เลือนลาง หรือค่อยๆต่ำลง.........ไม่ว่า..

1.สิ่งแวดล้อมที่เราอยู่   เช่น...สภาพชุมชน  ..และความจำเป็นบางอย่างที่มีผลต่อเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงของชุมชนนั้นซึ่งมีผลต่ออีหม่ามของคนเรา..

   เช่นชุมชนที่กำหนดการเป็นอยู่ด้านสังคมในการเมืองท้องถิ่นเป็นต้น

2.ค่านิยม  หรือประเพณี ...เป็นตัวแปนอย่างหนึ่งของอารมณ์ ที่มักทำให้เรามีอีหม่ามเพิ่มอีหม่านลด

3.วิชาการ ความเข้า ใจการเรียนรู้ที่ ตัวเองได้รับ......ความเข้าใจในเรื่องใดๆในเรื่องศาสนา นั้นเป็นตัวสร้างอีหม่ามนความเข้าใจ และเป็นภูมิคุ้มกันชั้นดี  ในตัวของเราที่จะเป็นตัวขับ ออกมาต่อสู้กับ  นัฟซุที่ใฝ่ต่ำที่พยายามดึงเรามาลงต่า..........เพื่อที่จะสกัดอีหม่ามในตัวออกและเพิ่มนัฟซุที่ใฝ่ต่ามาแทนที่ในร่างกายของเรา

อุลามมะเขาได้แบ่งนัฟซุในมนุษย์เราๆท่านออกเป็น6หรือ7 ประเภท........

3.นัฟซุ แรกนั้น เป็นสิ่งที่ดี

3นัฟซุหลังนั้น เป็นนัฟซุที่เลว

 อีก 1. นัฟซุนั้น  ขึ้นอยู่กับตัวแปรในการตัดสินใจ.....

ซึ่งการแบ่งนัฟซุ ออกเป็น7 อย่างนี้...นี้ มาจากการเปรียบเทียบ และอ้างอิง ที่มาหลายๆๆอย่าง 

เช่น..บางก็บอกว่า   อุลามะเขาใช้กิยาส  มาจาก 7อายะในซุเราะอัลฟาติฮะ   ซึ่งถูกแบ่งเป็น 7อายะ 

3....อายะแรก  1ถึง 3    เป็น ของสิทธิเด็ดขาดของพระองค์อัลลออ์ในการที่จะมอบหมายให้กับบ่าวหรือไม่นั้น ......ส่วนอายะที่กลางหรือที่4นั้น  เป้นตัวแบ่งระหว่างอัลลอฮ์กับเรา   .3.อายะหลัง5-7  เป็นการขอของบ่าวที่มีสิทธิจะจะวิงวอนต่อพระองค์   

บางก็บอกว่าอุลามะ เขากิยาสมาจากสัปดาห์มี 7 วัน  บางก็บอกว่า มาจากการเปรียบเทียบ ที่พระองค์กล่าวในซุเราะอัลอะรอฟ ที่พระองค์กล่าวว่า พระองค์ทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน ภายใน6วัน หรือ6วาระ หลังจากนั้น (คือวันที่7 หรือวันที่สร้างเสร็จแล้ว)พระอเงค์ก็ทรงบรหารกิจการ...และฯลฯ 

......จะอย่างไรก็ตามที่มาของการแบ่งนัฟซุในคนเรา7อย่างนั้น...ก็มาจากอุลามะอะลิสซุนนะที่เขาแบ่งจากการตัฟซีรที่มาจากอัลกรุอ่านและอัลฮาดิสนั้นเอง...อุลามะเตาวะวุฟนั้นเขาก็มีความตือรือร้นที่จะขวนขวายมันสิ่งนี้....มาบอกกล่าวให้กับเราคนรุ่นหลังที่อยู่ท่ามกลางสังคมที่เลวร้ายในยุคอาคิรซรามาน

นัฟซุที่กล่าวเอ่ยข้างต้นก็คือ

1.นัฟซุอัมเราะ  คือนัฟซุที่ชั้วช้าที่สุดในจำพวกนัฟซุทั้งหมด   ทำแต่เรื่องไม่ดีไม่สนใจในเรื่องศาสนาบัญญัติเป็นเจ้าแห่งอารมณ์ที่เลว..สำหรับใครที่มีนัฟซุตัวนี้นั้น
  การแสดงออกของเขาทั้งกายวาจาใจนั้นล้วนไม่มีที่ดีเลย..

2.นัฟซุ เลาวามะ คือนัฟซุที่ชั่วรองลงมาจากตัวแรกพฤติกรรมที่แสดงออกแบบสัตว์เดรัจฉาน..ไม่มีการคิดพิจราณา  ไม่ว่าเรื่องเดีหรือเลว..  ยึดอารมณ์ส่วนใหญ่ตามใจตัวเอง

3.นัฟซุมุ้ลฮามะ เป็นนัฟซุที่แบ่งครึ่งระหว่างคนและสัตว์เดรัจฉาน ระหว่างความดีและชั่ว..ที่มีเท่าๆกันคือทำทั้งดีและชั่วหรือไม่ทำทั้งดีและเลว...หรือดีก็ไม่มั่ว  เอาชั่วก็
ไม่เอา...ปล่อยไปตามยะถากรรม..

4.นัฟซูมุตมะอินนะคือนัฟซุที่ดีเลิศเป็นนัฟซุที่อัลลออฮ์เชิญเข้าสวรรค์..ดังที่พระองค์บอกว่า....
.....ยาไอยูฮันนัฟซุน.. มุตมะอินนะ.[/color].............โอ้ดวงวิญญาณ....ที่สงบเอ๋ยหรือบริสุทธิเอ๋ย

......อิรยีอลา  รอบบี้กา  รอดียะ   ตีมมัร ตียาตัน.
....................จงกลับคืนสู่พระองค์อภิบาลของเจ้าด้วยความยินดี และความพอพระทัยของอัลลอฮ์เถิด...

5.นัฟซุรอดียะ คือนัฟซุที่ไม่มีกิเลส  ไม่มมีอารมณ์ใฝ่ต่ำ  หรือหลงโกรธ โลภ อุลามะชี้ว่านัฟซุนี้จะมีในนักตะซะวุฟ  (แบบซุฟี)  เป็นัฟซุที่ไม่อยากเอาชนะใครและไม่มีการอยากใดกับมัคโลคในโลกนี้    เขาเหล่านั้นเปรียบทองคำเท่าเทียมกับก้อนดินก้อนหิน...

6.นัฟซุมัรดียะ คือนัฟซุที่ยอมให้กับอัลลออ์ทุกอย่าง เป็นนัฟซูของคน กอรามัต บรรด่าวลียุลลออ์...และจะยอมในงานของอัลลออ์.........บุคคลเหล่านี้นั้นจะพูดอะไรแล้วอัลลออ์จะรับและจะเป็นไปตามสิ่งที่พูดหรือตามลิ้น...พวกเขาไม่ท้าวทวง และบ่นพึมพำในสิ่งที่ตนได้รับ  ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ตนชอบใจหรือไม่

และพวกเขาจะพอใจกับบทบาทที่ถุกกำกับมาจากพระองค์และ จะไม่ท้อถอยในสิ่งที่ตนได้รับไม่ว่าเนียะมใตและโชคลาภมาน้อยแค่ไหน...และพวกเขามีคสวามอดทนสูงในการทดสอบที่มาจากพระองค์...

7 นัฟซุตัวสุดท้าย หรือนัฟซุตัวแปร อุลามะเขาไม่มชื่อตั้งไว้  แต่นัฟซุนี้นั้นเป้น ตัวตัดสิน..ความเป็นมนุษย์ที่ดีในสายตาของอัลลอฮ์...หรืออาจเรียกในอีกมุมหนึ่ว่า

นัฟซุตัวนี้ มีทั้งดีและชั่วปะปนกัน.....และนัฟซุตัวนี้นั้น  เป็นตัวที่ ตัดสินทีออกมาจากรูปการกระทำใดๆๆๆนั้นสามารถชี้วัดเขาได้ว่า  เขาเป็นคนดีหรือเลวในทัศนะของอิสลาม........


ดังนั้น สรุปว่า....ทุกวันนี้...บทบาทของตัวละครจำเป็นที่พระองค์ให้เราแสดงไปวันๆนั้น..................ก็คือ.การกระทำใดๆที่แสดงผลออกมานั้น  ย่อมเกี่ยวข้องกับนัฟซุของเราทั้ง7  อยู่ด้วยเสมอ....


วัสลาม......

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: พ.ค. 29, 2007, 11:37 AM »
0
สุดยอดจริง ๆ เลยค่ะ  คนอยากรู้แล้วจะรออ่านบทความต่อ ๆ ไปอีก นะคะพี่น้อง ;) ;) ;)
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: พ.ค. 30, 2007, 11:04 AM »
0
ข้อความโดย: konderndin1 

..........สุดยอดจริง ๆ เลยค่ะ  คนอยากรู้แล้วจะรออ่านบทความต่อ ๆ ไปอีก นะคะพี่น้อง  .................
ขออัลลอฮ์ตอบแทนคุณ..เช่นกันครับ.คนเดินดินคน1...
.....และขอบคุณทุกคนที่เสียสละเวลาที่มีค่า....มาอ่านสิ่งที่ผมนำมา  ซึ่งเป็นแค่สาระน้อยๆๆกับ คนที่มีความรู้น้อย..จากคนอยากรู้
เมื่อวาน..ผมยังคุยไม่จบครับวันนี้มาต่อครับพี่น้อง..........
...

.........การรู้จักอัลลอฮฺ (มะอฺรีฟะตุลลอฮฺ)เป็นรากฐานของชีวิตและจิตวิญญาณ เราได้รู้จักท่านนบีและรอซูล และได้รู้จักหน้าที่และคุณลักษณะของพวกเขา และรู้ถึงความจำเป็นของมนุษย์ที่ต้องมีต่อสาส์นของอัลลอฮฺ(ซบ) รู้จักมั๊วะญิซัต กะรอมะฮ์ คัมภีร์จากฟากฟ้า รู้จักมาลาอีกะฮฺ ญิน และวันอาคีเราะฮฺฯลฯ

การรู้จักอัลลอฮฺ (ซ.บ.)นั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่เราทุกคนที่นับถือศาสนาอิสลามต้องมีการศึกษาและเรียนรู้...ถึงผู้ที่เราทำการภักดีและมอบหมายทุกสิ่งทุกอย่างไปยังผู้ที่นมัสการทั้งใจกายวาจา.............

ดังที่เคยบอกแล้วว่า  ระหว่างความเชื่อว่าอัลลอฮ์(ซบ)ทรงมี...กับ.......การรู้จัก..........นั้นมันแตกต่างกัน...................

เราเชื่อว่าอัลลออ์ทรงมีจริงตามคำบอกกล่าวจากอัลกรุอ่านและคำอธิบายของท่านรอซุ้ลลัลลอฮ์และบรรดาผู้ทรงความรู้............เราก็แค่ได้ชื่อว่า..ผู้ที่มีความศรัทธาในรุกนอีหม่านเท่านั้น..และเรายอมรับในทุกอย่างที่พระองค์บอกกล่าวทั้งข้อห้ามข้อใช้.....พร้อมกับการนมัสการที่เราทำเพื่อพระองค์ด้วยหลักแห่งความเชื่อว่า...อัลลออ์(ซบ)ทรงมีแน่นอน(ยะกีน)....ซึ่งหลายคนจะเป็นอย่างนี้  ........

....แต่ในขณะเดียวกัน..อุลามะตะซะวุฟเขาไม่หยุดค้นคว้าอยู่เเค่นั้น...เพราะผู้รู้ส่วนมากนั้นบอกว่า...จำเป็นเช่นกันที่เราจะต้องรู้จักพระเจ้าที่เที่ยงแท้.......ดังฮาดิสที่ว่า....

...............เอาลาวานุดดีน..มาอะรีฟะต้ลลออ์..............เริ่มแรกของศาสนานั้นต้องรู้จักอัลลออ์..............

ฉนั้นการรู้จักอัลลออ์รู้จักคุณลักษณะของอัลลออ์นั้นไม่เป็น...บิดอะและบาปแต่..อย่างใด...

           ฉันใดก็ฉันนั้น  ........ที่เราจำเป็นต้องทำความรู้จักกับคนที่เราจะไปมาหาสู่..หรือผู้ที่เราทำการติดต่อกัน..อย่างสนอกสนใจ.............
.
.......แน่นอนผู้ที่จะนมัสการพระเจ้าของเขานั้น   เขาย่อมรู้ถึงเป้าหมายของชีวิตว่า เขาถูกสร้างขึ้นมาทำไม และเขาต้องอยู่บนโลกนี้เพื่อเป้าหมายใด ด้วยเหตุนี้เขาจะไม่ถูกล่อลวงโดยความรื่นรมย์ของโลกดุนยา จะไม่ลุ่มหลงกับทรัพย์สินที่มีอยู่บนโลกนี้ แต่สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักอัลลอฮฺ แน่นอนพวกเขาจะถูกล่อลวงและหลงระเริงไปกับความสวยงามของโลกดุนยาดังที่อัลกุรอ่านได้กล่าวว่า

يَا مَعْشَرَ الْجِنِّ وَالإِنسِ أَلَمْ يَأْتِكُمْ رُسُلٌ مِّنكُمْ يَقُصُّونَ عَلَيْكُمْ آيَاتِي وَيُنذِرُونَكُمْ لِقَاء يَوْمِكُمْ هَـذَا قَالُواْ شَهِدْنَا عَلَى أَنفُسِنَا وَغَرَّتْهُمُ الْحَيَاةُ الدُّنْيَا وَشَهِدُواْ عَلَى أَنفُسِهِمْ أَنَّهُمْ كَانُواْ كَافِرِينَ

"หมู่ญินและมนุษย์ทั้งหลาย! บรรดาร่อซูลจากพวกเจ้ามิได้มายังพวกเจ้าดอกหรือ? โดยที่พวกเขาจะบอกเล่าแก่พวกเจ้า ซึ่งบรรดาโองการของข้า และเตือนพวกเจ้า ซึ่งบรรดาโองการของข้า และเพื่อนพวกเจ้า ซึ่งการพบกับวันของพวกเจ้านี้ พวกเขากล่าวว่า พวกข้าพระองค์ขอยืนยันแก่ตัวของพวกเข้าพระองค์เองและชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้ได้หลอกลวงพวกเขาและพวกเขาก็ได้ยืนยันแก่ตัวของพวกเขาเองว่าแท้จริงพวกเขานั้นเป็นผู้ปฏิเสธการศรัทธา"
                             
                                                                                     (อัล- อันอาม : 130)

และ เขาจะหมดชีวิตไปกับการแสวงหาดุนยา ความเอร็ดอร่อยของมันประหนึ่งสัตว์โลกทั่วไป ดังที่อัลกุรอ่านได้กล่าวว่า

إِنَّ اللَّهَ يُدْخِلُ الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ جَنَّاتٍ تَجْرِي مِن تَحْتِهَا الْأَنْهَارُ وَالَّذِينَ كَفَرُوا يَتَمَتَّعُونَ وَيَأْكُلُونَ كَمَا تَأْكُلُ الْأَنْعَامُ وَالنَّارُ مَثْوًى لَّهُمْ

"แท้จริงอัลลอฮ.จะทรงให้บรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลายเข้าสู่สวนสวรรค์หลากหลาย ณ เบื้องล่างสวนสวรรค์มีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นพวกเขาจะหลงระเริงและกินเยี่ยงปศุสัตว์กันและไฟนรกคือที่พำนักของพวกเขา"
                                                                                                                      (มูหัมหมัด : 12)

 ผู้ที่รู้จักอัลลอฮฺเขาจะรู้สึกถึงความกว้างของชีวิตไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม หากพวกเขาเป็นผู้ยากไร้เขาจะอดทน เพราะเขารู้ว่าเบื้องหลังชีวิตที่มีความเสียหายนี้ยังมีชีวิตที่นิรันดร์อยู่ ซึ่งเป็นสถานที่อันบรมสุข หากเขาเป็นเศรษฐี เขาจะขอบคุณ (ชูกูร) เพราะวัตถุปัจจัยที่เขามีอยู่ ณ วันนี้ มันคือของฝากจากพระเจ้าที่ได้ทรงมอบความไว้วางใจ (อามานะฮ์) แก่เขา ดังที่ท่านรอซูล กล่าวว่า

?น่าอัศจรรย์สำหรับมุมิน ซึ่งทั้งหมดเป็นความดีสำหรับเขา เมื่อเขาประสบภัยเขาก็จะอดทน (ซอบัร) และเมื่อเขาได้รับความสุขเขาจะขอบคุณ?                               (รายงานโดย มุสลิม)


.....ตรงกันข้ามกับผู้ที่ไม่รูจักอัลลอฮฺ เขาจะรู้สึกว่าโลกนี้มันคับแคบ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ดังที่อัลลอฮฺกล่าวว่า

وَمَنْ أَعْرَضَ عَن ذِكْرِي فَإِنَّ لَهُ مَعِيشَةً ضَنكاً وَنَحْشُرُهُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ أَعْمَى

?และผู้ใดผินหลังจากการรำลึกถึงข้า แท้จริงสำหรับเขาคือ การมีชีวิตอยู่อย่างคับแค้น และเราจะให้เขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮ์ในสภาพของคนตาบอด?
                                                                                                                            (ฏอฮา : 124)
   
เมื่อเป็นเช่นนี้ ........ผู้ที่รู้จักอัลลอฮฺเขาจะแสวงหาความพอพระทัยจากอัลลอฮ์ในทุกกิจการงานเสมอ ในการดำรงชีวิตเขาจะไม่ทำสิ่งใดนอกจากสิ่งนั้นต้องเป็นที่โปรดปรานของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) แต่คนที่ไม่รู้จักอัลลอฮฺเขาจะทำสิ่งใดขึ้นอยู่กับอารมณ์และความต้องการ (นัฟซู) ของพวกเขา พวกเขาเอาอารมณ์เป็นพระเจ้าแทนอัลลอฮฺ..

...เมื่อพี่น้องได้รู้จักนัฟซุทั้งเจ็ด แล้วพี่น้องก็สามารถแยกแยะเลือกนัฟซุเหล่านั้นมาไว้ในร่างกายเราได้...ด้วยการศึกษาหาความรู้เพื่อเป็นการเพิ่มพูนอีหม่านให้กับตัวเอง..
และสุดท้าย ตัวอีหม่ามที่เราได้รับจากการศึกษาก็ดีจากการชี้แนะก็ดี  จะเป็นตัวขับออกมาสูต่อสู้หรือเป็นภูมิคุ้มกันเราเพื่อที่จะผลักดันนัฟซุชั่วช้าทั้ง3ออกห่างจากตัวเรา..

และในที่สุด  ร่างกายของเราที่อัลลออ์สร้างมานั้นก็ปลอดภัย...พ้นจากสิ่งยุยงหรือสิ่งแปลกปลอมจากนัฟซุชั่วช้าและมารร้ายชัยตอน  เสมือนตอนเด็กเล็กที่แรกเกิดมา..




คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: พ.ค. 31, 2007, 11:33 AM »
0
หลายๆคนใฝ่ฝันที่จะกลับคืนสู่พระองค์  ในลักษณะที่บริสุทธิ์ทั้งกายและวิญญาณ..ดั่งที่อัลกรุอ่านได้กล่าวชี้นำให้เราไว้แล้ว..ที่พระองค์กล่าวว่า...ยาไอยูฮันนัฟซุน.. มุตมะอินนะ......อิรยีอลา  รอบบี้กา  รอดียะ   ตีมมัร ตียาตัน......................[/color].............โอ้ดวงวิญญาณ....ที่สงบเอ๋ยหรือบริสุทธิเอ๋ย .......จงกลับคืนสู่พระองค์อภิบาลของเจ้าด้วยความยินดี และความพอพระทัยของอัลลอฮ์เถิด..................................................

แต่ตราบใดที่วิญญานของเรายังมีนัฟซุ3ตัวแรกที่แฝงหรือสิ่งอยู่ร่างกายของเรา.......แน่นอนเหลือเกินว่า..มันจะลากเราทั้งร่างกายและจิตใตให้คืนสู่พระองค์ในลักษณะที่มุรชิก   แม้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย...นัฟซุมันยังหลอกลวงเราในรูปแบบต่างๆทั้งนี้เพื่อมันจะได้แน่ใจว่า..บ่าวของอัลอฮ์หรืออุมัรของท่านนบีคนนี้ตกอยู่ในการชี้นำของมัน...

นัฟซุอัมเราะนั้นจะไม่ยอมลดลาที่จะล่าเหยื่อของมัน  ในการที่จะทำให้บ่าวของพระองค์หลงทาง...แน้น หากเรายังเฉยเมินที่จะศึกษาวิชาการด้านศาสนาโดยเฉพาะด้านตะซะวุฟแล้ว...ก็เป็นที่ชัดเจนว่า...คนๆนั้นไม่มีความสามารถที่จะชนะหรือควบคุมอารมณ์ของเขาให้อยู่ในจริยธรรมในอัลอิสลามด้าน......ทุกวันนี้...เราจะเห็นว่า..พี่น้องมุสลิมเรา  ต่างแข่งขัน ที่จะส่งบุตรหลานออกศึกษาหาความรู้ทั้งในและนอกประเทศ   เพื่อแข่งขันกันให้บุตรหลานของตนได้รับความรู้ที่ตนคาดหวังเอาไว้...

ทั้งมุสลิมและต่างศาสนิกย่อมมีความคิดที่ใกล้เคียงกันในการตั้งเป้ากับลูกหลานของตน....

พีน้องมุสลิมส่วนหนึ่ง  ตั้งเป้าให้ลุกหลานของตนเรียนศึกษาด้านดุนยาเพียงฝ่ายเดียวโดยละทิ้งวิชาการศาสนาอย่างน่าอดสู  เด็กเหล่านั้นไม่มีโอกาสรูจักกับศาสนาของตัวเองเลยจนกระทั่งเรียนจบและเสียชีวิตไป.....ผู้ปกครองประเภทนี้ถือว่า น่าตำหนิมาก..ที่ปฏิเสธสิ่งที่ท่านนนบีได้นะศีฮะตไว้ว่า  ...เจงอย่า...ตายไม่ได้ถ้ายังไม่เป็นมุสลิมที่สมบูรณ์....หรือ..จงทำการศึกษา(ดีน)จนกว่าจะถึงหลุมฝัง.ศพ..ฯลฯ...แต่ผู้ปกครองที่ชื่อว่ามุสลิมบางคนกลับหันหลังให้กับศาสนาของพระองค์แล้วกลับยึดอยู่กับวิชาการที่มุ่งหวังในดการใช้ประกอบชีวิตในดุนยา.......ลักษณะเช่นนี้...เขาคือผู้ที่หลงผิดและส่วนหนึ่งในการตัดสินนี้ก็มาจากนัฟซุชั่วทั้ง3นั้นเอง.................

จากคำพูดของท่านนบีนั้นทำให้ผุ้ปกครองบางคน...เข้าใจแตกต่างกัน


...กล่มที่1คือการมุ่งส่งเรียนด้านดุนยาทางเดียว....ด้วยการที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองนั้นคือผู้เปิดทางนำพาบุตรหลานสู่ประตูแห่งการกริ้วของพระองค์  .....เมื่อเป็นเช่นนี้....เขาและลูกหลานของเขาจะตอบอย่างไรในวันที่พระองค์สอบถามกับด่านแรกในโลกอาลัมบัคซัร.....ผู้ปกครองแบบนี้เปรียบเสมือนนกปีกหัก   ซึ่งมีแค่ปีกเดียว มันก็จะบินไปมาวกวนอยู่ที่เดียวไปไหนไม่ถึงเป้าหมาย......นะอูซูบิ้ลลา....

......กลุ่มที่2 ม่งทั้ง2ทาง...
ผู้ปกครองบางคนก็ส่งบุตรหลานให้เรียนทั้ง2 ด้าน..นี้ถือว่า เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ  เพราะอย่างน้อยลูกหลานของเรายังไม่ละทิ้งศาสนาของพระองค์..และถือว่าอาจจะมีงานที่ตนหวังไว้ไม่ด้านหนึ่งก็ด้านใด.......ในสังคมประเทศไทย..ที่มีมุสลิมแค่10ปอร์เซน  ธุระกิจหรืองานของคน.มุสลิมก็น้อยไปด้วย

.....กลุ่มที่3  ....มุ่งศาสนาทางเดียว.......กลุ่มนี้.......น่าสรรเสริญมาก็มีผู้ปกครองส่วนหนึ่งเห็นว่า..สิ่งที่ท่านนบีพูดในสมัยนั้นคือส่งเสริมให้เรียนเรื่องศาสนาเป็นหลัก  กล่มนี้คิดถึงความตายและวันอคีรัต........เรื่องงานนั้นเป้นหน้าที่ของพระองค์....................


..........ค่อยมาต่อครับ...




.



ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มิ.ย. 01, 2007, 06:19 PM »
0
กระทู้ของบังคนอยากรู้ก็ฮอทอีกจนได้เนอะ แจ่มจริงๆ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มิ.ย. 02, 2007, 10:31 AM »
0
จากคำพูดของท่านนบีนั้นทำให้ผุ้ปกครองบางคน...เข้าใจแตกต่างกัน


.อัลหัมดูลิ้ลาครับ...น้องอัลอัชฮารีย์..

มาว่ากันต่อครับ...

ที่กล่าวมาแล้วนั้น ผู้ปกครองบางคนอาจเข้าใจผิดหรือไม่มีการศึกษาในคำสอนของท่านนบีเกี่ยวกับการส่งบุตรหลานเรียนหรือศึกษา...โดยละทิ้งวิชาการที่เป็นฟัรดูในเรื่องศาสนา........ซึ่งสามารถจัดแบ่งกลุ่มและสามารถรู้ถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับนัฟซุทั้ง7ได้เป็นอย่างดีได้ดังนี้..

..1..กลุมที่มุ่งส่งบุตรหลานให้เรียนด้านดุนยาทางเดียว....ด้วยการที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองนั้นคือผู้เปิดทางนำพาบุตรหลานสู่ประตูแห่งการกริ้วของพระองค์  .....เมื่อเป็นเช่นนี้....เขาและลูกหลานของเขาจะตอบอย่างไรในวันที่พระองค์สอบถามกับด่านแรกในโลกอาลัมบัคซัร...จนถึงวันพิพากษาหรือวันอาคีรัต.โดยเฉพาะทรัพย์สินต่างๆที่ได้ใช้จ่ายในงานนี้   .ผู้ปกครองแบบนี้เปรียบเสมือน  ที่จะพยายามฝึกหัดให้ลูกหลานของตนหัดบินขึ้นสู่ทะยานในห้วงอากาศที่จะให้สามารถใช้ชีวิตจากการเก็บเกี่ยวความรู้ที่ตนได้ส่งเรียน   แต่ตนเองไม่รู้เลยว่า  การกระทำเช่นนี้เปรียบสเมือน การที่จะให้บุตรหลานของตน บินโดยใช้..ปีกด้านเดียว หรือเรียกกันว่านกปีกหัก   ซึ่งมีแค่ปีกเดียว และมันก็จะบินไปมาวกวนอยู่ที่เดียวไปไหนไม่ถึงเป้าหมาย......อุลามะเขากล่าวว่า ผู้ปกครองกลุ่มนี้นั้นตัดสินใจและจมปลักแต่ในเรื่องดุนยาและการยุยงจากนัฟซุที่ชั่วทั้ง3โดยละทิ้ง คำตักเตือนที่พระองค์อัลลอฮ์(ซบ)และท่านนบี(ซล)ตักเตือนไว้ในเรื่องของศาสนา.....นะอูซูบิ้ลลา....

...2....กลุ่มที่มุ่งทั้งส่งบุตรหลานให้ได้เรียนรู้ทั้ง2ทาง...ผู้ปกครองแบบนี้ถือว่า เป็นคนที่รอบคอบ .นี้ถือว่า มีสิ่งที่เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจในการตัดสินใจที่ดีอยู่บ้าง  เพราะอย่างน้อยลูกหลานของเรายังไม่ละทิ้งศาสนาของพระองค์แม้ว่าจะไม่มีงานทำในโลกธรกิจเมืองไทย แต่อย่างน้อย   บุตรหลานของตนก็ได้รู้วิชาการศาสนาควบคู่กันไป   และถือว่าอาจบางครั้ง   อัลลออ์(วบ)อาจจะมีงานที่ตนหวังไว้ไม่ด้านหนึ่งก็ด้านใด.......ในสังคมประเทศไทย..ที่มีมุสลิมแค่10ปอร์เซน  ธุระกิจหรืองานของคน.มุสลิมก็น้อยไปด้วย...อุลามะมีความเห็นเป็น2ฝ่าย แต่ที่มีน้ำหนักมากคือ ว่าการส่งบุตรเรียน..ควบคู่นั้น จะกลายเป็นว่า บุครที่ส่งไปนั้นจะเชนเอิยงไปด้านเดียวและส่วนมากจะทางดุนยามากว่าศาสนา.......การตัดสินใจของผู้ปกครองแบบนี้นั้นถือว่า เขายังมีนัฟซุมุตตะมาอินนะ แต่ก็ยังไม่สมฐุณร์เพราะบางครั้ง อาจมีการเปลี่ยนแปลงในทางลบได้ในทางโลก

...3..กลุ่มที่มุ่งส่งบุตรหลานทางศาสนาทางเดียว.......กลุ่มนี้.......น่าสรรเสริญมากและก็มีผู้ปกครองส่วนหนึ่งเห็นว่า..สิ่งที่ท่านนบีพูดในสมัยนั้นคือ...การส่งเสริมให้เรียนเรื่องศาสนาเป็นหลัก  กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่พระองค์พอใจมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับ2กลุ่มที่ข้างต้นคิดถึงความตายและวันอคีรัต........เรื่องงานนั้นเป้นหน้าที่ของพระองค์.....ผู้ปกครองแบบนี้ มอบหน้าที่การงานให้เป็นหน้าที่ของอัลลออ์ทุกอย่างบุตรจะจบมาแล้วมีงานทำหรือไม่นั้นเขาไม่ซีเรียส แต่เพียงได้เรียนรู้ศาสนาก็พอใจแล้วและตระหนักว่าเขาได้ทำตามสิ่งที่พระองค์และรอซุลตักเตือนแล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิทธิของอัลลออ์เพียงผู้เดียว......อุลามะเขาสรุปว่าผู้ปกครองและบุตรหลานที่มุ่งเรียนรู้ในงานศาสนาอย่างเต็มที่และตั้งใจนั้น  เขาผู้นั้นมีนัฟซุที่ดีทั้ง3 และบวกด้วยการตัดสินใจของนัฟซุตัวสุดท้าย..พวกเขายอมให้กับอัลลออ์  แม้รู่ว่าบางครั้งบุตรหลานที่ส่งและจบมานั้นจะไม่มีบทบาทและหน้าทีการงานในสังคมประเทศไทยก็ตาม...แต่เขายอมตามในเรื่องเตาฮีดกับนัฟซูที่ดีเพื่ออัลลออ์(ซบ)และปฏิบัติตามการนะศีฮะของท่านนบี...อย่างนี้ก็พอใจแล้ว.........


ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2007, 11:53 AM »
0
อินชาอัลลอฮ์  ถ้ามีลูกจะส่งให้ลูกเรียนศาสนาอย่างเดียว (ก็อยากให้ครอบครัวเป็นกลุ่มชนแนวหน้านี่)  ;) ;) ;)
หวังว่าแก้วตาดวงใจของทุกคนที่จะมี  หรือกำลังมีได้เป็นที่โปรดปรานและยอมรับของอัลลอฮ์ถ้วนหน้ากัน ;D ;D ;D
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2007, 07:38 PM »
0

หากมีแก้วตาดวงใจ  ก็ต้องส่งให้เรียนทั้งสองทาง  แต่ให้เน้นศาสนาให้มาก ๆ  แต่ที่สำคัญต้องมีลูกให้เยอะ ๆ จะได้มีบุคลากรที่มีคุณภาพหลาย ๆ คน  หรืออย่างน้อยก็สักคนหนึ่งแหละครับ  อินชาอัลเลาะฮ์ 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ salamah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 761
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: มิ.ย. 04, 2007, 07:45 PM »
0

ก้อเป็นแนวความคิดที่ดีของแต่ละท่านนะคะ.........ที่มีแนวทางในการที่
จะให้แก้วตาดวงใจ...........ของแต่ละท่านดำเนินชีวิตไปในแนวทางที่ดี
และอยู่ในหลักการของศาสนาอิสลามก้อขอให้เป็นไปอย่าง.............
ที่ทุกๆท่านหวังก้อแล้วกันนะคะ      อินชาอัลลอฮ์
ถึงไม่รอบรู้ทุกด้าน    แต่ขอเป็นมุสลิมะห์ที่ดีก็พอ

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มิ.ย. 05, 2007, 09:26 PM »
0

อ้างจาก: บังคนอยากรู้
คนที่ดีที่สุด ณ.อัลลอฮคือ คนที่เมื่อโดนบาลาหรือบททดสอบ เขา แล้วเขาสามารถอดทนหรือซอบัรได้ทันทีนั้น

ยังห่างไกลอีกเยอะ สำหรับผม

ดุอาอ พยายาม ดุอาอ

อามีน

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: ตัวละครจำเป็น
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: มิ.ย. 06, 2007, 09:49 AM »
0
 ;) ;) ;)แม้นสถานศึกษานั้นจะอยู่ไกลถึงเมืองจีน
อินชาอัลลอฮ์เดี๊ยนก็จะส่งแก้วตาดวงใจ(ถ้ามี)ของเดี๊ยนไปเรียนให้เก่ง
อย่างน้อย ๆ ให้ได้เป็นปราชญ์อย่างท่านศาสดาเดี๊ยนก็พอใจแล้วหล่ะค่ะ :o :o :o
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

 

GoogleTagged