เรื่องการลูบหน้าหรือไม่ลูบหน้า
ท่าน อัศศ๊อนอานีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ สุบุลุสสลาม ซึ่งเป็นหนังสือ อธิบายหนังสือ บุลูฆุลมะรอม ของท่าน อัลหาฟิซฺ อิบนุ หะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ ว่า
وأما مسح اليدين بعد الدعاء فورد فيه الحديث الأتى :
عن عمر رضى الله عنه قال : كان رسول الله صلى الله عليه وسلم إدا مد يديه فى الدعاء لم يردهما حتى يمسح بهما وجهه . أخرجه الترمدى
وله الشواهد منها :
حديث ابن عباس رضى الله عنهما عند أبى داود ، وغيره ، ومجموعها يقضى بأنه حديث حسن .
ความว่า "และสำหรับการเอาสองมือลูบ(ใบหน้า)หลังดุอาอ์นั้น ได้มีหะดิษระบุมาดังนี้
(ท่านอิบนุหะญัรได้นำเสนอรายงานว่า " รายงานจากท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ท่านกล่าวว่า เมื่อท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ (ซ.ล.) ได้ยื่นสองมือทั้งสองในการขอดุอา ท่านจะไม่เอามือทั้งสองของท่านกลับลงมา จนกระทั้งท่านได้เอามือทั้งสองลูบใบหน้าของท่าน" นำเสนอรายงานโดย ท่านอัตติรมีซีย์
(ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลอัศเกาะลานีย์ได้วิจารณ์หะดิษดังกล่าวว่า) และให้กับหะดิษนี้ มีหลายหะดิษที่มาสนับสนุน ส่วนหนึ่งก็คือ หะดิษของท่านอิบนุอับบาส (ร.ฏ.) ที่รายงานโดยท่านอบูดาวูด และท่านอื่น ๆ โดยที่บรรดาหะดิษที่มาสนับสนุนที่ถูกประมวลไว้แล้วนั้น สามารถตัดสินได้ว่า หะดิษลูบหน้านั้น เป็นหะดิษหะซันحديث حسن (หะดิษดี) " ดู หนังสือ สุบุสสลาม เล่ม 4 หน้า 708 หรือหะดิษที่ 1463 ที่ท่านอิบนุหะญัร ได้กล่าวรายงานและวิจารณ์เอาไว้
ท่านอิมาม อัสสะยูฏีย์ (ร.ฮ.) ได้นำเสนอรายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า
إدا سألتم الله فأسألوه ببطون أكفكم ولا تسألوه بظهورها { د } عن مالك بن يسار السكوفى {هـ طب ك } عن ابن عباس ، وزاد {وامسحوا بها وجوهكم } {ح}
" เมื่อพวกท่านวอนขอต่ออัลเลาะฮ์ ดังนั้น พวกท่านจงขอพระองค์ด้วยท้องฝ่ามือของพวกท่าน โดยอย่าขอด้วยหลังมือ (รายงานโดยอบูดาวูด) จาก มาลิก บิน ยะซาร อัสสะกูฟีย์ (รายงานโดย อิบนุมาญะฮ์ ท่านอัฏฏ๊อบรอนีย์ และท่านอัลหากิม) จากท่านอิบนุอับบาส และ(ท่านอัลหากิม) เพิ่มมาว่า (และพวกท่านจงลูบใบหน้าด้วยมือของพวกท่าน) ( อิมาม อัสสะยูฏีย์กล่าวว่า หะดิษนี้ เป็นหะดิษหะซัน) " คืออักษร {ح} ตามทัศนะของท่านอิมาม อัสสะยูฏีย์นี้ หมายถึง "หะดิษหะซัน" / ดู หนังสือ ฟัยฏุล ก่อดีร ของท่าน อัลมุนาวีย์ ซึ่งอธิบายหนังสือหะดิษ อัลญาเมี๊ยะอฺ อัศศ่อฆีร ของท่านอิมาม อัสสะยูฏีย์ เล่ม 1 หน้า 473
หนังสือ อัลมุซันนัฟ ของท่าน อับดุรร๊อซซาก บทที่ว่าด้วยเรื่อง
باب مسح الرجل وجهه بيده ادا دعا
"การที่ชายผู้หนึ่งลูบใบหน้าด้วยมือของเขาเมื่อขอดุอา"
เราจะพบว่า บรรดาสะลัฟก็ทำกัน ตามที่ผมได้นำเสนอไปแล้ว ดังนี้
ท่าน อับดุรร๊อซซฺาก ได้กล่าวรายงานไว้ในหนังสือ อัลมุซันนัฟ ในบทที่ว่าด้วยเรื่อง การที่ชายคนหนึ่งได้ลูบหน้าของเขาเมื่อขอดุอา" ของท่านว่า
عبد الرزاق عن ابن جريح عن يحيي بن سعيد أن ابن عمر يبسط يديه مع القاص ، ودكروا أن من مضى كانوا يدعون ثم يردون أيديهم على وجوههم ليردوا الدعاء والبركة
" อัรร๊อซซฺาก ได้รายงาน จาก อิบนุ ญุรีจญฺ จาก ยะหฺยา บิน สะอีด ว่า แท้จริง ท่านอิบนุอุมัร ได้ทำการแผ่มือทั้งสองของท่านขึ้น พร้อมกับนักสุนทรพจน์ และพวกเขากล่าวว่า แท้จริง มันนานมาแล้วที่ พวกเขา(ซอฮาบะฮ์) ได้ทำการขอดุอาอ์ และพวกเขาเอามือไปลูบบนใบหน้าของพวกเขา เพื่อให้การวอนขอและความสิริมงคลกลับมา(สู่ใบหน้า)" ดู หนังสือ อัลมุซันนัฟ ของท่าน อับดุรร๊อซซฺาก เล่ม 2 หน้า 164 ตีพิมพ์ที่ ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์
ท่านอับดุรร๊อซซฺากได้กล่าวอีกว่า
قال عبد الرزاق : رأيت أنا معمرا يدعو بيديه عند صدره ، ثم يرد يديه فيمسح وجهه
"อับดุรร๊อซซฺาก กล่าวว่า ฉันเห็น ท่านมะอฺมัร ทำการขอดุอาด้วยมือของเขา ที่วางไว้ระดับอก หลังจากนั้น เขานำสองมือกลับมา แล้วลูบที่ใบหน้าของเขา" ดู หนังสือ อัลมุซันนัฟ ของท่าน อับดุรร๊อซซฺาก เล่ม 2 หน้า 164 ตีพิมพ์ที่ ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์
ท่านอิมามอันนะวาวีย์(ร.ฏ.) เอง ก็ได้กล่าวหุกุ่มนี้ไว้ในหนังสือ อัลอัซการ เช่นกันว่า
أداب الدعاء عشرة الأول .........................(الثالث) إستقبال القبلة ورفع اليدين ويمسح بهما وجهه فى أخره
"บรรดามารยาทการขอดุอาอ์มี 10 ประการ หนึ่ง.......................(สาม) หันหน้าไปทางกิบละฮ์ ยกมือทั้งสอง และลูบหน้าด้วยมือทั้งสอง ในตอนท้ายของอุดาอ์" ดู หนังสือ อัลฟุตูหาต อัรร๊อบบานียะฮ์ อะลา อัลอัซกาซ อันนะวาวียะฮ์ เล่ม 7 หน้า 246 - 247 ตีพิมพ์ดารุลฟิกรฺ
เรื่องประเด็นคิลาฟียะฮ์ทางฟิกห์นั้น สะลัฟและอุลามาอ์เขาบอกเอาไว้ว่า
ท่านอบู นุอัยม์ รายงานถึง ท่านอิมาม ซุฟยาน อัษเษารีย์ ท่านกล่าวว่า " เมื่อท่านเห็นบุรุษท่านหนึ่งได้ปฏิบัติอะมัลหนึ่งที่นักปราชญ์ฟิกห์มีความเห ็นแตกต่างกัน และท่านก็มีทัศนะอีกอย่างหนึ่ง ดังนั้น ท่านจงอย่าไปห้ามเขา " ดู หุลยะตุล เอาลิยาอฺ เล่ม 6 หน้า 367
ท่านอัลคอฏีบ อัลบุฆดาดีย์ รายงานถึง ท่านอิมาม ซุฟยาน อัษเษารีย์ ท่านกล่าวว่า " สิ่งที่บรรดานักปราชญ์ฟิกห์มีความเห็นขัดแย้งกันนั้น ฉันจะไม่ห้ามคนหนึ่งคนใดจากบรรดาพี่น้องของฉัน ให้เอากับทัศนะนั้น " ดู อัลฟะกีฮ์ วะ อัลมุตะฟักกิฮ์ เล่ม 2 หน้า 69
ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า " แท้จริงบรรดานักปราชญ์นั้น จะตำหนิในเรื่องที่มีมติให้ทำการตำหนิ แต่สำหรับสิ่งที่ขัดแย้งกันนั้น ย่อมไม่มีการตำหนิแต่ประการใด " ดู ฟะตาวา อิบนุตัยมียะฮ์ เล่ม 20 หน้า 225
วัลลอฮุอะลัม