salam
เมื่อสองสามวันก่อนหลอดไฟในห้องครัวเสีย...
จำต้องซื้อหลอดใหม่มาเปลี่ยนโดยด่วน...
และพอดีต้องออกไปซื้อสีและของกิน
ก่อนออกจากบ้านก็อ่านรายละเอียดบนหลอดไฟอันเก่าที่เสีย
จะได้ซื้อมาถูก...ตอนแรกกะจะถอดเอาไปทั้งอย่างนั้น
แล้วค่อยยื่นให้เจ้าของร้านว่าจะเอาแบบนี้
เพราะจะทำแบบนี้บ่อยเวลาไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ...
แต่ก็ไม่ได้เอาไป ด้วยความมั่นใจในตัวเองสูงว่า
ฉันรู้จักมันหน่า อยู่ด้วยกันมาตั้งสี่ปี แค่นี้จิ๊บจ๊อย
บวกกับเคยทำโคมไฟมาแล้วด้วย เลยคิดว่า แค่หลอดไฟอันเดียว
เปลี่ยนเองได้สบายอยู่แล้ว เพราะเคยเปลี่ยนหลอดอื่นๆในบ้านพักที่นี่มาแล้ว
ยอมรับว่า แรกๆที่ต้องมานั่งเปลี่ยนหลอดไฟ ก๊อกน้ำ
และอะไรๆที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่งานของฉันเลย
เพราะแต่ก่อนที่จะมาใช้ชีวิตคนเดียว เรื่องแบบนี้เป็นหน้าที่ของพ่อ
และพี่ชายโน่น...เราแค่เรียนให้พอรู้ในห้องเรียนแต่ไม่เคยสัมผัส
พอมาเจอะกับตัวเลยรู้ว่า มันไม่ง่ายสักเท่าไหร่...
ฉันไม่ถนัดเลย แต่จะให้ช่างมาเปลี่ยนให้ ก็ดูไม่ดีอีก
เพราะทั้งห้องพักมีแค่เราคนเดียว แล้วช่างส่วนใหญ่ ก็เป็นผู้ชายทั้งนั้น...
สุดท้าย...ก๊อกน้ำ หลอดไฟ สายเครืื่องซักผ้า และอะไรๆต่อมิอะไร
ฉันต้องเรียนรู้และติดตั้งเองเกลี้ยง...ด้วยความจำเป็นมันบังคับ !!
มันอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับผู้ชาย แต่ผู้หญิง(อย่างข้าน้อย)ไม่เคยรู้
(ตอนนั้น คิดถึงพ่อกับพี่ชายที่บ้านจับใจ...)
เลยคิดว่า หลอดไฟหลอดเล็กๆแค่นี้ ไม่มีปัญหา
พอไปถึงร้านเท่านั้น...กำลังไฟและรายละเอียดที่ดูมาจากตัวหลอดเดิมนั้น
มันมีหลายขนาดเหลือเกิน แถมเป็นขนาดที่ไล่เลี่ยกันอีก...
รู้หมดทุกอย่างเกี่ยวกับหลอดไฟ แต่ไม่รู้ว่ามันยาวกี่เซ็น !!!
คราวนี้ คิดว่าด้วยประสบการณ์ที่อยู่ด้วยกันมากว่า 4 ปีคงพอช่วยได้
ข้าน้อยเริ่มประมวลข้อมูลในหัวแล้วว่า ความยาวน่าจะประมาณเท่าไหร่
ตอนแรกก็ว่าค่อยมาซื้อวันหลังก็ได้ เอาให้แม่น
เพราะหากซื้อผิดพลาดไป เสียตังค์เปล่าอีก...
แต่ก็ด้วยความมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองอีกนั่นแหล่ะ
ที่ส่งให้หยิบหลอดไฟที่คิดว่าใช่แน่ๆ 2 อัน ไปถามช่างในร้านว่า
มันต่างกันยังไง ช่างก็อธิบายว่า ขนาดและกำลังไฟเท่ากัน
แต่ที่ไม่เหมือนกันคือ สีของแสงมันนั่นเอง...
เลยถามต่อว่า...มันคือหลอดไฟที่ใช้ในครัวทั่วไปใช่มั้ยคะ...
ช่่างก็พยักหน้า...ไอที่ไม่มั่นใจอยู่นิดๆ ก็เลยมั่นใจมากขึ้น...
เลือกมาหนึ่งอันที่ฉันพอใจและค่อนข้างมั่นใจว่าใช่แน่ๆ ซื้อเลยทีนี้...
กลับมาถึงบ้าน...ดีใจว่าวันนี้ไฟในห้องครัวจะสว่างไสวสักที
ทำอาหารในความมืดมาหลายมื้อแล้ว...

ปรากฏว่า...มันสั้นไปนิดเดียว (นิดเดียวจริงๆ)
ตอนนั้นเจ็บจี๊ดๆในหัวใจ ฉันซื้อมาพลาด พลาดได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้
นี่สี่ปีที่ผ่านมา ที่เคยใช้มันมาทุกวี่ทุกวัน ไม่ได้ช่วยอะไรเลยหรือ
ไอที่คิดว่ารู้จักมันดีแล้วนี่ ผิดทั้งหมดเลยหรือ...
ถอนใจเฮือกใหญ่ วันนี้เป็นไงเป็นกัน ไฟในครัวจะต้องสว่าง...
เลยถอดเจ้าหลอดไฟที่เสียนั่นแล้วรีบวิ่งออกจากบ้าน
ขึ้นรถไฟไปอีกสถานีนึง...เพราะใกล้บ้านไม่มี ร้านก็ใกล้จะปิดอยู่รอมร่อ...
ระหว่่างนั่งรถไฟ ก็คิดได้หลายอย่่าง โดยเฉพาะเรื่องของพ่อกับแม่
และพี่น้องที่คลานตามกันมา เห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย...
เข้าใจแล้วว่า ทำไมเวลาที่เพื่อนหรืออาจารย์ถามว่า
พ่อแม่ของเธออายุเท่่าไหร่ ข้าน้อยซึ่งเป็นลูกรักของท่าน
ถึงตอบได้แค่เพียงประมาณ แต่ไม่สามารถตอบอย่างแม่นยำได้ว่า
พ่อแม่นั้นจริงๆแล้วอายุเท่าไหร่กันแน่ แล้วท่านเกิดวันไหน เดือนไหน
ปีอะไร ก็ไม่แน่ใจนัก... ทั้งๆที่เราอยู่ด้วยกันมานาน ตั้ง 20 กว่าปี
นานกว่าเจ้าหลอดไฟอันเก่าในมือที่กำลังจะเอาไปเปลี่ยนด้วยซ้ำ...
แค่รายละเอียดเล็กๆน้อย แค่ข้าน้อยรู้ว่าหลอดไฟที่ใช้มา 4 ปี
มันขนาดเท่าไหร่ ยาวเท่าไหร่ แค่จะเช็คให้ดีๆและใส่ใจมันสักนิด...
ข้าน้อยคงไม่ต้องฝ่าความหนาวเย็นจับจิตออกไปท่ามกลางความมืด
เพื่อไปซื้อหลอดไฟอันใหม่มาเปลี่ยน
ส่วนอันที่ซื้อพลาดมา ก็เอาไปคืนไม่ได้ เพราะซื้อมาจากอีกที่
และอยู่กันคนละจังหวัดเสียด้วย...ก็เลยต้องตัดใจ
แม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เศษเสี้ยวของชีวิต
แต่สิ่งนั้นก็ทำให้เราตระหนักได้ว่า มันสำคัญยังไง
ก็ตอนที่มันเสีย แล้วเราต้องการจะเปลี่ยนมัน ต้องการหามาทดแทน...
แต่กับอีกอย่างนั้น...หากเสียไป มันซื้อมาเปลี่ยนใหม่ไม่ได้อีกแล้ว...
ปล.เหมือนจะยาว(อีกแล้วค่ะ)

วัสลามค่ะ