ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...  (อ่าน 226507 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2145 เมื่อ: ก.พ. 19, 2010, 06:51 AM »
0
อ่าวอยู่หอ2ด้านหน้านั้นหรอ ทำไมถึงชะเง้อเห็น
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2146 เมื่อ: ก.พ. 19, 2010, 03:37 PM »
0
Sekarang dalam pandangan saya, website yang dimasuki orang, mungkin lebih banyak daripada web muslimthai.com lagi, masyaallah - Wallahu'alam.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 19, 2010, 03:53 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ XO5--->>>SuNsHinE +_____+

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 179
  • เพศ: หญิง
  • I AM A MUSLIMAH
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2147 เมื่อ: ก.พ. 19, 2010, 03:41 PM »
0
orang mungkin

หมายถึง คน..... ?????

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2148 เมื่อ: ก.พ. 19, 2010, 03:42 PM »
0
คนที่โพสๆๆอยู่นั่นแหละ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2149 เมื่อ: ก.พ. 19, 2010, 03:54 PM »
0
คนที่โพสๆๆอยู่นั่นแหละ

               IIham coba menerjamahkannya
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2150 เมื่อ: ก.พ. 19, 2010, 11:55 PM »
0
 
salam

วันนี้มีเรื่องราวความประทับใจจากต่างแดนมาเล่าให้พี่น้อง
ในเว็บบอร์ดแห่งนี้ได้อ่านกันอีกแล้วค่ะ hehe
ขอพื้นที่ให้คนอยากเล่่าได้โม้หน่อยนะคะ อิอิอิ

วันนี้เป็นอีกวันที่รู้สึกว่าโลกดูสดใสหลังจากเมฆดำและพายุผ่่านพ้นไป...
อะไรๆดูง่ายดาย ไม่ยากเย็นอย่างทีี่คาดคิดเอาไว้...
คุณป้าที่มหาลัย เคยบอกว่าจะแต่งชุดกิโมโนให้เมื่อหลายปีมาแล้ว
แต่พอเอาเข้าจริงก็ลืมบ้าง ยุ่งบ้าง ไม่ได้นัดวันเวลาที่จะไปหาท่านสักที
เจอกันแทบทุกวันที่มหาลัย จนถึงวันนี้ก็ได้ใส่ชุดกิโมโนสักที

เมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจกับรายละเอียดในเรื่องนี้นัก...
แต่ด้วยความจริงใจของคุณป้าที่ตั้งใจจะแต่งชุดให้
ก็เลยขอท่านว่า อยากใส่มันในวันรับปริญญาได้ไหม
ท่านบอกว่า ชุดรับปริญญานั้นจริงๆแล้วไม่ใช่กิโมโน
แต่เป็นฮากามะ เป็นชุดเฉพาะกิจ และเฉพาะงานวันรับปริญญาเท่านั้น
แต่หากจะใส่กิโมโนไปก็ไม่แปลกอันใด แต่พอดีท่านไม่ว่าง
ในวันกำหนดรับปริญญาบัตรพอดี ท่านเลยบอกว่่า
จะใส่ไปถ่ายรูปกับผลงานของตัวเองที่จัดโชว์ในหอศิลป์ไหม...
วันนี้ท่านก็เลยแต่งชุดกิโมโนให้ มารับมาส่งเราถึงที่เพื่อไปแต่งตัวที่บ้านท่าน

หากถามว่า อะไรที่ทำให้เราไว้ใจคนที่เราไม่เคยไปบ้านเขาได้ขนาดนี้
ก็อยากจะบอกว่า แววตาจริงใจคู่นั้นค่ะ และการมอบหมาย
ไปยังอัลลอฮฺตาอาลา เลยทำให้กล้าที่จะเชื่อใจ ไว้ใจคุณป้าที่เจอหน้ากันมาสี่ปี
และวางชีวิตไว้กับอัลลอฮฺผู้ทรงปกป้องคุ้มครองเรามาตลอด...
และทุกอย่างย่อมมีครั้งแรก...และท่านก็ทำให้เราประทับจริงๆ
ก่อนแต่งชุด เรานั่งดื่มชาและก็คุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของ
อาการป่วยของแม่ เพราะว่าอายุของท่่านก็ไล่เลี่ยกับของแม่ข้าน้อย
แต่ท่านยังดูอ่อนวัยกว่าและแข็งแรงกว่ามาก...
พอบอกท่านว่าแม่เป็นเบาหวาน หมอห้ามทานของหวาน
ท่านก็แนะนำเครื่องดื่มที่ทำจากใบบานาบะที่นำไปตากแห้งว่า
มันมีสรรพคุณช่วยสลายน้ำตาลในเลือด ให้เราดื่มหลังทานอาหาร
หรือของหวานทุกๆครั้ง เพราะมันจะช่วยขับหรือสลายน้ำตาลออกไป
(ก็ไม่รู้ศัพท์ว่าเขาเรียกกันยังไงเหมือนกันค่ะ รู้แต่เพียงว่า
หากดื่มน้ำที่เอาใบไม้ดังกล่าวที่นำมาต้ม ก็จะลดน้ำตาลในเลือดลงไป)
โดยเฉพาะคนสูงอายุ เพราะว่าคนสูงอายุนั้น บางรายไม่สามารถออกไปไหนได้
การเคลื่อนไหวก็ลำบาก พละกำลังไม่ดีอย่างแต่ก่อน
เลยทำให้อาหารที่ทานเข้าไปไม่ได้เผาผลาญ ใบไม้ที่ว่านั้นจึงสามารถ
ช่วยลดน้ำตาลลงไปได้...และท่านบอกว่านอกจากเจ้าใบนั้นแล้ว
ใบฝรั่งยังช่วยได้ด้วย เพราะท่านอาศัยดูจากทีวีเอา เขาวิจัยออกมา
ว่าช่วยสลายน้ำตาลให้มีปริมาณน้อยลงได้ และยังแนะนำให้ข้าน้อย
ลองทำอาหารเจให้แม่ทานดู เพราะว่าข้าน้อยเล่าให้ฟังว่า
หมอห้ามแม่ทานพวกเนื้อและของมัน สิ่งที่ทานได้ก็พวกปลา
แต่แม่ก็บอกว่าคาว ทั้งที่เมื่อก่อนจะชอบทาน
ท่านเลยบอกว่า คนเราพอแก่ตัวลง อะไรที่เคยทานได้ ก็จะทานไม่ได้
ท่านเลยบอกว่า เมื่อหมอไม่ให้ทานพวกเนื้อ แต่ท่านอยากทาน
ซึ่งมันคือความอยากด้วยความเคยชิน ก็เลยบอกว่า ลองนำเต้าหู้
มาดัดแปลงให้คล้ายๆพวกเนื้อแล้วปรุงอาหารที่ไม่มันดู
อย่างอาหารญี่ปุ่นก็มีหลายชนิด ท่านบอกว่า ถ้ายังมีเวลา
ท่านจะสอนให้ แต่ก็เสียดายค่ะ อีกไม่นานก็ต้องกลับไทยแล้ว
แต่ท่านก็บอกว่า ที่ไหนๆก็มี ลองทำดู ไม่ยาก แม่อาจจะทานได้ก็ได้
เพราะว่ามันมีคุณค่าทางอาหารไม่ต่างจากเนื้อสัตว์
และที่สำคัญ คนเป็นเบาหวานทานได้ แม่ของท่านก็เป็นโรคนี้
และยังแนะนำอีกว่า หากว่าท่านหลงๆลืมๆหรือไม่มีแรงทำอะไร
เราอย่าทำแทนท่าน หรือบอกท่านว่า หนูทำเอง แม่ไม่ต้องทำหรอก
โดยปล่อยให้ท่านนอนสบายๆ เพราะนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ๆ
ยิ่งสมองของท่านเคยได้รับการกระทบกระเทือนหรือเคยช็อค
เพราะขาดอากาศหายใจ สมองจะสั่งการได้ไม่เหมือนเราๆ
และคนญี่ปุ่นที่สูงอายุเป็นโรคนี้กันเยอะมาก...
ท่านเลยบอกว่า ทางที่ดีเราควรให้ท่านได้ทำอะไรๆบ้าง
งานเล็กๆน้อยๆ เวลาท่่านหลงๆลืมๆ เราก็พยายามบอกท่่านว่า
ท่านทำอย่่างนั้นอย่างนี้แล้วนะ พยายามอธิบายท่าน
และบอกให้ท่านทำ เพราะเมื่อมือขยับ สมองจะทำงาน
เมื่อสมองได้ทำงาน มันก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะหากไปหาหมอ
หมอก็ให้ทำอย่างนี้ ซึ่งเราสามารถช่วยท่านได้ ดูแลท่านเองได้...  mycool: mycool:

และได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับท่านหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงๆ
ตบท้ายด้วยการแต่งชุดกิโมโนให้ พอแต่งเสร็จท่านก็บอกว่่า
จะยกชุดนี้ทั้งเซ็ทให้ข้าน้อยเป็นของขวัญ เป็นที่ระลึก ตอนนั้นบอกตามตรงเลยค่ะว่า
เป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน เพราะก่อนหน้านั้น อยากได้ชุดกิโมโนเช่นกัน
แต่ว่ามันแพง ชุดนึงแบบครบเซ็ทก็เป็นแสน บางชุดก็เป็นล้าน
เพราะแค่เช่ามาใส่ก็ปาไปเป็นหมื่นแล้ว ก็เลยตัดใจไม่ซื้อไม่สนใจไปเลย hehe
แต่วันนี้เหมือนส้มหล่น ได้ชุดกิโมโนสีส้มที่คุณป้าเป็นคนตัดเองกับมือ
มาเป็นของขวัญและยังมีผ้าคลุมสีชมพูที่คุณป้าท่่านถักเองอีก...
ก็เลยไม่รู้จะตอบแทนท่านยังไงไหว ท่านก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก
ท่านอยากให้ และตั้งใจจะให้มานานแล้ว...ส่วนอีกชุดนึงท่านบอกว่่า
มันคนละแบบกัน แขนจะยาวกว่าตัวที่ยกให้ข้าน้อย และก็เป็นสีชมพู
ของลูกสาว ก็เลยยกให้ไม่ได้ แต่จะแต่งให้ก่อนข้าน้อยกลับไทย...
แถมท่านยังไปดูผลงานของข้าน้อย ไปถ่ายรูปด้วยกัน
เพราะก่อนหน้านั้น ท่านก็ถามว่า พ่อกับแม่จะมาดูงานมั้ย...
เพราะว่ามันคือผลงานจบ ก็เลยบอกท่านไปตามตรงว่า
พ่อกับแม่มาไม่ได้หรอกค่ะ ซึ่งตอนแรกๆข้าน้อยก็ไม่ได้คิดอะไร
เพราะรู้สึกเฉยๆ แค่ได้ทำงานส่งทัน ก็ดีใจแล้ว
แต่วันแรกของงาน ข้าน้อยต้องอยู่เวรเฝ้างานตลอดทั้งวัน
เห็นพ่อแม่พี่น้องของเพื่อนๆแต่ละคนมาดูผลงานของลูกๆ
มีถ่ายรูปกัน แล้วก็อดรู้สึกบางอย่างไม่ได้เหมือนกัน
และคิดว่่ามันจะดีสักแค่ไหน
หากวันที่เราสามารถคว้าดาวมาได้ วันที่เราทำผลงานสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน
และมีโอกาสได้ให้คนอื่นเข้ามาดูเข้ามาเห็น มีพ่อแม่ยืนอยู่เคียงข้าง
แต่ด้วยรู้ดีและรู้มาแต่ต้นว่า มันจะเป็นอย่างนี้ เลยทำใจมาก่อนหน้านี้แล้ว...
เพราะก่อนหน้านี้ ที่เคยได้รับรางวัล แต่ไม่มีใครหรือคนที่เราต้องการ
หรือเพื่อนสนิทที่ติดภาระพอดีได้ไปยินดีในงานด้วย วันนั้นไม่มีรูปถ่าย
ไม่มีตากล้อง วันที่เราคิดว่า เราสุดๆแล้ว ก็กลายเป็นวันธรรมดาๆวันนึงไป...
ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับระยะทางที่ห่างกัน...
และวันนี้ก็ดีใจที่ป้าที่แต่งชุดกิโมโนให้ดูจะเข้าอกเข้าใจ มาดูงานของเรา
เหมือนเห็นความสำคัญของมัน และเพืื่อนสนิทก็มาร่วมงานด้วย
แม้จะไม่มีพ่อแม่พี่น้องมาร่วมด้วย แต่แค่นี้ก็มากพอสำหรับเวลานี้ค่ะ... ;D
ทำให้เราอุ่นใจ เติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปได้เยอะเลยค่ะ hehe
เพราะคนที่เขาไม่มีพ่อแม่มาแต่กำเนิดมันย่ิงกว่าเราด้วยซ้ำ...


อัลฮัมดุลลิลลาฮฺ...อัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณายิ่ง

ทำให้นึกถึงดุอาฮฺของพ่อกับแม่ก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น
ท่านบอกว่่า ขอให้ลูกของท่าน(ข้าน้อย)ได้เจอแต่คนดีๆ จิตใจดี
มีแต่คนเอ็นดูและมีคนคอยช่วยเหลือแทนท่่านและพี่น้อง....
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ญี่ปุ่นมา ดุอาฮฺของพ่อกับแม่อัลลอฮฺทรงรับ...

ชีวิตที่ผ่านมา ต้องพบเจอกับความหลากหลาย
บอกตามตรงเลยค่ะว่า เพื่อนที่เป็นมุสลิมจริงๆมีน้อยเหลือเกิน
หากใครบอกว่่า หากจะมองใคร ให้มองที่เขาคบใครเป็นมิตร
อันนี้ไม่ขอค้านเลยค่ะ...แต่ก็อยากจะบอกเหลือเกินว่า...
ใช่ว่าเส้นทางชีวิตเราจะเลือกได้ดั่งที่อยากเลือกเสียทั้งหมด...
แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน หรือต้องเดินไปทางไหน
ศรัทธาต่างหากคือตัวตัดสิน...เมื่อก่อนพ่อแม่อยากส่งเข้าเรียนปอเนาะ
อย่างลูกๆคนอื่นๆเขา แต่ท่่านไม่มีความสามารถพอ
และโอกาสที่เดินเข้ามาคือ การได้เรียนโดยที่พ่อกับแม่
ไม่ต้องเสียค่าเทอมมาให้ตลอด แม้กระทั่งปัจจุบัน
และหากมันคือทางเลือกที่จะช่วยพ่อแม่และตัวเองได้ ใยเราจะปฏิเสธ
ที่เหลือและที่ผ่านมา แม้จะหวาดกลัวกับการเดินทาง
ที่ไร้พ่อแม่คอยเคียงข้าง แต่มันก็ต้องยอมรับ น้อมรับว่านั่นคือ
กำหนดจากผู้สร้าง ที่กำหนดเส้นทางมาให้เลือก และเราเลือกเป็นอย่างอื่นไม่ได้
ในสถานการณ์นั้น... แม้จะรู้ดีว่าที่จะมาหรือที่ที่อยู่ ณ วันนี้
มีพี่น้องมุสลิมน้อยนิดเหลือเกิน และเรายังเด็ก อีหม่านยังอ่อนแอนัก
เราจะฝ่่ามันไปได้หรือไม่ เมื่อก่อนกังวล แต่สิ่งที่ทำให้กล้าตัดสินใจ
คือ ตะวักกัล มอบหมายไปยังผู้ปกป้องคุ้มครองเราที่แท้จริง...

และ ณ วันนี้ ได้เรียนรู้ความหลากหลายของมนุษย์มากกว่าแต่ก่อน
เพื่อนที่ไม่มีความเชื่อในพระเจ้า ยังโทรมาบอกว่า...
ชีวิตเขานั้น เหมือนถูกกำหนดจากใครหรืออะไรบางอย่าง
ที่เรามองไม่เห็น แต่รู้ว่่ามี เขานั่นแหล่ะ คือผู้ที่ทำให้ฉันสุขและฉันเศร้าสุดๆ
บอกตรงๆค่ะว่า ตอนฟังแทบไม่เชื่อหู ยังถามเพืื่อนเลยว่า
เขาที่เธอว่าน่ะใคร เพื่อนบอกว่า ไม่ใช่มนุษย์หรอก
มนุษย์ที่ไหนจะทำกับแบบนี้กับชีวิตฉันได้ ฉันหมดแรงแล้ว
ฉันพยายามสุดๆแล้ว แต่เหมือนมันถูกกำหนดให้เป็นอย่างนี้จริงๆ
ฉันยอมแล้ว...เพื่อนผู้ไม่เชื่อในพระเจ้าพูดออกมาอย่างนั้นค่ะ...
พูดและคิดเหมือนที่ข้าน้อยคิดและรู้สึก และความรู้สึกนี้จะรุนแรง
และชัดเจนมากเมืื่อเราทำทุกอย่่างจนเต็มกำลัง สุดความสามารถ
หมดแรง หมดหวัง สับสน จนต้องคุกเข่่าลงอ้อนวอนอำนาจนึงที่เรารู้ดีว่่า
มันมีอนุภาพมากมายแค่ไหน...และเรารู้ดีว่่า เราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ใครหน้าไหนก็ช่วยไม่ได้ นอกจากอำนาจลับที่เรากำลังสัมผัสอยู่...

อย่างยาวเลยค่ะ hehe

เล่าสู่กันฟัง หวังว่ามันจะมีสาระมากกว่าไร้สาระนะคะ...
เพราะพยายามคัดแต่เนื้อ แต่ก็อดเติมน้ำไม่ได้เหมือนกัน... ;D

ปล.พี่ๆน้องๆมุสลิมะฮฺท่านใดอยากลองใส่หิญาบกับชุดกิโมโนดู
อินชาอัลลอฮฺ...หากกลับไปไทยแล้วมีโอกาสได้พบปะ เจอกัน
ข้าน้อยยินดีแต่งให้ค่ะ... เพราะจะเอาชุดที่คุณป้าให้มากลับไปไทยด้วยค่ะ
และที่ไทยเองก็มีชุดยูกะตะ(ชุดญี่ปุ่นสำหรับใส่ตอนฤดูร้อน)ที่เคยซื้อ
มาก่อนหน้านี้อยู่แล้วด้วยชุดนึงน่ะค่ะ
(มีสีฟ้าคราม ลายดอกกล้วยไม้ โอบิสีแดงเหลือง และรองเท้าเกี๊ยะด้วย ;D )
และเคยแต่งให้พี่ๆน้องๆในครอบครัวกันมาแล้ว
ส่วนชุดกิโมโนนั้นสำหรับใส่ตอนฤดูหนาว ทั้งยาวทั้งหนาแต่ว่าลวดลายสวยดี
สีแจ่มมากมาย (ส้มแปร๋นเลยค่ะ) ไม่โป๊แน่นอน ฟันธง!!! hehe

วัสลามค่ะ

 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 20, 2010, 12:00 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ XO5--->>>SuNsHinE +_____+

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 179
  • เพศ: หญิง
  • I AM A MUSLIMAH
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2151 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 12:14 AM »
0
วอลัยกุมมุสสลาม คร่ะกะโด่โด่

อ่านแล้วซึ้งแทนเรย

ว่าแต่ว่าเรื่องชุดกิโมโน ที่ว่านั่นน่ะ อยากลองใส่มั่งจังง

ขอจอง ใส่ด้วยคนน่ะคร่ะ

 loveit: loveit: loveit: loveit:

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2152 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 12:22 AM »
0
 เย้ๆๆ อ่านเรื่องเล่าจากพี่โด่โด่จบแล้ว
เล่นเอาตาลายกันเลยทีเดียว
ขอแสดงความยินดีกับพ๊โด่โด่ด้วยนะค่ะ
ในที่สุดพี่ก้อประสบความสำเรจ อัลฮัมดูลิลละห์
อ่านแล้วน้ามตาซึมเรยนิ พ๊โด่โด่เหอออ
เกินคำบรรยายเรยอ่า  smile: smile: smile:

  ^_^ จะติดตามตอนต่อไปนะค่ะ

รอวันพี่หล็อบบ้าน  wink:

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2153 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 01:07 AM »
0
^
^

ญะซากัลลอฮุคอยรอนน้องๆค่ะ... ;D

ว่าแต่ซานากับมานาแน่ใจนะว่ากล้าใส่อ่ะ 5555

ถ้ากล้าใส่และกล้ามาเหยียบถิ่นพี่ พี่ก็ยินดีแต่งให้งิ เหอๆๆๆ
เจงๆ ตอนนี้มีทั้งชุดยูกาตะ และชุดกิโมโน
แต่ไอชุดยูกาตะนี่ไม่แน่ใจว่า โดนแมลงสาปแทะไปแล้วยัง
เพราะว่าแม่คงเก็บไว้ในตู้ ไม่เอาออกมาแน่ๆ เพราะหาหม้ายใครแต่งเป็น
ถึงแต่งเป็นก็คงไม่มีใครกล้าแต่ง เพราะแต่ก่อนพี่เป็นคนแต่งให้
และเราก็แต่งแล้วถ่่ายรูปกับต้นมะม่วง กับกอกล้วยและกล้วยไม้หลังบ้านเก็บไว้
เสร็จแล้วก็ถอดออก...ไม่มีใครกล้าใส่ออกไปเดินเฉิดฉายเลยงิ
พี่เองก็ไม่กล้างิ ขนาดถิ่นเองนะนั่น 55555
แต่ถ้าใส่ที่ญี่ปุ่นล่ะไม่พรื่อ มีเพื่อนใส่ด้วยกันเยอะ...  :laugh:

ใครกล้าใส่ชุดสองชุดดังกล่าวแล้วเดินออกไปพร้อมผ้าคลุมหิญาบที่บ้านเราล่ะก็
พี่ขอยกนิ้วให้สองโป้ง  myGreat: myGreat:

จองชุดอย่างเดียวไม่ได้นะโคลงเคลง ต้องจองอย่างอื่นด้วย
พี่รอส่งต่ออยู่นา ส่วนซันไช่หากสนใจตำแหน่งทายาท
จะขอลัดคิวซานาก็บอกพี่มาได้...พี่ยินดีแต่งชุดให้พร้อมของสมนาคุณ 5555


ปล.ถ้าได้เจอกันและมีโอกาส อินชาอัลลอฮฺ พี่จะซ้อมแต่งชุดเอาไว้แต่เนิ่นๆ
ตอนแต่งให้น้องๆจะได้สวยๆเนอะ... และที่สำคัญชุดกิโมโนที่พี่ได้มา
หากไม่สูงเกิน 165 ก็น่าจะสวมได้สบายจ้า
(เรื่องดัชนีพุงหายกังวลไปได้ ไม่พรื่อ ใส่ได้ทุกพุง ;D )
แต่ใครที่ขายาวกว่านั้น สงสัยคงต้องแต่งแบบตอนน้ำท่วมแหงมๆ  hehe

แล้วบัลกิสไม่สนใจหรือ หรือว่าไม่ถูกโฉลกกับสีส้ม อิอิอิ
สีฟ้าครามก้ามีงิ...  

ป.ลิงอีกที...สาว่าใกล้ได้หลอบเรินแล้วนิน้องหนอนเหอ...
ถ้ามีตังค์ค่าตั๋วอ่ะ เพราะว่าพี่ดันใช้มันไปกับผลงานเกลี้ยงกรึบซะแล้วงิ เหอๆ
เผลอๆได้อยู่ทำงานต่ออีกสักเดือนสองเดือนอ่ะสิ
ตอนนี้ให้อาจารย์ช่วยเป็นแมวมองให้อยู่งิ...สาว่่าๆมีคนสนใจผลงานพี่แว้ว... เหๆ
รอผลตอบรับอยู่จ้า อินชาอัลลอฮฺ มีเงินค่าตั๋วและค่าฯลฯแล้ว
ก็อยากกลับไปกอดพ่อกอดแม่เลยงิ... ;D


ไปดีกว่า เดี๋ยวจะติดเกาะ  hehe

วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2154 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 01:16 AM »
0
อัลฮัมดุลิลละฮฺ ส้มหล่น กิโมโนหล่นทับ 555555 hehe

อัลฮัมดุลิลละฮฺ จริงๆค่ะ อ่านแล้วซึ้งมากๆเลยค่ะ mycry ก๊ะโด่โด่เก่งจังเลย

ขอแสดงควมยินดีด้วยคนค่ะ mycool: ที่นี้กลับไทยมา น่าว่าได้ลงจากคานก็คราวนี้แหละนะคะ เพราะเมื่อหนุ่มๆอ่านหรือทราบข่าวแล้วคงปลื้มกันเป็นแถวเรย อิอิ  :laugh:

ที่สำคัญ ไปกว่านั้น พ่อแม่ บุคคลภายในครอบครัวและผู้ใกล้ชิด จะต้องปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก กับลูกสาวคนนี้เป็นแน่แท้ ที่ ณ วันนี้ เราสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆนานาในต่างแดน จนสามารถประสบความสำเร็จได้ และอีกอย่างที่เห็นได้ชัดจากเรื่องราวที่เล่ามา ลูกสาวคนนี้เป็นเด็กดี ใครๆก็รัก ก็เอ็นดู อัลลอฮฺเมตตา จริงๆ myGreat:



อัลฮัมดุลลิลลาฮฺ...อัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณายิ่ง จริงๆค่ะ ซึ้งแทน (แอบคิด เมื่อไหร่ เราจะมีวันนั้นหนอ) แมวน้อยจะเก็บเรื่องราวของก๊ะไว้เป็นบทเรียน หนทางยังอีกยาวไกล บททดสอบยังมีอีกมาก สู้โว้ยยย(ปลอบใจตัวเอง ;D)

ปล.กลับมาวันไหน อย่าลืมแจ้งคนบ้านแค่ๆด้วยนะคะ อิอิ อ้อ ไม่ว่าชุดอะไร ข้าน้อยขอลองด้วยคนคร่า boulay:
...สุดท้ายท้ายสุด แอดเมล์มาคุยก่อนกลับบ้างก็ดีนะคะ จากใจจริง... คงต้องขอตัวแล้ว อินชาอัลลอฮฺ คงได้พบกัน loveit:

(อ่ะโด่ รู้นะ คงเม้าแตกกับทางบ้านน้ำลายท่วมสายไหม้ไปแล้วอ่ะจินั้น 555 :laugh:)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2155 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 01:43 AM »
0
ครั้งก่อนคอกเทล ครั้งนี้จะเอาอะไรมาล่อมานาอีกล่ะ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2156 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 02:08 AM »
0
 ;D  ;D  ;D

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2157 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 02:15 AM »
0
ไม่เป็นไร เกรงใจ ไม่อยากแย่งของสมนาคุณจากใคร
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2158 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 02:17 AM »
0
ไม่เป็นไร เกรงใจ ไม่อยากแย่งของสมนาคุณจากใคร

แหม อิลฮาม แบบนี้ก็เสียน้ำใจกีะเขาแย่เลยสิ ทำไมเราเป็นคนแบบนี้นะ  hihi:

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องที่ฉันอยากเล่า...
« ตอบกลับ #2159 เมื่อ: ก.พ. 20, 2010, 11:10 AM »
0
อัลฮัมดุลิลละฮฺ ส้มหล่น กิโมโนหล่นทับ 555555 hehe

อัลฮัมดุลลิลลาฮฺ...อัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณายิ่ง จริงๆค่ะ ซึ้งแทน
(แอบคิด เมื่อไหร่ เราจะมีวันนั้นหนอ)
แมวน้อยจะเก็บเรื่องราวของก๊ะไว้เป็นบทเรียน
หนทางยังอีกยาวไกล บททดสอบยังมีอีกมาก สู้โว้ยยย(ปลอบใจตัวเอง ;D)

ปล.กลับมาวันไหน อย่าลืมแจ้งคนบ้านแค่ๆด้วยนะคะ อิอิ
อ้อ ไม่ว่าชุดอะไร ข้าน้อยขอลองด้วยคนคร่า boulay:
...สุดท้ายท้ายสุด แอดเมล์มาคุยก่อนกลับบ้างก็ดีนะคะ จากใจจริง...

คงต้องขอตัวแล้ว อินชาอัลลอฮฺ คงได้พบกัน loveit:

(อ่ะโด่ รู้นะ คงเม้าแตกกับทางบ้านน้ำลายท่วมสายไหม้ไปแล้วอ่ะจินั้น 555 :laugh:)


 salam

เด๊ะเองก็เก่ง และพี่ก็เชื่อว่าเด๊ะเองก็ทำได้
วันนั้นก็เด๊ะก็จะมาถึงเช่นกัน อินชาอัลลอฮฺ

พี่เองคิดว่าน้องๆในบอร์ดแห่งนี้มีความสามารถนะ แม้จะยังไม่ได้เจอตัวจริง...

เพราะบางครั้ง สิ่งที่เราเห็นมันอาจต่างจากตัวตนที่แท้จริง...
เพืื่อนๆพี่ และอีกหลายๆคนที่เคยเดินผ่านเข้ามาในชีวิตพี่
บางคนดูภายนอกเป็นคนเหลวไหล ไร้สาระไปวันๆ
เล่นไปซะทุกเรื่อง ดูสนุกสนาน ไม่ค่อยจริงจังกับอะไรสักเท่าไหร่...
แต่พอพี่ได้เห็นผลงานของเขา พี่ก็ต้องแปลกใจปนทึ่งอยู่หลายต่อหลายคน
ว่าคนที่ดูภายนอกไม่ได้เรื่องอย่างนั้น เล่นไปวันๆแบบนั้น
เขาทำผลงานที่พี่เห็นออกมาได้อย่างไร และพี่ก็เชื่อด้วยว่า
เขาทำมันเองกับสองมือ หนึ่งสมองและหนึ่งใจ ผลงานบางชิ้น
พี่ยังรู้สึกได้เลยว่า คนๆนึงจะทำมันออกมาได้ต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน...
แล้วคนที่ไร้สาระแบบนั้น เขาเอาเวลาไหนไปทำ ทำไมเราไม่เห็นล่ะ...
ซึ่งแน่นอนว่า ตอนที่เราไม่เห็นนั่นแหล่ะที่เขาทำมัน และทำมันอย่างตั้งใจเสียด้วย
เพราะหากไม่ตั้งใจ ผลลัพธ์ของงานก็คงจะไม่ออกมาแบบนั้น...

และสิ่งที่เราเห็นหรือภายนอกที่เราเห็นจากคนๆนึงนั้น มันก็แค่"เปลือก"
เปลือกที่หุ้มใจงดงามเอาไว้ข้างใน เปลือกที่หุ้มความตั้งใจดีเอาไว้อยู่ตรงส่วนลึก
ที่บางครั้ง ใครก็มองไม่เห็น จนกว่าเขาจะมองผ่านเปลือกหรือกระเทาะเปลือกนั้น
ออกไปได้ เหมือน ข้าวที่เรากินอยู่ทุกวัน...เปลือกข้างนอกเป็นสีเหลือง
พอสีออกมาข้างในเป็นสีขาว และเปลือกที่เราว่่าแข็ง แท้จริงมันแข็งได้
เพราะเนื้อข้าวข้างในมันแข็ง และกว่าเราจะรู้ว่าข้าวนั้นนิ่มแค่ไหน
และอร่อยปานใด เราก็ต้องหุงมัน กินมัน เคี้ยวมันอย่่างละเอียด
และกว่าข้าวจะสุก กว่าเราจะรับรู้รสชาติข้างในของมัน
เราก็ต้องใช้เวลานาน ในทางกลับกัน ข้าวเหนียวดำก็มี...
เปลือกข้างนอกก็สีเหลืองๆไม่ต่างจากข้าวจ้าวหรือข้าวเหนียวสีขาวมากนัก
แต่ที่มันต่างกันคือข้างใน...การหุงก็ยังต้องใช้วิธีที่ต่างกัน เวลาก็ไม่เท่ากันเลย

นั่นแค่ข้าวที่เรากินอยู่ทุกวัน ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะรู้รสชาติข้างในของมัน
กว่าจะรู้ว่่ามันนุ่มขนาดไหน...

แต่นี่คือมนุษย์ตัวโตกว่าเม็ดข้าวตั้งมากมายหลายเท่า...แถมมีหลายประเภท
เปลือกที่ห่อหุ้มมนุษย์อยู่มันหนาแค่ไหนเรามองเห็นยาก...
หรือการจะมองให้ทะลุเปลือกออกไป มันก็ไม่ง่าย
และเวลาแค่วูบวาบที่เรามองนั้น มันจะสามารถทำให้เราสัมผัสเนื้อแท้
ได้จริงหรือ...

พี่ไม่รู้หรอกว่าเราควรตัดสินคนด้วยกันว่ายังไง...
แต่สำหรับพี่พี่มักมองคนๆนึงที่ผลงานของเขา...หรือมองที่ผลลัพธ์ของมัน
เพราะสิ่งเหล่านั้น มันฟ้องถึงคุณค่าที่มีอยู่ข้างในตัวคน...
เพราะบางครั้ง การกระทำที่เราเห็นภายนอก มันบอกอะไรได้มากมาย...
และมันอาจเป็นแค่เพียงเปลือก...
แต่ผลลัพธ์ที่เราได้จากคนๆนึงนั้นจะบอกเราว่าเขามีความสามารถ
มีความตั้งใจมากน้อยแค่ไหน...และเราต้องใช้เวลานานกว่าจะรู้กว่าจะซึ้ง...

แม้แต่ศรัทธาของตัวพี่เอง พี่ยังไม่สามารถตอบได้เลยว่ามันจะยังคงเป็นเช่นนี้
หรือมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้หรือมันจะเปลี่ยนไปยังไงในวันหน้า...
หากว่าลมหายใจยังไม่ถึงลูกกระเดือก เพราะว่่าเมื่อถึงตอนนั้น
เราเองก็จะได้เห็นผลลัพธ์ของความศรัทธาภายในของตัวเราเองนะพี่ว่า...


พี่ถึงถ่ายรูปผลงานของคนที่พี่ไม่คิดว่าเขาจะทำมันออกมาได้ เก็บเอาไว้
เพื่อบอกตัวเองว่า อย่ามองคนแค่ที่เปลือก เพราะบางครั้ง
เปลือกที่เห็น มันอาจจะห่อหุ้มสิ่งที่ดีงาม ความตั้งใจอันแรงกล้าเอาไว้ก็เป็นได้
แล้ววันนึงมันจะส่งผลของมันออกมาให้เราได้เห็น...ไม่วันใดก็วันนึง อินชาอัลลอฮฺ

และทุกคนก็มีความสามารถและเก่งนะ อยู่ที่มันจะถูกงัดออกมาใช้ในยามใด...

ปล.พี่และเพื่อนๆเองเวลาว่างๆก็มักจะออกไปเที่ยว...
มันดูเหมือนเราใช้ชีวิตไร้สาระในสายตาคนที่เขาเพียงมองผ่านมา
เที่ยวไปวันๆ แต่พี่ยังรู้สึกเลยว่า การท่องเที่ยวหรือคุยเรื่องทั่วๆไป
กับเหล่าเพือนๆและพี่ๆน้องๆ มันไม่ได้ไร้สาระเลย
และพี่ได้อะไรมามากมาย พอเรากลับมาทำงาน มาทำหน้าที่ของเรา...
เราก็ทำมันตรงนั้นอย่างเต็มที่และตั้งใจ...
พี่ว่าไม่มีใครไร้สาระได้ทุกวินาที
และก็ไม่มีใครมีสาระได้ตลอดเวลานะ...
มันอยู่ที่เวลา และสถานการณ์...หากบริหารได้ดี งานก็ไม่เสีย...
ผลงานก็จะส่งผลที่ดีออกมา... ;D


ป.ลิงอีกที...พี่ชอบกินแห้วนะ เปลือกมันดำก็จริง แต่ว่าข้างในมันคนละสี
และที่สำคัญ หวานมันอร่อย ชื่อของมันก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
สุดแท้แต่ใครจะเรียกจะตั้ง เพราะพี่ก็ยังเรียกมันว่า แห้วเลย...
แต่พี่ก็ชอบกินแห้วอยู่ดี 55555

แล้วเราค่อยนัดเจอตัวเป็นๆกันน่อ คนบ้านแค่แค่ อิอิอิ
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged