
วันนี้กลับมาหากระทู้นี้อีกครั้ง หลังจากได้ห่างหายไปนาน 
กลับมาจากญี่ปุ่นได้ครบหนี่งปีเต็ม อะไรๆที่เคยคิดว่าใช่กลับไม่ใช่
อะไรๆที่เคยคิดว่าไม่ใช่กลับใช่...
โลกดุนยานี้ไม่มีอะไรยั่งยืนเลย...
พ่อกับแม่ยังพูดเลยว่า นี่ถ้ายังอยู่ที่ญี่ปุ่น ป่านนี้จะเป็นอย่างไร
เพราะตั้งแต่จากที่นั่นมา ญี่ปุ่นโดนภัยพิบัติไม่ใช่น้อย...
พ่อบอกว่า อาจเป็นเพราะคนญี่ปุ่นไม่ขอดุอาฮฺต่ออัลลอฮฺก็ได้...
สำหรับข้าน้อยรู้สึกว่า นี่คือบททดสอบที่เราทั้งหลายต้องใคร่ครวญและทบทวน
เพราะหลายครั้งที่ญี่ปุ่นเจอกับภัย ทั้งจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง
และจากภัยธรรมชาติทำลายล้าง...หากพวกเขากลับผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ด้วยดี
เพราะอะไรที่ทำให้คนที่เกาะญี่ปุ่นยืนหยัดมาได้..
สิ่งที่ข้าน้อยสัมผัสและได้ยินมาคือ คนญี่ปุ่นจะไม่โทษในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
แต่พวกเขาจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้...
พวกเขาทำมันจริงๆและสู้จริงๆ...
ความอดทนของคนที่นั่นสอนให้ข้าน้อยรู้ว่า...
ความอดทนนั้นมีประโยชน์ยิ่งกว่าอะไร...
ข้าน้อยจึงพูดเสมอว่า หากคนญี่ปุ่นมีอีหม่านและศรัทธาในอัลลอฮฺ
มันคงจะดีกว่านี้ และจะเป็นที่รักสำหรับเอกองค์อัลลอฮฺสักแค่ไหนหนอ...
เพราะอัลลอฮฺทรงรักผู้ที่มีความอดทนต่อบททดสอบ...
เราผู้มีศรัทธาจึงต้องอดทนให้มากยิ่งกว่า...
ก่อนไปอยากฝากบทความนึงที่ยังอยู่ในความทรงจำและได้จดบันทึกเอาไว้
เพราะจำดีกว่าจดถ้าจำไม่หมดจดดีกว่าจำ
การตั้งใจที่จะทำความดีไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่การดำรงคงมั่นในคุณงามความดีกลับเป็นสิ่งที่ลำบากยากเย็นขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะเมื่อต้องผ่านการทดสอบความมั่นคงของจิตใจครั้งแล้วครั้งเล่า
อย่างไรก็ตาม โชนไฟที่เร่าร้อนรุนแรงและฝีค้อนที่กระหน่ำซ้ำเติมอย่างไม่ยั้งมือ
กลับหล่อหลอมให้เหล็กเข้ารูป
เช่นเดียวกับความทุกข์ที่แม้จะโหดร้ายและแผดเผาจิตใจดั่งไฟนรก
ก็ทำให้ผู้ที่ผ่านการเคี่ยวกรำอย่างลำเค็ญมีแต่ความเข้มแข็งและทระนงองอาจ
ขอเพียงให้เขาและเธอมีความมุ่งหมายมาดมั่นที่จะเป็น "อาทิตย์ยามอุทัย"
(ประภัสสร เสวิกุล)
จงเป็นอาทิตย์เมื่ออุทัย เกรียงไกรในพลังสร้างสรรค์
เพื่อความดีงามร่วมกัน แห่งชั้นชาวชนคนงาน
เข้าร่วมรวมพลังบังเกิด แจ่มเจิดภพใสไพศาล
ชีพมืดชืดมาช้านาน หรือจะทานแสงทองส่องฟ้า
จงเป็นอาทิตย์เมื่ออุทัย พลังใหม่เข้มแข็งแกร่งกล้า
พากเพียรเรียนรู้โลกา เปลี่ยนแปลงสู่อาริยะยุค
แรงอรุณหนุนเนื่องเรืองล้ำ แรงดรุณจักนำสันติสุข
มืดมนอนธกาลทานทุกข์ มือสองจักปลุกประกายพลัน
(ทวีป วรดิลก)
ปล.ใครรู้บ้างว่า ทำไมประเทศญี่ปุ่นจึงได้ฉายาว่า "แดนอาทิตย์อุทัย"

วัสสลามค่ะ
^
^
^
ปุจฉา
วิสัชนา
มานั่งรอ คำตอบ
ประเทศญี่ปุ่นเริ่มต้นใช้ชื่อประเทศว่า "นิฮง/นิปปง (日本)" ตั้งแต่ช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 12 จนถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 13 ตัวอักษรคันจิของชื่อญี่ปุ่นแปลว่า"ถิ่นกำเนิดของดวงอาทิตย์" และทำให้ญี่ปุ่นมักถูกเรียกว่า"ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย" ชื่อนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีการติดต่อกับราชวงศ์สุยของจีนและหมายถึงการที่ญี่ปุ่นอยู่ในทิศตะวันออกของจีน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะมีความสัมพันธ์กับจีน ญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในชื่อ"ยะมะโตะ" คับ
จริงเท็จอย่างไรมิทราบ : coppy จาก
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0d662be17794c644

วันนี้มีเวลาได้กลับมาพบเจอพี่น้องหลังจากห่างหายไปหลายเดือน
ไม่รู้จะมีใครจำข้าน้อยไดอีกรึเปล่า

และไม่ลืมที่จะกลับมาตอบคำถามที่เคยถามเอาไว้ (ตั้งนานแล้ว

)
ดองคำถามเอาไว้จนเค็มจัด วันนี้เลยกลับมาเติมน้ำตาล แช่อิ่มต่อ
วิสัชนาv
v
v
ญี่ปุ่นตั้งอยู่ระหว่างละติจูดที่ 20 และ 30 องศา เหนือและลองติจูดที่ 123
และ154 องศา ตะวันออก เป็นประเทศญี่ปุ่น
ที่ตั้งอยู่ ทางตะวันออกสุดของโลก จึงเรียกว่า
"ดินแดนอาทิตย์อุทัย" แต่ละวันใหม่ พระอาทิตย์จะส่องแสงในดินแดนของชาวญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกในโลก
ฝรั่งจึงตั้งให้ว่าเป็น
‘Land of the Rising Sun’ ( แดนอาทิตย์อุทัย )
นามนี้ไม่ต่างไปจากชื่อซึ่งญี่ปุ่นเรียกตัวเองคือ
‘นิปปอน’ พยางค์แรก ‘นิป’ แปลว่าพระอาทิตย์ ส่วน พยางค์หลังแปลว่า ‘ที่มา’
ตั้งแต่สมัยโบราณ จีนเรียกญี่ปุ่นว่า ‘จา ปัน’ อันมีความหมายว่า ‘อาทิตย์อุทัย’ หรือ ‘ทิศบูรพา’
ภาษามาเลย์เพี้ยนเป็น ‘จัปปุง’ คนไทยเรียกเพี้ยนจากมาเลย์ เป็น ญี่ปุ่น
ส่วนฝรั่งเรียกเพี้ยนต่ออีก กลายเป็น ‘แจแปน’
เสริมอีกนิดส่วนความยาวจากเหนือจดใต้ของญี่ปุ่น คือ 2,500 กิโลเมตร
ญี่ปุ่นเป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นแนวยาว จากด้านตะวันตกเฉียงเหนือของ มหาสมุทรแปซิฟิก และตั้งอยู่ทางด้าน ตะวันออกของแผ่นดิน ยูเรเชีย
ประกอบด้วย เกาะใหญ่ 4 เกาะ ได้แก่ ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโคกุ และกิวชิว
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยอีกราว 4,000 เกาะ
พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นภูเขาและ เนินเขา มีขนาดเล็กกว่า ประเทศไทย 0.7 เท่า
แต่ญี่ปุ่นมีประชากร มากกว่าประมาณ 2 เท่า
ประเทศ ญี่ปุ่น มีเมืองหลวง คือ โตเกียว (Tokyo)
เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดจากทั้งหมด
...................................
อีกอย่างนึงที่น่าประทับใจหากใครได้ไปเยือนและพักอยู่ที่ญี่ปุ่นระยะนึง
ก็จะเข้าใจว่า คนญี่ปุ่นนั้นช่างอดทน และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
เหมือน พระอาทิตย์ที่จะกลับมาส่องแสงอีกครั้งในทุกๆวัน
ดังนั้น...พี่น้องเรา ใครก็ตามที่ประสบกับเคราะห์กรรมก็ขอให้อดทน
และขอดุอาฮฺให้เราสามารถผ่านพ้นบททดสอบนั้นด้วยอีหม่าน
และขออัลลอฮฺทรงตอบแทนสิ่งที่ดีกว่าให้กับเรา...
เพราะรางวัลแห่งคนดี จะไม่มีวันสูญหาย ดั่งอายะฮดังกล่าว
และเช่นนั้นแหละ เราได้ให้ยูซุฟมีอำนาจในแผ่นดิน(*1*)
เขาจะพำนักอยู่ที่ใดได้ตามต้องการ เราให้ความเมตตาของเราแก่ผู้ที่เราประสงค์
และเราจะมิให้รางวัลของบรรดาผู้ทำความดีสูญหาย ซูเราะฮฺยุซุฟ อายุอฺที่ 56
และ
พวกเขากล่าวว่า “แน่นอน ท่านคือยูซุฟใช่ไหม?”
เขากล่าวว่า “ฉันคือยูซุฟและนี่คือน้องของฉัน แน่นอนอัลลอฮ์ทรงโปรดปรานเรา(*1*)
แท้จริงผู้ใดที่ยำเกรงและอดทน แน่นอนอัลลอฮ์จะมิทรงให้รางวัล
ของบรรดาผู้ทำความดีสูญหาย” ซูเราะฮฺยูซุฟ อายะอฺที่ 90
หากเราประสบกับเคราะห์กรรม อย่าลืมอ่านซูเราะฮฺยูซุฟดูนะคะ
เพราะท่านนบียูซุฟ อาลัยอิสลาม นั้นประสบกับการทดสอบหลายครั้ง
หากท่านก็สามารถผ่านมันไปได้ด้วยอีหม่าน
ต้องขออภัยด้วยนะคะที่ไม่สามารถยกท่อนภาษาอาหรับมาได้
เพราะว่าหาปุ่มแปะรูปไม่เจอ เพราะที่เจอนั้นทำไม่เป็น
สงสัยจะเชยอีกแล้วเรา

งานนี้ต้องชมแอดมิน ที่พัฒนาเว็บ อัพเดตจนเห็นอะไรๆแปลกใหม่
และเพิ่มเติมขึ้นมากมาย
ปล.ขอบคุณคุณ asroon มากๆเลยค่ะ ญาซากัลลอฮุคอยรอน 
ป.ลิงอีกที...แม้จะถามไปนาน แต่นาดาโยรุ เป็นผู้หญิงที่ลืมยากค่ะ
ก็เลยต้องกลับมาตอบ เมื่อประสบกับโอกาส อัลฮัมดุลิลลาฮฺ

ขอให้พี่น้องทุกท่านมีความอดทนในเดือนแห่งความเมตตา
และเป็นผู้ประสบชัยในวันแห่งการตัดสิน อามีน 
วัสสลามค่ะ
