ผู้เขียน หัวข้อ: หนึ่งร้อยตัวบังคับ[บุพบท อักษร ที่สาม : อิลา (إلى)]  (อ่าน 1606 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 23
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด

บุพบท อักษร ที่สาม  : อิลา (إلى)


และสำหรับ “อิลา” นั้นมีสองความหมายด้วยกัน1  ดังนี้ :

(1)ความหมายที่หนึ่ง : (انْتِهَاءُ الْغَايَة)  “อินติฮาอฺ อัลฆอยะฮ์” (การสิ้นสุดซึ่งเป้าหมาย)2
เช่น (سِرْتُ مِنَ الْبَصْرَةِ إِلَى الْكُوْفَةِ) “ฉันได้เดินทาง(เริ่ม)จาก เมืองบัศเราะฮ์ กระทั่งถึงเมืองกูฟะฮ์”
หมายถึง  (أي :انْتِهَاءُ سَيْرِي مِنَ الْبَصْرَةِ إِلَى الْكُوْفَةِ)  “การสิ้นสุดซึ่งการเดินทางของฉันจากเมืองบัศเราะฮ์ ยังเมืองกูฟะฮ์”.


(2) ความหมายที่สอง : (مَعَ) “มะอา” (พร้อมด้วย) 3 ซึ่งนับว่าเป็นความหมายที่(ถูกใช้)น้อยมาก
- เช่น คำดำรัสของอัลลอฮ์ ตาอาลา ที่ว่า (وَيَزِدْكُمْ قُوَّةً إِلَى قُوَّتِكُمْ) “และพระองค์จะทรงเพิ่มพูนแก่พวกท่านซึ่งพลังเสริมทวีพลังของพวกท่าน”(ซูเราะฮ์ ฮูด :52)  หมายถึง (مَعَ قُوَّتِكُمْ) “พร้อมกับพลังของพวกท่าน”.

-และ ดังคำดำรัสของอัลลอฮ์ ตาอาลา ที่ว่า (وَلَا تَأْكُلُوا أَمْوَالَهُمْ إِلَى أَمْوَالِكُمْ) “และพวกเจ้าอย่าบริโภค(รับประโยชน์)ทรัพย์สินของพวกเขา(โดยเอามารวม)เข้ากับทรัพย์สินของพวกเจ้า”(ซูเราะฮ์ อันนิสาอฺ :2)  หมายถึง (مَعَ أَمْوَالِكُمْ) “พร้อมกับทรัพย์สินของพวกท่าน”
และตัวอย่างอื่นๆอีกที่คล้ายคลึงกัน.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 09, 2014, 11:56 AM โดย มารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ »

ออฟไลน์ มารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 23
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
_________________________________
1  ที่ว่ามีอยู่สองความหมายนั้นคือสิ่งที่ถูกระบุไว้ใน ตำรา “อัล-อะวามิ้ล อัล-มิอะฮ์”มีอยู่  และได้ถูกระบุไว้ใน ตำรา “มุฆนิ้ล ละบีบ” มีอยู่ 8 ความหมายด้วยกัน ดังจะทยอยนำมากล่าวในลำดับต่อไป อิงชาอัลลอฮ์.


  2 และความหมายนี้ก็นับว่าเป็น ความหมายที่ถูกใช้อย่างมากโดยส่วนใหญ่.
ดังกล่าวนี้ ไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม ดังนี้

- (الغَايَة المَكَانِيَّة) เป้าหมายที่เป็นสถานที่ เช่น โองการที่ว่า (مِنَ الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ إِلَى الْمَسْجِدِ الْأَقْصَى) “จากมัสยิด อัลหะรอม สู่มัสยิด อัลอักซอ”(ซูเราะฮ์ อัล-อิสเราะอฺ :1) 

- (الغَايَة الزَّمَانِيَّة) เป้าหมายที่เป็นเวลา เช่น ฮาดิษที่ว่า  فَمُطِرْنَا مِنَ الْجُمُعَةِ إِلَى الْجُمُعَةِ “เราถูกฝนกระหน่ำจากศุกร์หนึ่งกระทั่งอีกศุกร์หนึ่ง” (อัล-บุคอรีย์ ฮาดิษที่ 1016,1019).

-คำที่ตกหลัง “อิลา” เป็น สิ่งสุดท้ายอย่างแท้จริง (الآخِرُ الْحَقِيْقِيُّ) เช่น โองการ (مِنَ الْمَسْجِدِ الْحَرَامِ إِلَى الْمَسْجِدِ الْأَقْصَى)   ข้างต้น
 
-คำที่ตกหลัง “อิลา” เป็น สิ่งติดกับสิ่งสุดท้าย(เป้าหมาย) (مُتَّصِلَا بِالآخِرُ)  เช่น نِمْتُ اللَّيْلَةَ إِلَى نِصْفِهَا ฉันนอนในตอนกลางคืน จนถึง(เวลาที่ติดกับ)เที่ยงคืน.


  3 หรือเรียกอีกอย่างว่า (الْمُصَاحَبَة)  “อัล-มุศอหะบะฮ์” ความหมายคือ การที่เราผนวกสิ่งหนึ่งเข้ากับอีกสิ่งหนึ่ง  ไม่ว่าทั้งสองอย่างนั้นจะเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเครื่องหมายที่จะบ่งบอกว่า “อิลา” มีความหมายดังกล่าวนี้ คือ เราสามารถที่จะวางคำว่า “مَعَ” แทนที่คำว่า “إِلَى” ได้อย่างเหมาะสม และไม่ทำให้เปลี่ยนความหมายแต่อย่างใด.

     การใช้ความหมาย “อัล-มุศอหะบะฮ์” นี้ ตามทัศนะของ ปราชญ์“อัล-กูฟียีน” และส่วนหนึ่งจาก “อัล-บัศรียีน” ดังโองการที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่มีนักวิชาการบางท่านมีทัศนะว่า “อิลา” ใช้ความหมายเดิมๆของมัน นั่นก็คือ “อินติฮาอฺ อัล-ฆอยะฮ์” โดยให้ “อิลา” ไปเกี่ยวพันกับสิ่งที่ถูกตัดไปเสียแล้ว (مُتَعَلِّقٌ بِمَحْذُوْف) ซึ่งสมมุติขึ้นว่า “مَضْمُوْمًا أو مَضْمُوْمَةً” (ซึ่งแปลว่า ผนวกหรือรวมเข้าด้วยกัน) ซึ่งจากโองการที่กล่าวมาสามารถสมมุติได้ดังนี้
-(وَيَزِدْكُمْ قُوَّةً إِلَى قُوَّتِكُمْ)  = وَيَزِدْكُمْ قُوَّةً – مَضْمُوْمَةً - إِلَى قُوَّتِكُمْ
- (أَمْوَالَهُمْ إِلَى أَمْوَالِكُمْ)= أَمْوَالَهُمْ – مَضْمُوْمَةً -  إِلَى أَمْوَالِكُمْ 

    คำถาม : สิ่งที่เป็น “อัลฆอยะฮ์” (الْغَايَة) (คือคำที่ตกหลังจาก “อิลา”)นั้นจะเข้าภายใต้ ความต้องการหรือจุดมุ่งหมาย (الْحُكْم) ของประโยคนั้นๆหรือไม่?

     คำตอบ : ก่อนที่จะเข้าไปตอบคำถามข้างต้นเราจะต้องทราบก่อนว่า ระหว่าง “إلَى” และ “حَتَّى”  นั้นมีความสัมพันธ์กันในประเด็นดังกล่าวมาแล้วนี้ ซึ่งการที่“อัลฆอยะฮ์”นั้นจะเข้าภายใต้ ความต้องการหรือจุดมุ่งหมาย (الْحُكْم) ของประโยคนั้นๆหรือไม่นั้น เราสามารถแบ่งออกเป็นสอง กรณีดังนี้

      กรณีที่หนึ่ง : เมื่อมีพยานแวดล้อม(อัล-กอรีนะฮ์) (الْقَرِيْنَة) บ่งชี้ว่า “อัล-ฆอยะฮ์” เข้าหรือไม่เข้า ภายใต้ “ฮูกม”ของประโยค ก็ให้ยึดถือตามนั้นได้เลย

1)ตัวอย่าง ประโยคที่มีพยานแวดล้อมบ่งชี้ว่า “อัล-ฆอยะฮ์” เข้า ภายใต้ “ฮูกม”ของประโยค เช่น
قَرَأْتُ الْقُرْآنَ مِنْ أَوَّلِهِ إلَى آخِرِه  ฉันได้อ่านคัมภีร์ อัล-กุรอ่าน จากเริ่มแรกกระทั่งสุดท้าย(จบ)(หมายความว่าส่วนสุดท้ายของ อัล-กุรอ่านก็ถูกอ่านไปด้วย)
พยานแวดล้อม ณ ที่นี้คือ จารีตส่วนใหญ่(อัล-อุรฟ์) (الْعُرْفُ)  เป็นตัวบ่งชี้ว่าคำในประโยคนี้ถูกใช้ในความหมายครอบคลุม และทั่วถึง (เริ่มจากแรกจนสุดท้ายครอบคลุมหมด)
บางทัศนะเห็นว่า พยานแวดล้อม ณ ที่นี้ คือ กรมีเจตนาที่จะอ่านให้สมบูรณ์(إِرَادَةُ الاسْتِيْفَاء) .

2)ตัวอย่าง ประโยคที่มีพยานแวดล้อมบ่งชี้ว่า “อัล-ฆอยะฮ์” ไม่เข้าภายใต้ “ฮูกม”ของประโยค เช่น โองการที่ว่า
 (ثُمَّ أَتِمُّوا الصِّيَامَ إِلَى اللَّيْلِ) “หลังจากนั้นพวกเจ้าจงถือศิลอด(เต็มวัน)จวบจนกระทั่งกลางคืน”(ซูเราะฮ์ อัล-บะกอเราะฮ์ : 187) (กลางคืนไม่เข้า ก็ไม่ต้องถือศิลอด)
พยานแวดล้อมในโองการข้างต้น คือ เป็นที่รู้กันในทางศาสนาว่า การถือศิลอดนั้นถูกบัญญัติเฉพาะกลางวันไปจนกระทั่งส่วนสุดท้ายของกลางวัน และจะสิ้นสุดเมื่อเข้าส่วนแรกของเวลากลางคืน.


กรณีที่สอง : เมื่อมีพยานแวดล้อม(อัล-กอรีนะฮ์)ดังกล่าวมา
กรณีนี้นักวิชาการ มีทัศนะความเห็นที่ต่างกันออกไปสรุปได้ 3 ทัศนะด้วยกันดังนี้

1)ทัศนะที่หนึ่ง “อัล-ฆอยะฮ์” เข้าภายใต้ “ฮูกม”ของประโยคทุกกรณี (ไม่ว่าจะกรณีที่“อัล-ฆอยะฮ์”เป็นชนิดเดียวกับสิ่งที่อยู่ก่อนหน้ามันหรือไม่ก็ตาม) เช่น “سِرْتُ فِي النَّهَارِ إِلَى اللَّيْلِ” ฉันเดินทางในตอนกลางวันจนกระทั่งกลางคืน(ก็ยังเดินทางอยู่)(กลางคืน คนละชนิดกับกลางวัน).

2)ทัศนะที่สอง “อัล-ฆอยะฮ์” เข้า ภายใต้ “ฮูกม”ของประโยค หาก“อัล-ฆอยะฮ์”เป็นชนิดเดียวกับสิ่งที่อยู่ก่อนหน้ามัน และไม่เข้าหากเป็นคนละชนิดกัน เช่น “سِرْتُ فِي النَّهَارِ إِلَى وَقْتِ الْعَصْرِ” ฉันเดินทางในตอนกลางวันจนกระทั่งเวลาเย็นอัสรี(ก็ยังเดินทางอยู่)(เวลาอัศรีชนิดเดียวกับกลางวัน).

3)ทัศนะที่สาม “อัล-ฆอยะฮ์” ไม่เข้าภายใต้ “ฮูกม”ของประโยคทุกกรณี และเจ้า ตำรา“มุฆนิ้ลละบีบ”กล่าวว่านี่เป็นทัศนะที่ถูกต้อง เนื่องจาก พยานแวดล้อมที่บ่งชี้ว่า“อัล-ฆอยะฮ์” ไม่เข้าภายใต้ “ฮูกม”ของประโยค นั้นมีมากกว่า จึงจำเป็นจะต้องถือตามในประเด็นที่มีการขัดแย้งสงสัยกัน(กล่าวคือในประเด็นที่ไม่มีพยานแวดล้อมบ่งชี้).
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 09, 2014, 11:54 AM โดย มารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ »

ออฟไลน์ มารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 23
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
บรรณานุกรม :


ตำราที่ใช้ประกอบ(ซึ่งสามาถรค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้จากตำราเหล่านี้) :-

-   “เอาเดาะหุ้ล มะซาลีก อิลา อัลฟียะฮ์ อิบนิ มาลิก” : โดย เชค อิบนุหิชาม อัล-อันซอรีย์ อัล- หัมบะลีย์:  เล่มที่ 3 หน้า 38-39.
-   “หาชียะฮ์ อัล-คุฎอรีย์ อะลา ชัรห์ อิบนิ อะกีล อะลา อัลฟียะฮ์ อิบนิ มาลิก” : โดย เชค มุหัมหมัด บิน มุสฎอฟา อัล-คุฏอรีย์ อัชชาฟีอีย์ : เล่มที่ 1 หน้า 524.
-   “หาชียะฮ์ อัด-ดุซูกีย์ อะลา มุฆนิ้ลละบีบ อัน กุตุบิ้ล อะอารีบ” : โดย เชค มุสฎอฟา มุหัมหมัด อะรอฟะฮ์ อัด-ดุซูกีย์ อัล-มาลิกีย์: เล่มที่ 1 หน้า 205-208.
-   “ชัรหฺ อัล-อาญูรรูมียะฮ์ ฟี  อิลม์ อัลอารอบียะฮ์” : โดย เชค อาลี บิน อับดิลลาฮ์ อัส-สันฮูรีย์ : เล่มที่ 1 หน้า 110.
-   “หาชียะฮ์ อัศ-ศ๊อบบาน  อะลา ชัรห์  อัล-อัชมูนีย์” : โดย เชค มุหัมหมัด บิน อาลี อัศ-ศ๊อบบาน อัช-ชาฟีอีย์ : เชิงอรรถ โดย ฏอฮา อับดุรรออูฟ ซะอฺด์  : สนพ.มักตะบะฮ์ เตาฟีกียะฮ์ กรุง ไคโร ไม่ระบุปีและครั้งที่พิม เล่มที่ 2 หน้า 317-320.
-   “อัล-อะวามิล อัล-มิอะฮ์” : โดย เชค อับดุลกอฮีร บิน อับดุรเราะหฺมาน อัลญุรญานีย์ อัช-ชาฟีอีย์ หน้า 44.
-   “อัล-มุอฺญัม อัล-วาฟีย์ ฟี อัน-นะหฺว์ อัล-อะรอบีย์ ” : โดย ดร. อาลีย์ เตาฟีก อัล-หัมด์ และ เชค ยุสุฟ ญะมีล อัซ-ซะอฺบีย์  :หน้า 58-59.

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

 

GoogleTagged