ผู้เขียน หัวข้อ: มันอยู่ที่ "ปอด"  (อ่าน 2037 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
มันอยู่ที่ "ปอด"
« เมื่อ: ก.พ. 20, 2008, 09:38 AM »
0

มันอยู่ที่ "ปอด"


"หมอว่ามันอยู่ที่ใจต่างหาก"  หมอยงค์สบตาผมแล้วยิ้ม

"ใช่..หมอ  มันอยู่ที่ใจ  แต่สงสัยใจผมจะไม่แข็งพอ  ก็เลยเลิกไม่ได้ซักที"  ผมยิ้มบ้าง

"มีคนเคยบอกว่า  ถ้าอยากเลิกจริง ๆ ให้ทำแค่สองอย่าง" หมอยงค์พูด  ตาและมือก็ยังง่วนอยู่กับการจดอะไรบางอย่างลงแฟ้มประวัติคนไข้  ในห้องพักฟื้นคนไข้นี้มีกันอยู่ 3 คน  หมอยงค์กับผม  และพยาบาลที่กำลังเปลี่ยนขวดน้ำเกลืออันใหม่

ผมกดรีโมทปรับหัวเตียงให้ยกขึ้น  นอนเมื่อยมาทั้งวัน  มีหมอยงค์เป็นเพื่อนคุยแล้วค่อยหายเบื่อหน่อย

"อะไรบ้างล่ะหมด  สองข้อที่ว่าน่ะ"

หมอยงค์เลิกสนใจแฟ้มประวัติของผมชั่วคราว  เงยหน้าขึ้นสบตา

"ข้อแรกอย่าจุดไฟ  ข้อต่ไปอย่าใส่ปาก"  ทั้งผมและหมอก็หัวเราะร่วนอย่างพร้อมเพรียง  วันนี้ได้สัมผัสด้านนี้ของหมอทำให้รู้สึกว่าหมอยงค์ก็เป็นคนอารมณ์ขันเหมือนกัน  หลายวันมานี้หมอค่อนข้างเคร่งเครียดและเหมือนวิตกกังวลตลอดเวลา  การที่วันนี้มีหมออารมณ์ดีเป็นพิเศษ  มันคงเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าอาการของผมดีขึ้นมากแล้ว

"อืม...จริงด้วยครับ..  แต่สองข้องนั้นแหละหมอ  ที่ยากที่สุด"  ยังยิ้มกับมุขตลกเมื่อสักครู่อยู่

"คราวนี้คุณลุงต้องเลิกให้ได้นะครับ  อาการของคุณลุงมันล้ำเส้นมาแล้ว"  คราวนี้หมอยงค์กลับไปสู่บุคลิกที่ดูเคร่งขรึมและครุ่นคิดอีกครั้ง

"สารภาพตามตรงเลยว่าในห้อง ไอซียู หมอนึกว่าจะรั้งชีวิตคุณลุงเอาไว้ไม่อยู่แล้ว"

"เฮ้อ...ไม่นึกเลยว่าจะมีคนเอาความตายมาขู่ผมตอนแก่  ตลอดชีวิตผมน่ะไม่เคยกลัวตายมาก่อนเลย"

"เอ่อ... ขอโทษด้วยครับถ้าคุณลุงคิดว่ามันเป็นคำขู่  ผมแค่..."

"เอาเถอะหมอ  ผมเข้าใจว่าหมอหวังดี"  ผมผยักหน้าเล็กน้อย

"ตอนนี้คุณลุงเหลือปวดอยู่ข้างเดียวแล้วนะครับ  แล้วไอข้างเดียวนั้นน่ะ  มันก็ชำรุดทรุดโทรมลงมากแล้วด้วย  คุณลุงคิดดูซิครับ  กันกรองบุหรี่ขาว ๆ น่ะพอสูบไม่ทันจะหมดมวน  ก้นกรองก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลไหม้เลย... นั่นแค่ใช้กรองบุหรี่ไม่ถึงสามนาที...  แล้วปอดของคุณลุงน่ะกรองครันบุหรี่มาตั้งเกือบ 50 ปี  จินตนาการดูซิครับ  ว่าตอนนี้มันจะมีสภาพแบบใหน"


เมื่อพยาบาลเสร็จภารกิจสุดท้าย  คือเปลี่ยนถุงปัสสาวะให้ผมก็มายืนรอหมอห่าง ๆ หมอยงค์หันไปส่งสัญญาณให้พยาบาลอออกไปก่อน  สงสัยวันนี้หมอคงจะอยู่คุยกับผมต่ออีกซักพัก  ดีเหมือนกันสามสี่วันมานี้ใช้ชีวิตอยู่กับการนอน

"ถ้าโรงพยาบาลจะส่งใครมาโน้มน้าวใจให้ผมเลิกบุหรี่  ก็น่าจะส่งนักจิตวิทยามาน่ะ  ไม่น่าจะต้องรบกวนหมอผ่าตัดมือข้างหนึ่งมาทำหน้าที่นี้เลย"  ผมแซวยิ้ม ๆ

"แหม..คุณลงครับ  นี่ไม่ใช่คอร์สบำบัดผู้ติดบุหรี่หรอกครับ  ผมเตือนเป็นการส่วนตัวน่ะ  ที่สำคัญโรงพยาบาลเขาก้ไม่ได้เพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้ผมด้วย"  ท้ายประโยคหมอเอามือป้องปากและยิ้มเผล

"ล้อเล่นน่ะ  ผมรู้ว่าหมอพูดเพราะเป็นจรรยาบรรณ" ผมชักชอบอัธยาศัยหมอคนนี้แล้ว

หมอยงค์หยับแว่นเดาะลิ้นหนึ่งครั้งราวกับนึกอะไรบางอย่างออก

"คุณลุงพูดถึงจรรยาบรรณ  ผมก็นึกอยากแหกจรรยาบรรณแพทย์ดูสักครั้ง"

น้ำเสียงหมอยงค์ฟังดูแฝงทำนองตื่นเต้นอยู่ในที  ทำให้ผมพลอยนึกสนุกไปด้วย

"อะไรครับ..หมอจะชาร์จค่ารักษาผมเหรอ"  ผมเย้า

"คุณลุงอยากเห็นปวดของตัวเองใหม"

ยอมรับว่าผมอึ้งเล็กน้อยกับข้อเสนอของหมอยงค์

"ปอดข้างที่ผ่าออกมาในเอกสาระรุบว่าคุณลุงสั่งให้เอาไปฝังในสุสานมุสลิม"

"ถูกต้องคับ...ก็ผมเป็นมุสลิมนี่!"  ผมโยกศีรษะขึ้นลงเบา ๆ ช้า ๆ"

"และเย็นนี้มันจตะถูกนำมาฝังตามเจตนารมณ์ของคนไข้ง...และนี่ก็ยังเช้าอยู่เลย"

หมอลดเสียงเบาเมื่อถึงท้ายประโยค

"หมายความว่าหมอเอาออกมาได้"

"ถูกต้องครับง... ผมก็เป็นหมอนี่"

หลังจากผมตกลงใจว่าดูปอดตัวเอง  หมอก็อาสาจัดการเรื่องนี้ให้  ผมไม่รู้ว่าหมอยงค์แค่นึกสนุกฝืนกฏโรงพยาบาลขโมยปวดมาให้คนไข้ดู  หรือหมอไม่ได้ฝืนกฏอะไรหรอก  แต่เป็นแค่กุศโลบายในการทำให้ผมสนใจใครจะไม่รู้  จะอะไรก็ตามผมไม่ค่อยสน  เพราะผมว่ามันน่าสนใจจริง ๆ ก็จะมีมนุษย์ซักกี่คนที่ได้เห็นปวดของตัวเองด้วยตาเปล่า


หลังจากนั้นหมอก็ขอเวลาครึ่งชั่วโมงไปดำเนินการตามแผน  ที่ผมทำก็แค่นอนรออยู่บนเตียง  พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วยเป้นการฆ่าเวลา

ดังนั้น  คงราว ๆ ตีสอง
อาการกำเริบ  ผมไอจนหมดแรง  ไอจนใส้แทบจะหลุดออกมาด้วย  รู้สึกเหมือนหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปไม่ทัน  ใจมันจะขาด  อาการหาอบรุนแรงซะจนแทบจะเอื้อมมือไปกดปุ่มสัญญาณเรียกพยาบาลไม่ไหว  แต่ด้วยตระหนักดีว่าถ้าติดต่อพยาบาลไม่ได้ถายใน 5 นาทีนี้  ผมคงไม่รอดแน่

วินาทีนี้เองที่ผมสัมผัสได้ชัดเจนถึงความรู้สึก  "กลัวตาย"  ผู้รู้คุณค่าของชีวิตแล้ว  สิ่งที่ผมเห็นเมื่อตอนกลางวัน  มันตามมาหลอกหลอนจนนอนไม่หลับ  จะทำให้ผมหลับตาลงได้อย่างไร  เมื่อภาพ  "ปลอดตัวเอง"  ในโหลพลาสติกใส  มันลอยวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา  สภาพของมันไม่ต่างอะไรกับผ้าขี้ริ้วเล็ก ๆ เก่า ๆ ที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำมันเครื่องสกปรก  ผมต้องพยายามทำใจให้เชื่อว่าผู้ขี้ริ้วสกปรก ๆ นี่คือปวดของผมเอง  มิใช่เพียงภาพปวดพัง ๆ ที่ลอยหลอกหลอนผมเท่านั้น


"มันเป็นอะมานะฮ์จากอัลเลาะฮ์น่ะ"  เสียงมัรวานเพื่อนของผมที่พูดกับผมเมื่อสองปีก่อนตอนที่เข้าโรงพยาบาลครั้งแรกดังขึ้นมาอีกครั้งในสมอง "รักษมันให้ดีน่ะ"  ดังอยู่อย่างนั้นทั้งคืนจนนอนไม่ได้  "มันเป็นอะมานะฮ์จากอัลเลาะฮ์รักษามันให้ดีน่ะ"  ทั้งเสียงมัรวาน  ทั้งภาพปวดที่หมอยงค์เอาาให้ดูปรากฏสลับฉากกันในหัว

"นี่ไงครับปวดของคุณ"... "มันเป็นอะมานะฮ์จากอัลเลาะฮ์  รักษามันไว้ให้ดี"

"ผมเอามาให้คุณลุงดูได้ซักครึ่งชั่วโมง  เดี๋ยวผมต้องไปคืนเจ้าหน้าที่แล้ว"  ฝังในสุสานอิสลามตามเจตนารมณ์ของคุณลุง" .. "รักษามันไว้เถิด" .. "คุณลุง...เลิกบุหรี่เถอะครับ  นึกซะว่าทำเพื่อคนที่ลุงรัก"

ในที่สุดผมก็คว้าปุ่มสัญญาณได้  ผมกระดับกดเร็ว ๆ ถี่ ๆ ผมยังไม่อยากตาย  ผมยังไม่พร้อมที่จะตาย  ไม่กี่วินาทีพยาบาลสองคนก็เข้ามาในห้อง  คนหนึ่งเอาหน้ากากออกซิเจนมาสวมให้ผม  อีกคนสาละวนอยู่รอบ ๆ เตียงคนไข้ของผม  สติของผมขาดหายเป็นห้วง ๆ จำได้ว่าพยาบาลทั้งสองคนเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตผมเอาไว้  แล้วความรู้สึกก็หายไปอีกครั้ง  หลังจากนั้นผมก็รู้สึกตัว  พบว่านีออนบนเพดานมันวิ่งได้  วิ่งไปเรื่อย ๆ สันนิษฐานว่าผมกำลังถูกเข็นไปที่ใดที่หนึ่ง  คงเป็นห้องไอซียู

วันนี้เป็นวันที่เงียบมาก ทุกอย่างสงบนิ่ง  นิ่งสงบจนผมขนลุก  หมองยงค์เข้ามาคุยด้วยซักสิบนาที  เมื่อช่วงเช้าสาย ๆ ลูกสาวผมก็พาหลานสาวมาเยี่ยมครอบครัวผมตกใจกันมาก  พอได้ข่าวว่าผมเข้าห้องไอซียูอีก  ปีนี้ผมมีธุระในห้องนั้นบ่อยเกินไปแล้ว  ห้าครั้งภายในสี่เดือน

วันนี้ผมขอให้พยาบาลปิดแอร์และเปิดหน้าต่างรับลมพยาบาลขออนุญาตหมอแล้วจึงเปิดให้  ถึงโรงเรียนจะตั้งอยู่กลางกรุงเทพ  แต่ด้วยความสูงถึงสามสิบชั้นก็ทำให้ปลอดภัยจากมลพิษ  สายลมพัดม่านปลิวเป็นระยะ  ถึงหมอจะอนุญาตให้เปิดหน้าต่างได้  แต่ก็ยังไม่อนุญาตให้ผมเอาหน้ากากออกซิเจนออก  ผมจึงรู้สึกว่ายังไม่ได้สูดอากาศ  อากาศบริสุทธิของมนุษย์ที่ครอบจมูกผมอยู่มันแปร่ง ๆ ชอบกล

เมื่อคืนเป็นช่วงเวลาที่ผมเข้าใกล้ความตายมากที่สุด  หลังจากรอดชีวิตมาจากสถานการณ์นั้นได้  มันทำให้ผมคิดตกในหลายเรื่อง  ผมไม่เอาแล้ว...บุหรี่  จบกันทีที่เสียใจที่สุดก็ตรงที่มันเป็นการเลิกบุหรี่ที่ไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี  ถึงคราวนี้ผมจะเลิกมันสำเร็จ  ก็ไม่ได้แปลว่าผมชนะมัน  มันต้อนผมซะจนมุม  ผมจึงเลิก  นี่แหละทำให้ผมรู้สึกว่า  ผมหันหลังให้มันอย่างไร้ศักดิ์ศรี  สภาพจิตใจผมคงจะดีกว่านี้  หากว่าผมเลิกมันตอนยังหนุ่มแน่น  สมัยที่ปวดยังแดงสด  สมัยที่คนในวันเดียวกันเขายังไม่เลิกบุหรี่กัน

ถ้าผมเลิกในขณะที่ยังแข็งแรง  ผมคงกลับไปยบอกอัลเลาะฮ์เต็มปากได้ว่า  ผมเลิกมันเพื่อพระองค์  ไม่ได้เลิกเพราะคำสั่งหมอ  ไม่ได้เลิกเพราะกลัวตาย  แต่ตอนนี้ผมชัดไม่แน่ใจแล้วว่า  ถ้าผมบอกว่าผมเลิกมันเพื่ออัลเลาะฮ์  พระองค์จะทรงเชื่อหรือเปล่า  เพราะแม้กระทั่งตัวเองก็ยังไม่แน่ใจตเลยว่า  ที่เลิกอยู่นี้...ผมกำลังทำเพื่อใคร

ผมสาบานหนักแน่นว่าหลังจากบุหรี่มวนนี้   ผมจะไม่มีวันแตะต้องมันอีกเป็นอันขาด!

บุหรี่หนึ่งตัวพร้อมไฟแช็คตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง  ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเอามาตั้งไว้  ผมเลื่อนหน้ากากออกซิเจนที่ครอบจมูกลงมาไว้ที่ปลายคาง  มือหนึ่งยัดก้นบุหรี่เข้าปาก  มืออีกข้างที่จับไฟแช็คอยู่จุดไฟขึ้นทันที

"บุหรี่มวนนี้แทนคำสาบาน"

"แชะ"

"ฟุพพ"  ไฟลุกท่วมอย่างรวดเร็ว

"ฟู่"  ไปลุกท่วมตัวท่วมเตียง  ตามไปติดผ้าม่าน  ผมดิ้นพล่านอยู่ในกองไฟ

"รักษามันไว้ให้ดีน่ะ"..."นี่ครับปวดของคุณ"..."มันก็เป็นอมานะฮ์จากอัลเลาะฮ์ รักษามันไว้ให้ดีน่ะ"..."ก็อย่างที่บอกนะครับ  เจ้าหน้าที่ต้องเอาไปฝังในสุสานอิสลามตามเจตนารมณ์ของคุณลุง"..."รักษามันไว้ให้ดี"..."คุณลุง...เลิกบุหรี่เถอะครับ  นึกซ่ะว่าทำพื่อคนที่ลุงรัก"..."โรงพยาบาลโทรไปที่บ้านตอนดึก  หนูใจหายวูบเลย"..."จำไว้น่ะนักเรียน"..."ออกซิเจนไม่ติดไฟ แต่มันจะทำให้ไฟติด"..นี่ครับปวดของคุณ"..."รักษามันไว้ให้ดี"..."เป็นอะมานะฮ์จากอัลเลาะฮ์.."
 
อ้างอิงจาก :  ไคโรสาร 50
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ ๐๐εΐз๐๐Pr!nCeEsS Of FLoWeRs๐๐εΐз๐๐

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 364
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มันอยู่ที่ "ปอด"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.พ. 20, 2008, 05:50 PM »
0
เกมส์...จับผิด...อิอิอิ[/center
]

มันอยู่ที่ "ปอด"



"รักษามันไว้ให้ดีน่ะ"..."นี่ครับปวดของคุณ"..."มันก็เป็นอมานะฮ์จากอัลเลาะฮ์ รักษามันไว้ให้ดีน่ะ"..."ก็อย่างที่บอกนะครับ  เจ้าหน้าที่ต้องเอาไปฝังในสุสานอิสลามตามเจตนารมณ์ของคุณลุง"..."รักษามันไว้ให้ดี"..."คุณลุง...เลิกบุหรี่เถอะครับ  นึกซ่ะว่าทำพื่อคนที่ลุงรัก"..."โรงพยาบาลโทรไปที่บ้านตอนดึก  หนูใจหายวูบเลย"..."จำไว้น่ะนักเรียน"..."ออกซิเจนไม่ติดไฟ แต่มันจะทำให้ไฟติด"..นี่ครับปวดของคุณ"..."รักษามันไว้ให้ดี"..."เป็นอะมานะฮ์จากอัลเลาะฮ์.."
 
อ้างอิงจาก :  ไคโรสาร 50

...อยากเป็นคนดี เหมือนกันนะแหละ...


ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด
Re: มันอยู่ที่ "ปอด"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.พ. 20, 2008, 09:49 PM »
0
จริงๆแล้ว  ปอดที่แสนเจ็บปวด  oh:
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: มันอยู่ที่ "ปอด"
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.พ. 21, 2008, 10:08 PM »
0
 salam

ขอบคุณเจ้าหญิงดอกไม้ที่ช่วยแก้ชี้แนะคำผิดตรงที่  ปวดเป็นปวดเพราะตอนกำลังพิพม์รู้สึกเจ็บปอดเพราะปวดก็เลยเผลอเขียนปอดเป็นปวด  โอ้ยงง  เพราะปวดปอด  hehe
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ ๐๐εΐз๐๐Pr!nCeEsS Of FLoWeRs๐๐εΐз๐๐

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 364
  • เพศ: หญิง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มันอยู่ที่ "ปอด"
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.พ. 22, 2008, 07:04 PM »
0
salam

ขอบคุณเจ้าหญิงดอกไม้ที่ช่วยแก้ชี้แนะคำผิดตรงที่  ปวดเป็นปวดเพราะตอนกำลังพิพม์รู้สึกเจ็บปอดเพราะปวดก็เลยเผลอเขียนปอดเป็นปวด  โอ้ยงง  เพราะปวดปอด  hehe

 salam

ม่ายเป็นรายค่ะ...เรื่องจับผิดอ่ะ เจ้าหญิงฯถนัดอยู่แล้นนนนน wink:

...อยากเป็นคนดี เหมือนกันนะแหละ...


 

GoogleTagged