บันทึกจากความฝัน

[ADB]

"เมื่อคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกท่านได้ฝัน แล้วเขาชอบความฝันนั้น ดังนั้นความฝันนั้นมาจากอัลลอฮฺ ก้อจงขอบคุณอัลลอฮฺเถิด และนำความฝันนี้ไปเล่าต่อ"
ซอเฮี๊ยะบุคอรี เล่ม 9 หน้า 95-96

อบูเกาะตาดะฮฺ (ร่อดิยัลลอฮฺ) กล่าวว่า เขาเคยได้ยินท่านร่อซู้ล(ซ.ล.) กล่าวว่า ฝันที่ดีมาจากอัลลอฮฺ ดังนั้นหากคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกท่านได้ฝันในสิ่งที่เขาชอบ ก้อจงอย่าเล่ามันให้ใครฟัง เว้นแต่คนที่เขารัก
สุนัน มุสลิม เล่ม 4 หน้า223-4

อิหม่ามนะวาวียฺ มีทรรศนะว่าท่านนบี(ซล) ได้ห้ามเล่าความฝันที่ดีให้แก่บุคคลที่เขาไม่ชอบ เนื่องจากพวกเขาอาจตีความฝันนี้ไปในทางลบ เพราะความริษยาด้วยเจตนาร้าย ด้วยสิ่งนี้เองที่ทำให้คนที่ฝันรู้สึกเศร้าแทนที่จะมีความสุข
ซอเฮี๊ยะ มุสลิม ชัรฮฺ อันนะวาวียฮฺ เล่ม 8 หน้า 26

อิหม่ามอัลบะฆอวียฺ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าการเล่าความฝันท่ดีให้แก่คนที่เขาไม่ชอบนั้น อาจทำให้พวกเขาวางแผนร้ายท่สร้างอันตรายต่อบุคคลที่ฝัน

คำแนะนำของท่านนบี(ซล) นั้นเหมือนกับสิ่งที่นบียะอฺกู๊บ(อล) ได้แนะนำต่อยูซุฟ(อล) บุตรของท่านว่า
"เขา(ยะอฺกู๊บ) กล่าวว่า"โอ้ลูกรักเอ๋ย เจ้าอย่าเล่าความฝันของเจ้าแก่พี่น้องของเจ้าเพระพวกเขาจะวางอุบายแก่เจ้าอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม แท้จริงชัยฎอนนั้นเป็นศัตรูที่ชัดแจ้งกับมนุษย์" 12:5

สรุปว่าความฝันที่ดีนั้น มีฮะดิษที่สนับสนุนให้เล่าต่อได้ แต่ควรระมัดระวังดังข้อสำทับของท่านนบี(ซล)ดังกล่าวด้วย

[al-azhary]

อิหม่ามนะวาวียฺ มีทรรศนะว่าท่านนบี(ซล) ได้ห้ามเล่าความฝันที่ดีให้แก่บุคคลที่เขาไม่ชอบ เนื่องจากพวกเขาอาจตีความฝันนี้ไปในทางลบ เพราะความริษยาด้วยเจตนาร้าย ด้วยสิ่งนี้เองที่ทำให้คนที่ฝันรู้สึกเศร้าแทนที่จะมีความสุข
ซอเฮี๊ยะ มุสลิม ชัรฮฺ อันนะวาวียฮฺ เล่ม 8 หน้า 26

อิหม่ามอัลบะฆอวียฺ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าการเล่าความฝันท่ดีให้แก่คนที่เขาไม่ชอบนั้น อาจทำให้พวกเขาวางแผนร้ายท่สร้างอันตรายต่อบุคคลที่ฝัน

ชัดเจนครับ  คนอิจฉาริษยา  จิตชอบมุ่งร้ายและอคตินั้น  เมื่อเขาได้ทราบว่ามุสลิมคนหนึ่งที่เขามิชอบได้ฝันเห็นนบี  ก็จะพูดวิจารณ์ว่า  "เป็นไปไม่ได้หรอก  เพราะเขาไม่เคยเห็นนบี  เมื่อไม่เคยเห็น  เขาจะไปรู้จักนบีได้อย่างไรกัน และเขาจะรู้ว่าเป็นนบีได้อย่างไรกัน  แล้วก็กล่าวหาว่าเป็นอย่างนั้น  เป็นอย่างนั้น  อยู่ในแนวทางนั้น  แนวทางนี้"

จิตใจที่ริษยาและอคติ  ไม่ได้ฝันเห็นนบีหรอกครับ 

ี้ 

[Al Fatoni]

อัสสลามุ อลัยกุม

                ญาซากั้ลลอฮฺ มากครับ ในส่วนของข้อมูล, เมื่อคืน (16/01/2008) ที่ผ่านผมฝันว่า ได้ไปสถานที่หนึ่ง มันเป็นสวนสนุกที่ใหญ่มากๆ อาจจะใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เป็นของดิสนี่ย์ ของยิว แต่มันแปลกที่ว่า เขาเปิดให้ผมดูความล้มละลายของสวนสนุกดังกล่าว อันเนื่องมาจากโดนบะลาอฺครั้งใหญ่ เพราะไปสร้างไกลทะเล ซึ่งมีหิมะด้วย หลังจากที่ได้ไปสวนสนุกแล้ว ผมก็ไปยังตึกแห่งหนึ่ง ความรู้เหมือนกลับบ้าน แต่ดูอีกที มันไม่ใช่ ตอนที่ผมก้าวเข้าตึกดังกล่าว รู้สึกมันไม่สูงเท่าไร นึกขึ้นอีกที ตัวเองกำลังจะไปเยี่ยมเพื่อน (ในฝันนะ) ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของตึก หรืออาคารดังกล่าว เมื่อผมไปถึงตึก ผมรู้สึกมีความสุขมาก มากเสียจนบอกไม่ถูก และแล้วก็มี คนๆ หนึ่งที่ไม่มีใครสังเกตเขา ราวกับว่า ไม่มีใครมองเห็นเขาอะครับ แต่ผมมองเห็นเขา และได้คุยกับเขา ทุกๆ ครั้งที่คุยกับเขา ผมรู้สึกอิ่มเอิบใจ มีความสุขมากๆ เป็นความสุขชนิดแบบว่า ที่เราหาไม่ได้แล้วในโลกนี้ ทั้งๆ ที่ผมแค่ได้คุยกับเขาเท่านั้นเอง ใบหน้าตาของเขาขาวสะอาด รู้สึกว่าเขาไม่ได้คุยเป็นภาษาเดียวกับผม อาจจะไม่ได้แอะปากเสียด้วยซ้ำไป แต่ผมเข้าใจการสื่อของเขาดี รู้ไหมครับ ความรู้สึกตอนนั้น ผมรู้สึกว่า เขา คือ ท่านนบีมุหัมมัด ศ.ล. แน่นอน ซึ่งหลังจากนั้นได้มีเศาะหาบะฮฺอีกท่าน ได้ยิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบ เศาหาบะฮฺที่ว่า คือ ท่านอาลี ท่านชวนผมมาอยู่ใกล้ แล้วถามผมว่า เอาไหม ฉันจะให้หะดิษหนึ่งที่ฉันเคยได้ยินจากท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ.ล.ให้เจ้า ผมตอบว่า เอาสิ จากนั้น ท่านก็นำกระดาษที่ท่านเตรียมไว้แล้ว มาเขียนหะดีษที่ท่านบอกว่าจะให้ผม ท่านบรรจงเขียนมากๆ ผมก็นั่งดูท่านเขียน ขณะที่ท่านเขียนหะดีษนั้น ผมมีความสุขทวีคูณขึ้นไปอีก จนบอกไม่ถูกอะครับ จากนั้น ผมลองไปประตู แล้วมองออกมานอกประตูห้อง ปรากฏว่า เมื่อผ่านเขตประตู มันก็กลายเป็นนอกตึกซะงั้น แถมตึกที่ผมอยู่กลับสูงขึ้นกว่าเดิมมากๆ มากจนอยู่ระดับก้อนเมฆลอย ตอนนั้น ผมรู้สึกหนาวขึ้นมากทันที แล้วสามารถมองเห็นเมืองที่ผมอยู่ ปัตตานี ได้ทั้งเมือง แต่ปัตตานีที่ผมมองเห็นในฝัน มันคืออีกเมืองหนึ่ง ที่เจริญแล้ว เจริญมากๆ ด้วย ตอนนั้น ผมยืนอยู่ ณ ริมประตู และพยายามยื่นหัวออกมา เพื่อที่จะดูข้างล่าง แต่มองไม่เห็นพื้นข้างล่างเลย เพราะมันสูงมาก ประกอบกับเสี่ยวสันหลังด้วย เลยแค่แว๊บดูเฉยๆ แล้วรีบแว็บหัวกลับเข้ามาใหม่ จากนั้น ผมก็ไปที่อท่านอาลีใหม่ ท่านเขียนหะดีษเสร็จพอดี จากนั้น ท่านก็มอบให้ผม ผมก็นำเอามาอ่านหลายรอบอยู่ แต่เสียดาย ขณะที่อ่านอยู่ ผมตื่นขึ้นมาก่อน เมื่อตื่นขึ้นมา ปรากฏว่า ผมจำหะดีษดังกล่าวไม่ได้แล้ว เพราะในฝันได้แค่อ่าน ยังไม่ได้ท่องเลย เสียดายมากๆ ครับ ความยาวของหะดีษประมาณ 1 บรรทัดครึ่งเท่านั้นเอง ผมไม่เก่งอาหรับด้วย เลยไม่ทราบความหมายของมัน อินชาอัลลอฮฺ ตอนนี้กำลังนึกตัวบทอยู่ หากจำได้จะลองเขียนบนกระดาษดู - ขอรับรองว่าทุกอย่างเล่ามาจากความฝันจริงๆ - วัลลอฮุ อะอฺลัม
               ฝันนี้แล้ว ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ แม้ตื่นแล้วก็ตาม และคิดว่าสมาชิกเว็บนี้ คงมิใช่ผู้อิจฉาริษยาอย่างบางกลุ่ม ผมเลยชอบที่จะมาเล่าให้ฟัง หากทำให้บางท่านรู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างไร เชิญติว่าได้ครับ ทั้งในกระทู้นี้โดยตรง หรือทางเมลล์ส่วนตัวก็ได้

วัสสลามุ อลัยกุม

[al-azhary]

ถึงน้อง Al Fatoni 

السلا م عليكم ورحمة الله وبركاته

บังขอกล่าวว่า  بارك الله فيك   และอยากบอกว่า  ให้น้องกระทำสิ่งที่ตนเองตั้งใจต่อไปให้เต็มที่  จงใช้้สติปัญญาความคิดของเราหมดไปกับการปกป้องอะกีดะฮ์อิสลาม  เพราะบังเองก็สังเกตว่า  ช่วงเวลาที่เราทุ่มเทความพยายาม  คุ่นคิด  หนักใจ  เป็นห่วง  แล้วทำการปกป้องซอฮาบะฮ์ของท่านนบีและอะกีดะฮ์ของอิสลามแล้ว  ก็จะได้ฝันเห็นนบีและซอฮาบะฮ์   ดังนั้น  น้องจงปกป้องแ
ะแสวงหาความรู้ต่อไป   แล้วอัลเลาะฮ์็ก็จะให้น้องมีความเข้าใจในเรื่องศาสนา  เข้าใจในสิ่งที่เราไม่เคยเข้าใจมาก่อนแบบไม่คาดคิด  และความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง  เราก็จะได้รับมัน

والسلام

al-azhary   

[الأزاهرة]

การเห็นท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) ในความฝัน

เมื่อมุสลิมคนหนึ่ง ฝัน เห็นท่านร่อซู้ล (ศ็อล) แน่แท้เขาได้เห็นท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) จริงๆ เพราะท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

(( من رأنى في المنام فقد رأنى ، فإنّ الشيطان لا يتمثل بى ))

ความว่า: “ผู้ใดที่ฝันเห็นฉัน แน่แท้เขาได้เห็นฉัน เพราะชัยตอนไม่สามารถเลียนแบบฉันได้”

การเห็นท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) ในความฝันเป็นการเห็นตัวจริงของท่านร่อซู้ล และการเห็นท่านร่อซู้ลในความฝันนั้นเป็นเนียะมัตจากอัลลอฮฺ (ซุบฮาฯ) ที่มีต่อมนุษย์ และแน่นอนมุมินที่ได้เห็น ได้พูดคุย ได้นั่งร่วม หรือได้รับฝังวจนะของท่านร่อซู้ล ไม่ว่าจะอยู่ในยุคเดียวกับท่านร่อซู้ลหรือฝันเห็นท่านร่อซู้ลก็ตาม เขาผู้นั้นก็คืออัครสาวก (ซอฮาบะฮฺ) ของท่านร่อซู้ลนั้นเอง การฝันเห็นท่านร่อซู้ลเป็นการยกระดับผู้ฝันให้อยู่ในระดับเดียวกับอัครสาวกที่อยู่ร่วมสมัยกับท่านร่อซู้ล เนื่องจากเป็นพระเมตตาจากอัลลอฮฺที่มีต่อมุมินที่อยู่ในยุคหลังท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ)

อัครสาวกที่อยู่ร่วมสมัยกับท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) อยู่ในระดับหนึ่ง และผู้ที่ฝันเห็นท่านร่อซู้ลก็อยู่อีกระดับหนึ่ง ดังนั้นระดับขั้นที่สูงที่สุดก็คือระดับของการเป็นอัครสาวกร่วมสมัยกับท่านร่อซู้ล ได้พูดคุยกับท่านร่อซู้ล และผู้ที่ฝันเห็นท่านร่อซู้ลย่อมอยู่ระดับที่ต่ำกว่า.

ประโยชน์ของการฝันเห็น “นบี”

ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

1.ผู้ใดฝันเห็นฉัน แน่นอนเสมือนกับว่า เขานั้นได้เห็นฉันในตอนตื่น และแท้จริงชัยฏอนไม่สามารถแปลงกายเลียนแบบฉันได้

2.ผู้ใดฝันเห็นฉัน แน่นอนเสมือนกับว่า เขานั้นได้เห็นฉัน (ด้วยกับตัวตนของฉัน) ที่แท้จริง แท้จริงชันฏอนไม่สามารถแปลงกายเลียนแบบบรรดานบีได้

3.ผู้ใดฝันเห็นฉัน เขาผู้นั้นจะได้เข้า สวรรค์

4.ผู้ใดฝันเห็นฉัน เขาผู้นั้นจะไม่ได้เข้า นรก

5.ผู้ใดฝันเห็นฉัน เขาผู้นั้นได้เห็น สัจธรรม

6.ผู้ใดฝันเห็นฉัน เขาผู้นั้นจะได้เห็นฉันใน วันกิยามะห์ และผู้ใดที่เห็นฉันในวันกิยามะห์ ฉันจะช่วยเหลือเขา (ในวันนั้น) และผู้ใดที่ฉันได้ช่วยเหลือ เขาจะได้ดื่มน้ำจากบ่อน้ำ (ในวันกิยามะห์) และผู้ใดที่ได้ดื่มน้ำจากบ่อน้ำ อัลลอฮฺจะทรงห้ามเรือนร่างของเขาให้พ้นจากไฟนรก

ถือว่าเป็นความผาสุกอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ฝันเห็นท่านนบี มูฮัมหมัด แน่นอนความฝันนี้เป็นความฝันที่ดียิ่งที่มาจากอัลลอฮฺ (ซุบฮาฯ) ซึ่งชี้ถึงสภาพที่ดีของเขาทั้งดุนยาและอาคิเราะห์ หากผู้ที่ฝันเห็นนบีป่วยหรือไม่สบาย แน่นอนอัลลอฮฺจะทรงรักษาเขาให้พ้นจากโรค ผู้ใดมีหนี้ เขาจะหลุดพ้นจากหนี้ ผู้ใดถูกอธรรม อัลลอฮฺจะทรงให้ความเป็นธรรมกับเขา ผู้ใดที่ยากจน อัลลอฮฺจะทรงทำให้เขาร่ำรวย

และแน่นอนผู้ใดที่ฝันเห็นนบี เขาจะได้พบกับบั้นปลายชีวิตที่ดี ได้รับชาฟาอะห์ (ความช่วยเหลือ) ในวันกิยามะห์ ได้เข้าสวนสวรรค์ และอัลลอฮฺจะทรงอภัยให้กับเขาพร้อมทั้งบิดามารดาของเขา (หากว่าเขาทั้งสองเป็นมุสลิม และเสมือนกับว่า เขานั้นได้อ่านอัลกุรอ่าน 12 จบ อัลลอฮฺจะทรงเก็บชีวิตของเขาโดยที่เขาไม่ได้รับความเจ็บปวด ปลอดภัยจากความหวาดกลัวในวันกิยามะห์ และอวัยวะทั้งหมดของเขาจะได้รับการปฏิบัติอย่างนิ่มนวนและอย่างมีเกียรติในดุนยาและอาคิเราะห์

วิธีการต่างๆ สำหรับผู้ที่ต้องการฝันเห็นท่านศาสดา มูฮัมหมัด

1.ได้มีรายงานจากท่านอบีฮุรอยเราะห์ (รอฎิฯ) จากท่านนบี (ศ็อลฯ) ว่าแท้จริงท่านนบีได้กล่าวว่า “ผู้ใดละหมาดในคืนวันศุกร์ 2 ร่อกาอัต โดยอ่านทุกๆร่อกาอัตด้วยกับ อัล-ฟาติฮะห์ และอายะห์กุรซีย์ หนึ่งครั้ง และอ่าน กุ้ลฮุวัลลอฮุอะฮัด 15 ครั้ง และกล่าวในท้ายละหมาด ด้วยกับ اللهم صلى على محمد النبي الأمي 1 พันครั้ง แน่นอนเขาจะได้เห็นฉันในความฝัน และวันศุกร์อื่นจะไม่ผ่านเขาไป นอกจากว่าเขาจะได้เห็นฉัน และผู้ใดเห็นฉัน สวนสวรรค์นั้นเป็นสิทธิ์ของเขา และเขาจะได้รับการอภัยจากบาปที่เคยได้กระทำมา และบาปที่เขาทำขึ้นในอนาคต”

2.ท่าน ญะมาลุ้ดดิน มูฮัมหมัด อบู อัล-มะวาฮิบ อัซซาซุลีย์ได้เล่าให้ฟังว่า “ฉันได้ฝันเห็นท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ท่านร่อซู้ลกล่าวกับฉันว่า จงกล่าวขณะนอนว่า بسم الله الرحمن الرحيم 5 ครั้ง

และกล่าว أعوذ بالله من الشيطان الرجيم 5 ครั้ง

ต่อมาก็ให้กล่าวว่า اللهم بحق محمد أرني وجه حالا ومالا

ดังนั้นเมื่อท่านได้กล่าวเช่นนี้ขณะนอน แท้จริงฉันจะมาหาท่าน และฉันจะไม่ทิ้งท่านไว้เบื้องหลังอย่างแน่นอน”

3. ท่าน อัล-กัฟฮานีย์ ได้กล่าวว่า “แท้จริงผู้ใดได้ทำการซอลาวาตต่อท่านนบีมูฮัมหมัดด้วยกับซอลาวาตดังต่อไปนี้ 70 ครั้ง ก่อนนอน เขาจะฝันเห็นท่านนบี (ศ็อลฯ)

اللهم صل على سيدنا محمد كما أمرتنا أن نصلي عليه

اللهم صل على سيدنا محمد كما هو أهله

اللهم صل على سيدنا محمد كما تحب وترضى

اللهم صل على روح سيدنا محمد في الأرواح

اللهم صل على جسد سيدنا محمد في الأجساد

اللهم صل على قبر سيدنا محمد في القبور

اللهم بلغ روح سيدنا محمد مني تحية وسلاما

4. ท่านนบีมูฮัมหมัดได้กล่าวว่าไว้ “ผู้ใดที่ต้องการฝันเห็นฉัน เขาจงละหมาดในคืนวันศุกร์ 4 ร่อกาอัต ด้วย 2 สลาม และจงอ่านในทุกๆร่อกาอัต ด้วยกับซูเราะห์ อัลฟาติฮะห์ และอัด-ดุฮา และอะลัมนัชเราะห์ และอินนาอันซัลนาฮู และอิซาซุ้ลซิละติ้ลอัรดู่ หลังจากนั้นก็ให้สลาม และซอลาวาตต่อฉัน 70 ครั้ง และขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ 70 ครั้ง หลังจากนั้นก็ให้นอน แน่นอนเขาจะเห็นฉันในความฝัน

5. ท่านเชค ซัยยิด อะห์หมัด ดะห์ลาน (มุฟตีมัซฮับชาฟีอีย์ประจำมักกะห์สมัยออตโตมัน) ได้กล่าวว่า “แท้จริงผู้ใดที่กล่าวซอลาวาตต่อไปนี้ทุกวันๆละ 1 พันครั้ง เขาจะได้เห็นท่านนบีมูฮัมหมัด (ศ็อลฯ) ในความฝัน คำกล่าวซาลาวาตนี้มีอยู่ว่า

اللهم صل وسلم على سيدنا محمد الجامع

لأسرارك الدال عليك وعلى آله وصحبه وسلم

6. ได้มีในหนังสือ “มัมบาอฺ อัซ-ซะอาด๊าต” ว่าผู้ใดที่อ่านดุอาอฺนี้ 100 ครั้ง ก่อนนอน เขาจะได้เห็นนบีมูฮัมหมัดในความฝัน คำกล่าวดุอาอฺมีอยู่ว่า

اللهم إني أسألك بنور الأنوار . الذي هو عينك لا غيرك

أن تريني وجه نبيك سيدنا محمد صلى الله عليه وسلم كما هوعندك

7. ท่านนบีได้กล่าวว่า “แท้จริงผู้ที่ละหมาดในคืนวันศุกร์ 2 ร่อกาอัต โดยอ่านในทุกๆร่อกาอัตด้วยกับซูเราะห์ อัลฟาติฮะห์ และอายะห์อัลกุรซีย์ 15 ครั้ง เมื่อเสร็จจากละหมาด เขาก็ได้ซอลาวาตต่อฉัน 1 พันครั้ง แน่แท้เขาจะได้เห็นฉัน

8. มีนักวิชาการบางท่านกล่าวไว้ว่า ส่วนหนึ่งจากความพิเศษของซูเราะห์อัลเกาซัร มีอยู่ว่า ผู้ใดได้อ่านซูเราะห์นี้ในคืนวันศุกร์ 1 พันครั้ง และซอลาวาตต่อท่านนบี 1 พันครั้ง แล้วนอน เขาจะได้เห็นนบีในความฝัน

และวิธีการต่างๆที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ถูกเรียกว่า สุนัต แน่นอนสำหรับผู้ที่ต้องการฝันเห็นท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ผู้เป็นนายแห่งมนุษย์ชาติทั้งมวล จะต้องทำอามัลอิบาดะห์ให้มากๆ ไม่ว่าจะเป็น การกล่าวซิรุ้ลลอฮฺ การกล่าวซอลาวาต อ่านอัลกุรอาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ควรทิ้งสิ่งวายิบ ออกห่างและห่างไกลจากสิ่งต้องห้ามต่างๆ และแน่นอนสิ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือ การมีจิตใจอันบริสุทธิ์ในการงานต่างๆ

โดย..อะห์หมัด มุสตอฟา โต๊ะลง

ที่มา www.ridwanclub.com

[Al Fatoni]

อัสสลามุ อลัยกุม

         โอ้ พระองค์อัลลอฮฺ เหล่าพระองค์ขอสรรเสริญต่อพระองค์ ขออ้อนวอนซึ่งความช่วยหลือจากพระองค์ ทางนำ และการอภัยโทษ  เหล่าข้าพระองค์ขอหันเข้าหาพระองค์ในการสำนึกผิดกลับใจ (ของพวกเหล่าข้าพระองค์ทั้งหลาย) เหล่าข้าพระองค์ศรัทธา และมอบหมายต่อพระองค์ และศรัทธาว่าสิ่งดีงามทั้งหลายล้วนมาจากพระองค์ทั้งสิ้น...

         บรรดาการสรรเสริญทั้งปวงเป็นเอกสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวสำหรับพระองค์  โอ้ พระองค์อัลลอฮฺ พระองค์ได้แจ้งแล้ว และพระคำของพระองค์ช่างเป็นสัจธรรมยิ่งนัก : "ผู้ใดเล่าเป็นผู้สัจจริงในคำพูดของเขายิ่งกว่าพระผู้เป็นเจ้า?" จงกล่าวเถิด "พระองค์อัลลอฮฺได้ทรงแจ้งไว้แล้วซึ่งสัจธรรม ดังนั้น จงเจริญรอยตามศาสนาแห่งอิบรอฮีม ผู้ซื่อสัตย์นั้นเถิด"

         ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่คู่ควรแก่การเคารพสักการะ เว้นแต่อัลลอฮฺ, พระองค์ คือพระผู้ทรงไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนซึ่งคุณลักษณะแห่งความสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด ความยิ่งใหญ่ ความประเสริฐเลอเลิศ และความมีเกียรติ (ของพระองค์) พระองค์เท่านั้นทีทรงกำหนดชะตากรรมต่อสรรพสิ่งทั้งมวลไม่ว่าจะเล็กเท่าผงธุลี และใหญ่ดั่งจักวาลก็ตาม การสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์แด่พระองค์ พระผู้ทรงสิทธิ์ในการสรรเสริญ และพระมหาเดชานุภาพยิ่ง... มวลการสรรเสริญทั้งปวงเป็นอภิสิทธิ์แด่อัลลอฮฺ พระผู้ทรงอภิบาลแห่งสรรพสิ่งทั้งหลาย 

          ขอความศานติ และการประสาทพรจากพระองค์อัลลอฮฺ จงประสบเหนือแด่ผู้ประเสริฐที่สุดแห่งปวงมนุษยชาติ, ศาสดา และศาสนทูตองค์สุดท้าย "ศาสดามุหัมมัด ศ.ล." และขอจงประสบเหนือแด่วงศ์วานอันทรงเกียรติของท่านด้วย (ตลอดจน) บรรดามิตรสหายที่มีคุณธรรมยิ่งของท่าน และบรรดาภริยา (ผู้เป็น) มารดาแห่งศรัทธาชนทั้งหลาย (ตลอดจน) ผู้เจริญรอยตามท่านทั้งหลาย (หลังจากยุคเศาะหาบะฮฺ "ตาบิอีน") และบรรดาผู้เจิญรอยตามบรรดาผู้ที่มีคุณธรรมทั้งหลาย (ตาบิอิตตาบิอีน) จนกระทั่งถึงวันแห่งการพิพาษา
             
           ...

          (ดุอาอฺนี้เป็นส่วนหนึ่งจากดุอาอฺเคาะตัม อัล-กุรฺอาน ปี 1424 อ่านโดย ท่านอิม่ามอับดุรฺเราะหฺมาน บิน อัลดุลอะซีซฺ อัส-สุดัยซฺ อิม่ามและเคาะฏีบประจำมัสญิดิลหะรอม มหานครมักกะฮฺ, ประเทศซาอุดิอารเบีย, ซึ่งถอดความเป็นภาษาอังกฤษโดย บริษัทหุนัยนฺ เร็คคอร์ด และถอดความเป็นภาษาไทยอีกทีจากภาษาอังกฤษ โดย อัล-ฟฏอนียฺ ผิดพลาดประการขออภับ ณ ที่นี้ด้วย)

วัสสลามุ อลัยกุม

[al-firdaus~*]

salam

เห็นว่าน้องอัลฟาตอนีชอบฝัน (ดีๆ)
กระทู้ที่ตัวเองตั้งก็ดันไม่มาโพสต์...
ฝัน (หวาน) รอบหน้า มาลงซะน๊ะ

[Al Fatoni]

salam

เห็นว่าน้องอัลฟาตอนีชอบฝัน (ดีๆ)
กระทู้ที่ตัวเองตั้งก็ดันไม่มาโพสต์...
ฝัน (หวาน) รอบหน้า มาลงซะน๊ะ

               โทษผมไม่ได้น้า ผมหาแล้ว แต่หาไม่เจอ ผมนึกว่ากระทู้นี้หายไปแล้วจริงๆ ตอนที่เว็บโดนเล่นงานอะ เพราะบังอัลฯ บอกว่าข้อมูลบางส่วนได้หาไป ผมลองหากระทู้นี้ดู หาไม่เจอ เลยคิดว่ามันคงหายไปแล้วหละ และขี้เกียจตั้งกระทู้ กลัวว่าจะหายอีก แต่อินชาอัลลอฮฺ จะพยายามย้ายข้อมูลฝันๆ ดีๆ จากกระทู้เรื่องที่ฉันอยากเล่ามาไว้ที่นี้ให้หมด อิอิ แต่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่านะ เพราะอีกไม่กี่วันจะต้องไปอินโดแล้ว ช่วงนี้วุ่นเรื่องสอบกะวีซ่าอยู่ ยังงัยๆ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง รบกวนกะไว้ย้ายหน่อยนะ เพื่อน้องชายที่น่ารักคนนี้ละกัน 55+  - วัสสลามุอลัยกุม

[al-firdaus~*]

ไม่เปงไรจ๊ะ... 
รอบหน้าฝันดีก็มาลงที่นี่ซะน๊ะ...
ย้ายไม่ได้อ่ะ  ไม่หวาดไม่ไหว คนอะไรฝันได้ฝันดี

[Al Fatoni]

เมื่อคืนนอนไม่หลับ เลยไม่ได้ฝันถึงอะไรเลย 

[ILHAM]

ฝันดีฝันเด่น

[เหรียญ 2 ด้าน]

 salam

สว่นใหญ่ก้อจะเอาเรื่องที่เกิดตอนกลางวันมาฝันนั่นแหล่ะครับ

[Al Fatoni]

เมื่อคืน ได้ฝันว่า ได้เจอบังอัลฯ พร้อมกับได้ฟังบังเค้าสอนเชิงนะศีหัตเล็กน้อย จากนั้น ผมก็ได้มีโอกาสละหมาดซุฮฺริ์หลังบังอัลฯ โดยที่บังอัลฯ เป็นอิมามละหมาด ณ มัสญิดแห่งหนึ่ง น่าจะเป็นแถว กทม แหละ ตำแหน่งที่บังอัลฯ อยู่คือ ข้างซ้ายของมิมบัรสีดำ ที่ค่อนสูง ซึ่งอยู่ตำแหน่งกลางไปทางหน้าสุดของมัสญิด ส่วนผมอยู่ทางแถวแรกถัดจากอิมาม (บังอัลฯ) แต่ผมอยู่ห่างออกไปทางขวาเกือบสุด กล่าวคือ ผม, แล้วก็รุ่นพี่ที่มาเรียนอินโดฯ อีกคน (น่าจะเป็นวะฮาบีย์) อยู่ถัดจากผมไป ถัดจากนั้นก็เป็นผนังมัสญิด ส่วนม๊ะมูมคนอื่นๆ นั้น ก็มีทั้งวะฮาบีย์และไม่ใช่วะฮาบีย์ละหมาดตามหลังบังอัลฯ

             ก่อนละหมาดนั้น ผมเหลือบไปเห็นข้อความหนึ่งบนกระดาษ ที่บังอัลฯ เขียนไว้เชิงจะแจ้งให้ทราบ แต่บังไม่ได้เอามาอ่านต่อหน้าผู้คน บังวางไว้เฉยบนอะไรสักอย่าง ผมจำไม่ได้ ซึ่งข้อความดังกล่างนั้น ระบุพอสรุปได้ว่า "ข้าพเจ้าจะขอนำละหมาดพวกท่านด้วยจิตที่มุ่งสู่อัลลอฮฺอย่างแน่วแน่ ด้วยความรู้สึกแห่งการลิ้มรสถึง...(ผมจำไม่ได้ แต่คิดว่าน่าจะระบุว่า)...ความตายที่บรรดาเพื่อนของข้าพเจ้าได้เคยรสลิ้มผ่านกันแล้ว..." ผมอ่านประโยคนี้จบปับ ผมแทบน้ำตาไหล และตัวสั่นเล็กน้อย อ่านแล้ว รู้สึกเหมือนว่าชีวิตบังอัลฯ ผ่านอะไรมาเยอะจริงๆ โดยเฉพาะความสูญเสีย (ในความเป็นจริงผมไม่ทราบนะ ว่าบังอัลฯ เป็นอย่างไร ผมเล่าไปตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นในฝัน)

              จากนั้น เมื่อถึงเวลาละหมาดซุฮฺริ์ บังอัลฯ ก็นำละหมาด แม้ผมจะอยู่ห่างบังอัลฯ มาก แต่ก็พอสังเกตอิริยาบทของอิมามผู้นี้ได้บ้าง มุมที่ผมอยู่นั้น ผมมองเห็นได้แค่ด้านหลัง และเสื้อโต๊บที่พริ้วไหวด้านหลังตอนละหมาดเท่านั้น เพราะมีมิมบัรสีดำบังอยู่

               สักพัก ขณะที่ยังอยู่ในท่ายืนของเราะกะอะฮ์แรกนั้น ซึ่งผมรู้สึกว่ามันนานมาก นานจนกระทั่ง ม๊ะมูมบางคนที่อยู่ข้างหลัง เข้าใจผิดคิดว่าบังอัลฯ ก้มลงรุกู๊อฺแล้ว แต่ตอนนี้ มันเงียบมาก และผมเองก็ยังไม่ได้ยินเสียงตักบีรเปลี่ยนอิริยาบทจากบังอัลฯ เลย เมื่อคนแถวหน้าก้มลงรุกู๊อฺ คนที่อยู่แถวหลังบางคนก็พากันทำตามด้วย ผมมารู้ทีหลัง พวกนี้เกือบทั้งหมดจะเป็นพวกวะฮาบีย์ ใจผมตอนนั้น อยากจะห้าม แต่ห้ามไม่ได้ เพราะอยู่ในละหมาด และรุ่นพี่ผมที่อยู่ข้างที่บอกเมื่อกี้ เขาก็ก้มลงเปลี่ยนอิริยาบทในยังท่าต่างๆ ของละหมาด จนกระทั่งละหมาดเสร็จ แต่ผมและม๊ะมูมบางส่วนก็ยังคงอยู่ในท่ายืน เพราะยังไม่ได้ยินเสียงตักบีรเปลี่ยนอิริยาบทจากบังอัลฯ สภาพการละหมาดตอนนั้น มันกลายเป็นเหมือนม๊ะมูมบางส่วนนียะฮ์มุฟาเราะเกาะฮ์ (แยกตัวจากอิมาม) ไป ภาพมันดูเหมือนโกลาหลวุ่นวายอย่างไรก็ไม่ทราบ เมื่อบางส่วนที่ละหมาดเสร็จไปแล้ว ก็มานั่งถกเถียงกันเรื่องละหมาด เมื่อมารู้อีกที ตัวเองนั้นเข้าใจผิดคิดว่าตามบังอัลฯ แล้ว แต่ที่จริงไม่ใช่ บางส่วนก้ปล่อยเลยตามเลย ไม่สน เพราะมารู้อีกทีว่า บังอัลฯ ไม่เหมือนพวกตน จากนั้น ผมก็ตื่นมาสู่โลกแห่งความจริงครับ ซึ่งฉากต่อจากนั้น ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะดันมาตื่นขึ้นเสียก่อน - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม

[มัยซูน]

เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เราก็ฝันว่า  อาเยาะฮ์มาหา (ท่านเสียไปเกือบสิบปีแล้ว) อยู่ในชุดนุ่งผ้าโสร่ง เสื้อแขนยาว ครอบกะปีเยาะสีขาว ถืออะไรสักอย่างในมือ เหมือนจะเป็นร่ม มายืนอยู่ข้างๆ แต่ไม่พูดอะไร สักพัก ท่านก็เดินจากไป

ภาพในฝันที่ท่านเดินจากไป เราเหมือนจะร้องไห้ มันติดตาอยู่ตลอด แม้ตอนนี้ มันเป็นภาพที่เราอยากลืม เราไม่อยากเจอ เราไม่อยากเห็น เราไม่อยาก........

[ILHAM]

เขามาสลามัตฮารีรายอ