ผู้เขียน หัวข้อ: แปลหนังสืออัตตัซฮีบฟีอะดิลล่าติมัตนิลฆอยะฮ์วัตตักรีบ(เรื่องน้ำ)  (อ่าน 2027 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

بسم الله الرحمن الرحيم

ด้วยพระนามแห่งอัลเลาะฮ์ผู้ทรงเมตตายิ่งทรงกรุณายิ่ง

มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์องค์เดียวเท่านั้น  ซึ่งทรงกล่าวในคำภีร์ของพระองค์ความว่า "ดังนั้นไฉนเล่าจึงไม่ให้แต่ละกลุ่มย่อมจากพวกเขาทั้งหมดออกไป (สมรภูมิ) เพื่อ (ที่เหลือ) จะได้ศึกษาและเข้าใจศาสนา" อัตเตาบะฮ์ 122 

ความเมตตาและความสันติ  จงประสบแด่ผู้ที่ไม่มีนบีหลังจากเขา  ผู้ที่วจนะในถ้อยคำที่รวมคำสอนไว้มากมาย  ที่ว่า "ผู้ใดที่อัลเลาะฮ์ประสงค์ให้เขาได้รับความดีงาม  พระองค์จะทรงให้เขาเข้าใจศาสนา" มุตตะฟะกุลอะลัยฮ์  และจงประสบแด่วงศ์วาน  บรรดาซอฮาบะฮ์  และผู้เจริญรอยตามพวกเขาด้วยความดีงาม  ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้เข้าใจในเรื่องศาสนาของอัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัลล่า  แล้วเขาก็รอบรู้และทำการสั่งสอน

อนึ่ง  หนังสือ : มะตั่น อัลฆอยะฮ์  อัตตักรีบ  เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาตำราฟิกห์มัซฮับชาฟิอีย์ที่ดีเลิศ  ในทั้งรูปแบบและเนื้อหา  ดังนั้นหนังสือจึงมีขนาดเล็กที่ครอบคลุมบทต่าง ๆ ทั้งหมดของฟิกห์  ส่วนมากของหลักการต่าง ๆ และประเด็นต่าง ๆ ในเรื่องของอิบาดะฮ์  การประกอบธุระกิจ  และอื่น ๆ  พร้อมทั้งมีสำนวนที่อ่านง่าย  ถ้อยคำมีความสวยงาม  มีการเรียบเรียบที่ดี  รวมทั้งด้านของความมีจุดเด่นจากการแบ่งประเภทต่าง ๆ ตรงตามหลักการ  ซึ่งง่ายต่อผู้ที่ทำความเข้าใจศาสนาของอัลเลาะฮ์ตะอาลาทำการรับรู้และตระหนัก

หนังสือเล่มนี้มีจุดเด่น  ด้วยการที่อัลเลาะฮ์ทรงกำหนดให้ได้รับการตอบรับ  ดังนั้นท่านจะพบว่าบรรดานักศึกษาและอุลามาอ์ทั้งยุคก่อนและปัจจุบัน  น้อมรับนำมาทำการเรียนและการสอน  ทำความเข้าใจและท่องจำ  ทำการขยายให้ชัดเจนและอธิบาย

ในขณะที่หนังสือฉบับย่อนี้  จำกัดเพียงแค่การกล่าวถึงหลักการต่าง ๆ ทางด้านฟิกห์  โดยมิได้นำเสนอบรรดาหลักฐาน  ซึ่งบรรดานักศึกษาความรู้ในวันนี้  พวกเขามีจิตใจปรารถนาไปยังการยึดฮุกุ่มศาสนาโดยได้รับการสนับสนุนด้วยหลักฐาน  ข้าพเจ้าจึงมีความปรารถนารับใช้ศาสนาของอัลเลาะฮ์ อัซซ่าวะญัลล่า  และนำเสนอให้กับเยาวชนมุสลิมผู้ใฝ่รู้  และนักฟิกห์และผู้ทำความเข้าใจฟิกห์ทุกคน , หนังสือเล่มนี้ปราชญ์ทั้งหมดให้ความชื่นชอบและทำการประพันธ์มัน  โดยประดับประดาด้วยบรรดาหลักฐาน  ซึ่งทำให้พวกเขามีความเข้าใจอันแจ้งประจักษ์ในศาสนา  เพิ่มทวีคูณให้พวกเขามีความมั่นใจในหลักชะรีอะฮ์   มีความมั่นคงในหลักอะกีดะฮ์  มีความมั่นใจในการทำอิบาดะฮ์  และเที่ยงตรงในการประกอบการและการค้าขายของพวกเขา

ความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์ที่มีต่อข้าพเจ้าอย่างยิ่งใหญ่  เมื่อพระองค์ทรงชี้นำให้ข้าพเจ้าทำภาระกิจนี้  ภายหลังที่ได้ทำการขอคำปรึกษาจากบรรดาคณาจารย์ผู้มีคุณธรรมในด้านฟิกห์เป็นการเฉพาะและในด้านของวิชาการแขนงต่าง ๆ ทางด้านศาสนาโดยรวม  ดังนั้นพวกเขาจึงมีความปีติยินดี  เห็นชอบ  และส่งเสริมต่อภาระกิจนี้

ข้าพเจ้าจะทำการจำกัดการกล่าวบรรดาหลักฐานที่ถูกถ่ายทอดมาจากอัลกุรอาน  ซุนนะฮ์  และคำพูดของซอฮาบะฮ์  และน้อยมากที่ข้าพเจ้าจะทำการนำเสนอเหตุผลทางสติปัญญาและการอ้างหลักฐานในเชิงเปรียบเทียบ  ซึ่งหากแม้นว่าข้าพเจ้าจะหยิบยกมากล่าวในบางครั้งก็ตาม

ส่วนมากข้าพเจ้าจะทำการเน้นบรรดาหลักฐานที่ถูกระบุไว้ในตำราต่าง ๆ ของมัซฮับ  นอกจากว่าเมื่อพบหลักฐานหนึ่งที่มีน้ำหนักมากกว่าและชัดเจนกว่า  ข้าพเจ้าก็จะปรับเปลี่ยนและนำมากล่าวมัน

ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะนำบรรดาหลักฐานต่าง ๆ  ให้หวนกลับไปยังแหล่งอ้างอิงเดิมเท่าที่มีความสามารถ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราฮะดิษต่าง ๆ  เพื่อจะได้นำตัวบทมา  และทำการระบุตัวเลขของฮะดิษ  หากพบว่ามี  ระบุหน้าและเล่มที่มีฮะดิษปรากฏอยู่  และส่วนน้อยที่ข้าพเจ้าจะยึดแห่งอ้างอิงอื่นในการนำเสนอฮะดิษ  สำหรับอายะฮ์ต่าง ๆ นั้น  ข้าพเจ้าจะนำลำดับเลขของอายะฮ์และซูเราะฮ์มากล่าว  หลังจากนั้นข้าพเจ้าจะกล่าวเสริมตัวบทที่นำมาอ้างหลักฐานด้วยการอธิบายบรรดาถ้อยคำที่เข้าใจยาก  เพื่อให้มีความเข้าใจง่ายและมีความชัดเจนจากหนทางในการอ้างหลักฐาน

โปรดเข้าใจดังนี้ว่า  บางครั้งข้าพเจ้าจะนำเสนอการอธิบายบางถ้อยคำของตัวบทหรือกล่าวคำนิยามบางส่วนหากเป็นกรณีที่มีความต้องการ  แต่ข้าพเจ้าก็มิได้วางระเบียบเช่นนั้นเสมอไป  เนื่องมิได้มีเจตนาที่จะอธิบายหนังสือ  เพราะมีบรรดาตำราต่าง ๆ ที่มาอธิบายมันอย่างสมบูรณ์แล้ว

และหากพบว่ามีทัศนะคำกล่าวที่อ่อนที่อยู่ในตัวบท  ข้าพเจ้าก็จะทำการอธิบายให้ชัดเจนถึงทัศนะที่ถูกต้องกว่าและมีน้ำหนักมากกว่า  โดยอธิบายอ้างอิงมาจากตำราที่ถูกยึดถือ  และบางครั้งอาจจะระบุเพียงตำราอ้างอิงและบางครั้งมิได้ระบุ

และบางครั้งฉันก็จะละเลยที่จะทำการกล่าวเสริมบางฮุกุ่มหรือกล่าวบางหลักการที่มีประโยชน์  เพื่อปรารถนาให้ได้รับประโยชน์อันสมบูรณ์และหวังต่ออัลเลาะฮ์ให้พระองค์ทรงตอบแทนผลบุญอันมากมาย

และข้าพเจ้ายังคงต้นฉบับของมะตั่นไว้คงเดิมให้อยู่ส่วนบนของหน้ากระดาษ  และทำการอธิบายเสริมโดยระบุตัวเลขไว้ข้างล่าง  และข้าพเจ้าของตั้งชื่อหนังสือนี้ว่า "อัตตัซฮีบ ฟี อะดิลล่าติ มัตนิล ฆอยะติ วัตตักรีบ" โดยบ่งให้ทราบว่า  แท้จริงบรรดาหลักฐานนั้นคือเส้นด้ายทองที่มาประดับทักทอร้อยเรียงหลักการต่าง ๆ ของศาสนา

อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่ข้าพเจ้าวอนขอให้พระองค์ทรงทำให้ภาระกิจของข้าพเจ้านี้มีความบริสุทธิ์ใจ และขอพระองค์ทรงตอบรับมันให้เป็นซอดาเกาะฮ์ญารียะฮ์แด่ข้าพเจ้า  บิดามารดาของข้าพเจ้า  และสำหรับผู้ที่สิทธิบนข้าพเจ้า  แท้จริง  สิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์นั้น  พระองค์ย่อมสามารถยิ่ง  และด้วยการตอบรับนั้นพระองค์ทรงตอบสนองยิ่ง

มุสตอฟา  ดีบ  อัลบุฆอ

คืนอาทิตย์ : 21 เดือนมุฮัรรอม 1398  - 1 มกราคม ค.ศ. 1978
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 29, 2007, 07:40 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْمِ
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَصَلَّى اللهُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ النَّبِيْ وَآلِهِ الطَّاهِرِيْنَ وَصَحَابَتِهِ أَجْمَعِيْنَ.
قَالَ الْقَاضِي أَبُوْ شُجَاعٍ أَحْمَدُ بْنُ الْحَسَنِ بْنِ أَحْمَدَ الأَصْفَهَانِيْ رَحِمَهُ اللهُ تَعَالَى:
سَأَلَنِيْ بَعْضُ الأَصْدِقَاءِ حَفِظَهُمُ اللهُ تَعَالَى أَنْ أَعْمَلَ مُخْتَصَراً (1) فِي الْفِقْهِ عَلىَ مَذْهَبِ الْإِمَامِ الشَّافِعِي رَحْمَةُ اللهِ تَعَالىَ عَلَيْهِ وَرِضْوَانُهُ فِي غَايَةِ الاِخْتَصَارِ وَنِهَايَةِ الإِيْجَازِ (2) لِيَقرُبَ عَلَى الْمُتَعَلَّمِ دَرْسُهُ ويَسهُلَ عَلَى الْمُبْتَدِيْ حِفْظُهُ وَأَنْ أُكْثِرَ فِيْهِ مِنَ التَّقْسِيْمَاتِ وَحِصْرِ الخِصَالِ (3) .
فَأَجَبْتُهُ إِلَى ذَلِكَ طَالِباً لِلثَّوَابِ رَاغِباً إِلَى اللهِ تَعَالَى فِي التَّوْفِيْقِ لِلصَّوَابِ إِنَّهُ عَلَى مَا يَشَاءُ قَدِيْرٌ وَبِعِبَادِهِ لَطِيْفٌ خَبِيْرٌ.

มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์ผู้อภิบาลแห่งสากลโลก  โปรดอัลเลาะฮ์ทรงประทานความเมตตาแด่หัวหน้าแห่งเรา มุฮัมมัด ผู้เป็นศาสนทูต  วงศ์วานผู้บริสุทธิ์  และบรรดาซอฮาบะฮ์ทั้งหมด

ท่านอัลกอฏีย์  อบู  ชุญาอ์  อะห์มัด  บิน  อัลหะซัน  บิน  อะห์หมัด  อัลอัสฟะฮานีย์  รอฮิมะฮุลลอฮ์  กล่าวว่า :  มิตรสหายบางส่วน (ขอโปรดอัลเลาะฮ์ทรงคุ้มครองพวกเขาด้วยเถิด) ได้ขอให้ข้าพเจ้าทำหนังสือมุคตะซ๊อร (1) เกี่ยวกับฟิกห์มัซฮับอิมามชาฟิอีย์  (ขอโปรดอัลเลาะฮ์ทรงประทานความเมตตาและความพึงพอพระทัยแด่ท่าน) ให้ย่ออย่างที่สุดและสรุปอย่างที่สุด (2) เพื่อให้ผู้ศึกษาใกล้(ความเข้าใจ)การเล่าเรียน  และง่ายต่อผู้เริ่มเรียนในการท่องจำ และ(พวกเขาขอให้)ฉันทำการแบ่งบรรดาประเภทและจำกัดคิซ๊อล (3) (ประเด็นต่าง ๆ ของฟิกห์)ให้มาก ๆ

ดังนั้น  ข้าพเจ้าจึงทำการตอบรับยังสิ่งดังกล่าว  เพื่อแสวงผลบุญ  ปรารถนายังอัลเลาะฮ์ตาอาลา  ในการได้รับทางนำสำหรับความถูกต้อง  แท้จริง  สิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์นั้น  พระองค์ย่อมสามารถยิ่ง  และด้วยปวงบ่าวของพระองค์นั้น  ทรงอ่อนโยนยิ่ง  อีกทั้งทรงตระหนักยิ่ง

----------------------------------------------
(1) มุคตะซ๊อร : คือสิ่งที่ถ้อยคำน้อยแต่ความหมายมาก
(2) อัลอิคติซ๊อร : คือดำเนินตตามแนวทางที่ทำให้ใกล้เคียงไปสู่เป้าหมายให้มากที่สุด , อัลอียาซฺ : มีความหมายใกล้เคียงกับอัลอิคติซ๊อร  , ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลมิสบาห์  ความว่า  วะญุซัลลัฟซุ วิญาซะฮ์  วะญีซฺ  หมายถึง  สิ่งสั้น ๆ  ทำให้รวดเร็วสู่ความเข้าใจ , คำว่า อัลฆอยะฮ์ และ อันนิฮายะฮ์  ทั้งสองใกล้เคียงกัน  หมายถึง  ที่สุดของสิ่งที่จะสามารถไปถึงมันได้
(3) อัลคิซ๊อล เป็นพหูพจน์  มาจากคำเอกพจน์ที่ว่า ค๊อซละฮ์  จุดมุ่งหมาย ณ ที่นี้  คือ  บรรดาประเด็นต่าง ๆ ของฟิกห์ที่ต้องการไปยังมัน
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

كِتَابُ الطَّهَارَةِ

บทว่าด้วยเรื่องความสะอาด

أَنْوَاعُ الْمِيَاهِ

ชนิดของน้ำ

اَلْمِيَاهُ الَّتِيْ يَجُوْزُ بِهَا التَّطْهِيْرُ سَبْعُ مِيَاهٍ: مَاءُ السَّمَاءِ وَمَاءُ الْبَحْرِ وَمَاءُ النَّهْرِ وَمَاءُ الْبِئْرِ وَمَاءُ الْعَيْنِ وَمَاءُ الثَّلْجِ وَمَاءُ البَرَدِ (1) .

น้ำซึ่งอนุญาตทำความสะอาดด้วยกับมันได้นั้นมีอยู่  7 น้ำ  คือ  น้ำฝน , น้ำทะเล , น้ำแม่น้ำ , น้ำบ่อ , น้ำตาน้ำ , น้ำหิมะ , และน้ำลูกเห็บ

أَقْسَامُ الْمِيَاهِ

ประเภทของน้ำ

ثُمَّ الْمِيَاهُ عَلَى أَرْبَعَةِ أَقْسَامٍ:

น้ำมี 4 ประเภท

طَاهِرٌ مُطَهِّرٌ غَيْرُ مَكْرُوْهٍ وَهُوَ الْمَاءُ الْمُطلَقُ (2) .

1. น้ำสะอาด  สามารถใช้ทำความสะอาด(สิ่งอื่นได้) โดยไม่มักโระฮ์  คือ น้ำมุตลัก(2)

وَطَاهِرٌ مُطَهِّرٌ مَكْرُوْهٌ وَهُوَ الْمَاءُ المُشمَّسُ (3) .

2. น้ำสะอาด  สามารถใช้มาทำความสะอาดได้  แต่มักโระฮ์ใช้  คือ  น้ำมุชัมมัช(3)

وَطَاهِرٌ غَيْرُ مُطَهِّرٍ وَهُوَ الْمَاءُ الْمُسْتَعْمَلُ (4) وَالْمُتَغَيِّرُ بِمَا خَالَطَهُ مِنَ الطَّاهِرَاتِ (5) .

3.  น้ำสะอาด  ไม่สามารถใช้ทำความสะอาดได้ คือ  น้ำมุสตะอฺมัล (4) และน้ำที่เปลี่ยนแปลงด้วยการมีสิ่งที่สะอาดเจือปนอยู่ (5)

وَمَاءٌ نَجِسٌ وَهُوَ الَّذِيْ حَلَّتْ فِيْهِ نَجَاسَةٌ وَهُوَدُوْنَ القُلَّتَيْنِ (6) أَوْ كَانَ قُلَّتَيْنِ فَتَغَيَّرَ (7) .

4.  และน้ำนะยิส  คือน้ำที่มีนะยิสตกลงไป โดยที่น้ำไม่ถึงสองกุลละฮ์ (6) และน้ำถึงสองกุลละฮ์ แต่มันเปลี่ยนแปลง (7)

وَالْقُلَّتَانِ خَمْسُمِائَةِ رِطِلٍ بَغْدَادِيٍّ تَقْرِيْباً فِي الأَصَحِّ (8) .

   สองกุลละฮ์นั้น  มี 150 ลิตรบัฆดาดีย์ โดยประมาณ  ตามทัศนะที่ชัดเจนกว่า

-----------------------------------

(1) สามารถกล่าวสรุปได้ว่า  น้ำที่ใช้ทำความสะอาดได้  ด้วยกับทุก ๆ น้ำที่ไหลพุ่งออกมาจากแผ่นดินหรือตกมาจากฟากฟ้า  และหลักฐานเกี่ยวกับการอนุญาตใช้ทำความสะอาดด้วยบรรดาน้ำเหล่านี้  มีหลายอายะฮ์  ส่วนหนึ่งคือ : 
อัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงตรัสว่า "และพระองค์จะประทานน้ำลงมาเหนือท่านทั้งหลายจากฟากฟ้าเพื่อพระองค์จะให้พวกท่านใช้มันทำความสะอาด" อัลอันฟาล 11
และมีหลายฮะดิษ  ส่วนหนึ่งคือ  รายงานโดยอบูฮุร๊อยเราะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ว่า : มีชายคนหนึ่งถามท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า "โอ้ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  พวกเราโดยสารไปทางทะเล  พวกเรานำน้ำไปกับพวกเราได้เพียงเล็กน้อย  ถ้าหากพวกเราใช้น้ำนั้นอาบน้ำละหมาดเราก็จะต้องอดน้ำ  ดังนั้นพวกเราจะใช้น้ำทะเล  อาบน้ำละหมาดได้ไหม?  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ตอบว่า "น้ำทะเลสะอาด  และสัตว์ทะเลที่ตายเป็นสิ่งฮะล้าล" (รายงานโดย ห้าคน  และติรมีซีย์ (67)  กล่าวว่า  ฮะดิษนี้  ฮะซัน , ซอฮิห์)

คำว่า "สัตว์ทะเลที่ตายเป็นสิ่งฮะล้าล หมายถึง :  รับประทานสัตว์ทะเลที่ตายในทะเลได้ - ไม่ว่าจากปลาหรืออื่น ๆ - โดยมิต้องเชือดตามหลักศาสนา

(2) หลักฐานเกี่ยวกับความสะอาดของน้ำมัตลัก  คือ  ฮะดิษรายงานโดยบุคอรี (217) และคนอื่น  จากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์ รอฏิยัลลอฮุอันฮุ  ได้กล่าวว่า : มีอาหรับชนบทคนหนึ่ง  ลุกขึ้นยืนปัสสาวะในมัสยิด(นบี) ประชาชนได้พากันลุกขึ้นมาหาเขา  เพื่อทำให้เขาหยุดการกระทำเสีย  แต่ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวขึ้นว่า "พวกท่านจงปล่อยเขาเถิด  และจงเอาน้ำกระป๋องหรือน้ำภาชนะหนึ่งเทลงไปบนปัสสาวะของเขา  เพราะความจริงพวกท่านถูกบังเกิดขึ้นมาให้มีความสะดวกง่ายดายไม่ใช่ถูกบังเกิดขึ้นมาให้มีความยากลำบาก"

(3) คือน้ำที่ตากแดดจนร้อนอยู่ในภายชนะที่เป็นโลหะ  และการมักโระฮ์ใช้นั้น  เพราะมีการกล่าวว่า  น้ำมุชัมมัชเป็นเหตุทำให้เกิดโรคผิดหนังและทำให้เพิ่มอาการโรคผิวหนัง  และไม่ถึงว่ามักโระฮ์ใช้นอกจากเสียว่าน้ำจะถูกนำมาใช้เกี่ยวกับร่างกาย  และน้ำมุชัมมัชต้องอยู่ในเขตร้อน เช่น ฮิยาซฺ

(4) คือน้ำที่ถูกนำมาใช้ในการยกฮะดัษแล้ว(ไม่ว่าจะเป็นฮะดัษเล็กหรือฮะดัษใหญ่) และหลักฐานที่กล่าวถึงน้ำมุสตะมัลสะอาด(แต่ไม่สามารถใช้ทำความสะอาดได้)  คือฮะดิษรายงานโดยบุคอรี (191) และมุสลิม (1616) จาก ญิบิร บุตร อับดิลลาฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ได้กล่าวว่า :  "ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้มาเยี่ยมฉันขณะที่ฉันกำลังป่วยจนไม่ได้สติ  ท่านรอซูลุลเลาะฮ์ได้อาบน้ำละหมาด  และเทน้ำที่ใช้อาบน้ำนั้นลงไปบนตัวฉัน"

และถ้าหากน้ำที่ใช้อาบน้ำละหมาดไม่สะอาด  ท่านรอซูลุลเลาะฮ์ก็คงจะไม่เทไปบนร่างของเขา

และหลักฐานที่ระบุว่าน้ำมุสตะมัลไม่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้  คือ ฮะดิษที่รายงานโดยมุสลิม (283) และคนอื่น  จากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ได้กล่าวว่า : "คนใดคนหนึ่งจากพวกท่านจะต้องไม่อาบน้ำ  ในน้ำนิ่ง  ในสภาพที่เขามีญุนุบ"  พวกเขาถามว่า อบูฮุร๊อยเราะฮ์เอ๋ย  แล้วเขาจะทำอย่างไร? อบูฮุร๊อยเราะฮ์ได้กล่าวว่า : ให้เขาจงตักมันขึ้นมา"

ฮะดิษนี้บอกให้รู้ว่า : การลงอาบในน้ำนั้น  จะทำให้น้ำสิ้นสภาพจากการจะนำไปทำความสะอาดสิ่งอื่นอีก  เพราะถ้ามิใช่เช่นนั้น  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็คงจะไม่ห้ามกระทำเช่นนั้น  และน้ำมุสตะมัลในฮะดิษนี้  ถูกตีความว่า เป็นน้ำที่มีปริมาณน้อย(กว่าสองกุลละฮ์) และข้อชี้ขาด(ฮุกุ่ม)ของการอาบน้ำละหมาดเกี่ยวกับน้ำมุสตะมัลนี้  ก็คือข้อชี้ขาดเดียวกับการอาบน้ำ(ยกฮะดัษใหญ่)  เพราะความหมายในทั้งสองนั้น อันเดียวกัน  ก็คือ  เป็นการยกฮะดัษ

(5) คือสิ่งต่าง ๆ ที่สะอาดซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นจากมันโดยทั่วไป  และไม่สามารถแยกออกจากน้ำภายหลังจากเกิดการปะปนกันแล้ว  เช่นน้ำหอมชะมดเชียง , เกลือ , และอื่น ๆ  และการที่น้ำดังกล่าวนี้ไม่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้  เพราะว่ามันกลายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกเรียกว่าน้ำในสภาพนี้แล้ว

(6) ผู้บันทึกทั้งห้าได้รายงานจากอับดิ้ลลาฮ์ บุตร อุมัร (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ) ได้กล่าวว่า "ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ขณะที่ท่านถูกถามเกี่ยวกับน้ำที่อยู่ในพื้นแผ่นดินโล่ง(เช่นทะเลทรายและอื่น ๆ) และมีสัตว์ทั้งที่ดุร้ายและไม่ดุร้าย แวะเวียนไปดื่มกิน  ท่านได้กล่าวว่า  "เมื่อน้ำถึงสองกุลละฮ์ก็จะไม่รับการเป็นนะยิส"  และในถ้อยคำหนึ่งของท่านอบูดาวูด (65) : "แท้จริงน้ำนั้นไม่เป็นนะยิส"

สิ่งที่ถูกเข้าใจจากฮะดิษ : คือถ้าหากน้ำน้อยกว่าสองกุลละฮ์ก็จะเป็นนะยิส  แม้จะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม  และมีฮะดิษที่ชี้ถึงความเข้าใจอันนี้  คือ ฮะดิษที่รายงานโดยมุสลิม (287) จากอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ว่า  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า "เมื่อใครคนหนึ่งในหมู่พวกท่านตื่นนอน อย่าเอามือของเขาจุ่มลงไปในภาชนะ  จนกว่าจะได้ล้างมือเสียก่อนสามครั้ง  เพราะเขาไม่รู้หรอกว่ามือของเขา  ซุกอยู่ที่ใดบ้าง (ขณะที่นอนหลับ)"

ดังนั้นท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ห้ามคนที่เพิ่งตื่นนอนจุ่มมือลงในน้ำ  เพราะกลัวว่ามือของเขาจะเปื้อนนะยิสที่มองไม่เห็น  และเป็นที่ทราบกันดีว่า  นะยิสที่มองไม่เห็นนั้นไม่ทำให้น้ำโยกย้าย  ดังนั้นถ้าหากนะยิสที่มองไม่เห็นนี้  จะไม่ทำให้น้ำเป็นนะยิสเพียงแค่กระทบกับน้ำ  ท่านนบีก็คงจะไม่ห้ามสิ่งดังกล่าว

(7) หลักฐานน้ำถึงสองกุลละฮ์ แต่มันเปลี่ยนแปลงถือว่าเป็นนะยิสนั้น คือมติของปวงปราชญ์  ท่านอิมามอันนะวาวีย์  ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลมัจญ์มั๊วะอฺ  ว่า อิบนุ้ลมุนซิร  ได้กล่าวว่า "นักปราชญ์ได้มีมติร่วมกันเป็นอิจมาอฺว่า  น้ำน้อยหรือน้ำมาก  เมื่อมีนะยิสตกลงไป  และทำให้น้ำเปลี่ยนสี  กลิ่น และรส  น้ำนั้นเป็นนะยิส 

สำหรับฮะดิษ  ที่ว่า  "น้ำนั้นสะอาด ไม่มีสิ่งใดทำให้เป็นนะยิสได้  นอกจาก  สิ่งที่ทำให้เปลี่ยนรสและกลิ่น"  ถือว่าเป็นฮะดิษสายรายงานฏออีฟ  ท่านอิมามอันนะวาวีย์  กล่าวว่า  "การนำฮะดิษนี้มาเป็นหลักฐานถือว่าไม่ถูกต้อง"  และกล่าวว่า "ท่านอิมามอัชชาฟิอีย์ได้ถ่ายทอดการตัดสินว่าฮะดิษฏออีฟจากนักปราชญ์ฮะษ"  (หนังสือมัจมั๊วะอฺ 1/160) 

(8) สองกุลละฮ์นั้นเท่ากับ 190 ลิตรโดยประมาณ  หรือกว้าง 1 ลูกบาศก์  ขอบโดยรอบยาว 58 เซ็นติเมตร

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ pineapple

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 101
  • It's a LIFE of TEST
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แปลหนังสืออัตตัซฮีบ เรื่องน้ำ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2007, 10:37 AM »
0
อัสลามมุอะลัยกุม
เข้ามาอ่านคะ     ;D
วัสลาม
-:-   -:-  -:-    อย่าให้หัวใจตกหลุ่มพลาง -:- -:- -:-

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะรอกาตุฮ์

พี่น้องท่านใดที่มีหนังสือฟิกห์ชาฟิอีย์ฉบับภาษาไทย  ภาษามาลายู  หรือภาษาอาหรับ   โดยต้องการนำเสนออธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้ความรู้แก่พี่น้อง  ก็เชิญนำเสนอโดยมีการอ้างอิงด้วยนะครับ 

กล่าวคือ  ผู้ใดมีหนังสือ อิอานะตุฏฏอลิบีน , หนังสือก๊อลยูบีย์ , หนังสือบุญัยรีมีย์ , หนังสือบาญูรี , หรือหนังสืออื่น ๆ  ก็ทำการค้นคว้า และแปลลงในกระทู้นี้ที่เกี่ยวกับเรื่องของมัน  และทำการอ้างอิงระบุเล่มและหน้าด้วย  ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ

วัสลาม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ไฟล์เสียง ชะเราะหฺมะตันอบูชุญาอฺ
شرح متن الغاية والتقريب

 

GoogleTagged