ผู้เขียน หัวข้อ: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!  (อ่าน 5942 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« เมื่อ: ธ.ค. 31, 2007, 05:36 AM »
0

สมาคมผัวบ้าอำนาจ

ข่าว แปลก ข่าวต่างประเทศ สังคมเอเชียนั้นมีทัศนคติที่ยกให้ สามี นั้นเป็นใหญ่ในครอบครัว แม้บางประเทศทัศนคินี้จะลดลงไปบ้างแล้ว แต่ในประเทศ ญี่ปุ่น ยังไม่ลดลงไปเท่าไร รัฐบาลจึงออกกฏหมายเพื่อช่วยฝ่ายภรรยามากขึ้น แต่ใช่ว่าในญี่ปุ่นจะมีแต่ สามี ที่ไม่ดีไปซะหมด เพราะเหล่า สามี ได้มีการตั้งสมาคมเพื่อปรับปรุงตนเองให้กลับมาเป็น สามี ที่ดี

อย่างที่เราทราบๆ กันดี ว่าสังคมเอเชียนั้นมีทัศนคติยก "สามี" เป็นใหญ่ที่สุดในครอบครัว

ทุกวันนี้แม้ความคิดดังกล่าวจะเริ่มจางหายไปบ้าง แต่ในบางประเทศ เช่น "ญี่ปุ่น" ก็ยังไม่ทุเลาเบาบางลงไปเท่าไหร่

กระทั่งในปีนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงตัดสินใจออกกฎหมายฉบับใหม่ อนุญาตให้ฝ่ายภรรยาที่หย่าขาดกับสามี (นิสัยเสีย) สามารถยื่นฟ้องขอเรียกเอาเงินค่าบำเหน็จบำนาญของฝ่ายสามีได้ครึ่งหนึ่ง

จุดประสงค์ก็เพื่อให้ภรรยาชาวญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ทุ่มเททำหน้าที่ "แม่บ้าน" มาตลอดชีวิต จะได้มีเงินทองเหลือเอาไปตั้งตัวอยู่บ้าง ยามต้องใช้ชีวิตโดยลำพัง!

แต่ใช่ว่าในญี่ปุ่นจะมีแต่สามีขี้โมโห ปากร้าย ไม่สนใจดูแลครอบครัวไปเสียทั้งหมด เพราะอย่างน้อยที่สุดก็มี "กลุ่มสามี" ที่ยอมรับว่า ตัวเองเป็น "คนเลว" พร้อมปรับปรุงอุปนิสัย เพื่อพลิกฟื้นสภาพครอบครัวที่ใกล้แตกสลาย ให้กลับมามีความสุขเต็มไปด้วยความรัก

ข่าวซีเอ็นเอ็น บอกว่า สามีกลุ่มนี้เป็นสมาชิกของ "สมาคมสามีบ้าอำนาจ" ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วญี่ปุ่นเกือบๆ 5,000 คน เข้าไปแล้ว ทุกๆ สัปดาห์ คนในกลุ่มจะแยกย้ายกันไปตั้งวงประชุมย่อยๆ พูดเปิดใจแลกเปลี่ยนปัญหา-สารทุกข์สุกดิบกัน

ตัวอย่างกฎเหล็กที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ก็เช่น ต้องพูดคำว่า "ขอบคุณ-ขอโทษ-ผมรักคุณ" ให้ภรรยาฟังจากใจจริง ห้ามมีเมียน้อย ห้ามมีกิ๊ก ต้องช่วยเมียทำงานบ้าน และที่สำคัญต้องเปิดใจรับฟังสิ่งที่เมียพูด!

น่าเสียดายที่ซีเอ็นเอ็นไม่ได้ให้สถิติด้วยว่า ผลจากการกลับเนื้อกลับตัวของ "สามีบ้ำอำนาจ" ช่วยลดอัตราหย่าร้างมากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าฝ่ายคุณสามีทำได้จริงดังกฎที่ตั้งกันขึ้นมา ก็เชื่อว่าน่าจะช่วยให้ภรรยาทั้งหลายมีความสุขอย่างแน่นอน

หนังสือพิมพ์ข่าวสด
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธ.ค. 31, 2007, 05:37 AM »
0
อิสลามของเรามีจุดยืนและแก้ไขปัญหาอย่างไรเกี่ยวกับเนื้อหาของข่าวนี้ครับ  พี่น้องร่วมด้วยช่วยกันวิจารณ์เชิงวิชาการครับ ^^ 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

Al Fatoni

  • บุคคลทั่วไป
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธ.ค. 31, 2007, 06:02 PM »
0
อัสสลามุ อลัยกุม

                   ผมเคยฟังบรรยายจากอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านกล่าวว่า "แท้จริงนั้นหน้าที่วาญิบจริงๆ สำหรับสตรีหลังจากแต่งงานนั้น (หมายถึงเมื่อเป็นภรรยา) มีเพียงแค่ 8 ประการเท่านั้น ซึ่งนอกเหนือจากนั้น เป็นหน้าที่ของสามี และการที่ภรรยาช่วยเหลือสามีในการงานที่นอกเหนือจาก 8 ประการนั้น (ผมจำไม่ได้มีอะไรบ้าง เท่าที่จำได้คือ ภรรยาต้องเลี้ยงดูบุตรให้เป็นคนดี, รักษาอวัยวะเพศของตัวเอง พูดง่ายๆ คือ ห้ามสำส่อนกับชายใดทั้งสิ้น นอกจากสามีของนางเท่านั้น และอื่นๆ) ถือว่าสุนัต ส่งเสริมให้กระทำ" (ผิดถูก หรือแตกต่างๆ จากนี้อย่างไร ช่วยชี้แจงด้วยนะครับ เพราะผมเขียนจากความจำอันต้อบต่ำของผมเอง)

                    เราจะเห็นได้ว่า สามีในระบบอิสลามที่แท้จริงนั้น จะเป็นคนที่ออกไปทำงานนอกบ้าน  หาเงินเลี้ยงครอบครัว ให้นมบุตร ซักผ้าเอง ทำกับข้าวให้ภรรยาและบุตรทาน และอื่นๆ พูดง่ายๆ ภรรยาในระบบอิสลาม อาจจะกล่าวได้ว่า แทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะหน้าที่หลักๆ มีไม่ถึง 10 ประการด้วยซ้ำ นอกนั้นเป็นของสามีหมด ซึ่งหากภรรยาต้องการช่วยก็ถือว่า สุนัต ได้ผลบุญอีกต่างๆหาก หากลองเทียบกับสังคมอื่นๆ ที่ไม่ใช่อิสลามตั้งแต่ยุคเราะซูลุลลอฮฺ ศ.ล. จนกระทั่งปัจจุบัน กล้าประกัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ไม่มีสังคมไหนทำได้เท่าอิสลามอีกแล้ว นี่คือหนึ่งในความโปรดปรานที่อัลลอฮฺประทานมาให้แก่บ่าวของพระองค์ (ที่ใฝ่หาศานติด้วยกับพระคำแห่งสัจธรรมของพระองค์อย่างจริงจัง และบริสุทธิ์ใจ)

วัสสลามุ อลัยกุม
           

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.ย. 18, 2009, 02:45 AM »
0
สมาคมผัวบ้าอำนาจ

ข่าว แปลก ข่าวต่างประเทศ สังคมเอเชียนั้นมีทัศนคติที่ยกให้ สามี นั้นเป็นใหญ่ในครอบครัว แม้บางประเทศทัศนคินี้จะลดลงไปบ้างแล้ว แต่ในประเทศ ญี่ปุ่น ยังไม่ลดลงไปเท่าไร รัฐบาลจึงออกกฏหมายเพื่อช่วยฝ่ายภรรยามากขึ้น แต่ใช่ว่าในญี่ปุ่นจะมีแต่ สามี ที่ไม่ดีไปซะหมด เพราะเหล่า สามี ได้มีการตั้งสมาคมเพื่อปรับปรุงตนเองให้กลับมาเป็น สามี ที่ดี

อย่างที่เราทราบๆ กันดี ว่าสังคมเอเชียนั้นมีทัศนคติยก "สามี" เป็นใหญ่ที่สุดในครอบครัว

ทุกวันนี้แม้ความคิดดังกล่าวจะเริ่มจางหายไปบ้าง แต่ในบางประเทศ เช่น "ญี่ปุ่น" ก็ยังไม่ทุเลาเบาบางลงไปเท่าไหร่

กระทั่งในปีนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงตัดสินใจออกกฎหมายฉบับใหม่ อนุญาตให้ฝ่ายภรรยาที่หย่าขาดกับสามี (นิสัยเสีย) สามารถยื่นฟ้องขอเรียกเอาเงินค่าบำเหน็จบำนาญของฝ่ายสามีได้ครึ่งหนึ่ง

จุดประสงค์ก็เพื่อให้ภรรยาชาวญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ทุ่มเททำหน้าที่ "แม่บ้าน" มาตลอดชีวิต จะได้มีเงินทองเหลือเอาไปตั้งตัวอยู่บ้าง ยามต้องใช้ชีวิตโดยลำพัง!

แต่ใช่ว่าในญี่ปุ่นจะมีแต่สามีขี้โมโห ปากร้าย ไม่สนใจดูแลครอบครัวไปเสียทั้งหมด เพราะอย่างน้อยที่สุดก็มี "กลุ่มสามี" ที่ยอมรับว่า ตัวเองเป็น "คนเลว" พร้อมปรับปรุงอุปนิสัย เพื่อพลิกฟื้นสภาพครอบครัวที่ใกล้แตกสลาย ให้กลับมามีความสุขเต็มไปด้วยความรัก

ข่าวซีเอ็นเอ็น บอกว่า สามีกลุ่มนี้เป็นสมาชิกของ "สมาคมสามีบ้าอำนาจ" ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วญี่ปุ่นเกือบๆ 5,000 คน เข้าไปแล้ว ทุกๆ สัปดาห์ คนในกลุ่มจะแยกย้ายกันไปตั้งวงประชุมย่อยๆ พูดเปิดใจแลกเปลี่ยนปัญหา-สารทุกข์สุกดิบกัน

ตัวอย่างกฎเหล็กที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ก็เช่น ต้องพูดคำว่า "ขอบคุณ-ขอโทษ-ผมรักคุณ" ให้ภรรยาฟังจากใจจริง ห้ามมีเมียน้อย ห้ามมีกิ๊ก ต้องช่วยเมียทำงานบ้าน และที่สำคัญต้องเปิดใจรับฟังสิ่งที่เมียพูด!

น่าเสียดายที่ซีเอ็นเอ็นไม่ได้ให้สถิติด้วยว่า ผลจากการกลับเนื้อกลับตัวของ "สามีบ้ำอำนาจ" ช่วยลดอัตราหย่าร้างมากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าฝ่ายคุณสามีทำได้จริงดังกฎที่ตั้งกันขึ้นมา ก็เชื่อว่าน่าจะช่วยให้ภรรยาทั้งหลายมีความสุขอย่างแน่นอน

หนังสือพิมพ์ข่าวสด

 salam

คงไม่ว่าถ้าจะขอขุดกระทู้นี้ด้วยจอบผูกโบว์สีชมพู อาวุธประจำกาย ;D

แบบว่าเห็นด้วยกับข่าวสุดๆค่ะ ตอนนี้ พ.ศ.นี้ ก็ยังเป็นอยู่อย่่างนั้นนะคะ
ยังไม่เปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ เคยถกประเด็นนี้กันในห้องเรียนมาก่อนน่ะค่ะ

ซึ่งปัญหาเกิดจาก ผู้ชายญี่ปุ่นติดนิสัยมาจากนักรบซามุไร สมัยสงคราม
คืองานผู้หญิงผู้ชายจะไม่แตะ เพราะว่ามันเสียศักดิ์ศรีอะไรประมาณนี้ค่ะ
ผู้ชายจะรับไม่ได้ หากต้องมานั่งซักผ้า ล้างจาน หรือแม้แต่ตากผ้าและทิ้งขยะ
โดยถือว่าบ้านคืออาณาจักรของภรรยาค่ะ
ส่วนงานนอกบ้านจะเป็นของสามีทั้งหมด เขาจะวางระบบและจัดสรรหน้าที่
เอาไว้เรียบร้อยแล้วน่ะค่ะ...ผู้หญิงญี่ปุ่นเองก็ยอมรับได้ค่ะ...
ซึ่งก็เป็นระบบคล้ายๆกับอิ่สลาม แต่ไม่เหมือนทั้งหมดค่ะ
เพราะผู้หญิงญี่ปุ่นน่าสงสารกว่ามุสลิมะฮฺตรงที่ไม่ค่อยมีสิทธิ์มีเสียงมากนัก
ต้องรอสามีอยู่ท่ีบ้าน ส่วนสามีก็จะเพลิดเพลินนอกบ้านอย่างอิสระเสรี
เรืื่องของลูก สามีจะยกให้เป็นหน้าที่ของภรรยาทั้งหมด ตนมีหน้าที่แค่หาเงิน
และปัจจัยมาเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น...บางครั้งก็เมามายกลับมาบ้าน
เห็นภรรยาเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ ซึ่งผู้หญิงญี่ปุ่นได้รับฉายาถึงความอดทน
และเป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ...สามีมักจะเผด็จการด้วยเหตุผลว่าตนนั้น
หาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ภรรยาเลยไม่กล้าหือค่ะ...
(ประเด็นนี้นำมาจากการวิเคราะห์ร่วมกันในห้องตอนนั้นค่ะ)

แต่ปัจจุบันปัญหาที่แปลกกว่าข่าวที่ว่่าคือ...ผู้หญิงจะขอหย่ากับสามีของตน
ตอนอายุห้าสิบเป็นส่วนมาก อัตราการหย่าสูงสุดในช่วงอายุห้าสิบปีขึ้นไปค่ะ
เขาวิเคราะห์ออกมาว่าเป็นเพราะว่า สามีนั้นเกษียณอายุงาน
ภรรยาที่อดทนและเก็บกดความรู้สึกมาตลอดเลยเรียกร้องสิทธิ์ขึ้นมา
เพราะหากหย่าตอนนั้นจะสามารถได้รับเงินบำเหน็ดบำนาญของสามีครึ่งหนึ่ง
ตามข่าวว่ามาค่ะ...เพราะหากจะถามว่า หญิงอายุขนาดนั้นแล้ว
จะมาขอหย่าสามีเพียงเพราะจะแต่งงานใหม่คงไม่ใช่ เพราะผู้หญิงในช่วงนั้น
เป็นช่วงวัยทอง ดังนั้นสิ่งที่อยากได้คือ ความเป็นอิสระ ต้องการปลดแอก
เพราะลูกๆเองก็โตพอจะมีครอบครัวแล้วน่ะค่ะ...อีกอย่างผู้หญิงญี่ปุ่นจะ
เก็บหอมรอมริบเก่งมาก เพื่อเอาไว้ใช้ในบั้นปลายของชีวิต
เพราะช่วงวัยหนุ่มสาวจะช่วยกันทำงานเก็บเงินเอาไว้ท่องเที่ยว
ในตอนชรา หากสังเกตจะเห็นว่า คนญี่ปุ่นที่อายุมากจะไปสร้างบ้านอาศัย
อยู่ทางภาคเหนือของไทยและฟิลิปปินส์ เพราะที่ญี่ปุ่นจะหนาวมาก
คนสูงอายุจึงทานความหนาวไม่ไหว โดยเฉพาะโรคเหน็บชา โรคปวดข้อ
หากเจอความหนาวก็จะทรมานมาก พวกเขาก็เลยหวังจะเก็บเงินตอนยังมีแรง
เพื่อจะได้ไปใช้ชีวิตในเขตร้อนตอนบั้นปลายของชีวิต

สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากผู้หญิงญี่ปุ่นคือ จะอดทน อึดและแกร่งจากข้างใน
แต่ดูอ่อนแอภายนอกหรือทีเรียกว่า อ่อนนอกแข็งในน่ะค่ะ
เพราะหน้าที่ดูแลลูกทั้งหมดอยู่ในมือเธอทั้งหมด
ดังนั้นอนาคตของชาติเลยอยู่ในมือพวกเธอน่ะค่ะ
นี่แหล่ะค่ะที่ต่างกับอิสลามเรา เพราะของเรา พ่อกับแม่มีหน้าที่สอนลูก
โดยเฉพาะผู้เป็นบิดานั่นคือหน้าที่หลักและจะรับภาระหนักกว่าผู้ชายญี่ปุ่น
ในหลายๆเรื่อง หลายๆบทบาท...

ซึ่งคงไม่แปลกหากผู้หญิงญี่ปุ่นจะกล้าขอหย่าสามีในยามที่ลูกๆโตมีครอบครัวแล้ว
ในขณะที่สามีล่วงสู่วัยชรา ไม่มีแรงทำงานแล้ว...
เพราะหากสามีรักและไม่ทำร้ายและให้เกียรติพวกเธอตอนใช้ชีวิตร่วมกัน
เธอคงไม่ทำอย่างนั้นหลังจากที่อยู่กันมาได้นานจนถึงอายุห้าสิบปีน่ะค่ะ...
เพราะคู่ที่เขาอยู่กันจนแก่เฒ่าก็มีไม่น้อยเหมือนกันค่ะ...

ส่วนวัยรุ่นในยุคปัจจุบันนั้น จะพยายามเรียนรู้และเข้าใจในจุดนี้
และพยายามปรับปรุงอุปนิสัยตัวเองมากขึ้น...
เนื่องจากกระแสจากต่างชาติได้หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ต่างจากในอดีตที่ญี่ปุ่นจะค่อนข้างปิดตัว และเคยปิดประเทศมายาวนาน

ซึ่งมีอยู่สิ่งหนึ่งที่คนโพสสงสัยคือ
เคยถามเพื่อนญี่ปุ่นว่า...คำว่า สุภาพบุรุษหรือที่ในภาษาอังกฤษว่า Gentle manนั้น
ภาษาญี่ปุ่นว่าอย่างไร เพื่อนญี่ปุ่นทั้งชายทั้งหญิงกลับตอบไม่ได้แม้แต่คนเดียว
ทั้งที่ในพจนานุกรมญี่ปุ่นมีระบุถึงคำศัพท์นั้นเอาไว้แล้ว

ซึ่งทั้งหมดนี้แค่หนึ่งในความคิดเห็นของคนโพสจากสิ่งที่ได้เรียนรู้
และร่วมวิเคราะห์กับนักศึกษาญี่ปุ่นด้วยกันทั้งชายและหญิงมาก่อนน่ะค่ะ
มันไม่มีผิดหรือว่าถูกหรือตายตัว เพียงแต่เป็นเพียงมุมมองหนึ่ง
ของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์มากกว่าการสร้างความวุ่นวาย
หากว่าเสี่ยงต่อการเกิดฟิตนะขึ้นในเวบแห่งนี้ อยากให้ทางเว็บจัดการลบได้ทันทีค่ะ
เพื่อคงไว้ซึ่งความสงบและสันติค่ะ

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^____________^
 
 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ มัยซูน

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 280
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.ย. 18, 2009, 09:34 AM »
0
แล้วสามีแบบนี้ละคะ (นินทาคนข้างบ้าน)

มีลูกเล็กๆสองคน ภรรยาทำกับข้าวเสร็จแล้วใส่ปิ่นโตให้สามีไปละศิลอดที่มัสยิด
ภรรยาต้องละศีลอดคนเดียว จะละหมาดก็ไม่ได้ไม่มีใครดูลูก ต้องเอามาฝากเพื่อนบ้าน
และอีก ฯลฯ

ที่หยิบยกรายนี้มาเพราะสามีออกดะวะอ์บ่อยมาก ประมาณว่าอิหม่านแข็งกล้า
แต่การดูแลครอบครัว ......???

สามีแบบนี้ ศาสนาว่าไว้อย่างไรคะ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 18, 2009, 09:43 AM โดย มัยซูน »
ใช้สองมือหนึ่งหัวใจบอกเล่ากับพระองค์ก้มหน้าลง..แล้วขอความเมตตา

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ก.ย. 18, 2009, 10:13 AM »
0
 salam

น่าคิดเหมือนกันนะคะ  ::) ::)

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ก.ย. 18, 2009, 10:20 AM »
0
แล้วสามีแบบนี้ละคะ (นินทาคนข้างบ้าน)

มีลูกเล็กๆสองคน ภรรยาทำกับข้าวเสร็จแล้วใส่ปิ่นโตให้สามีไปละศิลอดที่มัสยิด
ภรรยาต้องละศีลอดคนเดียว จะละหมาดก็ไม่ได้ไม่มีใครดูลูก ต้องเอามาฝากเพื่อนบ้าน
และอีก ฯลฯ

ที่หยิบยกรายนี้มาเพราะสามีออกดะวะอ์บ่อยมาก ประมาณว่าอิหม่านแข็งกล้า
แต่การดูแลครอบครัว ......???

สามีแบบนี้ ศาสนาว่าไว้อย่างไรคะ



ภรรยาได้ผลบุญจากการทำอาหารให้สามีและพี่น้องมุสลิมคนอื่นได้ละศีลอดที่มัสยิด   หากเป็นเรา เรายินดีอย่างยิ่งเชียว loveit:

ภรรยาละศีลอดคนเดียว...อันนี้ต้องถามภรรยาว่า...สามีไปแล้วไม่กลับเรยหรือป่าว  ::)  เหงาแค่แปบเดียว ไม่เป็นไรๆ (ไม่มีใครกวนใจ  ;D)

ถ้าพูดถึงละหมาดตะรอเวียะฮ์ แล้วละก็  พาลูกๆไปละหมาดด้วยกันซะเรย...

เด็กๆ จะได้ผูกพันกับการไปมัสยิด เวลาเห็นเด็กตัวเล็กๆใส่ชุดละหมาดแล้วปลื้มใจที่สุดค่ะ เพราะน่ารักเกินคำบรรยาย

มีเด็กเล็กๆที่แม่เขาพาไปละหมาดตะรอเวียะฮ์ทุกคืน  มาเดวนี้ ทำท่าทางละหมาดกันคล่อง  ถึงเวลาดุอา ก็ยกมือดุอาทำปากหมุบหมิบกับเขาด้วย

ที่สำคัญ  เมื่อละหมาดจบจะมีการซิกรุลลอฮ์ ทีนี้แหละ เสียงเด็กๆดังฟังชัดซะไม่มี

แต่หากไม่สะดวก ภรรยาละหมาดที่บ้านได้  เพราะสามีไปละหมาดแล้วผลบุญและดุอาจากสามีย่อมทั่วถึงเราแน่นอน อินชาอัลลอฮ์

เห็นมั้ย ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้มีทางออกอยู่เสมอ แค่ภรรยามีความยาเกนต่ออัลลอฮ์ ไม่ใช่ยาเกนดุนยา   hehe




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 18, 2009, 10:36 AM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ก.ย. 18, 2009, 10:45 AM »
0
เอามาแปะ เห็นเกี่ยวกันน่ะค่ะ

โอ้บรรดาหญิงเอ๋ย จงเป็นดั่งนี้เถิด

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=3612.0

และ...

สถานภาพสตรีในอิสลาม

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1210.0

 loveit:

เหลือบทบาทของผู้ชาย...ยังหาไม่เจอค่ะ...
ได้แค่หน้าที่ของตัวเอง...
 ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 18, 2009, 11:01 AM โดย dho_dho »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ActionMask

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 250
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ก.ย. 18, 2009, 11:48 AM »
0
สามีควรทำอย่างไรบ้างก็ดูแบบอย่างนบีสิครับว่าต้องทำอย่างไร

ญี่ปุ่นเจริญได้ส่วนหนึ่งคงเพราะพวกเขาเป็นคนมีระเบียบ ภาระหน้าที่ของใครก็รับผิดชอบเต็มที่ไม่เกี่ยง ภรรยารับหน้าที่หนักแค่ไหนก็อดทน สามีเองเวลาทำงานก็ทำจริงจังเต็มที่ จริงๆ ผมว่าถ้าคนญี่ปุ่นรับอิสลาม คงจะปฏิบัติได้อย่างดีทีเดียว เพราะวัฒนธรรมเขาสอดรับกับหน้าที่อยู่แล้ว

แล้วหน้าที่ของสามีภรรยา หรือหน้าที่ต่อสังคม อิสลามวางแนวทางไว้ดีกว่าวัฒนธรรมทุกวัฒนธรรมอยู่แล้ว ถ้าเราลงมือทำเต็มที่นอกจากจะได้ความโปรดปรานจากอัลลอฮฺซึ่งเป็นเป้าหมายหลักแล้ว สังคมก็จะดี เราจะอยู่อย่างสงบสุข ประชาคมที่เราอยู่ก็จะเจริญได้ อินชาอัลลอฮฺ

แต่ทุกวันนี้ ดูเหมือนแต่จะบอกให้สตรีทำนั่นทำนี่สิ แต่ตัวผู้ชายรับผิดชอบหรือทำตามแบบอย่างนบีในเรื่องครอบครัวบ้างหรือเปล่า นบีดูแลภรรยาอย่างไร สามีที่เป็นมุสลิมทำแบบนั้นบ้างไหม อยากจะได้ภรรยาที่ดี แล้วตัวเองดีพอหรือยัง

น่าคิดไหมล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 18, 2009, 11:51 AM โดย ActionMask »

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ก.ย. 18, 2009, 12:17 PM »
0
สามีควรทำอย่างไรบ้างก็ดูแบบอย่างนบีสิครับว่าต้องทำอย่างไร

ญี่ปุ่นเจริญได้ส่วนหนึ่งคงเพราะพวกเขาเป็นคนมีระเบียบ ภาระหน้าที่ของใครก็รับผิดชอบเต็มที่ไม่เกี่ยง ภรรยารับหน้าที่หนักแค่ไหนก็อดทน สามีเองเวลาทำงานก็ทำจริงจังเต็มที่ จริงๆ ผมว่าถ้าคนญี่ปุ่นรับอิสลาม คงจะปฏิบัติได้อย่างดีทีเดียว เพราะวัฒนธรรมเขาสอดรับกับหน้าที่อยู่แล้ว

แล้วหน้าที่ของสามีภรรยา หรือหน้าที่ต่อสังคม อิสลามวางแนวทางไว้ดีกว่าวัฒนธรรมทุกวัฒนธรรมอยู่แล้ว ถ้าเราลงมือทำเต็มที่นอกจากจะได้ความโปรดปรานจากอัลลอฮฺซึ่งเป็นเป้าหมายหลักแล้ว สังคมก็จะดี เราจะอยู่อย่างสงบสุข ประชาคมที่เราอยู่ก็จะเจริญได้ อินชาอัลลอฮฺ

แต่ทุกวันนี้ ดูเหมือนแต่จะบอกให้สตรีทำนั่นทำนี่สิ แต่ตัวผู้ชายรับผิดชอบหรือทำตามแบบอย่างนบีในเรื่องครอบครัวบ้างหรือเปล่า นบีดูแลภรรยาอย่างไร สามีที่เป็นมุสลิมทำแบบนั้นบ้างไหม อยากจะได้ภรรยาที่ดี แล้วตัวเองดีพอหรือยัง

น่าคิดไหมล่ะ

ขอสนับสนุนด้วยคนคร้าบบบบ
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ก.ย. 18, 2009, 05:11 PM »
0
เห็นด้วยกับก๊ะมากๆ แก้สถานการณ์ได้ทุกคำถามเลย
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ก.ย. 19, 2009, 12:31 PM »
0
 salam

ได้อ่านหลายๆความเห็นแล้วทำให้มองได้หลายมุมดีค่ะ

บางครั้ง หลายๆคนมักจะเรียกร้องสิทธิต่่างๆที่ตนพึงจะได้
โดยไม่สนใจหน้าที่ที่ตนต้องรับผิดชอบน่ะค่ะ

ทั้งที่ความจริง สิทธินั้นต้องมาพร้อมกับหน้าที่
บางครั้งเลยดูเหมือน ต้องการสิทธิของตนแต่ละเลยหน้าที่น่ะค่ะ
สังคมเลยดูวุ่นวาย เพราะขาดระบบการจัดสรร การแบ่งปันซึ่งกันและกัน

บางคร้ังแค่คำว่ารักและเข้าใจห่วงใยกัน เราก็เต็มใจและสมัครใจ
ที่จะทำหน้าที่ตามสิทธิ์ที่ได้รับมอบหมายด้วยซ้ำไปค่ะ...

ซึ่งกฎระเบียบของญี่ปุ่นนั้น เขาวางเอาไว้แล้วสั่งใช้อย่างเคร่งครัดน่ะค่ะ
โทษของการฝ่าฝืนนั้นหนักมาก เราจึงไม่ค่อยเห็นข่าวเกี่ยวกับ
การข่มขืนมากนักในประเทศนี้ ทั้งที่เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเปิดเสรี
ในเรื่องซีนาอย่างชัดแจ้ง...เพราะว่าโทษนั้นหนักจริงๆค่ะ...ไม่มีหย่อน..
แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเสียทีเดียว หากที่ญี่ปุ่นเขาไม่ค่อยจะนำเสนอข่าว
ตรงรายละเอียดตรงนั้นมากนัก เพราะว่าข่่าวเหมือนดาบสองคม
อาจจะเป็นการชี้นำหนทางให้กับเด็กที่ไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งได้น่ะค่ะ...
ซึ่งไม่ใช่ว่าเขาจะนำเสนอไม่ตรงกับความจริงนะคะ
เพราะข่าวที่ออกทางโทรทัศน์คือความจริง เพียงแต่ออกไม่หมดเท่านั้นเองค่ะ
เพราะเขาก็มีกฎหมายสำหรับเรื่องสื่อ มีการควบคุมสื่ออย่างเคร่งครัดเช่นกันค่ะ

ซึ่งไม่ต่างจากอิสลามเรามากนัก อิสลามเราสำหรับคนต่างศาสนิก
มักมองว่าเคร่งครัดจนเกินไป บทลงโทษก็หนักจนรับกันไม่ได้บ้าง
กฎก็มีเยอะจนยากที่มนุษย์สามัญทั่วไปจะทำได้บ้าง...ซึ่งโด่โด่คิดว่านั่นคือสิ่งที่ดี
เพราะพระเจ้าย่อมรู้ถึงจิตใจมนุษย์...กฎหมายของมนุษย์จึงใช้ปกครอง
ให้มนุษย์ให้อยู่อย่างสงบสุขไม่ได้อย่างแท้จริง....เพราะมนุษย์ก็ย่อมออกกฎ
บางกฎเพื่อปกป้องตัวเอง เพื่อพวกพ้องตัวเอง เพื่อให้ตัวเองพ้นภัย...
ไม่ได้คงไว้เพื่อส่วนรวมมากนักในความเป็นจริง...ผู้ลงโทษก็ยังเป็นมนุษย์ที่ย่อม
อ่อนแอและโน้มเอียงได้เสมอ...

มีสองสิ่งที่ประทับใจในดินแดนญี่ปุ่นคือ...ตอนนั้นลืมกระเป๋าสะพายเอาไว้ในห้องน้ำ
ในนั้นมีทุกอย่าง ทั้งเงิน ทั้งบัตรประจำตัว บัตรเอทีเอ็ม บัตรนักศึกษา
จนแทบจะร้องไห้ เพราะไม่ได้เสียดายตรงเงินเท่าไหร่ แต่ที่ร้อนใจ
เพราะเอกสารสำคัญเกี่ยวกับงานวิจัยที่ต้องส่งวันนั้นก็อยู่ในกระเป๋าใบนั้น
ทุกข์ไหนจะทุกข์เท่าของหายไม่มีอีกแล้วในตอนนั้น...

พอกลับไปดูก็ไม่เห็นแล้ว...ใจหาย เลยวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ของห้าง
เขาก็ถามรายละเอียดยิบเลย เพื่อยืนยันว่าเราใช่ตัวจริงรึเปล่า
แล้วบอกว่ามีคนเอากระเป๋ามาคืนไว้ที่เขา...ในนั้นมีทุกอย่างครบ
แม้กระทั่งกระเป๋าเงินก็ยังอยู่...แล้วเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้แค่โด่โด่
แต่เพื่อนคนอื่นๆเขาก็เคยทำกระเป๋าหายเช่นกัน...แต่สุดท้ายกลับไปที่เดิม
ปรากฎว่ามันยังอยู่ที่เดิมค่ะ ไม่มีใครสนใจเลยด้วยซ้ำ...ซึ่งเป็นอะไรที่
สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรม ความคิดของคนญี่ปุ่น จากที่เคยมองพวกเขา
ในแง่ลบ ก็พยายามมองหาสิ่งดีๆจากประเทศนี้...
เพราะทุกที่ย่อมมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง...อยู่ที่เราจะเลือกมองด้านไหน
หากแต่ในยามที่ต้องวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาใดๆ เราก็จำเป็นต้องมอง
ทั้งสองด้าน มองด้วยหัวใจที่เป็นธรรม ต้องพยายามเข้าไปนั่งตรงกลางใจเขา
แล้วอาจจะทำให้รู้ว่า...จิตใต้สำนึกของมนุษย์ทุกคนนั้น จริงๆแล้วก็อยากเป็นคนดี
อยากให้คนอื่นมองตัวเองว่าดี อยากเป็นที่ยอมรับของใครๆกันทั้งนั้น...
เพียงแต่สถานการณ์ต่างๆที่เผชิญอาจโน้มนำให้ทำอีกอย่างที่สวนกับจิตใต้สำนึก
นั่นก็คืออารมณ์ใฝ่ต่ำ...พอทำตามอารมณ์นั้นบ่อยๆเข้าก็จะเกิดความเคยชิน
บางคนแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าอะไรดี อะไรไม่ดี แต่เมื่อมีใครสักคนที่เปิดโอกาส
ให้เขาให้แก้ไขและปรับปรุง คอยเป็นกำลังใจให้ เชื่อใจเขาว่าเขาทำได้..
คนเขียนก็เชื่อมั่นว่าเขาจะอยากกลับมาทำดีอย่างแน่นอน...
นั่นคือมุมนึงในญี่ปุ่นที่คนเขียนสัมผัสมา...

แล้วอีกอย่างที่ทำให้ยิ้มได้เสมอก็คือ...ภาพของอาจารย์และเพื่อนๆในมหาลัย
ปกติส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นจะพกปิ่นโตหรือที่เขาเรียกกันว่าเบ็นโตะมาจากบ้าน
อย่างเพ่ือนๆนั้น แม่ก็จะเป็นผู้ทำให้ แม้กระทั่งบรรดาอาจารย์ทั้งหลาย
ก็พกปิ่นโตมามหาลัยกัน อาจารย์มักบอกว่า อาหารที่ภรรยาทำให้น่าทานออก
ปลอดภัยด้วย เพราะว่าเขารักและหวังดีกับเรา อยากให้เราสุขภาพดี
เขาย่อมทำอาหารดีๆ คัดแต่สิ่งดีๆ ไม่มีสารพิษมาให้แน่นอน บางครั้งยังชวนให้โด่โด่
ทำอาหารไทยแล้วไปทานด้วยกันเลยค่ะ บางวันภรรยาของอาจารย์ก็จะนำปิ่นโต
มาส่งตอนเที่ยงวันบ้าง หากว่าอาจารย์ลืมเอามาในตอนเช้า...
เป็นภาพที่น่ารักสำหรับโด่โด่ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

พอตกเย็นก็รีบกลับ บอกว่าจะกลับไปทานอาหารฝีมือภรรยา...รึถ้าวันใด
มีสอนพวกเราจนสองสามทุ่มก็เห็นอาจารย์ทานแค่ขนมนิดหน่อย
บอกว่่าจะเก็บท้องไว้ทานกับข้าวของภรรยาที่บ้าน สงสัยคงรอแย่แล้วแน่ๆ
พวกเราก็เลยต้องรีบเคลียร์งานกันใหญ่...เพื่อนๆเองก็นานๆจะออกไปทานข้าว
นอกบ้านกัน...ปกติเขาจะกลับไปทานข้าวที่บ้านกันนะคะ
เหมือนเป็นสูตรตายตัวของคนที่นี่เลยค่ะ...บางครั้งเลยแอบคิดว่าคนญี่ปุ่นขี้งก
แต่จริงๆเขาประหยัดค่ะ เพราะเวลาเลี้ยงใครแล้ว เขาก็สุดๆนะคะ

ทั้งอาจารย์ทั้งเพื่อนๆมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่่า การพกปิ่นโตมาจากบ้านนั้นสะดวก
ถึงเวลาเลิกเรียนหรือเลิกงานก็ทานได้ที่นั่นเลย ไม่ต้องวิ่งหาร้านอาหาร
ไม่ต้องรออาหารมาเสิร์ฟ...ไม่ต้องเสียค่าน้ำมันรถและไม่ต้องผิดหวัง
กับรสชาติอาหาร...เพราะทานของที่บ้านมาตั้งแต่เด็กก็เลยถูกปาก...
ปิ่นโตหรือเบ็นโตะของเขาจะออกแบบรูปทรงแปลกตา น่ารักๆแถมยังน่าพกด้วยค่ะ
ซึ่งจริงๆแล้วบ้านเราเองก็มีสิ่งนี้มาก่อน อย่างสมัยพ่อกับแม่ก็มีการทำปิ่นโตเช่นกัน
เพียงแต่พอเวลาผ่านไป กระแสของสังคมเลยพัดพาสิ่งดีๆเหล่านั้นให้จางหายไป
แล้วให้นิยามสิ่งเหล่านั้นใหม่ว่า ทำแล้วเชย...ล้าหลัง...ล้าสมัย...ไม่ทันโลก...

ซึ่งสำหรับคนเขียนนั้นเชื่อว่า สิ่งดีๆไม่มีคำว่าเชย อยู่ที่เราจะนำมาประยุกต์ใช้
ให้เข้ากับสมัยหรือเลือกที่จะละเลย ขว้างมันทิ้งไป...

ไม่แน่ว่าต่อไปในอนาคต...อาจจะไม่มีคำว่า"ประเทศนั้นประเทศนี้อีกแล้วก็ได้"
เพราะปัจจุบันเกิดการผสมผสานกันระหว่างกลุ่มชน เชื้อชาติ และวัฒนธรรมกัน
จนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน...มนุษย์พูดได้หลายภาษามากขึ้นทุกวัน...
ซึ่งต่อไปอาจจะเหลือแค่วัฒนธรรมเป็นจุดเด่นๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวท่่านั้น
วัฒนธรรมที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่ร่น และร่วมใจกันสืบทอดต่อไปอย่างเคร่งครัด
และเป็นระเบียบ ไม่เอนไหวตามกระแสนิยม...ซึ่งอาจจะเหลือแค่ไม่กี่วัฒนธรรม
และหลักการปฏิบัติเท่านั้น...ซึ่งคนเขียนเชื่อหมดใจว่่าอัลอิสลาม
จะต้องกลับมายิ่งใหญ่อย่างแน่นอนโดยมิต้องสงสัยเลยล่ะค่ะ...

นั่นคือหนึ่งในมุมมองของคนเขียนเท่านั้นเองค่ะ...
ผิดพลาดประการใด โปรดชี้แนะด้วยนะคะ...

ร่ายซะยาวอีกตามเคย...อิอิ... ;D

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^_____________^
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ก.ย. 20, 2009, 03:07 PM »
0
 salam

ชอบเวลาที่ก๊ะโด่โด่พิมพ์มาจัง

มันได้อรรถรสดี

คราวหน้ามีอะไร มาเล่าให้ฟังอีกนะคะ

ชอบๆ loveit: loveit: loveit:

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ก.ย. 20, 2009, 10:59 PM »
0
salam

ชอบเวลาที่ก๊ะโด่โด่พิมพ์มาจัง

มันได้อรรถรสดี

คราวหน้ามีอะไร มาเล่าให้ฟังอีกนะคะ

ชอบๆ loveit: loveit: loveit:

 salam

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณแมวน้อย... loveit:

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^____________^
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: สมาคมสามีบ้าอำนาจ!
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ก.ย. 20, 2009, 11:26 PM »
0
^
^
^
^
^
ยินดีเช่นกันเป็นอย่างยิ่งเลยค่าาา

loveit: loveit: loveit: loveit:

 

GoogleTagged