อิหม่านจริง อิหม่านปลอม

[قطوف من أزاهير النور]

ถ้าเป็นตาม อาจารย์ท่านว่า
ก็ ..
นั่งมอง ยิวมันเข้าเส้นชัยแล้วกาน :'(

[นูรุ้ลอิสลาม]

       ผมได้ยินท่านอาจารย์ อรุณ บุญชม ได้กล่าวไว้ประมาณว่า"อาจารย์แต่ละรุ่นก็เหมือนนักกีฬาวิ่งพลัด อาจารย์แต่ละท่าน

ตั้งแต่สมัยซอฮาบะห์ ตาบีอีน ตาบิอิดตาบิอีน และหมู่ชนสะลัฟ มีจุดประสงค์เดียวกัน คือ ต้องการจะพาให้ทุกๆคนไปถึงเส้นชัย

เหมือนกัน แต่อาจารย์บ้านเรากลับชอบที่จะถกเถียงใจในสนามแข่ง ถกเถียงกันในเรื่องคิลาฟิยะที่มีมาเป็นพันๆปีแล้ว เอา

มาใส่ร้ายกัน ประณามกัน จนทำให้ก่อเกิดปัญหาและช่องว่างให้ฝ่ายอื่นเค้าโจมตี และ หาโอกาสที่จะสวมรอยเราโดยพวก

คริสเตรียนและพวกลัทธิบิดเบื้อนศาสนา"
       
       ผมได้ฟังแล้วก็เห็นด้วยกะท่านเป็นอย่ายิ่ง...

ปล.ทุกๆตัวอักษรอาจจะไม่เหมือนที่ท่านอาจารย์ อรุณ บุญชม พูดทุกคำ แต่ใจความประมาณนี้จริงๆครับ

ในเมืองไทย อ.อรุณ บุญชม เป็นอาจารย์ท่านหนึ่งในดวงใจของผมครับ

[read]

อีหม่ามของคนๆ หนึ่ง จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้ ตามแต่พลังของความศรัทธาที่มีในตัวตนของแต่ละคน

ไม่มีมนุษยคนใด ที่มีอีหม่ามสมบูรณ์  100 % เพราะถ้าใครคิดเช่นนี้ ก็หมายถึงคนๆ นั้นกำลังพาตัวเทียบชั้นกับศาสดา แต่มุสลิมทุกคน จะต้องพยายามพาตัวเอง ให้อยู่ในทางของอีหม่าน ให้มากที่สุด เท่าที่สามารถทำได้ สำหรับมุสลิม ไม่มีคำว่า "อีหม่านปลอม" หรือ "อีหม่านจริง" มีแต่อีหม่านมากขึ้น หรือลดลงเท่านั้นเอง

โดยนัยแห่งถ้อยคำ "อีหม่านปลอม"  ก็หมายถึง คนที่ไม่ได้ศรัทธาในอิสลามอย่างแท้จริง
แล้วถ้าอย่างนี้ ก็หมายถึง คนที่เราพาดพิงถึง ไม่ไช่อิสลามแล้วไช่หรือไม่ ?

ผมคิดว่านี้คือ คำกล่าวหาที่รุนแรงที่สุด เท่าที่พบเจอในเวบนี้  และเป็นถ้อยคำที่ผมตกใจที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้

แต่ก็นั้นแหละ มนุษย์เรามีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนมาก ในเวบ ฯ บางคนไม่ได้มีแค่ 1 ชื่อ และใน 1 ชื่อ ก็ยังมีหลายบุคลิก
แต่มนุษย์ที่ดีที่สุด ก็คือมนุษย์ที่มุ่งทำความรู้จักตนเอง มุ่งปรับปรุงพัฒนาตนเอง ให้อยู่ในทางที่ถูกต้อง มากกว่าการมุ่งโจมตีหรือให้ร้ายผู้อื่น

ผมทำงานเกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชน มาเกือบ  10 ปี  เกี่ยวข้องกับคนมาโดยตลอด แต่ยังไม่ปรากฎแม้ซักคนเดียว ที่ชอบพูดอ้างความดีใส่ตัว
และชอบโจมตีใส่ร้ายผู้อื่น เขาจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาทำ หากแต่นั้นคือคนที่จะต้องระมัดระวังในการติดต่อปฎิสัมพันธ์ให้มากที่

ก่อนหน้านี้ มีคนๆ หนึ่ง ส่งอีเมลมาถึงผม โดยลงทะเบียนในอีเมล  ว่า   abdulaziz binbaz
เขียนมายาวเหยียด แต่ผมต้องอ่านหลายครั้งหลายรอบกว่าที่จะเข้าใจ ในเนื้อหาซึ่งมีเพียงแค่นิดเดียว
บอกว่าผมผิด แต่ไม่ยักกะบอกว่า อะไรที่ผมผิด
บอกว่าเขา (ผู้ส่งเมล) สามารถทำทำให้ผมเปลี่ยนแปลงได้ แต่มีข้อแม้ว่าผมต้องไม่มีอคติ นั้นก็หมายความว่า ผมต้องตามเขา หากไม่ตามหมายถึงผมมีอคติ
บอกว่าผมอย่าตามสังคม มากกว่าตามหลักการศาสนา แต่ไม่ยักกะบอกว่า อะไรที่ผมเอาสังคมมากกว่าเรื่องศาสนา

เขาทำตัวเหมือนรู้เรื่องของผมทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันเลย

เนื้อหาในเมลที่ส่งมาก ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมตกอยู่ในฐานะของเด็กอนุบาล เขา คือผู้ทรงความรู้ ที่ผมต้องต้อยๆ ตามเขา

สำหรับผม ถ้าผมผิดอะไรก็บอกได้เลย บอกถึงความผิดพลาดของผมในที่สาธารณะอย่างนี้เลยก็ได้
และผมก็จะใช้เวทีสาธารณะสารภาพผิดของตนเอง โดยไม่รู้สึกลำบากใจใดๆ ทั้งสิ้น

การพยายามผลักใส ให้มุสลิม ไม่เป็นมุสลิม หรือบกพร่องในอีหม่าน ทำให้ทิ้งอิสลามไปจริงๆ นั้นมีปรากฏแล้ว
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงา  ด้านหนึ่งของหมู่บ้านมีมุสลิม แต่ด้านหนึ่งเดิมเป็นมุสลิม แต่ปัจจุปันไม่ไช่แล้ว
(ปัจจุบันมีประชากรมากขึ้น ก็แยกเป็น 2 หมู่บ้าน)   ผู้ใหญ่เล่าว่า เหตุที่อีกหมู่บ้านหนึ่งไม่เป็นมุสลิม เพราะคนรุ่นพ่อ
ของหมู่บ้านนั้น ทะเลาะในเรื่องศาสนา กับคนในอีกกลุ่มหนึ่ง  หลังจาก ทั้ง 2 ฝ่าย ก็ไม่มีปฎิสัมพันธ์ใด ๆ กันอีกเลย
รุ่นพ่อทำตามหลักการศาสนา (ตามความเข้าใจของตนเองบ้าง) แต่เมื่อรุ่นลูก ไม่มีปฎิสัมพันธ์กับมุสลิมด้วยกันไม่ได้
ก็ไปมีสัมพันธ์ กับคนเสีย  ผู้เป็นพ่อก็ได้บอกกล่าวเรื่องศาสนากับลูกบ้าง  แต่เมื่อพ่อเสียไป ลูกก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องศาสนาอีก
ไปแต่งงานกับคนต่างศาสนิก สุดท้ายก็ไม่มีเหลือความเป็นมุสลิมอยู่เลย

ตัวอย่างที่ 2 เพื่อนร่วมงานของผม เคร่งครัดในศาสนามาก (ในแบบของเขา) ในหมู่บ้านที่เขาต้องแยกมัสยิด เพราะมัสยิดเดิมที่มีอยู่เขาว่าเป็น ชาวนรก
แต่ในครอบครัวของเพื่อนผมคนนั้นเละเทะมาก ลูกที่มีอยู่หนึ่งคนเติบโตเป็นวัยรุ่นที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่เคยเห็นละหมาด
และล่าสุดก็ไปท้องกับคนต่างศาสนิก ถูกบังคับให้แต่งงาน ตอนนี้ลูกคลอดออกมาแล้ว
ประเด็นก็คือ วัยรุ่นคนนี้ แม้พ่อแม่ดูท่าจะเคร่งครัด แต่ลูกเละเทะ วันนี้ได้หลาน อะไรจะเกิดขึ้นกับหลานในอนาคต ผู้อ่านคงต้องใช้ดุลยพินิจเอาเอง
เพราะแม้แต่ลูกก็ไม่สนใจศาสนาแล้ว

[read]

 :mashallah: :mashallah: :mashallah:

"

โดยนัยแห่งถ้อยคำ "อีหม่านปลอม"  ก็หมายถึง คนที่ไม่ได้ศรัทธาในอิสลามอย่างแท้จริง
แล้วถ้าอย่างนี้ ก็หมายถึง คนที่เราพาดพิงถึง ไม่ไช่อิสลามแล้วไช่หรือไม่ ?

"

ไม่ใช่อิสลาม ??

:wassalam:

[read]

การพยายามผลักใส ให้มุสลิม ไม่เป็นมุสลิม หรือบกพร่องในอีหม่าน ทำให้ทิ้งอิสลามไปจริงๆ นั้นมีปรากฏแล้ว
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงา  ด้านหนึ่งของหมู่บ้านมีมุสลิม แต่ด้านหนึ่งเดิมเป็นมุสลิม แต่ปัจจุปันไม่ไช่แล้ว
(ปัจจุบันมีประชากรมากขึ้น ก็แยกเป็น 2 หมู่บ้าน)   ผู้ใหญ่เล่าว่า เหตุที่อีกหมู่บ้านหนึ่งไม่เป็นมุสลิม เพราะคนรุ่นพ่อ
ของหมู่บ้านนั้น ทะเลาะในเรื่องศาสนา กับคนในอีกกลุ่มหนึ่ง  หลังจาก ทั้ง 2 ฝ่าย ก็ไม่มีปฎิสัมพันธ์ใด ๆ กันอีกเลย
รุ่นพ่อทำตามหลักการศาสนา (ตามความเข้าใจของตนเองบ้าง) แต่เมื่อรุ่นลูก ไม่มีปฎิสัมพันธ์กับมุสลิมด้วยกันไม่ได้
ก็ไปมีสัมพันธ์ กับคนเสีย  ผู้เป็นพ่อก็ได้บอกกล่าวเรื่องศาสนากับลูกบ้าง  แต่เมื่อพ่อเสียไป ลูกก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องศาสนาอีก
ไปแต่งงานกับคนต่างศาสนิก สุดท้ายก็ไม่มีเหลือความเป็นมุสลิมอยู่เลย

ตัวอย่างที่ 2 เพื่อนร่วมงานของผม เคร่งครัดในศาสนามาก (ในแบบของเขา) ในหมู่บ้านที่เขาต้องแยกมัสยิด เพราะมัสยิดเดิมที่มีอยู่เขาว่าเป็น ชาวนรก
แต่ในครอบครัวของเพื่อนผมคนนั้นเละเทะมาก ลูกที่มีอยู่หนึ่งคนเติบโตเป็นวัยรุ่นที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่เคยเห็นละหมาด
และล่าสุดก็ไปท้องกับคนต่างศาสนิก ถูกบังคับให้แต่งงาน ตอนนี้ลูกคลอดออกมาแล้ว

กระบี่...คลองหินเมือง   มี 1 มัสยิด <<< มสยิดนี้ชาวบ้านไม่เรียกว่าไร  เรียกว่า มัสยิดคลองหินมานานแล้ว
กระบี่...คลองหินเมือง   มีอีก 1 มัสยิด  (ห่างออกไปประมาณ 1 กม.) <<< มัสยิดนี้ ชาวบ้านเรียกว่าของคณะใหม่ 

อ่าวนาง...กระบี่  ร้อยละ 70 ของพื้นที่ เจ้าของคือ มุสลิม
แต่ตอนนี้ พื้นที่ ที่ว่า ได้เปลี่ยนเจ้าของและแปรสภาพาจกสวนยาง จากชายหาดเงียบสงบไปเป็นบังกะโล เป็นเทคเป็นอะไรไประดับหนึ่งแล้ว
มุสลิมบางท่านในอ่าวนางเองก็หันมาทำบังกะโลด้วย แต่ไป ๆ ก็พ่ายการตลาดของกาเฟรที่เหนือชั้นกว่า
ที่ยังคงอยู่ตอนนี้ก็เห็นจะเป็น "คัชชิว นัท (Cachew Nut)" <<< โฆษณา ให้เลยนะเนี่ย  บังกะโลมุสลิม ใกล้อ่าวนาง 

แต่เรื่องทะเลาะกันแบบที่บัง Daud ยังไม่เคยเห็นชัด ๆ สักที (หมายถึงที่กระบี่นะ ไม่ใช่ในบอร์ด อิอิ)

 :wassalam:

[read]

พี่น้องครับไม่ว่าพี่น้องจะอยู่สายไหน ผมว่าอีหม่านจริงกันทั้งนั้น ยึดมั่นถือมั่นอยู่กับอิสลาม แต่ประเด็นไม่ได้อยู่กับเรื่องอีหม่าน และอาจจะตั้งชื่อกระทู้ผิด ประเด็นที่พี่น้องตั้งมาคือประมาณว่าเรื่องที่อยู่ในหนังสือนั้น ขาดหลักฐานและหมินเหม่กับหลักการอิสลาม ฉนั้นทางที่ดีผมว่าพี่น้องที่อยู่สายตับลีฆ (แบ่งสายแบบนี้ไม่รู้ถูกหรือป่าวทำให้แตกแยกป่าวเนี้ยแต่ผมไม่มีสาย) ก็อธิบายเรื่องราว ว่าเป็นมาอย่งไร ผมก็อยากทราบเหมือนกัน ใจเย็นๆครับ พี่น้องกันทั้งนั้น
http://www.mureed.com/article/Apologize.htm
                                                                                           :wassalam:

[read]

^
^
^

จริงๆ มียูเซอร์ ชื่อ การ์ฟิล ตอบๆอยู่ค่ะ แต่เค้ายังตอบไม่เสร็จ
เพราะถ้าจะให้ตอบจริงๆ คงต้องให้เวลา
รอหน่อยนึง เพราะซันไชน์ ก็อ่านๆอยู่เหมือนกัน

ลองหาอ่านจากกระทู้นี้นะค่ะ...

ดะอฺวะฮฺ กับ ญามาอะห์ตับลีฆ ต่างกันยังไงครับ (กลางๆ ท้ายๆ..)
    
เมาลานาอิลยาซ , ซูฟีย์ และตับลีฆญะมาอัต

เค้าคงเอามาลงเรื่อยๆ ...

[read]

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=98.0

بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

การเล่าเรื่องราว( قصة )ของบรรดาผู้มีคุณธรรมนั้น  เพื่อเป็นอุทาหรณ์และคติเตือนใจ ( موعظة ) ไม่เป็นสิ่งที่ต้องห้ามในศาสนา   เช่นหนังสือ (กิตาบอัตเตาวาบีน)  كتاب التوابين  ของท่านอิมาม อิบนุ กุดามะฮ์ ,  หนังสือ (กิตาบอัตเตาวาบีน) كتاب التوابين  ของท่าน อิมามอิบนุ อัลเญาซีย์  ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ จากการเตาบะฮ์ของผู้มีคุณธรรมเพื่อมีเป็นคติเตือนใจ  ,  หนังสือ (บุสตานุอาริฟีน) بستان العارفين  ของท่านอิมาม อันนะวาวีย์  ก็มีเรื่องเล่าของปราชญ์ซูฟีย์ผู้มีคุณธรรม  เพื่อเป็นคติและแบบอย่างในการมุ่งทำอิบาดะฮ์และมุ่งบำบัดจิตใจโดยกลับไปสู่อัลเลาะฮ์ ตะอาลา  , หนังสือ (ตัซกิเราะฮ์ อัลเมาตา) تذكرة الموتى  ของท่าน อิมามอัลกุรฏุบีย์  ก็มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวความตาย เพื่อเป็นคติเตือนใจ  โดยไม่มีนักปราชญ์แห่งโลกอิสลามท่านใดให้การตำหนิและโจมตีบรรดาหนังสือดังกล่าวเหล่านั้น

แต่ในทางตรงกันข้าม  หากเราได้อ่านและศึกษาหนังสือ (อิจญฺมาอ์ อัลญุยูช อัลอิสลามียะฮ์) إجتماع الجيوش الإسلامية  ของท่านอิบนุก๊อยยิม  ที่พยายามกล่าวยืนยันเรื่อง อะกีดะฮ์ที่ว่า "อัลเลาะฮ์ทรงนั่งอยู่บนบัลลังก์"  โดยหนังสือเล่มดังกล่าว  มีหะดิษเมาฏั๊วะ(หะดิษกุ)มากมาย  มีการอ้างสนับสนุนทัศนะของอุลามาอ์โดยมีสายรายงานที่ฏออีฟและเมาฏั๊วะมากมายเช่นกันในการยืนยันหลักอะกีดะฮ์ความเชื่อดังกล่าว  แต่ทำไมผู้รู้วะฮาบีย์เมืองไทยบางท่านนำตำราดังกล่าวมาอ้าง  โดยสนับสนุนการโจมตีหนังสือที่มีเรื่องเล่าของปราชญ์ผู้มีคุณธรรมเพื่อเป็นอุทาหรณ์และคติเตือนใจ 
 
والله أعلى وأعلم

[read]

พี่น้องครับไม่ว่าพี่น้องจะอยู่สายไหน ผมว่าอีหม่านจริงกันทั้งนั้น ยึดมั่นถือมั่นอยู่กับอิสลาม แต่ประเด็นไม่ได้อยู่กับเรื่องอีหม่าน และอาจจะตั้งชื่อกระทู้ผิด ประเด็นที่พี่น้องตั้งมาคือประมาณว่าเรื่องที่อยู่ในหนังสือนั้น ขาดหลักฐานและหมินเหม่กับหลักการอิสลาม ฉนั้นทางที่ดีผมว่าพี่น้องที่อยู่สายตับลีฆ (แบ่งสายแบบนี้ไม่รู้ถูกหรือป่าวทำให้แตกแยกป่าวเนี้ยแต่ผมไม่มีสาย) ก็อธิบายเรื่องราว ว่าเป็นมาอย่งไร ผมก็อยากทราบเหมือนกัน ใจเย็นๆครับ พี่น้องกันทั้งนั้น
http://www.mureed.com/article/Apologize.htm
                                                                                           :wassalam:

ที่อาจารย์ของท่านเขียนลงในเวปนั้น  เป็นการกล่าวร้ายหนังสือฟาฏออีลอามาล และมีบางตอนที่เขาเขียนนั้นไ  ม่เป็นความจริง   เช่น บางทีก็มีการอ้างว่าคน อิหม่านบางคนได้รับความรู้ที่เป็นสิ่งเร้นลับที่พ้นญาณวิสัยของมนุษย์ บางที่ก็อ้างกันว่าท่านศาสดาได้ลงมาจากฟากฟ้าหลังจากที่ท่านได้ตายไปแล้ว และในบางที่จากหนังสือเล่มนี้ก็มีการกล่าวอ้างกันว่ามือของท่านศาสดาได้โผล่ออกมาจากกุบูร์ ในขนาดที่บางที่ก็มีการอ้างว่าบรรดาหัวหน้าของตับลีฆญะมาอัตได้ยินเสียงตอบรับสลามของท่านศาสดาหลังจากที่พวกเขาได้ให้สลาม เนื่องจากตอนนี้คุณรู้แล้วว่า มีความเชื่ออันนอกลู่นอกทางในหนังสือเล่มนี้ ท่านยังจะคงขายหนังสือเล่มนี้ต่อไปหรือไม่ในหนังสือต่างๆที่ท่านได้เคยจัดพิมพ์?    และยังมีในข้ออื่นๆอีก...
(จากข้อความที่เป็นสีแดงขีด)
               ท่านเคยเจอในหนังสือฟาฏออีลอามาลไหม หรือใครเคยในหนังสือดังกล่าวช่วยบอกผมที่   
               และนั้นหากเป็นการใส่ร้ายหมายความว่า.......................?
               การใส่ร้ายผู้อื่นโดยไม่ความจริงเป็นรีบอ(ดอกเบี้ย)ที่ร้ายแรงที่สุดใช่ป่ะ.............?
              แล้วไปใส่ร้ายคนที่พยายามทำเพื่อศาสนาจะไม่ผิดอย่างมหันต์หรอกหรึ.............?
             

[read]

พี่น้องของเรา  ต้องตรวจสอบสิ่งที่ผู้โจมตีกล่าวหา นำมาเสนอแล้วล่ะครับ  มันถึงเวลาแล้ว และผู้เขียนก็ต้องถูกอัลเลาะฮ์สอบสวนในทุกตัวอักษร

[al-azhary]

พี่น้องดะวะฮ์หรือญะมาอะฮ์ตับลีฆ มีอิหม่านตามแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  เดี๋ยวนี้วะฮาบีย์บางกลุ่ม  กล้าว่า พวกเขามีอีหม่านปลอมกันแล้วหรอครับ?

[read]

"ถ้าอีหม่าน=ศรัทธา ผมว่ากลุ่มดะอฺวะฮฺคงไม่มีใครศรัทธาปลอมๆ หรอกนะครับ

ยิ่งกว่านั้นผมว่าพวกเค้ามีความศรัทธามากซะด้วย (บางทีมากกว่าพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นซุนนะฮฺ)

ที่พูดถึงอีหม่านปลอมคือหลักศรัทธาจอมปลอมที่อยู่ในเล่มเขียว เช่น ละหมาดในกุบูร หรือรู้เรื่องเร้นลับ ฯลฯ :notgood:

และอะมั้ลปลอม คือ บอกว่าทำอย่างนี้จะได้เท่านั้น ทำอย่างนั้นจะได้เท่านี้ โดยไม่มีตัวบทหลักฐานมารองรับ

เงื่อนไขที่อะมั้ลจะถูกตอบรับก็คือ เนียตดี ตรงตามแบบฉบับ (จากนบีและศอฮาบะฮฺ) และอิคลาศ

ขาดข้อใดข้อหนึ่งก็คิดเองนะครับ ว่ามันเสี่ยงมั๊ย กับการถูกปฏิเสธอะมั้ล

ถึงวันนั้นก็มีแต่ ขาดทุน ล้มละลาย  :'(

ภาษาชาวบ้านเรียก "เจ๊งโบ๊ะ" ครับ

ขอยืนยันอีกทีว่าเป็นความห่วงจริงๆ นะครับ เพราะทางรอดมีอยู่ทางเดียว" 

:wassalam:

[al-azhary]

อ้างอิงจาก Nool_Taliban

ขอยืนยันอีกทีว่าเป็นความห่วงจริงๆ นะครับ เพราะทางรอดมีอยู่ทางเดียว

วิจารณ์

ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า  ทางเดียว  ที่เขาว่าเนี่ย มันทางของใคร? วะฮาบีย์หรือว่าแนวทางใหน?

[al-azhary]

เราสมควรเป็น  جماعة التبليغ (กลุ่มญะมาอะฮ์ตับลีฆ) แต่อย่าเป็นกลุ่ม جماعة التكفير (กลุ่มญะมาอะฮ์ตักฟีร) คือ กลุ่มที่คอยกล่าวหาแนวทางอื่นว่า ไม่มีอีหม่าน , มีอีหม่านปลอม หรือกล่าว่าหากาเฟรกับแนวทางอื่น  กลุ่ม ญะมาอะฮ์ตักฟีร นี้ คือกลุ่มวะฮาบีย์ ที่บางส่วนของชาวอียิปต์เขาเรียกกัน

[คนอยากรู้]

ทุกวันนี้การขัดแย้ง ที่เกิดขึ้น นั้นทุกคนปฏิเสธไม่ได้ แต่เท่าที่สังเกตุนั้น มัสหับของชาววะฮาบียะเมืองไทยนั้น จะเป็นต้นเหตุเกือบทุกเรื่อง
ไม่ว่า การโจมตีพี่น้องมุสลิม ชาว4มัสหับ
การดจมตีผูนำท่านจุฬา การโจมต ดาวะ ตอรีกัต ซุฟี ฯลฯ การโจมตีในประเด็นคีลาฟของแต่ละทัศนะ 

เหล่านี้ วะฮาบียะเมืองไทยนั้นเป้นตัวก่อทั้งนั้น ซึ่งถ้าผู้โจมตีเขาเป็นชีอะผมจะไม่สนใจเลย แต่นี้เขาเป็นวะฮาบีย์ซ฿.ก็คือ พี่นองมุสลิมเหมือนกันแต่การกระทำนั้นค่อนข้างจะสุดโต่งมากเกินไป..และฮุกมมุสลิมอย่างน่าเกลียด..


ทำอย่างไรดีครับคุณรีด..


ตัวอย่างที่คุณยกมาที่กระบี่กับพังงานั้นผมว่า น่าสนใจครับแต่วะฮาบียะนั้นจะเป็การเฟรคงยากครับ..

ปัญหาที่กระบี่หรือที่ไหนๆนั้น มันไม่ต่าหรอกครับ...ถ้าผู้รับทัศนะหนึ่
งไม่โจมตีปัญหาคีลาฟอีกทัศนะหนึ่งและต่างก็ให้เกียริตต่อกัน  เรื่องก็จบครับ.อิงชาอัลลอฮ์