al-azhary ท่านอิบนุหะญัร ได้กล่าวรายงานต่างๆที่มาสนับสนุนไว้ 3 สายรายงานด้วย คือ
" ท่าน อัล-หาฟิซฺ ซะอีด อัล-มันซูร ได้รายงานจากหนทางของท่าน ร่อชิด บิน สะอัด ( راشد بن سعد ) และจากหนทางของท่าน เฏาะมิเราะฮ์ บิน หะบีบ ( ضمرة بن حبيب ) และจากหนทางของท่าน หะกีม บิน อุมัยร์ ( حكيم بن عمير ) ซึ่งพวกเขากล่าวรายงานว่า
إذا سُوِّي على الميت قبره وانصرف الناس عنه، كانوا يستحبون أن يقال للميت عند قبره: (يا فلانَ قل: لا إله إلا الله. قل: أشهد أن لا إله إلا الله ثلاث مرات. قل : ربي الله، وديني الإسلام، ونبي محمد، ثم ينصرف
" เมื่อกุบุรของมัยยิด ถูกเกลี่ยกลบเรียบร้อยแล้ว และบรรดาผู้คนก็แยกย้ายกันกลับไป พวกเขา(คือบรรดาซอฮาบะฮ์) ชอบ ที่จะกล่าวแก่มัยยิด ณ ที่กุบูร ของเขา 3 ครั้งว่า โอ้ ชายผู้หนึ่ง (ที่ชื่อ.....) ท่านจงกล่าวว่า แท้จริง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะฮ์ โอ้ ชายผู้หนึ่ง (ที่ชื่อ....) ท่านจงกล่าวว่า พระผู้อภิบาลของฉัน คือ อัลเลาะฮ์ ศาสนาของฉัน คือ อิสลาม และนบีของฉัน คือ มุหัมมัด(ซ.ล.) " ( ดู หนังสือ อัต-ตัลคีศ อัล-หะบีร เล่ม 2 หน้า 136 )
ดังนั้น จากสายรายงานนี้ ย่อมชี้ให้เห็นว่า กลุ่มหนึ่งจากบรรดาซอฮาบะฮ์ ก็ได้ทำการอ่านตัลกีน ท่าน อัช-ชากานีย์กล่าวว่า " ร่องรอยที่ถูกรายงานนี้ มาจากท่าน ร่อชิด ท่านเฏาะมิเราะฮ์ และท่านหะกีม ซึ่งท่านอัล-หาฟิซฺ อิบนุ หะญัรได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัต-ตัลคีศ โดยที่ท่านอิบนุหะญัร ได้นิ่งจาก(การวิจารณ์)มัน" ( ดู หนังสือ นัยลุลเอาฏ๊อร เล่ม 4 หน้า 106)
เราขอกล่าวว่า ท่าน ชัยค์ ซฺ่อฟัร อัล-อุษมานีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัล-เกาะวาอิด ของท่าน เกี่ยวกับกับบรรดาหะดิษที่รายงานเพิ่มขึ้นมา โดยที่ท่านอิบนุหะญัรนิ่งจากการวิจารณ์มัน ในหนังสือ ฟัตหุลบารีย์ว่า มันเป็นการหุกุ่มว่าหะดิษเหล่านั้น ซอฮิหฺ หรือ หะซัน ตามทัศนะของท่านอิบนุหะญัร และท่านชัยค์ ซฺ่อฟัร อัล-อุษมานีย์กล่าวต่อไปว่า " เช่นเดียวกันนี้ (คือเป็นหะดิษที่ ซอฮิหฺ หรือ หะซัน) การนิ่งจากการวิจารณ์ของท่าน อัล-หาฟิซฺ อิบนุ หะญัร จากหะดิษใดหะดิษหนึ่ง ที่อยู่ในหนังสือ อัต-ตัลคีศ อัล-หะบีร คือเป็นหลักฐานที่ชี้ว่า หะดิษนั้น ซอฮิหฺ หรือ หะซัน เพราะแท้จริง ท่านอัช-เชากานีย์ (ร.ฮ.) นั้น บางครั้งท่านได้ทำการอ้างหลักฐาน (หะดิษ) ด้วย (หะดิษ) ที่ท่านอิบนุหะญัรนิ่ง (จากการวิจารณ์) ที่อยู่ในหนังสือ อัต-ตัลคีศ ซึ่งเช่นเดียวกัน ที่ท่านอัช-เชากานีย์ ได้ทำการอ้างหลักฐาน (หะดิษ) ด้วยกับ (หะดิษ) ที่ท่านอิบนุหะญัรได้นิ่งจากการวิจารณ์ ที่อยู่ในหนังสือ ฟัตหุบารีย์ ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้ จะปรากฏชัด ด้วยการกลับไปทบทวนดูหนังสือ นัยลุลเอาฏอร " (ดู หนังสือ เกาะวาอิด ฟี อุลูม อัลหะดิษ ของท่าน ชัยค์ อัตติโานะวีย์ หน้า 90 )
หากเรากลับไปดูหนังสือ อัต-ตัลคีศ อัลหะบีร ของท่าน อิบนุหะญัร เราจะพบว่า ท่านอิบนุหะญัร ได้ทำการรายงานร่องรอยนี้ไว้ จากท่าน ร่อชิด บิน สะอัด ( راشد بن سعد ) และจากหนทางของท่าน เฏาะมิเราะฮ์ บิน หะบีบ ( ضمرة بن حبيب ) และจากหนทางของท่าน หะกีม บิน อุมัยร์ ( حكيم بن عمير )
สายรายงานแรก คือ จากท่านร่อชิด บิน สะอีด ( راشد بن سعد ) ซึ่งเป็นสายรายงานที่ ซอฮิหฺ ท่านอัซฺซฺะฮะบีย์ ได้กล่าวไว้ว่า " ท่านร่อชิด บิน สะอีด อัลญับรอนีย์ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 113) เป็นนักปราชญ์ฟิกห์ และเป็นนักหะดิษแห่งเมืองหัมซฺ ซึ่งมีนักหะดิษมากมายได้ยืนยันความเชื่อถือ ثقة ให้กับเขา เช่นท่าน อิบนุ มะอีน ท่านอบูหาติม ท่านอิบนุสะอัด และท่าน อะหฺมัด บิน หัมบัล กล่าวว่า "เขานั้นไม่เป็นไร" และท่านอิบนุหัซฺมินท่านเดียวเท่านั้นที่กล่าวว่า "เขาฏออีฟ" ซึ่งคำกล่าวของท่านอิบนุหัซมินนี้ เป็นส่วนหนึ่งจากคำพูดของเขาที่ถูกปฏิเสธ และท่านอัตดารุกุฏนีย์ กล่าวว่า " เขานั้นไม่เป็นไร โดยที่เขานั้น ถูกนำมาพิจารณาได้ " ( ดู ซิยัร อะลาม อันนุบะลาอ์ เล่ม 5 หน้า 390 )
สายรายงานที่ 2 จากท่าน เฏาะมิเราะฮ์ บิน หะบีบ ( ضمرة بن حبيب ) ซึ่งท่านอิบนุหะญัรกล่าวว่า " เขานั้น ثقة เชื่อถือได้ และเป็นนักรายงานระดับชั้นที่ 4 " (ดู หนังสือ ตักรีบ อัตตะฮ์ซีบ เล่ม 1 หน้า 374 )
สายรายงานที่ 3 จากท่าน หะกีม บิน อุมัยร์ ( حكيم بن عمير ) ท่านอิบนุ หะญัร กล่าวว่า "ศ่อดูก" ( ดู หนังสือ ตักรีบ อัตตะฮ์ซีบ)
จากสิ่งที่ผมได้นำเสนอมานั้น หากเรายึดจากสายรายงานจากท่าน อัฏเฏาะมิเราะฮ์ บิน หะบีบ และรอชิด บิน สะอัด ถือเพียงพอแล้ว
สิ่งที่ผมได้นำเสนอมานั้น หากเรายึดสายรายงานจากท่าน เฏาะมิเราะฮ์ บิน หะบีบ และท่าน ร่อชิด บิน สะอัด ถือเพียงพอแล้ว สำหรับการไปสนับสนุนหะดิษของท่านอบีอุมามะฮ์ (ร.ฏ.) ดังนั้น การที่ท่านอิบนุหะญัร(ร.ฏ.) นิ่งเฉยจากการวิจารณ์ร่องรอยต่างๆทั้ง 3 รายงานนี้ เพราะมันซอฮิหฺ หรืออย่างน้อยสุดก็ หะซัน ส่วนสายรายงานของท่าน หะกีม บิน อุมัยร์ นั้น ย่อมไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจาก มีอีกสองรายงานที่เหลืออีกมาสนับสนุนและยกระดับให้เป็น สายรายงานที่ หะซัน
วิจารณ์
รายงานที่ซอฮิหฺที่ชี้การกระทำของซอฮาบะฮ์ แต่บังอะสันไม่สนครับ แต่พอคำพูดของท่านอิบนุมัสอูดเป็นซอฮาบะฮ์ที่ไม่ซอฮิหฺ บังอะสันก็พยายามดันทุรัง จะให้ซอฮิหฺให้ได้ เพื่ออะไรครับท่านผู้อ่าน ก็เพื่อวะฮาบีย์จะได้หุกุ่มพี่น้องมุสลิมว่าทำบิดอะฮ์ต่อไป แต่สายรายงานเรื่องตัลกีนถึงซอฮาบะฮ์ที่ซอฮิหฺ บังอะสันไม่สนครับ เพราะอะไรครับท่นผู้อ่าน ก็เพื่อวะฮาบีย์จะได้หุกุ่มพี่น้องมุสลิมว่าทำบิดอะฮ์อีกนั่นแหละครับ
ผมอยากกล่าวนำคำกล่าวของ ท่านอิบนุกัยยิม มากล่าวเสริมเกี่ยวกับเรื่องตัลกีน ว่า ท่านเองก็ยอมรับในเรื่องดังกล่าวนี้ ท่านอิบนุก๊อยยิมกล่าวว่า
فهذا الحديث إن لم يثبت فاتصال العمل به فى سائر الأمصار والأعصار من غير نكير فى العمل به
" หะดิษนี้ (คือหะดิษของท่าน อบูอุมามะฮ์) ไม่ได้รับการยืนยันว่า ซอฮิหฺ แต่การอ่านตัลกีนนั้น ได้มีการปฏิบัติต่อเนื่องกันมาในทุกยุคทุกสมัยโดยไม่มีผู้ใดตำหนิ ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วในการปฏิบัติด้วยกันมัน " (ดู หนังสือ อัร-รั๊วะหฺ หน้า 39 ของท่านอิบนุ ก๊อยยิม )
ท่านอิบนุก๊อยยิมกล่าวอีกว่า
ويدل على هذا أيضا ما جرى عليه عمل الناس قديما والى الان من تلقين الميت فى قبره ولولا أنه يسمع ذلك وينتفع به لم يكن فيه فائدة وكان عبثا وقد سئل عنه الإمام أحمد رحمه الله تعالى فاستحبه واحتج عليه بالعمل
" และชี้ถึงการ (อนุญาติให้อ่านตัลกีน) นี้เช่นกัน คือสิ่งที่บรรดานักปราชญ์ได้ดำเนินกระทำการปฏิบัติกันมาตั้งแต่ยุคก่อน จนถึงปัจจุบัน ในการอ่านตัลกีนมัยยิด และหากว่า มัยยิดไม่ได้ยิน(ตัลกีน) ดังกล่าว หรือไม่ได้รับประโยชน์จากมัน ก็ย่อมไม่มีผลประโยชน์อันใดและย่อมเป็นสิ่งที่ไร้สาระ และท่านอิมามอะหฺมัด(ร.ฏ.) ได้ถูกถามได้เคยถูกถามเกี่ยวกับตัลกีน ดังนั้น (ท่านอิมามอะหฺมัดตอบว่า) มันเป็นสิ่งที่ดี และท่านได้อ้างหลักฐานต่อหะดิษดังกล่าว โดยนำมาปฏิบัติด้วยกับมัน " (ดู หนังสือ อัร-รั๊วะหฺ หน้า 38 )
http://www.miftahcairo.com/webboard.php?option=answers&qNo=153&kword=ดังนั้น คำพูดต่อไปนี้ ก็จะไม่ผิดและไม่เป็นการกล่าวหาวะฮาบีย์อีกต่อไปแล้ว
อัล-อัซฮะรีย์ ขอกล่าวว่า
ปัจจุบัน มีกลุ่มหนึ่ง ที่เรียกว่ากลุ่มวะฮาบีย์ ได้ทำให้ฐานะของ หะดิษฏออีฟ อยู่ในตำแหน่งเดียวกับ หะดิษเมาฏั๊วะ แล้วทำการฮุกุ่มบิดอะฮ์ลุ่มหลงและทุกบิดอะฮ์ที่ลุ่มหลงนั้น อยู่ในไฟนรก กับบรรดาพี่น้องมุสลิมีนที่มีทัศนะในการกระทำความงามความดีด้วยกับหะดิษฏออีฟ?! ซุบหานัลลอฮ์!!!