ผู้เขียน หัวข้อ: ภาพถ่ายความร้อน สิ่งบันทึกที่มัดตัวคุณ - โดยเมาลานา วาฮิดุดดีน คาน  (อ่าน 3063 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด

อัสสลามุ อลัยกุม

             นี่เป็นส่วนหนึ่งจากเนื้อหาของหนังสือ "God Arises : Evidence of God in Nature and Science" ซึ่งเขียนโดย Maulana Wahiduddin Khan  (The Islamic Centre 1, Nizamuddin West Market, New Delhi-110013, India) ซึ่งเป็นส่วนที่ต่อจากกระทู้เรื่อง "การจับเสียงจากยุคโบราณ" โดยเมาลานา วาฮิดุดดีน คาน" เพื่อเป็นยืนยันว่า แม้แต่การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ก็ยังยืนยันว่า ทุกการกระทำของมนุษย์ล้วนถูกบันทึกในจักวาลแห่งนี้ ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญในการมัดตัวผู้กระทำให้ยอมจำนนต่อสิ่งที่ตนขนขวายไว้             
             ขออัลลอฮฺทรงประทานอีมานที่เพิ่มพูนแก่พี่น้องทั้งหลายรวมทั้งผมและครอบครัวผมด้วย - อามีนยาร็อบ

วัสสลามุ อลัยกุม

               หมายเหตุ : อ่านเนื้อหาก่อนหน้านี้ เรื่อง "การจับเสียงจากยุคโบราณ" โดยเมาลานา วาฮิดุดดีน คาน" ได้ที่ http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=3615.msg27719;topicseen#new แล้วต่อด้วยเนื้อหาข้างล่างนี้
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
ภาพถ่ายความร้อน

                   ในตอนที่อดีตนายกรัฐมนตรีของอิหร่านได้ถูกกักกันตัวไว้นั้น เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องบันทึกเสียงมาแอบซ่อนไว้ในห้องของเขาเพื่อบันทึกถ้อยคำที่เขาพูดออกมา เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานมัดตัวเขาในศาล ในทำนองเดียวกัน มลาอิก๊ะฮฺที่มองไม่เห็นของพระเจ้าซึ่งเฝ้าติดตามมนุษย์ทุกคนบนผิวโลกนี้ก็กำลังบันทึกความคิด คำพูดและการกระทำของเขาไว้บนแผ่นบันทึกในจักรวาลอย่างครบถ้วนถูกต้องและไม่ผิดพลาด
               
               การกระทำของเราถูกบันทึกไว้อย่างไร? การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นอย่างน่าประหลาดใจว่าการกระทำของเราทุกอย่าง ไม่ว่าจะในที่ลับหรือในที่แจ้ง ในความสว่างหรือในความมืดจะอยู่ในบรรยากาศในรูปของภาพถ่าย ภาพถ่ายเหล่านี้อาจจะถูกนำใช้เมื่อใดก็ได้ เพื่อเปิดเผยความลับในส่วนลึกที่สุดของชีวิตทั้งหมด
การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่าวัตถุทุกอย่างจะปล่อยคลื่นความร้อนของมันออกมาอย่างต่อเนื่อง (ถ้าหากว่าบริเวณโดยรอบมีอุณหภูมิต่ำ) ไม่ว่ามันจะเป็นในความมืดหรือในแสงสว่าง ในขณะเคลื่อนไหวหรือในเวลาพักผ่อน ตัวอย่างเช่น สมมติว่าหลังจากนั่งในห้องนี้ เขียนเรื่องนี้แล้ว ผมลุกขึ้นและออกไปจากห้อง คลื่นความร้อนที่ออกมาจากร่างกายของผมขณะที่อยู่ในห้องก็จะยังคงอยู่ที่นั่น ด้วยการใช้เครื่องวัดไปความร้อนที่ใช้กันอยู่ในอังกฤษและสหรัฐฯ ภาพถ่ายที่สมบูรณ์ของผมสามารถที่จะถูกบันทึกไว้ได้ เนื่องจากเครื่องมือนี้ทำงานโดยอาศัยรังสีอินฟราเรด ซึ่งสามารถทะลุทะลวงเข้าไปในความมืดได้ มันจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าจะถ่ายภาพในความสว่างหรือในความมืด อย่างไรก็ตาม เครื่องถ่ายภาพความร้อนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ก็มีความสามารถที่จะบันทึกคลื่นความร้อนที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

                เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ในสหรัฐฯ มีกรณีน่าสนใจเกี่ยวกับการนำเอาเครื่องถ่ายภาพความร้อนมาใช้ในการแก้ปัญหาลึกลับอย่างหนึ่ง นั้นคือ มีคนเห็นเครื่องบินลำหนึ่งซึ่งไม่แสดงตัวเองบินรอบนครนิวยอร์ก หลังจากนั้นก็หายลับไปในทันใด เจ้าหน้าที่จึงเกิดความสงสัยและได้นำเครื่องถ่ายภาพความร้อนมาใช้ถ่ายภาพ จากการศึกษาภาพที่ถ่ายได้ ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ถึงรูปแบบของเครื่องบินลำนั้น (Reader’s Digest, November, 1960)
หนังสือพิมพ์ “ฮินดูสถาน ไทมส์” ในกรุงนิวเดลี ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะสามารถดูประวัติศาสตร์ได้บนจอ และมันก็เป็นไปได้ที่ความจริงอันแปลกประหลาดจะถูกเปิดเผยออกมาเช่นเดียวกับที่มันจะมีการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดเกี่ยวกับอดีตทั้งหมดของเราอย่างขนานใหญ่

                การประดิษฐ์คิดค้นและผลของสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ แสดงให้เราเห็นว่า การกระทำของเราสามารถที่จะถูกบันทึกไว้ได้ในจักรวาล เช่นเดียวกับการแสดงของนักแสดง (ที่) ถูกบันทึกไว้บนแผ่นฟิล์มโดยกล้องถ่ายภาพยนตร์ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและคมชัด ไม่ว่าคุณจะทำร้ายใครบางคน หรือช่วยคนยากจน หรือร่วมมือกับคนชั่ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ใน (ที่) แสดงสว่าง (หรือที่มืด) เคลื่อนไหวหรือหยุดนิ่ง การกระทำของคุณทั้งหมดกำลังถูกบันทึกไว้บนจอแห่งจักรวาล นี่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทุกวินาทีของทุกนาทีของทุกชั่วโมง ไม่มีอะไรที่จะไปหยุดยั้งมันได้

                เมื่อเรื่องราวใดถูกบันทึกไว้บนแผ่นฟิล์ม มันก็สามารถถูกนำมาฉายซ้ำอีกบนจอ แม้สถานที่นั้นจะอยู่ห่างไกลมากมายเพียงใดก็ตาม ผู้คนจะเฝ้าดูมันเหมือนกับตัวเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ในทำนองเดียวกัน ภาพรายละเอียดการทำดีหรือทำชั่วของมนุษย์ทั้งหมดในโลกนี้ ก็สามารถมาฉายอยู่ต่อหน้าเขาได้ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพจนเขาเองต้องอุทานด้วยความประหลาดใจว่า “นี่มันบันทึกอะไรกันนี่! ไม่มีการกระทำอะไรของเราที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้เลย ไม่ว่าจะ (เป็น) เรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่โต (ก็ตาม)” (อัลกุรฺอาน 18 : 49)

                      จากที่กล่าวมาข้างต้น ก็เป็นที่ชัดเจนว่าบัญชีการกระทำอันครบถ้วนสมบูรณ์ของแต่ละคนกำลังถูกบันทึกไว้โดยไม่มีการขาดตกบกพร่อง ทุกความคิดที่ออกมาจาก (จิตนำสึกและ) จิตใจและทุกคำพูดที่เรากล่าวออกมาจะถูกรักษาไว้ตลอดไป เราถูกติดตามด้วย “กล้อง” โดยไม่มี (เงื่อนไขของ) ความมืดหรือแสงสว่างส่งผลกระทบ (ต่อการบันทึก) และมันยังคงบันทึกชีวิตของเราอยู่ต่อไปโดยไม่มีการสะดุดหยุดชะงัก

                 สิ่งที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับชะตากรรมของคนขับรถที่ฝ่าฝืนกฎจราจร โดยไม่รู้ว่าการเคลื่อนไหวของเขากำลังถูกเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ผู้ทำผิดประเภทนี้คนหนึ่งเป็นคนขับรถสามล้อเครื่องที่จอดรถของตัวเองไว้ในเขตห้ามจอดในเดลีในตอนต้นปี 1980 ในเวลานั้น ระบบตรวจจับนี้ยังใหม่อยู่ ดังนั้น เขาจึงไม่คิดว่าเขากำลังถูกเฝ้าดูอยู่ เมื่อเขาถูกตำรวจตักเตือน เขาพยายามที่จะเสแสร้งว่าเขาเพิ่งจะให้ผู้โดนสารลงจากรถและเขากำลังจะไปต่อ ดังนั้น ตำรวจจึงนำตัวเขาไปหาสารวัตรทันทีในห้องควบคุม ซึ่งที่นั่น การเคลื่อนไหวของเขาได้ถูกบันทึกไว้หมดตั้งแต่การจอด (โดยไม่มีผู้โดยสาร) การแวะพูดคุยกับเพื่อน และการสนทนากับตำรวจที่เขาพยายามจะปฏิเสธว่าไม่ผิด แน่นอน เมื่อเขาเห็นภาพที่ถูกบันทึกไว้ เขาก็ไม่มีอะไรมาแก้ตัวได้

                 การบันทึกทางจักรวาลก็เช่นกัน แต่มันไม่ได้ทำเป็นพักๆ (แต่) มันเป็นกระบวนการบันทึก (ที่ดำเนินอยู่) ตลอดเวลา และมันไม่ได้ (เป็น) แค่บันทึกการกระทำภายนอกของเราเท่านั้น แต่ยังบันทึกถึงสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของเราด้วย ปรากฏการณ์อันน่าทึ่งนี้สามารถอธิบายได้เพียงเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันหรือคัดค้านบุคคล ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในศาลแห่งพระเจ้าในวันแห่งการตัดสิน ตอนนี้ ถ้าหากความจริงที่เห็นอยู่ทนโท่ ยังไม่สามารถทำให้มนุษย์เชื่อว่าตัวเขาจะต้องรับผิดชอบในวันแห่งชะตากรรมนั้นแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะใช้อะไรที่ทำให้ตาของเขามองเห็นได้ (อีกแล้ว)
     
                       วัลลอฮูอะอฺลัม

วัสสลามุ อลัยกุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 20, 2008, 02:29 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
น่ากลัวนะครับ แม้แต่เครื่องมนุษย์คิดค้นกัน ยังสามารถตรวจสอบย้อนหลังถึงการกระทำบางอย่าง ณ เวลาหนึ่งๆ ในอดีตได้ และองครักษ์ของอัลลอฮฺหละ พวกเขาบันทึกไม่แต่เพียงภายนอก และพวกเขาบันทึกภายในจิตใจด้วย หลัดฐานมัดเต็มตัวรอบด้าน คงไม่มีทางแก้ตัวได้เป็นแน่ - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
อัสลามุอะลัยกุมฯ

ญาซากัลลอฮ สำหรับข้อความดีๆนะครับ

แค่การกระทำทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าผิดแค่ไหน ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
ยิ่งทางจิตใจนั้น แสนยากเย็นยิ่ง ทำอะไรด้วยความอิคลาดนั้นยากเหลือเกิน
ก็คงต้องขอดุอาอ์ เตาบัตมากๆ ครับ
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อายจังครับ หากพลาดไปทำสิ่งที่ไม่ดีเข้า ก็จะถูกบันทึกทุกช็อด แต่อัลหัมดุลิลลาฮฺ ที่อัลลอฮฺให้โอกาสเราได้เตาบัตต่อพระองค์ ความผิดบาปที่ผ่าน อาจจะได้รับการอภัยได้บ้าง ขออัลลอฮฺทรงประทานการอภัยโทษของพระองค์แก่ข้าพระองค์และบุคคลที่รู้จักข้าพระองค์ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตามเถิด อามีน ยาร็อบ - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
อ่านแล้วทำให้คิดได้หลายอย่างค่ะ...

เมื่อก่อนตอนเด็กๆยังเคยสงสัยว่า...มะลาอิกะจะบันทึกคำพูด การกระทำ
และความคิดของเราทั้งหมดได้ทันหรือ เพราะตอนนั้นรู้แค่ว่า
ตัวเองสามารถบันทึกทุกอย่างได้ด้วยความจำกับปากกาและดินสอเท่านั้นเอง
แต่พอโตมาหน่อย ก็รู้ว่า มีเครื่องบันทึกเสียง มีกล้องถ่ายภาพ
และก็ต่อมาอีก ก็มีเครื่องบันทึกเสียงพร้อมกับภาพนิ่ง
และต่อมาอีกนิดก็มีเครื่องบันทึกเสียงพร้อมๆกับภาพเคลื่อนไหว
และต่อมาอีกก็มีเครื่องบันทึกพลังงานความร้อน
จึงทำให้รู้มาเร่ื่อยๆว่า การบันทึกนั้นไม่ได้จำกัดแค่ด้วยกับความจำกับปากกา
และดินสอของเราเสียแล้ว และการบันทึกก็ดูจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
และเร็วขึ้นเรื่อยๆ...
จากที่เคยแค่เขียนก็มีการพิมพ์ดีด จากพิมพ์ดีดก็มีการพิมพ์ลงบนคอมพิวเตอร์
สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้...

เมื่อโตมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เลยไม่สงสัยในการบันทึกของมาละอีกะอีกแล้ว
เพราะเราได้เรียนรู้มาว่า มาละอิกะถูกสร้างมาจากแสง
และแสงนั้นมีคุณสมบัติที่เที่ยงตรง เทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้น
และการที่เครื่องมือต่างๆมีความเที่ยงตรงมากขึ้นนั้น ก็เกิดมาจาก
การนำแสงมาใช้งาน...เพราะรังสีเองก็มาจากลำแสง...
และแสงก็กระจัดกระจายอยู่โดยรอบทั่วทั้งจักรวาล...

ดังนั้น...ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้อะไรจะเล็ดลอดออกไปได้โดยไม่ผ่านแสง
ที่กำลังทำหน้าที่อยู่โดยรอบ...

และระบบเช่นนี้ ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นถึงจะสร้างขึ้นมาได้...
เรามนุุษย์ตัวเล็กนิดเดียวมิอาจมีอำนาจเทียบเทียมได้เลย...
เพราะแม้แค่แสงที่เป็นสิ่งถูกสร้างขึ้นมา เรายังไม่อาจเข้าใจ
ถึงการทำงานของมันได้หมด...

และจะเป็นผู้ใดไปไม่ได้นอกจากมหาบริสุทธิ์แห่งสากลจักรวาล
ผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง ผู้ดูแลบริหารกิจการในทุกๆอย่าง
ผู้ที่มิเคยมีสิ่งใดเล็ดลอดไปจากความเมตตาของพระองค์ได้...
ผู้ที่อยู่เหนือแสง อยู่เหนือสติปัญญา อยู่เหนือทุกๆความรู้
ผู้ที่อยู่เหนือสิ่งถูกสร้างทั้งหมด และไม่แปลกที่สิ่งถูกสร้างทั้งหมด
จะต้องสดุดีให้แก่พระองค์ด้วยความจำนนต่อความยิ่งใหญ่...

ข้าน้อยคนนึงเชื่อว่า...อัลลอฮฺจะส่งความรู้มาให้มนุษย์ในยุคนี้ได้เข้าใจ
ในปริศนาของพระองค์ที่พระองค์เก็บเอาไว้เรื่อยๆ
และสอนให้รู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...

ทว่า...บางครั้ง...ความรู้นั้นก็หาได้ช่วยให้มนุษย์บางคนศรัทธาต่อพระองค์ไม่...
ซ้ำยังอกตัญญู...ไม่รู้ซึ้งถึงบุญคุณ...
แล้วยังนำความรู้นั้นไปบ่อนทำลายหน้าแผ่นดินนี้ ทำลายระบบจักรวาล...
และสุดท้าย...แผ่นดินนี้ก็จะถูกทำลายลงในที่สุด...

โชคดีเหลือเกินที่เราได้เรียนรู้อัลกุรอ่าน และตามอัลกุรอ่าน
และที่โชคดียิ่งไปกว่านั้นก็คือ โชคดีที่เรายังคงเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ...
บ่าวผู้ศรัทธาต่อพระองค์...

นี่คือ...โชคอันยิ่งใหญ่...ไม่มีใครจะโชคดีเท่ากับการได้เป็นมุสลิม
ได้เป็นมุอฺมิน ได้เป็นบ่าวผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺองค์เดียว
ไม่มีใครจะโชคดีไปมากกว่านี้อีกแล้ว...

ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ ทุกสิ่งล้วนมาจากอัลลอฮฺทั้งสิ้น...
หากพระองค์ไม่ให้ ใครก็ให้ไม่ได้ และหากพระองค์จะให้
ใครก็ขวางมิได้...แต่สิ่งเหล่านี้ก็หาได้ยิ่งใหญ่เท่ากับการที่อัลลอฮฺ
ทรงยกให้เราเป็นบ่าวของพระองค์...

เพราะการได้เป็นบ่าวของพระองค์คือ ความโชคดี
เหนือความโชคดีทั้งหมด...

หากเรายังคงเป็นบ่าวของพระองค์...ขอจงภูมิใจเถิด...

วัลลอฮุอะลัม

วัสลาม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 08, 2013, 09:07 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged