salam
บิสมิ้ลลาฮิรร่อมานิรร่อฮีม
มัสยิดดิร๊อร
โดยอาจารย์อับดุลการีม วันแอเลาะ
และมุนาฟิกีนกลุ่มหนึ่งได้ทำการสร้างมัสยิดขึ้น โดยพวกเขามิได้กระทำเพื่ออัลลอฮ์
หากแต่กระทำเพื่อให้เกิด "ดิร๊อร" บ่อนทำลาย เพื่อให้เกิด "กุฟร" การปฏิเสธ เพื่อแยกมุมินีน
เพื่อวซ่องสุมบรรดาผู้ที่สงครมกับอัลลอฮ์และร่อซูลมาตั้งแต่แรก และพวกเขาก็ต่างสาบานกันว่า
พวกเขามิได้ปรารถนาอะไรในการก่อสร้างมัสยิด นอกจากความดี
อัลลอฮ์ทรงเป็นพยานว่าพวกเขาคือบรรดาผู้ที่โกหก
อัตเตาบะฮ์ : 107
โอ้ร่อซูล ท่านอย่าได้ละหมาดที่มัสยิดนี้โดยเด็ดขาด แท้จริง มัสยิดที่ก่อสร้างขึ้นเพื่ออัลลอฮ์
เพื่อหวังความโปรดปรานของอัลลอฮ์ตั้งแต่ต้นก็คือ มัสยิดกุบาอ์ เป็นมัสยิดที่สมควรยิ่ง
ที่ท่านจะละหมาด ประกาศศักดิ์ศรีแห่งอัลลฮ์ ณ มัสยิดแห่งนี้ มีผู้คนที่รักการทำความสะอาด
ร่างกายและหัวใจเพื่อทำอิบาดะฮ์ที่ถูกต้อง ซึ่งอัลลอฮ์ทรงรักและทรงให้ผลบุญ
แก่บรรดาผู้ที่ใกล้ชิดพระองค์ด้วยความสะอาดทั้งร่างกายและวิญญาณ
อัตเตาบะฮ์ : 108
ไม่เหมือนกันระหว่างความเชื่อ และพฤติกรรมของผู้ที่สร้างอาคารบนพื้นฐานแห่งความบริสุทธิ์ใจ
ในความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ และหวังความโปรดปรานยินดีจากอัลลอฮ์
กับผู้ที่สร้างอาคารบนพื้นฐานแห่งความสัปปลับและปฏิเสธ เพราะผลงานของผู้ที่ยำเกรงนั้นเที่ยงตรง
และยืนหยัดอยู่บนพื้นฐานที่แข็งแรง ส่วนผลงานของผู้ที่สัปปลับนั้น
ประดุจการสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างริมนรก แล้วมันก็จะทำให้ผู้ใช้ประโยชน์ในอาคารนั้น
ฝังลงขุมนรกญะฮันนัม อัลลอฮ์จะไม่ชี้ทางที่ปลอดภัยแก่ผู้ที่ทำลายตัวเองด้วยการเป็นผู้ปฏิเสธ
อัตเตาบะฮ์ : 109
สิ่งปลูกสร้างของพวกสัปปลับ จะยังคงก่อให้เกิดความสับสน ยุ่งเหยิง
อีกทั้ง จะยังทำให้หัวใจของพวกเขามีแต่ความกลัวอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
จนกว่าหัวใจของพวกเขาจะเกิดความเสียใจ เกิดความรันทดใจ หรือไม่ก็พวกเขาตายไป
อัลลอฮ์ทรงรู้ทุกอย่าง ทรงปรีชาญาณในงานและการตอบแทน
อัตเตาบะฮ์ : 110
มูลเหตุแห่งการประทานโองการข้างต้น มัสยิดที่กล่าวไว้ในอายะห์ข้างต้นนี้ มุนาฟิกที่มะดีนะฮ์กลุ่มหนึ่งได้สร้างขึ้นด้วยเจตนาชั่ว พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อให้เกิดความสับสน
แก่มัสยิดกุบาฮ์ ที่เผ่าอัมร บิน อาวฟ์ ได้สนับสนุนให้ก่อสร้างขึ้นและได้รับการสนับสนุนจากท่านร่อซูล ศ้อลฯ ด้วยการทำละหมาด
อิบนุอามิร อัร-รอฮิบ มีความอิจฉาริษยา จึงได้สนับสนุนให้มุนาฟิกทำการสร้างมัสยิดขึ้นอีกหลังหนึ่ง เพื่อแสดงความผยองต่อบรรดาผู้สร้างมัสยิดกุบาอ์
บรรดาอานารยชนนั้น จะแข่งขันกันสร้างมัสยิด ทั้งนี้ เพื่อจะได้มีไว้เป็นศูนย์รวมเพื่อการสมคบกันทำลายสังคมของศรัทธาชน
หลังจากที่พวกเขาสร้างเสร็จแล้ว พวกขาได้เชิญให้ท่านร่อซู้ล ศ้อลฯ ไปละหมาด ทั้งนี้ เพื่อพวกเขาจะได้ละหมาดกันที่นั่นต่อไป
และเนื่องจากการเป็นเผ่านิยมของพวกเขาและการแบ่งแยกของพวกเขา
ท่านร่อซู้ล ศ้อลฯ เกิดความสับสนว่าควรจะตอบรับคำเชิญหรือไม่? เนื่องจากไม่อาจล่วงรู้เจตนาของพวกเขา
อัลลอฮ์ท่านได้ทรงบอกให้ท่านร่อซูล ศ้อลฯ รู้ในตอนที่เดินทางกลับจากสงครามตะบู๊ก โดยท่านร่อซู้ล ศ้อลฯ
ทรงตั้งใจจะตอบรับคำเชิญ ว่า อย่า อย่าไปที่นั่น และเป็นสำคัญสำหรับไปละหมาดที่นั่น
คำสอนที่ได้รับจากโองการต่างๆ ข้างต้น โองการต่างๆ ข้างต้นให้ความเข้าใจแก่เราว่า มัสยิดนั้นมีสองประเภทคือ มัสยิดที่ใช้ให้เราละหมาด
กับมัสยิดที่ห้ามมิให้เราละหมาด กล่าวคือมัสยิดที่สร้างขึ้นเพื่ออิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์ กับมัสยิดที่สร้างขึ้น
เพื่อการอื่น อาจเพื่อ ดิร๊อร (บ่อนทำลาย) หรือเพื่อต่อต้าน หรือเพื่อแบ่แยก หรือเพื่อใช้เป็นที่ซ่องสุมศัตรู
ของอัลลอฮ์และร่อซู้ล หรือเจตนาอื่นใด นอกจากอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์
มัสยิดที่ก่อสร้างขึ้นเพื่ออิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ ก็ต้องหมายถึงชุมชนนั้นไม่มีมัสยิดหรือมีแต่คับแคบ
ไม่เพียงพอต่อผู้ทำอาบาดะห์และขยายไม่ได้ หากชุมชนนั้นมีมัสยิดอยู่แล้ว และก็ยังกว้างขวาง
พอที่จะรองรับผู้ทำอิบาดะฮ์ได้ การสร้างขึ้นมาอีกก็เป็นการแบ่งแยก
ส่วนจะเป็นมัสยิดดิร๊อร
มัสยิดกุฟร หรือมัสยิดซ่องสุมศัตรูของอัลลอฮ์และร่อซู้ลหรือไม่นั้น นั่นเป็นเรื่องเจตนาของผู้สร้าง
ไม่มีใครตัดสินได้ แต่ที่ตัดสินได้ก็คือแบ่งแยกศรัทธาชน แทนที่จะบ่งชี้ถึงการอีกเอกภาพในสังคม
กลับบ่งชี้ถึงการแบ่งหรือแตกแยก ซึ่งก็ส่งผลให้หมดพลังหรืออำนาจต่อรอง ดังอัล-กุรอ่าน "อย่าขัดแย้งกัน"
แล้วท่านจะล้มเหลวและพลังความเข้มแข็งของพวกท่านก็จะหมดไป ดังนั้น มัสยิดที่ใช้ละหมาดได้
ต้องเป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของตักวาเท่านั้น
ท่านศาสดาได้ใช้ให้ทำลายมัสยิดที่ไม่ได้สร้างขึ้นบนพื่นฐานของตักวา ด้วยการให้เผาและกำหนดให้พื้นที่นั้นเป็นที่ทิ้งขยะ.