ผู้เขียน หัวข้อ: จุดยืนของอิสลามที่มีต่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน  (อ่าน 3114 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

จุดยืนของอิสลามที่มีต่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

1.   นับว่าอิสลามเป็นศาสนาแรกที่ประกาศจุดยืนในเรื่องของมนุษยชนและเอาจริงจังในการรักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชนดังกล่าว  นักศึกษาทุกคนที่ได้ศึกษากฏหมายอิสลาม จะทราบว่า  อิสลามนั้นมีเป้าหมายที่เป็นแบบอย่างในการคุ้มครองชีวิตของมนุษย์  ปกป้องไว้ซึ่งศาสนา , สติปัญญา , ทรัพย์สิน , และครอบครัว  ประวัติศาสตร์อิสลามได้ถ่ายทอดเกี่ยวกับชีวประวัติของท่านคอลิฟะฮ์ อุมัร อิบนุ ค๊อฏฏอบ  ต่อการเผชิญหน้าที่มายับหยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชน  ซึ่งท่านอุมัรกล่าวว่า

"เหตุใดที่พวกท่านจับมนุษย์มาเป็นทาส  ทั้งที่มารดาของพวกเขาได้ให้กำเนิดพวกเขาโดยเป็นอิสระชน?"

2.  บรรดาสิทธิมนุษยชนในอิสลาม อยู่บนหลัก 2 ประการ

(1) หลักแห่งความเสมอภาคที่มีต่อมนุษย์

(2) หลักเสรีภาพที่มีให้กับมนุษย์

อิสลามได้วางพื้นฐานของหลักความเสมอภาค  ให้อยู่บน 2 หลักเกนฑ์

(1) จุดกำเนิดเดียวกันของมนุษย์

(2) ทุกคนมีเกียรติในความเป็นมนุษย์

สำหรับจุดกำเนิดเดียวกันของมนุษย์นั้น  อิสลามได้สะท้อนให้เห็นว่า  แท้จริงอัลเลาะฮ์ ตะอาลา ได้สร้างมนุษย์ทั้งหมดจากชีวิตเดียว (คืออาดัม) ดังนั้น  มนุษย์ทั้งหมดย่อมเป็นพี่น้องในครอบครัวใหญ่ที่ไม่มีแง่มุมใดจะแบ่งแยกระดับชนชั้นได้  ความแตกต่างทางเชื้อชาติไม่มีผลกระทบต่อแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์คนหนึ่งจากมนุษย์ชาติทั้งหลาย  ด้วยเหตุนี้  ความแตกต่างทางเชื้อชาติ  สมควรเป็นตัวผลักดันให้เกิดการทำความรู้จัก  ความสนิทสนม  และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างพวกเขา  ไม่ใช่นำมาเป็นหนทางของการโต้แย้งและความแตกแยก  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า

يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنَّا خَلَقْنَاكُم مِّن ذَكَرٍ وَأُنثَى وَجَعَلْنَاكُمْ شُعُوباً وَقَبَائِلَ لِتَعَارَفُوا إِنَّ أَكْرَمَكُمْ عِندَ اللَّهِ أَتْقَاكُمْ

"โอ้มวลมนษย์! แท้จริงเราได้บังเกิดพวกเจ้ามาจากชายหนึ่งและหญิงหนึ่ง  และบันดาลพวกเจ้าให้แตกออกเป็นเผ่าพันธ์และเป็นกลุ่มต่าง ๆ เพื่อพวกเจ้าจะได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกัน  แท้จริงผู้มีเกียรติที่สุดในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลเลาะฮ์ คือผู้ที่มีความยำเกรง" อัลหุญุร๊อต 13

ส่วนอีกกฏเกนฑ์หนึ่งที่มีให้กับความเสมอภาค  ก็คือ  ทุกคนมีเกียรติของความเป็นมนุษย์  อัลกุรอานได้ระบุถึงสิ่งดังกล่าว ความว่า

وَلَقَدْ كَرَّمْنَا بَنِي آدَمَ

"ขอยืนยัน เราได้ให้เกียรติแก่(มนุษย์)ลูกหลานอาดัม" อัลอิสรออ์ 70

ดังนั้น  ด้วยเกียรตินี้  อัลเลาะฮ์ได้ทรงทำให้มนุษย์เป็นตัวแทนของพระองค์ในพื้นพิภพนี้  บรรดามะลาอิกะฮ์ได้ให้การสุยูด(ให้เกียรติ)แก่เขา  และทรงทำให้เขาเป็นนายแห่งจักรวาล  และทรงให้สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดินยอมสิโรราบให้แก่เขา  ฉะนั้น  ด้วยเหตุดังกล่าว   มนุษย์จึงมีฐานันดร  มีเกียรติภูมิที่เหนือกว่าบรรดาสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมด  และอัลเลาะฮ์ทรงมอบเกียรตินี้ให้แก่มนุษย์ทุกคนโดยไม่มีการยกเว้น  เพื่อให้เป็นสายใยแห่งการคุ้มครองและปกป้องให้กับมนุษย์ทุกคน  ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างคนรวย  คนจน  ชนชั้นผู้นำ  และผู้อยู่ใต้การปกครอง  ซึ่งทั้งหมดจะต้องอยู่ต่อหน้าอัลเลาะฮ์และอยู่ต่อหน้ากฏหมายของพระองค์  และไม่ว่าในสิทธิต่าง ๆ โดยรวมนั้น  ย่อมมีความเท่าเทียมกัน(ในวันนั้น)

สำหรับหลักการที่สองที่ได้เน้นย้ำถึงสิทธิมนุษยชนนั้น คือหลักอิสระภาพ ที่อัลเลาะฮ์ทรงกำหนดให้มนุษย์มีภาระหน้าที่ในการทำนุบำรุงผืนแผ่นและสรรสร้างอารยะธรรมแห่งมนุษยชาติ  ซึ่งไม่มีภาระหน้าที่ใดที่ปราศจากอิสระภาพ  แม้กระทั่งเรื่องของการศรัทธาและการปฏิเสธซึ่งอัลเลาะฮ์ทรงกำหนดให้มันผูกพันธ์อยู่กับความปรารถนาของมนุษย์ 

 فَمَن شَاء فَلْيُؤْمِن وَمَن شَاء فَلْيَكْفُرْ

"ดังนั้น  ผู้ใดปรารถนา  เขาก็จงศรัทธาเถิด  และผู้ใดปรารถนา  เขาก็จงปฏิเสธเถิด" อัลกะฮ์ฟี 29

เฉกเช่นนี้  ความเสรีภาพย่อมครอบคลุมถึงทุกเสรีภาพของมนุษยชาติ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศาสนา  การเมือง  และทัศนะความคิด

3.  การพิพากษาตามคำสอนของอิสลาม  จำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมและการปรึกษาหารือ  อัลเลาะฮ์ทรงบัญชาให้มนุษย์ให้มีความยุติธรรมและให้พวกเขานำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  อัลเลาะฮ์ทรงตรัส ความว่า

إِنَّ اللّهَ يَأْمُرُ بِالْعَدْلِ وَالإِحْسَانِ
 
"แท้จริง อัลเลาะฮ์ทรงบัญชาให้มีความยุติธรรมและมีคุณธรรม" อัลนะห์ลิ 90

وَإِذَا حَكَمْتُم بَيْنَ النَّاسِ أَن تَحْكُمُواْ بِالْعَدْلِ

"และเมื่อพวกเจ้าทำการตัดสินในระหว่างมนุษย์ทั้งหลาย  พวกเจ้าจะต้องตัดสินด้วยความยุติธรรม" อันนิซาอ์ 58

และยังมีอายะฮ์ต่าง ๆ อีกมากมายที่ได้ยืนยันเกี่ยวกับสิ่งดังกล่าว  สำหรับการปรึกษาหารือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ขอคำปรึกษาหารือกับบรรดาซอฮาบะฮ์และท่านยึดทัศนะความเห็นส่วนมาก  หากแม้นว่าจะขัดกับความเห็นของท่านก็ตาม  เช่นบรรดามุสลิมีนต้องการทำสงครามอุหุด  ทั้งที่ท่านนบีมีความเห็นว่าไม่ทำสงคราม  แต่ความเห็นส่วนใหญ่ให้ออกทำสงคราม  ดังนั้น  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยอมตกลงตามความเห็นของพวกเขาและออกทำสงคราม  ความพ่ายแพ้ได้ประสบแก่บรรดามุสลิมีน  แต่พร้อมกับสิ่งดังกล่าว  อัลกุรอานก็ยังคงตอกย้ำให้มีความจำเป็นต้องปรึกษาหารือ  ฉะนั้น  อัลเลาะฮ์ได้ทรงตรัสกับท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ความว่า

فَاعْفُ عَنْهُمْ وَاسْتَغْفِرْ لَهُمْ وَشَاوِرْهُمْ فِي الأَمْرِ

"ดังนั้น  เจ้าจงอภัยให้พวกเขา  เจ้าจงขออภัยให้พวกเขา  และจงปรึกษาพวกเขาในการงาน(ต่าง ๆ ที่คิดกระทำ)"

และจุดมุ่งหมายนี้  จึงไม่รับพิจารณาความเห็นส่วนน้อยของนักปราชญ์นิติศาสตร์อิสลามที่อ้างว่าการปรึกษาหารือไม่มีความจำเป็น  เพราะการอ้างนี้ขัดกับบรรดาตัวบทของศาสนาที่ชัดเจน

อิสลามได้มอบให้บรรดามุสลิมีนมีความอิสระภาพในการเลือกสรรรูปของการปรึกษาหารือเพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์โดยรวม  ดังนั้น  เมื่อผลประโยชน์ได้เรียกร้องให้ระบบการปรึกษาหารืออยู่ในรูปแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน(เช่นระบบรัฐสภา)ที่มีอยู่ในประเทศต่าง ๆ  แน่นอนว่า อิสลามจะไม่คัดค้านสิ่งดังกล่าว  เพราะทั้งหมดย่อมเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องพร้อมกับมีความยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันและสิ่งที่เกิดขึ้นจากความเจริญก้าวหน้าของแต่ละประเทศ

จากสิ่งดังกล่าว  ได้ประจักษ์ชัดแล้วว่า  อิสลามให้ความสำคัญและปกป้องสิทธิมนุษยชน  มีความปรารถนาให้นำมาปฏิบัติอย่างถูกต้องกับหลักการปรึกษาหารือหรือประชาธิปไตยในรูปแบบปัจจุบัน

4.  อิสลามได้เปิดโอกาสให้แสดงทัศนะหลากหลายความคิด  อนุญาตให้มีการวินิจฉัย  วิเคราะห์  แม้กระทั้งประเด็นเรื่องของศาสนา ตราบใดที่เขามีคุณสมบัติและเงื่อนไขพร้อมในการเป็นนักวินิจฉัย  ซึ่งหากเขาทำการวินิจฉัยผิดย่อมได้รับหนึ่งการตอบแทนและหากเขาทำการวินิจฉัยถูกต้องย่อมได้รับสองการตอบแทน 

ผู้ศึกษาบรรดาแนวทาง(มัซฮับ)ต่าง ๆ ของนิติศาสตร์อิสลาม  เขาจะพบว่าในแนวทาง(มัซฮับ)เหล่านั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของแนวคิดในหลาย ๆ ประเด็นปัญหาด้วยกัน  โดยไม่มีผู้ใดกล่าวว่า  สิ่งดังกล่าวไม่เป็นที่อนุญาติ

จากตรงนี้  เราจะพบว่า  อิสลามได้เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น  เพื่อที่สะท้อนแนวคิดต่อผู้คนทั้งหลาย โดยมีเป้าหมายให้เกิดความดีงามแต่สังคมและรักษาไว้ซึ่งความสงบและเสถียรภาพ

-----------------------------------------

อ้างอิง จากหนังสือ حقائق إسلامية فى مواجهة حملات التشكيك "ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอิสลาม ในการเผชิญต่อการสร้างความสงสัย" ของท่าน ศาสตราจารย์ มะหฺมูด หัมดีย์ ซักซูก หน้า 81 - 85  ตีพิมพ์โดย สภาสูง เกี่ยวกับกิจการอิสลาม  ประเทศอียิปต์  ปี ฮ.ศ. 1422 - ค.ศ. 2001    
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ คนจำเป็น

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 115
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

หากอิสลาม ให้ดำรงประชาธิปไตยแบบไทยในปัจจุบัน คงต้องทบทวนกันยกใหญ่แล้วครับ ;D
(แหะๆๆ ไม่กล้าต่อยาวครับ เอาแค่นี้ ก็เป็นที่เข้าใจ)


จากที่น้อง อัซฮารี่ ได้ ยกตัวอย่างจากอัลกุรอาน มากมาย เกี่ยวกับ เรื่องการให้สิทธิ เสรี ความยุติธรรม และกฏการปกครอง
นั้น ทำให้เราทราบ ถึง ความยิ่งใหญ่ขององค์ อัลลอฮฺ ตะอาลา ที่ทรงเป็นผู้รู้ยิ่ง ถึงความเป็นมนุษย์
ที่พระองค์ ทรงสร้างมนุษย์ มาพร้อมกับ แนวทางการดำเนินชีวิต ที่ถูกต้อง และ แนวทางเพื่อเป็นบ่าวที่โปรดปรานของพระองค์



ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์


อ้างอิง จากหนังสือ حقائق إسلامية فى مواجهة حملات التشكيك "ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอิสลาม ในการเผชิญต่อการสร้างความสงสัย" ของท่าน ศาสตราจารย์ มะหฺมูด หัมดีย์ ซักซูก หน้า 81 - 85  ตีพิมพ์โดย สภาสูง เกี่ยวกับกิจการอิสลาม  ประเทศอียิปต์  ปี ฮ.ศ. 1422 - ค.ศ. 2001    

สิทธิมนุษยชน...

คำๆ นี้ หลายๆ คนมักมากล่าวอ้าง ในยุคปัจจุบัน

โดยเฉพาะ... คนต่างศาสนิกที่มักกล่าวว่า อิสลามมักละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งๆ ที่เค้าเองนั่นแหละ ยังเข้าใจความหมายว่า "สิทธิมนุษยชน" ไม่ดีพอ

 >:(

ออฟไลน์ บุคคลธรรมดา

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 433
  • live&learn in Islam
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด


อ้างอิง จากหนังสือ حقائق إسلامية فى مواجهة حملات التشكيك "ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอิสลาม ในการเผชิญต่อการสร้างความสงสัย" ของท่าน ศาสตราจารย์ มะหฺมูด หัมดีย์ ซักซูก หน้า 81 - 85  ตีพิมพ์โดย สภาสูง เกี่ยวกับกิจการอิสลาม  ประเทศอียิปต์  ปี ฮ.ศ. 1422 - ค.ศ. 2001    

สิทธิมนุษยชน...

คำๆ นี้ หลายๆ คนมักมากล่าวอ้าง ในยุคปัจจุบัน

โดยเฉพาะ... คนต่างศาสนิกที่มักกล่าวว่า อิสลามมักละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งๆ ที่เค้าเองนั่นแหละ ยังเข้าใจความหมายว่า "สิทธิมนุษยชน" ไม่ดีพอ

 >:(


ถูกต้องค่ะ

นอกจากจะไม่เข้าใจในความหมายนี้ แล้วยัง ไปจำกัดสิทธิ และยัดเยียดความละเมิด ให้เราเราอีก

ขอเรียกคำนี้ "ดับเบิลสแตนดาร์ด"  (แต่ก่อนฮิต พูดช่วงนึง) ;D
ถ้าหากว่าเราจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยแอ่งปลักโคลน
แน่นอนที่สุด เราจะถึงฝั่งนั้นในสภาพที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลน...
โคลนที่อยู่ในแอ่งนั้น มันจะทิ้งร่องรอยที่เท้าของเรา
และในที่ที่ เราได้เหยียบย่างไป

                        "อัลชะฮีด ซัยยิด กุฏุบ"

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^

อัสลามมุอะลัยกุม


แต่ประชาธิปไตยที่พี่อัซฮารี่ยกมา คนละประชาธิปไตยปัจจุบันใช่ป่าวคะ ?

ประชาธิปไตยของพี่อัซฮารี่ คือ มติของผู้รุ้เท่านั้น
ประชาธิปไตยปัจจุบัน (หรือของที่ประเทศไทยใช้อยุ่) เป็นมติของทั้งผุ้รุ้ และ ผุ้ไม่รุ้


ถูกป่าวคะ ?
ถ้าจริงอย่างที่ชาว่า.. แล้วเราสมควรใช้คำว่าประชาธิปไตยหรอคะ ?

อ่านแล้วสงสัยอ่ะค่ะ รบกวนอธิบายหน่อย  ^^ ยะซากัลลอฮฺ 


يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ คนจำเป็น

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 115
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อัสลามุอะลัยกุ้ม ครับผม


   ...แวะเข้ามาอ่าน คำถามน้อง ชาเขียวแล้ว ไม่เข้าใจครับ
   กับคำว่า "มติของผู้รู้" ช่วยขยายความให้หน่อยครับ  ;D

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^

อัสลามมุอะลัยกุม

มติของผู้รุ้ ที่ชาหมายถึง คือมติของปวงปราชญ์
เท่าที่ทราบ การปรึกษาหารือ เพื่อหาทางออก ใด ๆ ของอิสลาม จะใช้มติจากผุ้รุ้รในสาขานั้น ๆ เท่านั้น

ประมาณเนี้ย   ;D
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ คนจำเป็น

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 115
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
วะอะลัยกุมุสลาม น้องชาเชียว ครับ  ;D

ครับ บังเข้าใจคำถามน้องชาเขียวแล้วครับ


คือ จากบทความที่คุณ อัซฮารี ยกมา บังมองว่า เกี่ยวกับเรื่อง ความเป็นประชาธิปไตย หรือ เรื่องการเมืองของแต่ละประเทศ ซึ่งจะมีวิธีการปกครองที่แตกต่างกัน ทั้งเราฐานะ ผู้ปกครองหรือ ประชาชน
อิสลาม นั้น ก็ไม่ได้เพิกเฉย มีโองการ กุรอาน และ แบบอย่าง นบี คอลีฟะ ให้เรา ต้องอยู่ในสังคมร่วมกันได้
อย่างสันติสุขครับ (คือบังเข้าใจเป็นมุมกว้างนะครับ)


 

GoogleTagged