ผู้เขียน หัวข้อ: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ  (อ่าน 1355 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Park Smart

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 9
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« เมื่อ: ก.พ. 02, 2008, 12:33 PM »
0

อัสสลลามมูอาลัยกุม

พอดีผมเป็นคนที่มีความรู้ทางด้านศาสนาน้อยครับ

เรื่องที่ผมอยากจะถามก็คือ การให้สลามในพวกเว็ปบอร์ด เว็ปไซด์ Hi5 Msn ฯลฯ
สรุปว่า การให้สลามในโลกดิจิตอล

พอดีมีคนมาตักเตือนผมว่า...
''คนเราห้ามให้สลามผู้หญิง((ที่แต่งงานกันได้นะ))เป็นเพราะว่า การสลามกับผู้หญิงมันจะทำให้เรา ติดกับผู้หญิง การสลามมันมันเรื่องที่ดี แต่การสลามมันก็มีข้อยกเว้นเหมือนกันนะ ถ้าเราไปสนิทกับผู้หญิงมากเกินไป อิหม่ามและอาม้าลของเราจะถูกลดทันที่โดยที่เราไม่รู้ตัว ถ้าเราบังคับได้ก็ห้ามสลามผู้หญิงเป็นอันขาดนะ มันดูเชิงเหมือนว่าเราไปแต่งงานกับเขาแล้วแต่การแต่งงานมันยังไม่สมบูรณ์ แล้วการแต่งงานที่ไม่สมบูรณ์ เราก็ไปทำให้พ่อแม่ ไม่รุ้เรื่องอะไรกัน ((ผู้อาวุโส เป็นคนบอกเราเองตอนออกด่ะว่ะ ถ้าผิดอะไรก็ มาอัฟๆด้วย))
**ห้ามตอบสลามผู้หญิงด้วย ถ้าผู้หญิงเป็นคนสลามก่อน ไปหละ^^ ((ถ้าคิดว่าตัวเองถูก ก็ทำไปเหอะ))ยังไงเราก็ไม่เก่งศาสนาอยู่แล้ว''


   พอดีเขามาคอมเม้นที่Hi5ผมอ่ะครับ ผมงงครับ ว่าการสลามในโลกดิจิติมันผิดและเป็นขอห้ามด้วยหรอครับ?

ช่วยอธิบายหน่อยนะครับ หลังจากที่ผมโดนเตือน เลยทำให้สับสน ผมรู้สึกจะมีข้อคัดแย้งกับคำเตือนนิดหน่อยครับ

วอนผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อยครับ แบบว่างงมากๆ

ยาซากัลลอฮกับคำตอบนะครับ

วัสสลาม


ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.พ. 02, 2008, 08:49 PM »
0
การสลาม ไม่มีห้ามแบบนี้

ผมไม่เคยเจอใครสอนว่า ห้ามสลามคนที่ไม่ใช่มะรอม

ฮะดิสบทหนึ่ง บันทึกโดย อะหมัด ( คัดย่อ ) จาก อบูฮุรอยเราะ เล่าว่า
"เขาได้ถามท่านนบีว่าสิ่งใดที่ทำให้เราเข้าสวรรค์ ท่านนบีกล่าวว่า จงให้อาหารแก่คนยากจน จงให้สลามกัน จงติดต่อสัมพันธ์กับเครือญาติ และจงละหมาดในเวลากลางคืน"

การให้สลาม เป็นการอวยพร หรือขอพร ให้ซึ่งกันและกัน การกระทำเช่นนี้นั้น เป็น สุนัต สำหรับผู้ให้ และเป็น วายิบ สำหรับผู้รับ
หากการอวยพรซึ่งกันและกันนั้น ถูกห้าม การพูดคุยกันธรรมดา ย่อมไม่ถูกห้ามกว่าหรือ ?

หากเพื่อนของคุณที่มาตอบในเวปไซต์ มีหลักฐานก็โปรดแสดง
แล้วเราจะนำมาชี้แจงกันต่อไป

อินชาอัลลอฮฺ
วัสลาม....

Qortubah

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.พ. 03, 2008, 08:41 AM »
0
ถ้าเป็นสลามในเวบบอร์ด คิดว่าคงไม่ใช่ประเด็นปัญหาเท่าไหร่มั้งครับ?

แต่ถ้าเป็นการสลามในการพูดคุย เช่นนี้เคยพบว่าอุละมาอ์ท่านกล่าวไว้ประมาณว่า ถ้าหากเป็นหญิงชรา หรือมีอายุ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นสาววัยรุ่น รุ่นราวคราวเดียวกันอันนี้ก็อาจจะเข้าข่ายมักรูฮฺได้ เพราะเำกรงว่าจะเป็นฟิตนะฮฺ โดยอาจเข้าข่ายกฎ سد الذرائع

ลองค้นหาดูปรากฎว่าพบทัศนะของอุละมาอ์ดังนี้ครับ

1-

سُئِلَ الإمام مَالِك هَلْ : يُسَلَّمُ عَلَى الْمَرْأَةِ ؟ فَقَالَ : أَمَّا الْمُتَجَالَّةُ (وهي العجوز) فَلا أَكْرَهُ ذَلِكَ ، وَأَمَّا الشَّابَّةُ فَلا أُحِبُّ ذَلِكَ .
وعلَّل الزرقاني في شرحه على الموطأ (4/358) عدم محبة مالك لذلك : بخوف الفتنة بسماع ردها للسلام


2-

وفي الآداب الشرعية (1/ 375) ذكر ابن مفلح أن ابن منصور قال للإمام أحمد : التسليم على النساء ؟ قال : إذا كانت عجوزاً فلا بأس به .

وقال صالح (ابن الإمام أحمد) : سألت أبي يُسَلَّمُ على المرأة ؟ قال : أما الكبيرة فلا بأس ، وأما الشابة فلا تستنطق . يعني لا يطلب منها أن تتكلم برد السلام .


3-

وقال النووي في كتابه "الأذكار" (ص 407) :

"قال أصحابنا : والمرأة مع المرأة كالرجل مع الرجل ، وأما المرأة مع الرجل ، فإن كانت المرأة زوجته ، أو جاريته ، أو محرماً من محارمه فهي معه كالرجل ، فيستحب لكل واحد منهما ابتداء الآخر بالسلام ويجب على الآخر رد السلام عليه . وإن كانت أجنبية ، فإن كانت جميلة يخاف الافتتان بها لم يسلم الرجل عليها ، ولو سلم لم يجز لها رد الجواب ، ولم تسلم هي عليه ابتداء ، فإن سلمت لم تستحق جواباً فإن أجابها كره له .

وإن كانت عجوزاً لا يفتتن بها جاز أن تسلم على الرجل ، وعلى الرجل رد السلام عليها .

وإذا كانت النساء جمعاً فيسلم عليهن الرجل . أو كان الرجال جمعاً كثيراً فسلموا على المرأة الواحدة جاز إذا لم يُخَفْ عليه ولا عليهن ولا عليها أو عليهم فتنة .

روى أبو داود (5204) عن أَسْمَاء ابْنَة يَزِيدَ قالت : مَرَّ عَلَيْنَا النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي نِسْوَةٍ فَسَلَّمَ عَلَيْنَا . صححه الألباني في صحيح أبي داود .

وروى البخاري (6248) عن سَهْلٍ بن سعد قَالَ : كَانَتْ لَنَا عَجُوزٌ تُرْسِلُ إِلَى بُضَاعَةَ ( نَخْلٍ بِالْمَدِينَةِ ) فَتَأْخُذُ مِنْ أُصُولِ السِّلْقِ فَتَطْرَحُهُ فِي قِدْرٍ وَتُكَرْكِرُ حَبَّاتٍ مِنْ شَعِيرٍ ( أي تطحن ) فَإِذَا صَلَّيْنَا الْجُمُعَةَ انْصَرَفْنَا وَنُسَلِّمُ عَلَيْهَا فَتُقَدِّمُهُ إِلَيْنَا" . انتهى كلام النووي


4-


وقال الحافظ في "الفتح" :

عن جواز سلام الرجال على النساء ، والنساء على الرجال، قال : الْمُرَاد بِجَوَازِهِ أَنْ يَكُون عِنْد أَمْن الْفِتْنَة .

ونَقَل عن الْحَلِيمِيّ أنه قال : كَانَ النَّبِيّ صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لِلْعِصْمَةِ مَأْمُونًا مِنْ الْفِتْنَة , فَمَنْ وَثِقَ مِنْ نَفْسه بِالسَّلامَةِ فَلْيُسَلِّمْ وَإِلا فَالصَّمْت أَسْلَم .

ونَقَل عَنْ الْمُهَلَّب أنه قال : سَلَام الرِّجَال عَلَى النِّسَاء وَالنِّسَاء عَلَى الرِّجَال جَائِز إِذَا أُمِنَتْ الْفِتْنَة اهـ بتصرف


ป.ล. ไม่ได้ตอบคำถามนะครับ เพราะความรู้ไม่ถึงขั้นจะตอบได้ แค่ช่วยนำเสนอสิ่งที่พบมา เพื่อรับฟังจากท่านผู้รู้อีกครั้งครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 03, 2008, 08:43 AM โดย Qortubah »

SaFinah

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.พ. 03, 2008, 11:12 AM »
0
โห...แปลว่าอะไรครับเนี๊ยะ... natural:
รบกวนท่าน Qortubah ช่วยแปลให้ด้วยนะครับ...
กระทู้น่าสนใจดีครับ... mycool:

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.พ. 05, 2008, 09:12 AM »
0
 salam

ไปค้นเจอมาจากคำถามตอบเก่า ๆ ที่เว็บนี้ครับ  คิดว่าเกี่ยวข้องกับกระทู้นี้


بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

1. การให้สลามผู้ที่ทำการปัสสาวะในห้องน้ำหรือกำลังร่วมหลับนอนกับสามีภรรยาและอื่น ๆ จากทั้งสอง ถือว่ามักโระฮ์(ไม่บังควร)ให้สลาม และหากเขาให้สลามก็ไม่จำเป็นต้องรับสลาม

2. ผู้ใดที่นอนหลับหรือกำลังง่วงนอน ถือว่ามักโระฮ์ให้สลาม และถ้าหากเขาให้สลามก็ไม่จำเป็นต้องรับสลาม

3. ผู้ที่กำลังละหมาด หรือกำลังอะซานและอิกอมะฮ์ มักโระฮ์ในการให้สลามต่อเขา

4. ผู้ที่อยู่ในห้องน้ำ ถือว่ามักโระฮ์ในการให้สลามต่อเขา และหากเขาถูกให้สลาม ก็ไม่จำเป็นต้องรับสลาม

5. หากเขากำลังรับประทานอาหารอยู่ในปาก และถูกให้สลาม ก็ไม่จำเป็นต้องรับสลาม แต่ทว่าหากเขากำลังรับประทานอาหารโดยที่ขณะนั้นไม่มีอาหารอยู่ในปาก ก็อนุญาตให้สลามกับเขาได้ และจำเป็นต้องรับสลาม

6. ในขณะที่กำลังทำการค้าขายหรือประกอบการอื่น ๆ อนุญาตให้สลามได้ และจำเป็นต้องรับสลาม

7. การให้สลามขณะที่กำลังมีการกล่าวคุฏบะฮ์ญุมุอะฮ์ บรรดานักปราชญ์ของเรา กล่าวว่า มักโระฮ์ในการเริ่มให้สลาม เนื่องจากพวกเขาถูกใช้ให้นิ่งเงียบในขณะคุฏบะฮ์

8. การให้สลามต่อผู้ที่กำลังอ่านอัลกุรอานนั้น ที่ดีแล้ว ไม่ต้องให้สลามต่อผู้กำลังอ่านอัลกุรอาน แต่ถ้าหากกล่าวสลามแก่เขา ก็จำเป็นต้องตอบรับสลาม

9. ผู้ที่กำลังขอดุอาอ์ให้ความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่ดีแล้ว ไม่ต้องให้สลามต่อผู้กำลังอ่านอัลกุรอาน (หมายถึงมักโระฮ์ให้สลาม)

10.ผู้ที่กำลังกล่าวตัลบียะฮ์(ลับบัยกัลลอฮ์)ในขณะครองเอี๊ยะห์รอม ถือว่ามักโระฮ์ให้สลามต่อเขา แต่ถ้าเขาถูกให้สลาม ก็ให้รับสลามด้วยถ้อยคำ

11. หากมุสลิมคนหนึ่งที่ไม่เลื่องลือในเรื่องความชั่วและบิดอะอ์ลุ่มหลง ก็สุนัตให้สลามแก่เขาได้ และจำเป็นต้องรับสลามให้กับเขา

12. การให้สลามของผู้หญิงกับผู้หญิง ผู้ชายกับผู้ชาย หรือผู้ชายกับภรรยา และมะห์รอมของเขานั้น สุนัตให้ทุก ๆ
จากทั้งสองฝ่ายทำการเริ่มสลามก่อนและวายิบอีกคนหนึ่งทำการรับสลาม

13. หากเป็นสตรีที่แต่งงานกันได้ และนางมีความสวยงามที่อาจจะทำให้เกิดฟิตนะฮ์ได้ ผู้ชายก็จะต้องไม่กล่าวสลามแก่นาง หากเขาให้สลาม ก็ไม่จำเป็นที่นางต้องตอบรับสลาม และหากนางได้เริ่มให้สลามเขาก่อน นางก็สมควรได้การตอบรับสลาม ซึ่งหากเขาตอบรับสลามนาง ถือว่าเป็นมักโระฮ์

14. หากเป็นสตรีชราที่ไม่ก่อให้เกิดฟิตนะฮ์ ก็อนุญาตให้นางให้สลามกับผู้ชาย และจำเป็นต่อผู้ชายทำการตอบรับสลาม

15. หากมีผู้หญิงรวมกันหลายคน แล้วผู้ชายได้ทำการให้สลาม หรือผู้ชายหลายคน แล้วพวกเขาได้ให้สลามกับผู้หญิงคนเดียว ถือว่าอนุญาตให้กล่าวคำสลามได้ หากไม่ก่อให้เกิดฟิตนะฮ์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง


16. ผู้ที่ขี่พาหนะให้สลามต่อผู้ที่เดิน ผู้ที่เดินให้สลามต่อผู้ที่นั่ง ผู้ที่มีจำนวนน้อยกว่าให้สลามต่อบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า ผู้น้อยให้สลามต่อผู้ใหญ่

อ้างอิงสรุป : จากหนังสือ อัลอัซการของท่านอิมามอันนะวาวีย์ บทว่าด้วยเรื่อง การให้สลาม

والله أعلى وأعلم

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1882.0
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ก.พ. 05, 2008, 09:17 AM »
0
ของแถมเกี่ยวกับคำถามตอบการให้สลาม  เอาไปเลย

بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

ท่านอิมามอันนะวาวีย์  ร่อฮิมะฮุลลอฮ์   กล่าวว่า

وممّن نصّ على أن الأفضل في المبتدىء أن يقول ‏"‏السلام عليكم ورحمة اللّه وبركاته‏"‏ الإِمام أقضى القضاة أبو الحسن الماورديّ في كتابه ‏"‏الحاوي‏"‏ في كتاب السِّيَر، والإِمام أبو سعد المتولي من أصحابنا في كتاب ‏"‏صلاة الجمعة‏"‏ وغيرها‏

"ส่วนหนึ่งจากผู้ที่ระบุว่า  ที่ดีเลิศ  เกี่ยวกับผู้เริ่มให้สลามนั้น  ให้เขากล่าวว่า  "อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบารอกาตุฮ์"  คือท่าน อิมามอบูหะซัน อัลมาวัรดี ซึ่งระบุไว้ในหนังสืออัลหาวี  ในบทอัซซิยัร  และท่านอบูสะอัด อัลมุตะวัลลีย์  จากปราชญ์ของเรา  ซึ่งระบุไว้ในบทเรื่องละหมาดญุมุอะฮ์  และอื่น ๆ

ودليله ما رويناه في مسند الدارمي وسنن أبي داود والترمذي، عن عمران بن الحصين رضي اللّه عنهما قال‏:‏ ‏"‏جاء رجلٌ إلى النبيّ صلى اللّه عليه وسلم فقال‏:‏ السلام عليكم، فردّ عليه ثم جلس، فقال النبيّ صلى اللّه عليه وسلم‏:‏ عَشْرٌ، ثم جاء آخر فقال‏:‏ السلام عليكم ورحمة اللّه، فردّ عليه ثم جلس، فقال‏:‏ عِشْرُونَ، ثم جاء آخر فقال‏:‏ السلام عليكم ورحمة اللّه وبركاتُه، فردّ عليه فجلس، فقال‏:‏ ‏"‏ثلاثُونَ‏"‏‏.‏ فقال الترمذي‏:‏ حديث حسن‏

หลักฐานคือ  ฮะดิษที่รายงานไว้ในมุสนัดของอัดดาริมี  สุนัตอะบีดาวูด  และท่านอัตติรมีซีย์  จากท่านอิมรอน บิน ฮุซัยน์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา  ความว่า  "มีชายคนหนึ่งมาหาท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แล้วกล่าวว่า  อัสลามุอะลัยกุ้ม  แล้วท่านบีก็ตอบรับสลาม และท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า  ได้สิบความดี  หลังจากนั้น  มีชายคนอื่นอีกได้มาหา  แล้วกล่าวว่า  อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์  แล้วท่านนบีก็ตอบรับสลาม  และท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า  ได้ยี่สิบความดี  หลังจากนั้นมีชายคนอื่นอีกได้มาหา  แล้วกล่าวว่า  อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะรอกาตุฮ์  แล้วท่านนบีก็ตอบรับสลาม  และท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า  ได้สามสิบความดี"  ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า  เป็นฮะดิษหะซัน

وفي رواية لأبي داود، من رواية معاذ بن أنس رضي اللّه عنه، زيادة على هذا، قال‏:‏ ‏"‏ثم أتى آخر فقال‏:‏ السلام عليكم ورحمة اللّه وبركاته ومغفرته، فقال‏:‏ أرْبَعُونَ، وقال‏:‏ هَكَذَا تَكُونُ الفَضَائِلُ‏

และในสายรายงานหนึ่งของท่านอบูดาวูด  จากการรายงานถึงมุอาซ บิน อะสัน ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  โดยเพิ่มจากฮะดิษดังกล่าวว่า  "หลังจากนั้นมีชายคนอื่นได้มาหา  แล้วกล่าวว่า  อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะรอกาตุฮ์วะมัฆฟิร่อตุฮ์  แล้วท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า  ได้สี่สิบความดี  และกล่าวว่า  เช่นนี้แหละจะมีบรรดาภาคผลดีงาม"

وروينا في كتاب ابن السني، بإسناد ضعيف، عن أنس رضي اللّه عنه قال‏:‏ كان رجلٌ يمرّ بالنبيّ صلى اللّه عليه وسلم يَرعى دوابّ أصحابه فيقول‏:‏ السلام عليك يا رسول اللّه‏!‏ فيقول له النبيّ صلى اللّه عليه وسلم‏:‏ ‏"‏وَعَلَيْكَ السَّلامُ وَرَحْمَةُ اللَّهِ وَبَرَكَاتُهُ وَمَغْفِرَتُهُ وَرِضْوَانُهُ‏"‏، فقيل‏:‏ يا رسول اللّه‏!‏ تُسَلِّم على هذا
سلاماً ما تُسلِّمه على أحدٍ من أصحابك‏؟‏ قال‏:‏ ‏"‏وَمَا يَمْنَعُنِي مِنْ ذلكَ وَهُوَ يَنْصَرِفُ بأجْرِ بِضْعَةَ عَشَرَ رَجُلاً‏؟‏‏"
‏‏
เราได้ถูกรายงานไว้ในหนังสือของท่านอิบนุซุนนีย์  ด้วยสายรายงานที่ฏออีฟ  จากท่านอะนัส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  เขากล่าวว่า  มีชายคนหนึ่งเดินทางผ่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งเขากำลังเลี้ยงปศุสัตว์ของบรรดาซอฮาบะฮ์ท่านนบี  ดังนั้นเขากล่าวว่า  อัสลามุอะลั้ยกุ้ม (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) โอ้  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ !  แล้วท่านนบีก็กล่าวตอบสลามแก่เขาว่า  วะอะลัยกัสลามวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะรอกาตุฮ์วะมัฆฟิร่อตุฮุวะริดวานุฮ์ ( และบนท่านนั้น  ขอให้มีความสันติสุข  ความเมตตาของอัลเลาะฮ์  ความสิริมงคลของพระองค์   การอภัยโทษของพระองค์  และความพึงพอพระทัยของพระองค์  (จงประสบแด่ท่าน)  จึงถูกถามขึ้นว่า  โอ้  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ท่านได้ให้สลามต่อชายผู้นี้  ซึ่งเป็นการให้สลามที่ท่านไม่เคยให้กับผู้ใดมาก่อนจากบรรดามิตรสหายของท่าน?  ท่านนบี  กล่าวตอบว่า  แล้วอะไรเล่าที่จะมาห้ามให้ฉันจากสิ่งดังกล่าว  โดยที่เขาได้รับผลการตอบแทนของชาย 10 กว่าคน(ที่ทำการถือศีลอดจากซอฮาบะฮ์ที่เขาได้ช่วยเลี้ยงปศุสัตว์)"  ดู  หนังสือ อัลฟุตุฮาต อัรร๊อบบานียะฮ์ ของท่านอิบนุอะลาน ซึ่ง อธิบายหนังสือ อัลอัซการ ของท่านอิมามอันนะวาวีย์ 5/287 - 293

จากสิ่งที่ผมได้นำเสนอมานั้น  พี่น้องจะให้สลามในรูปแบบใดก็ได้แล้วแต่จะสะดวก  แต่ที่ดีเลิศนั้น  ให้สลามว่า "อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะรอกาตุฮ์"  เพราะมีสายรายงานฮะดิษที่หะซัน   และท่านอิบนุ อะลาน  ผู้อธิบายหนังสือ อัลอัซการ ของอิมามอันนะวาวีย์   ได้กล่าวว่า

มีสายรายงานซอฮิห์จากท่าน อิบนุญุรัยจ์  จากท่านอะฏออฺ บิน อบี ร่อบาห์  ซึ่งเขาได้ให้สลามต่อท่านอิบนุอับบาสว่า  "อัสลามุอะลัยกุ้มวะเราะห์มะตุลลอฮ์วะบะรอกาตุฮ์วะมัฆฟิร่อตุฮ์"  ท่านอิบนุอับกล่าวว่า  นี้คือผู้ใดกัน  ฉันจึงตอบว่า  ฉันคืออะฏออฺ  ดังนั้น ท่านอิบนุอับบาสจึงกล่าวว่า  การให้สลามนั้นสิ้นสุดเพียงแค่ วะบะรอกาตุฮ์  และท่านได้อ่านอายะฮ์ที่ว่า  "เราะห์มะตุลลอฮิวะบะรอกาตุฮู อะลัยกุ้ม อะฮ์ลัลบัยต์" 

อิบนุวะฮ์บิน  ได้นำเสนอสายรายงานที่ซอฮิห์  จากท่าน อิบนุอุมัร  ว่า  แท้จริงมีชายคนหนึ่งได้ให้สลามต่อท่าน  และได้เพิ่มคำว่า  วะมัฆฟิร่อตุฮ์   ท่านอิบนุอุมัรจึงห้ามปรามไว้  และกล่าวว่า  ท่านจงเพียงพอแค่  วะบะรอกาตุฮ์"  ดู  หนังสือ  อัลฟุตุฮาต อัรร๊อบบานียะฮ์ ของท่านอิบนุอะลาน  5/293

والله أعلى وأعلم

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1891.0
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ก.พ. 05, 2008, 09:23 AM »
0
ถ้าเป็นสลามในเวบบอร์ด คิดว่าคงไม่ใช่ประเด็นปัญหาเท่าไหร่มั้งครับ?

แต่ถ้าเป็นการสลามในการพูดคุย เช่นนี้เคยพบว่าอุละมาอ์ท่านกล่าวไว้ประมาณว่า ถ้าหากเป็นหญิงชรา หรือมีอายุ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นสาววัยรุ่น รุ่นราวคราวเดียวกันอันนี้ก็อาจจะเข้าข่ายมักรูฮฺได้ เพราะเำกรงว่าจะเป็นฟิตนะฮฺ โดยอาจเข้าข่ายกฎ سد الذرائع

ป.ล. ไม่ได้ตอบคำถามนะครับ เพราะความรู้ไม่ถึงขั้นจะตอบได้ แค่ช่วยนำเสนอสิ่งที่พบมา เพื่อรับฟังจากท่านผู้รู้อีกครั้งครับ


คุณไม่กล้าตอบแล้วใครจะกล้าตอบล่ะครับ  แต่รับฟังจากผู้รู้(อุลามาอ์)โดยอ้างอิงตำราของพวกเขา  ย่อมปลอดภัยกว่า  เพราะฉันเองก็ไม่ถึงขั้น wink:
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ Park Smart

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 9
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ก.พ. 05, 2008, 09:30 PM »
0
อัสสสลามมูอาลัยกุม

เขาตอบกลับมาแบบนี้อ่ะครับ พี่Goddut และพี่ๆทุกคน

''อันนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เพราะเราถูกสอนมาอย่างนั้น ว่าห้ามสลามผู้หญิง(ที่แต่งงานได้)ก่อนเราจะถูกสอนเราได้เถียงเหมือนที่นายว่าการสลามนี้มันดีไม่ใช่หรอ?? แล้วทำไมถึงห้ามสลามหละ ผู้อาวุโสบอกว่าไม่ได้ เพราะมันดูไม่ดี เราจะไปสร้างมนุษย์สัมพันธ์กับผู้หญิงหรออ เหมือนที่คนต่างศาสนาที่ชอบไปสร้างมนุษย์สัมพันธ์กับผู้หญิงแล้วก็พาผู้หญิงไปในทางที่ไม่ดี แล้วเราหละสลามหญิงก็เท่ากับว่าสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี จริงๆแล้วเราไม่ควรจะทักผู้หญิง ไม่ควรเข้าใกล้ ไม่ควรแตะ เนื้อต้องตัว เพราะมันเป็นซีนาเล็ก ตอนนี้อุมัรยุคสุดท้าย ต่างคนต่างก็เก่งเรื่องศาสนา แต่ไม่ค่อยจะเข้าใจศาสนา และไม่ค่อยจะปฎิบัติตามศาสนาที่ให้มา ตอนนี้ผมก็อัลฮัมฯ ที่ผมได้ปรับปรุงตัวเอง ได้อยู่ในห่นทางเพราะการด่ะว่ะ อัลลอฮุเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่มีความสามารถให้ฮีดายะได้ เราควรจะขออัลลอฮุได้โปรด ให้ฮีดายะทั้วโลกโดยกับการรับศาสนา ปฎิบัติตามศาสนา อามีน++ขอให้นายช่วยๆกันดุอาให้กับทุกๆคนให้ปลอดพ้นไฟนรกด้วยนะ อินชาฯ ไปหละ((ถ้าเราพูดผิดหรือผิดคำพูด เราขอมาอัฟนายด้วยนะ)) ไปหละ บายย
วัสสลาม^^''


ยาซากัลลอฮมากๆครับกับทุกคำตอบ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ก.พ. 05, 2008, 09:48 PM »
0
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

อวุโสที่คุณ Park Smart ได้รับฟังมานั้น  เขาพูดในเชิง  เผื่อไว้หรือป้องกันไว้ก่อน  หรืออยู่ขอบข่ายของกฎ سد الذرائع (ปิดกั้นสื่อที่จะชักนำ) แต่หากคุณต้องการจะรู้ฮุกุ่มตามหลักศาสนาว่า  มุบาห์  มักโระฮ์  หรือฮะรอมนั้น  พี่น้องเขาก็ได้ทำการนำเสนอข้างต้นเรียบร้อยแล้วครับ 

والسلام
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ก.พ. 06, 2008, 08:22 AM »
0
"เหมือนที่คนต่างศาสนาที่ชอบไปสร้างมนุษย์สัมพันธ์กับผู้หญิงแล้วก็พาผู้หญิงไปในทางที่ไม่ดี."

มันหมายถึงการกระทำ ในทางที่ไม่ดีนะครับ
ไม่ได้หมายความ ห้ามสลาม กันแบบดีๆ
อย่างข้างบนที่มีตัวอย่าง การสลามแบบที่ไม่ดี ( ย้อนกลับไปดูข้างบน )
เช่น  สลาม คนอยู่ในห้องน้ำ ( ทำกิจส่วนตัว ) มีฮะดิส บทหนึ่ง ที่ท่านนบีได้ทำกิจส่วนตัว ปรากฎมีบุคคลให้สลาม นบีก็ไม่รับสลามนะครับแบบนี้ เป็นต้น

คือเราต้องดูกาละเทศะ หรือเช่น กลุ่มชายหลายๆ คน ให้สลาม แบบแซวสาวๆ (ที่น่ารัก แต่ไม่รู้จัก) ตามงานสุเหร่าแบบ นี้ "อัสลาม จ้าคนสวย" ก็ไม่วายิบตอบอยู่แล้วครับ เพราะมันเหนียตแซว ไม่ได้เหนียตสลาม
คือ เราทำอะไรดูที่เจตนา จากด้านบนเราดูเจตนา ไม่ใช่อันนี้ห้าม อันนู้นไม่ได้ มันก็เกินไป
มีกล่าวไว้ในฮะดิส บทหนึ่งในเรื่องซื้อขาย ที่ดูคล้ายกันคือ .. .."ท่านนบีห้ามการซื้อขายที่เป็นแบบสัมผัสมือ (ระหว่างชาย หญิง)"
มันก็หมายถึง ไม่ใช่ห้ามการซื้อขายกัน แต่ห้ามแตะเนื้อต้องตัวกัน การซื้อขายกัน ก็ต้องมีปฏิสัมพันธ์กันอยู่แล้วครับ
ดังนั้น จะบอกว่าห้ามยุ่งเกี่ยว คนค้าขาย คนทำงาน ก็ไม่ต้องเป็นผู้ญ สิครับ

หากญใดมิได้แต่งงาน ก็นอนอยู่บ้านกินดินกินฝุ่นไปก็แล้วกัน
หรือญใด เป็นม่ายมีแต่ลูกสาว ก็รอให้คนมาขอลูกสาวอย่างเดียว
หรือญใด เป็นม่ายแต่ไม่มีลูก ก็หัดปลูกผัก เลี้ยงวัวที่บ้านก็แล้วกัน

ถ้าคิดแบบ ให้สลามกันไม่ได้เลย ถ้าเป็นเป็นคนละเพศ  แบบนี้ไม่สมเป็นอิสลามเลย มันตึงเกินไป...

วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: มีข้อสงสัยจะมาถามพี่ๆครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ก.พ. 06, 2008, 08:23 AM »
0
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

อวุโสที่คุณ Park Smart ได้รับฟังมานั้น  เขาพูดในเชิง  เผื่อไว้หรือป้องกันไว้ก่อน  หรืออยู่ขอบข่ายของกฎ سد الذرائع (ปิดกั้นสื่อที่จะชักนำ) แต่หากคุณต้องการจะรู้ฮุกุ่มตามหลักศาสนาว่า  มุบาห์  มักโระฮ์  หรือฮะรอมนั้น  พี่น้องเขาก็ได้ทำการนำเสนอข้างต้นเรียบร้อยแล้วครับ 

والسلام

ใช้แล้วครับ มันเหมือนเรื่อง สุรา
ที่เป็นบาป เล็กกว่า ฆ่าคน และ ซินา

แต่เราก็ห้ามมัน เพราะมันเป็นเครื่องชี้นำ ไปสู่อีกสองสิ่งไงครับ...