12. ห้ามบรรดาสตรีของหย่ากับสามีโดยไร้เหตุผล
การแต่งงานเป็นบทบัญญัติที่อัลเลาะฮ์ทรงเรียกร้องและท่านร่อซูลุลเลาะอ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ให้การส่งเสริม ดังนั้น การแต่งงานจึงเป็นความผูกพันธ์ระหว่างชายและหญิงตามหลักการของศาสนา ที่มีขอบเขตจำกัด มีกฏระเบียบต่าง ๆ ได้วางไว้ และมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้รับผลมาจากการแต่งงาน เช่นการรังสรรค์สังคม ด้วยการมีครอบครัวอิสลามที่อยู่ในทางนำของอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ประหนึ่งก้อนอิฐหนึ่งที่ร่วมสร้างสรรค์สังคมที่มีความมีคุณธรรม แต่บางครั้งอาจเป็นการทำลาย ด้วยเหตุของการมีครอบครัวที่หย่าร้างแยกทางกัน ซึ่งเป็นผลในแง่ลบที่มีต่อ สามี ภรรยา ลูก ๆ และสังคม
ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ อัลเลาะฮ์จึงวางบทบัญญัติและทรงเรียกร้องให้เรามีการแต่งงาน - เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างเรามาและทรงตระหนักยิ่งต่อศักยภาพของเรา - ดังนั้น พระองค์ทรงรู้ดีว่า พฤติกรรมหรือจรรยามารยาทนั้น บางครั้งขาดความเหมาะสม บรรดาความคิดย่อมมีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น พระองค์ทรงวางบัญญัติในเรื่องของการหย่า(ต่อล๊าก)ให้แก่เรา กล่าวคือ หากไม่มีทางเลือกอื่นในการคืนดีระหว่างสองสามีภรรยาแล้ว ก็ต้องมีการแยกทางระหว่างทั้งสองด้วยการหย่า
แต่ทว่าอัลเลาะฮ์ ตะอาลา ทรงวางระบบของหลักชาริอัต เช่น การหย่าไว้ โดยมีขอบเขต ผู้ที่มักง่ายจะละหมาดขอบเขตดังกล่าวนั้นไม่ได้ ซึ่งส่วนหนึ่งจากขอบเขตเหล่านั้น คือ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทรงห้ามบรรดาสตรีขอหย่าต่อบรรดาสามีอย่างไร้เหตุผล และท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ได้เตือนให้ตระหนักถึงโทษต่อผู้ที่กระทำสิ่งดังกล่าว
ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"สตรีใดที่เขาให้สามีของนางทำการหย่า โดยไม่มีปัญหาอันใด ดังนั้น กลิ่นหอมของสวรรค์จะถูกห้ามแก่นาง" รายงานโดย อบูดาวูด , อัตติรมีซีย์ , และท่านอิบนุมาญะฮ์ และหะดิษนี้ซอฮิหฺ
วัลลอฮุอะลัม