ผู้เขียน หัวข้อ: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี  (อ่าน 44910 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #180 เมื่อ: ก.ย. 19, 2008, 02:35 PM »
0
salam

อย่างนี้ ถ้าเกล้าผมสูงๆ แล้วคลุมฮิญาบ ก็ทำได้อย่างนั้นเหรอค่ะ แล้วถ้าอยู่ในบ้านจะทำได้มั้ยค่ะ

ถ้าเกล้าผมในรูปแบบดังกล่าวในบ้าน  กระทำได้อยู่แล้วครับ 
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #181 เมื่อ: ก.ย. 19, 2008, 02:53 PM »
0
salam

               อยากได้คำตอบแบบชัดแจ้งอะค่ะ  ว่าเวลาผู้หญิงเขาแต่งงาน แล้วโกนขนจัญไรบนใบหน้าเนี่ยะ  เข้าข่ายมั้ยค่ะ

เรียกขนจัญไรเลยหรือครับ  ขนไรตามใบหน้าเล็กน้อยของผู้หญิงนั้น ไม่จัญไรนะครับ  ;D

ท่านอิบนุมัสอูด รายงานว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

لعن الله الواشمات والمستوشمات, والناصمات والمتنمصات, والمتفلجات للحسن, المغيرات خلق الله

"อัลเลาะฮ์ทรงสาปแช่ง ผู้หญิงที่ทำการสัก และใช้ให้ทำการสัก ผู้หญิงที่ขจัดขนบนใบหน้าและผู้หญิงที่ขอให้ขจัดขนบนใบหน้า ผู้หญิงที่ถ่างช่วงระหว่างฟันเพื่อความสวยงาม ซึ่งพวกนางเป็นผู้ที่ทำการเปลี่ยนแปงการสร้างของอัลเลาะฮ์..." รายงานโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม

การขจัดขนบนใบหน้า ย่อมครอบคลุมถึง ขนคิ้วด้วยเช่นกัน ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวว่า "การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่หะรอม นอกจาก ผู้หญิงที่มีเคราและหนวดงอกขึ้นมา ดังนั้น จึงไม่หะรอมที่จะขจัดมันออกไป ยิ่งกว่านั้น ยังถือว่าเป็นสุนัตให้ขจัด(เคราและหนวดของสตรี)ตามทัศนะของเรา(มัซฮับชาฟิอีย์)...และแท้จริง การห้ามนั้นคือการขจัดขนคิ้วและบริเวนใบหน้า" ดู ชัรหฺซอฮิหฺมุสลิม เล่ม 7 หน้า 361 หะดิษที่ 2125

ดังนั้น  ขนจัญไร  ไม่ใช่หนวดไม่ใช่เคราน่ะครับ  จึงไม่อนุญาตให้ขจัดออกไป  นอกจากสามีอนุญาต  วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #182 เมื่อ: ก.ย. 20, 2008, 12:53 AM »
0
เกี่ยวอะไรกับสามีล่ะครับ หรือว่าที่ไม่ให้โกนออกก็เพราะเพื่อสามี
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #183 เมื่อ: ก.ย. 20, 2008, 07:35 AM »
0
 salam

ผู้หญิงที่ถ่างช่วงระหว่างฟันเพื่อความสวยงาม ซึ่งพวกนางเป็นผู้ที่ทำการเปลี่ยนแปงการสร้างของอัลเลาะฮ์..." รายงานโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม

แล้วถ้าผู้หญิงที่มีฟันห่าง คือมีช่องว่างของฟัน แล้วทำการใส่เพื่อเติมเต็ม  จะได้ไหมเอ่ย?  ;D

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #184 เมื่อ: ก.ย. 20, 2008, 01:06 PM »
0
salam

ผู้หญิงที่ถ่างช่วงระหว่างฟันเพื่อความสวยงาม ซึ่งพวกนางเป็นผู้ที่ทำการเปลี่ยนแปงการสร้างของอัลเลาะฮ์..." รายงานโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม

แล้วถ้าผู้หญิงที่มีฟันห่าง คือมีช่องว่างของฟัน แล้วทำการใส่เพื่อเติมเต็ม  จะได้ไหมเอ่ย?  ;D

หากมีฟันห่างหรือมีช่วงระหว่างฟันที่ทำให้เสียโฉมหรือเป็นปมด้อยทางจิตใจ  ก็อนุญาตให้ทำฟันได้นะครับ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #185 เมื่อ: ก.ย. 20, 2008, 01:16 PM »
0
แซงคิวนี่ ผมถามก่อนว่าเกี่ยวอะไรกับสามี ทำไมต้องให้ผัวอนุญาตด้วยครับ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ f@ri

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 11
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #186 เมื่อ: ต.ค. 07, 2008, 05:22 PM »
0
อัสลามมูอะลัยกุมค่ะ
           รออ่านข้อต่อไปอยู่ค่ะ บัง al-azhary อย่าลืมข้อที่เหลือนะคะ

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
party:

ออฟไลน์ นูรุ้ลอิสลาม

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1356
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #187 เมื่อ: พ.ย. 11, 2008, 02:25 PM »
0
เกี่ยวอะไรกับสามีล่ะครับ หรือว่าที่ไม่ให้โกนออกก็เพราะเพื่อสามี

       เมื่อสามีต้องการและยินยอมให้ภรรยาสวยงามด้วยการกระทำดังกล่าว  ถือว่าอยู่ในฮุ่กุ่มการตบแต่งให้สวยงามเพื่อสามีจะได้รักเย็นตาเย็นใจ  มันเป็นเรื่องอนุญาตในแง่มุมนี้น่ะ
لا إله إلا الله محمد رسول الله

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #188 เมื่อ: พ.ย. 13, 2008, 03:32 PM »
0
 salam

มีเพิ่มเติมไหมเอ่ย?

   


ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #189 เมื่อ: พ.ย. 13, 2008, 03:39 PM »
0
อ้างถึง
13.  ห้ามสตรีอยู่ตามลำพังกับชายอื่น

ท่านอับดุลเลาะฮ์ อิบนุ อับบาส (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา) กล่าวว่า   ฉันได้ยินท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวสุนทรพจน์  ความว่า "ชายคนหนึ่งจะไม่อยู่ตามลำพังกับผู้หญิงคนหนึ่ง  นอกจากพร้อมกับนางต้องมีมะห์รอม(ผู้ที่แต่งงานร่วมกันไม่ได้)"  รายงานโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม

ท่านอุกบะฮ์ บิน  อามิร  (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ)  ได้รายงานว่า  แท้จริงท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า "พวกท่านจงระวังการเข้าไปหาบรรดาสตรี  ผู้ชายคนหนึ่งจากชาวอันซ๊อร ตั้งคำถามขึ้นว่า   ท่านเห็นว่าอย่างไรเกี่ยวกับพี่น้องของสามี?  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ตอบว่า  พี่น้องสามีคือความตาย" รายงานโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม

ดังนั้น  สองหะดิษนี้  ระบุชัดเจนในเรื่องของการห้ามอยู่ร่วมตามลำพังระหว่างบุรุษและสตรีอื่น   และเราได้นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องนี้  เนื่องจากสตรีส่วนมากทำเบาความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว  ด้วยการอนุญาตให้ชายอื่นเข้าไปพบนางได้  นั่งร่วมคุยกับนางได้  ด้วยการอ้างว่า  เขาเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของครอบครัว  แต่นางได้ทำให้เสื่อมเกียรติด้วยการอ้างเหตุผลที่คลุมเครือดังกล่าว  ทำลายครอบครัวของตนเอง

ฉะนั้น  จึงมีความจำเป็นต่อสตรีมุสลิมะฮ์  ต้องไม่ให้ผู้ใดเข้ามาในบ้านของสามีนอกจากผู้ที่สามีพอใจ  และให้นั่งคุยด้วยมารยาทตามกฏบัญญัติของศาสนา  ด้วยการคลุมฮิญาบ  ไม่นั่งตามลำพังสองต่อสอง  และต้องมีความจำเป็นเท่านั้น  ดังนั้น  สตรีผู้เป็นภรรยาต้องไม่นั่งพร้อมกับชายอื่น  - แม้กระทั่งอยู่ต่อหน้าสามีหรือคนใดจากผู้ที่ไม่สามารถแต่งงานกับนางได้ก็ตาม  -  เพียงเพื่อนั่งพูดคุยหรือพูดจาพาทีกับอีกฝ่ายหนึ่ง   แต่ทว่า  การนั่งพูดคุยนั้น  เพราะมีความจำเป็นทางด้านศาสนา  เช่นเพื่อการเยียวยารักษาหรือเพื่อการแต่งงาน

สตรีบางส่วนนั่งคุยกับชายอื่นโดยมีบุตรเล็ก ๆ ของตนร่วมอยู่ด้วย  และอ้างว่าหากมีบุตรเล็ก ๆ ทั้งหญิงหรือชาย ร่วมอยู่ด้วยถือว่าไม่เป็นการอยู่ร่วมกันตามลำพัง  ซึ่งดังกล่าวนี้  ถือว่าไม่ถูกต้อง  เพราะการมีเด็กเล็ก ๆ ร่วมอยู่ด้วยนั้น  เหมือนกับไม่มี  เนื่องจากไม่มีความละอายใด ๆ ให้กับเด็กเพราะอายุยังน้อย   และเช่นเดียวกัน  ในกรณีที่บรรดาชายอื่นมากกว่าหนึ่ง  ได้อยู่ร่วมกับสตรีเพียงคนเดียว  ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้าม
และบางครั้งผู้ชายพบกับผู้หญิงพบกันระหว่างทางโดยบังเอิญ   ก็ถือว่าอนุญาตให้เดินทางพร้อมกับเขาได้  แต่ให้ผู้ชายเดินนำหน้าสตรี   เสมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท่านหญิงอาอิชะฮ์  (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา)  ในขณะที่ท่านหญิงได้เดินทางอยู่ข้างหลังกองทหาร  ซึ่งอยู่ในช่วงของเหตุการณ์ที่ท่านหญิงถูกกล่าวหาในครั้ง

วัลลอฮุอะลัม


ส่วนใหญ่มักมองข้ามข้อนี้
 natural:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 14, 2008, 03:38 PM โดย zaifuddeen »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #190 เมื่อ: พ.ย. 15, 2008, 08:48 PM »
0
 salam

17. ห้ามมุสลิมโกรธกันเกินสามวัน

อิสลามเป็นศาสนาแห่งความรัก  เอื้ออาทร  เกลื้อกูล  ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ดังนั้นมุสลิมีนที่อยู่ในความรักอาทรและเมตตาต่อกันนั้นประหนึ่งเรือนร่างเดียวกัน  เมื่ออวัยวะส่วนหนึ่งเจ็บป่วย  อวัยวะส่วนอื่น ๆ ก็จะคอยไม่สบายและมีความทุกข์ใจไปด้วย

ด้วยเหตุนี้อิสลามจึงห้ามการโกรธต่อกัน  อิจฉาริษยาต่อกัน  หันหลังให้กัน  และตัดขาดสัมพันธ์ต่อกัน  และยังห้ามให้โกรธต่อพี่น้องของเขาเกินสามวัน

รายงานจากท่านอะบี อัยยูบ อัลอันซอรีย์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ว่า แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า  "ไม่อนุญาตให้มุสลิมห่างเหิน(โกรธ)พี่น้องของเขาเกินกว่าสามวัน  ครั้งทั้งสองได้จบเจอกัน  แล้วคนนี้ผินหน้าไปอื่น และอีกคนนี้ก็ผินหน้าไปทางอื่น  ผู้ที่ดีเลิศจากทั้งสองนั้นคือผู้ที่เริ่มให้สลาม" รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม

แต่ทว่าอัลเลาะฮ์ทรงเข้มงวดในการบาดหมางระหว่างพี่น้องมุสลิม  ด้วยการล่าช้าการให้อภัยโทษบรรดาบาปของผู้ที่ทะเลาะและบาดหมางต่อกันขณะที่บรรดาอะมัลได้ถูกนำเสนอในทุกวันจันท์และพฤหัสบดี

รายงานจากท่านอะบูฮุร็อยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ว่า  ท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า  "บรรดาอะมัลของถูกนำเสนอในทุก ๆ วันจันทร์และวันพฤหัสบดี  ดังนั้นอัลเลาะฮ์จักทรงอภัยโทษแก่ผู้ที่ไม่กระทำสิ่งใดที่ตั้งภาคีเลยต่อพระองค์  นอกจากบุคคลหนึ่งที่ระหว่างเขาและพี่น้องของเขามีความเกลียดชังต่อกัน  พระองค์ก็จะทรงตรัสว่า พวกท่านจงละทิ้งทั้งสองคนนี้ก่อนจนกว่าทั้งสองจะทำการประณีประนอมต่อกัน" รายงานโดยมุสลิม

ดังนั้นการหมางเมินต่อกันระหว่างสตรีนั้นเหตุใดถึงมีมากอย่างนี้!  และสาเหตุที่ทำให้ต้องหมางเมินต่อกันระหว่างพวกนางช่างเป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกิน!

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ chocolatesunday

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 149
  • "ของหวาน" ที่มีเอกลักษณ์ตรง "ความขม" >o<
  • Respect: +26
    • ดูรายละเอียด
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #191 เมื่อ: พ.ย. 15, 2008, 11:18 PM »
0
salam

17. ห้ามมุสลิมโกรธกันเกินสามวัน

ดังนั้นการหมางเมินต่อกันระหว่างสตรีนั้นเหตุใดถึงมีมากอย่างนี้!  และสาเหตุที่ทำให้ต้องหมางเมินต่อกันระหว่างพวกนางช่างเป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกิน!



           ผู้หญิงละเอียดอ่อนมั่ง  เลยเก็บตกทุกรายละเอียด   ชอบคิดเล็กคิดน้อย  ทั้งที่เป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง

                 ญาซากัลลอฮฺค่ะสำหรับข้อมูลดีๆๆ  จารออ่านอีก 13 ข้อ  loveit:   loveit:   loveit:
               

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #192 เมื่อ: พ.ย. 16, 2008, 12:18 PM »
0
 salam

18. ห้ามสร้างความเดือนร้อนแก่เพื่อนบ้าน

บุคคลหนึ่งจะไม่สามารถอยู่ห่างไกลจากผู้คนในสังคมได้  เพราะ ณ ที่นั่นยังต้องมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นระหว่างพวกเขาเพื่อดำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์ที่เฉพาะ

อนึ่ง  ในสังคมอิสลาม  ความสัมพันธ์ในระหว่างปัจเจกชนในสังคมทั้งจะไม่ถูกละเลยอย่างไร้ซึ่งกฏเกณฑ์และไร้ขอบเขตแต่เพื่อสนองเป้าหมายของอัลเลาะฮ์ตะอาลาให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมอิสลามโดยวางบทบัญญัติเพื่อจัดระเบียบความสัมพันธอ์อันเหล่านี้และรักษาไว้ซึ่งความเป็นเอกภาพในสังคม

บางครั้งความสัมพันธ์ที่โดดเด่นที่สุดในสังคมก็คือความสัมพันธ์ระหว่างมุสลิมกับเพื่อนบ้านของเขา

พี่น้องมุสลิมะฮ์ผู้รักษาไว้ซึ่งเกียรติและสิทธิของเพื่อนบ้านครับ  เราอยากจะกล่าวว่า  เพื่อนบ้านคนหนึ่งนั้นย่อมมีสิทธิ์พึงปฏิบัติต่อเพื่อนบ้านด้วยกัน  ให้ทำรักษาและปกป้องสิทธิเหล่านั้น  ด้วยการปฏิบัติดีต่อเขา  ช่วยเหลือกันในเรื่องความดีงาม  หักห้ามในสิ่งที่ต้องห้าม  สร้างความใกล้ชิด  และความรักอาทรต่อกันด้วยการมอบของฝากหรือของกำหนดให้แก่กันเนื่องจากดังกล่าวทำให้เกิดความสบายใจและมีทัศนะคติที่ดีต่อกัน

มีฮะดิษซอฮิห์ได้รายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า "ญิบรีลได้สั่งเสียฉันเกี่ยวกับเพื่อนบ้าน จนกระทั่งคิดว่าสามารถรับมรดกกันได้" รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม

รายงานจากอะบูซัรริ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "โอ้ อะบาซิรรฺ! เมื่อท่านได้ปรุงน้ำแกง  ก็จงทำน้ำแกงให้มาก ๆ และจงให้เพื่อนบ้านของท่านด้วย" รายงานโดยมุสลิม

ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้มุสลิมหรือมุสลิมะฮ์สร้างความเดือนร้อนแก่เพื่อนบ้าน  ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ  เนื่องจากข้อห้ามจากสิ่งดังกล่าว

อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "และบรรดาผู้สร้างความเดือนร้อนแก่มวลชนผู้ศรัทธาทั้งชายและหญิง (โดยใส่ร้าย) ในสิ่งที่พวกเขามิได้พากเพียรไว้  แน่นอนพวกเขาเหล่านั้นย่อมต้องแบกความเท็จ และบาปอันชัดแจ้งไว้" อัลอะหฺซาบ 58

รายงานจากอะบูฮุร็อยเราะฮ์  ว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "โอ้ บรรดาสตรีมุสลิมะฮ์เอ๋ย  เพื่อนบ้านสตรีคนหนึ่งจะต้องไม่ดูหมิ่นเพื่อนบ้านของนาง  หากแม้นว่า(สิ้นน้ำใจมอบให้) จะเล็กน้อยก็ตาม" รายงานโดยบุคอรีและมุสิลม

พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย  จงพยายามรักษาไว้ซึ่งสิทธิเพื่อนบ้านของพวกเธอ  ปฏิบัติต่อกันด้วยความดีงาม  หากแม้นว่าด้วยคำพูดดี ๆ สักหนึ่งคำ หรือด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสักทีก็ตาม

และจงระวัง  การสร้างความเดือนร้อนต่อเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำ ซึ่งเป็นเหตุให้อัลเลาะฮ์ทรงพิโรจและจะทรงลงโทษอย่างร้ายแรง

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ HANEE

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 63
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #193 เมื่อ: พ.ย. 28, 2008, 09:23 AM »
0
สลาม

มารออ่านข้อต่อไปอยู่  ...
อิอิ

 ;D party:

ออฟไลน์ Browny

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 47
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สามสิบข้อห้ามทางศาสนาที่มีต่อบรรดาสตรี
« ตอบกลับ #194 เมื่อ: พ.ย. 28, 2008, 03:22 PM »
0
อีก 12 ข้อ สู้ๆ นะค่ะ คุณ al-azhary 

ครบเมื่อไหร่ จะขอพิมพ์ไปแจกให้น้องๆ มุสลิมะห์นะค่ะ  ญะซากัลลอฮเจ้า

 

GoogleTagged