14. ห้ามสตรีจากการจับมือกับชายอื่น
รายงานจากมะอฺกิล บิน ยะซ๊าร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ความว่า "ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า การให้เข็มที่ทำมาจากเหล็กแทงบนศรีษะของบุคคลหนึ่งจากพวกท่านนั้น ดียิ่งกว่าสำหรับเขา จากการสัมผัสสตรีคนหนึ่งที่ไม่ฮะล้าลแก่เขา" ฮะดิษรายงานโดยท่านอัฏฏ๊อบรอนีย์ ซึ่งเป็นฮะดิษหะซัน
รายงานจากอุมัยมะฮ์ บุตรี ร่อกีเกาะฮ์ นางกล่าวว่า ฉันได้ไปหาท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม โดยมีบรรดาสตรีที่ต้องการให้สัตยาบันต่อท่านร่อซูลุลเลาะฮ์เพื่อศาสนาอิสลาม ดังนั้น พวกนางกล่าวว่า โอ้ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์! เราจะให้สัตยาบันต่อท่านว่า เราจะไม่ตั้งภาคีต่ออัลเลาะฮ์กับสิ่งใดเลย เราจะไม่โขมย เราจะไม่ทำซินา เราจะไม่ฆ่าบรรดาบุตรของเรา เราจะนำมาซึ่งความมดเท็จที่จะนำมากล่าวหาระหว่างมือและเท้าของเรา เราจะไม่ฝ่าฝืนท่านในเรื่องความดีงาม ดังนั้น ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวว่า "ในสิ่งที่พวกเธอสามารถน่ะ" พวกนางจึงกล่าวว่า อัลเลาะฮ์และร่อซูลของพระองค์ เมตตาพวกเรายิ่งกว่าตัวของพวกเราเอง ท่านจงมาเถิด มาจะให้สัตยาบันต่อท่าน โอ้ร่อซูลลุลลอฮ์ ท่านร่อซูลุลเลาะอ์จึงกล่าวว่า "แท้จริงแล้ว ฉันจะไม่สัมผัสมือกับบรรดาสตรี อันที่จริงคำกล่าวของฉันให้กับสตรี 100 คนนั้น เหมือนกับการกล่าวของฉันให้กับสตรีเพียงคนเดียวหรือเหมือนกับคำกล่าวของฉันให้กับสตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น" รายงานโดยอิมามาลิก ในมุวัฏเฏาะ หน้า 982
ฉะนั้น ทั้งสองฮะดิษนี้บ่งชี้ถึง ไม่อนุญาตให้สตรีทำการจับสัมผัสมือกับชายอื่น เพราะการสัมผัสนั้นเป็นบทนำของซินา
ดังนั้นสิ่งที่บรรดาผู้แอบอ้างถึงอารยาธรรมสมัยใหม่เพื่อหลอกลวงในศาสนาที่กล่าวว่า การสัมผัสมือระหว่างผู้หญิงและผู้ชายนั้นเป็นเครื่องหมายของความเป็นมิตรแท้ต่อกันนั้น ถือเป็นความโกหกที่ไม่มีหลักฐานอัลกุรอานและซุนนะฮ์มายืนยัน ยิ่งกว่านั้นยังมีหลักฐานมากมายที่มายืนยันขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเขาอ้าง
วัลลอฮุอะลัม
ญะชากัลลอฮฺฮู่คอยรอน คะ
แล้วถ้าการสลามระหว่างชายหญิงที่เกิดขึ้นโดยสัมผัสมือ แต่ว่ามีผ้ากั้นระหว่างมือทั้งสองได้ไหม๊อ่ะค่ะ
อีกหนึ่งข้อ แล้วการสลามระหว่างชายหญิงที่เป็น อา น้า ลุง น้าเขย และ ญาติ(ลูกพี่ลูกน้อง) เพราะกลับไปบ้าน
พอเจอ อา น้า ลุง น้าเขย ก็ต้องเข้าไปสลามขอความกระจ่างหน่อยนะค่ะ ญะชากัลลอฮฺฮู่คอยรอน อีกรอบ คะ อาบังal-az hary
ผู้รู้น้อยอยากจะรู้ให้มากๆ
การสลามจับมือระหว่างสตรีกับผู้ที่เป็นมะห์รอม(ผู้ที่แต่งงานกับเราไม่ได้)นั้น ถือว่าเป็นทำการจับมือสลามได้ครับ เช่น อา น้า ลุง และญาติพี่น้องที่แต่งงานกับเราไม่ได้ ส่วนน้าเขย จับมือสลามไม่ได้นะครับ เพราะว่าเขาอยู่ในฮุกุ่มของชายอื่นที่ยังมีหลักการของศาสนาที่สามารถจะแต่งงานกับเราได้ สรุปคือ คนที่แต่งงานกับเราไม่ได้ตลอดกาลนั้น ไม่อนุญาตให้จับมือสลาม
ส่วนการจับมือสลามโดยมีของกั้นนั้น ชัยค์อัชชะอฺรอวีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ฟัตวาว่า อนุโลมให้กระทำได้ แต่อนุโลมแบบสุดวิสัยจริง ๆ เช่นพ่อเราไปงานแต่งงาน ไปเจอญาติผู้ใหญ่ พ่อจริงแนะนำว่านี้คือลูกสาวฉันน่ะ แล้วพ่อก็ใช้ให้ลูกสาวไปจับมือสลามญาติผู้ใหญ่ ก็ให้ทำการให้สลามโดยมีของกั้น เช่นมีผ้าฮิญาบกั้นไว้หรือผ้าเช็ดหน้า นั่นคืออนุโลมแบบสุดวิสัยจริง ๆ
ส่วนการจับมือให้สลามกับคนชราที่ฮุกุ่มแต่งงานกับเราได้นั้น ก็ไม่อนุญาตให้กระทำนะครับ แต่มัซฮับฮะนาฟีย์ มีทัศนะว่า คนชราที่ไม่มีอารมณ์แล้ว อนุญาตให้จับมือสลามได้ เพราะเหตุผลที่ว่า ไม่มีฟิตนะฮ์แล้ว ส่วนมัซฮับชาฟิอีย์ไม่อนุญาตให้จับมือแม้จะเป็นคนชราก็ตาม
วัลลอฮุอะลัม
อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮ์ วะบารอกาตุ
ชัดเจนมากค่ะ...
ที่เข้ามาขุดกระทู้นี้ มิใช่เพื่อกิจใด...
พอดีวันนี้ มีมุสลีมีนของเรานี่แหล่ะค่ะ
ซึ่งเขาเคยกล่าวสลามกับข้าน้อยเป็นประจำ
เวลาข้าน้อยเดินผ่านตอนไปกินข้าว
เพราะเขารู้ว่าเราเป็นมุสลิมะฮฺ...
วันนี้เขายกมือขอสลามกับข้าน้อย...
ข้าน้อยก็บอกว่า ผู้หญิงกับผู้ชายสัมผัสมือกันไม่ได้
เขาบอกว่า ทำไมจะสลามกันไม่ได้ล่ะ...
ข้าน้อยบอกว่า ไม่ได้...ยังไงก็ไม่ได้หรอก...
(ใครจะทำ...มันไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
ท่านลองคิดดูว่า ถ้าเกิดมีผู้ชายเดินเรียงหน้า
มาขอสัมผัสมือกับท่าน โดยบอกว่าเขาต้องการสลาม
เพื่อเป็นมารยาทในการทักทายกัน มุสลิมะฮ์อย่างเรา
จะว่าอย่างไร)สำหรับข้าน้อยเชื่อว่า ต่อให้ไม่ใช่มุสลิมะฮ์
แค่ผู้หญิงทั่วๆไปนี่แหล่ะค่ะ ถ้ามีผู้ชายจะแปลกหน้า
หรือไม่แปลกหน้า ถ้าไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องหรือญาติๆ
มาขอสัมผัสมือ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
ข้าน้อยว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะยอมสัมผัสมือด้วยง่ายๆ
หรอกค่ะ...
ข้าน้อยเลยบอกว่า ทำไม่ได้...
เขาก็บอกว่า ทำไมจะทำไม่ได้ เรานับถืออิสลามเหมือนกัน
ก็แค่การทักทายกันเพื่อกระชับมิตร...
ข้าน้อยก็ตกใจ...เลยบอกไปว่า...
ที่ข้าน้อยเรียนมา มันทำไม่ได้
เขาก็บอกว่าไปเรียนมาจากไหน...
ข้าน้อยก็เลยบอกว่า โต๊ะครูนั่นแหล่ะบอกมา
ว่าผู้หญิงกับผู้ชายที่ไม่ใช่มะรอมจะสัมผัสมือกันไม่ได้
เขาก็งงๆนะคะ...เราเองก็งงๆเหมือนกันค่่ะ...
ก็เลยบอกเขาไปว่า...ถ้าท่านกล่าวสลามมา
ฉันจะกล่าวสลามตอบไป...แต่ถ้าท่านขอสัมผัสมือฉัน
ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นหรอก...
แล้วก็เดินข้ามถนนไป....ได้ยินเสียงแว่วหูตามหลังมา
จากชายกาเฟรที่กำลังต่อว่ามุสลีมีนคนนั้นว่า
"แกจะไปขอจับมืิอเขา ใครที่ไหนเขาจะยอม...บ้ารึเปล่า...
นั่นน่ะผู้หญิงนะ...ไปขอจับมือเขาง่ายๆได้ยังไง...
ไม่อายเหรอ..."
ก็เลยทำให้ต้องกลับมาดูที่นี่อีกครั้งว่าไอ้ที่เราเรียนมา
มันถูกต้อง และก็ชัดเจนค่ะ...
ดีใจและภูมิใจที่ได้อยู่ในศาสนาอิสลามค่ะ...
ไม่มีอะไรที่ศาสนาอิสลามจะให้คำตอบไม่ได้...
เล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าจะมีมุสลีมะฮฺท่านใดเจอมาเหมือนๆกัน
หรืออาจจะได้เจอในอนาคต...จะได้ทำถูก...
และไม่หลงกลคนเจ้าเล่ห์ค่ะ...
เพราะกรณีนี้ ข้าน้อยเชื่อว่า คนขอสัมผัสมือ
ไม่ได้บริสุทธิ์ใจ...สัญชาตญาณมันบอกว่าอย่างนั้น...
...วัสลามค่ะ...