อ้างอิงข้อความของ น้องก๊อดดัด จากมุสลิมไทยเท่าที่ผมเรียน วิชาเศรฐกิจอิสลาม คือ หากกำหนดหรือตกลงเปอร์เซ็นตายตัว ถือว่าเป็นดอกเบี้ย (ริบา) หากผลกำไรหรือเงินปันผลที่ได้ มีการขึ้นลง แล้วแต่ผลกำไรที่ได้รับ ถือว่าเป็นการร่วมหุ้นลงทุน ( อัลมุฏร่อบะฮ์) แต่ดังกล่าว ทำไมถึงมันแตกต่างจากข้างต้น
การขอเงินกู้นั้น มีอยู่ 2 ประเภท1. การร่วมลงทุน
2. การขายต่อ
1. การร่วมลงทุนสำหรับการร่วมลงทุน ที่ว่านี้ คือร่วมหุ้นลงทุน กล่าวคือ การให้เงินสนับสนุนช่วยเหลือและได้ผลตอบแทนตามเศรษฐกิจนั้นๆ ที่ประกอบการอยู่
ยกตัวอย่างเช่น
คุณต้องการสร้างหอพักให้คนเช่า แต่คุณไม่มีเงิน คุณจึงมาขอแรงให้ผมช่วย ผมก็ช่วยเหลือด้วยการร่วมลงทุน
การสร้างหอพักใช้เงิน 100 บาท คุณมี 70 บาท ผมจึงขอร่วมลงทุนช่วยคุณ 30 บาท นั้นหมายความว่าผมได้มีหุ้นส่วนอยู่ในหอพักดังกล่าว 30%
เมื่อหอพักสร้างเสร็จ สามารถทำกำไรได้ 200 บาท นั้นหมายถึง ค่าเงินลงทุนของผม 30% นั้น ผมจะต้องได้รับผลตอบแทนเป็นเงินทั้งสิ้น 60 บาท
ดังนั้นในข้อตกลงนี้ ผมถือว่าผมเป็นหุ้นส่วนกับคุณ เมื่อมีการบริหารผมก็สมควรจะรับรู้ด้วยหรือได้มีส่วนในการดูแลตัดสินใจบ้าง
นี่คือการร่วมลงทุน
2. การขายต่อสำหรับการขายต่อ ที่ว่านี้ คือทำกิจการทั้งหมดก่อนแล้วค่อยยกคืนให้ทีหลัง กล่าวคือ การให้เงินสนับสนุนช่วยเหลือและได้ผลตอบแทนทั้งหมดตามที่ได้มีข้อตกลงกันไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง
ยกตัวอย่างเช่น
คุณต้องการสร้างหอพักให้คนเช่า แต่คุณไม่มีเงิน คุณจึงมาขอแรงให้ผมช่วย ผมก็ช่วยเหลือด้วยการออกเงินทุนให้ทั้งหมด
การสร้างหอพักใช้เงิน 100 บาท คุณมี 70 บาท ผมบอกไม่เอาเงินคุณ ดังนั้นผมขอปลูกหอพักเอง
โดยใช้เงินทั้ง 100 บาทของผม แต่ผมขอค่าดำเนินการ คิดเป็น 20% นั้นคือผมจะยินดีขายต่อให้คุณด้วยราคา 120 บาท ด้วยระยะเวลาเท่าที่ตกลงกันไว้
ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่าผมได้มีหุ้นส่วนอยู่ในหอพักดังกล่าวเป็น 100% เพราะในข้อตกลงนั้นเป็นโครงการคุณเอง
คุณจึงเป็นผู้บริหารโครงการแต่เพียงผู้เดียว เพียงแต่ตึกหอพักดังกล่าวนั้นผมเป็นคนปลูกให้ และคุณจะต้องซื้อตึกของผมไปเป็นของคุณ
เมื่อหอพักสร้างเสร็จ สามารถทำกำไรได้ 200 บาท นั้นหมายถึง คุณจะมีเงินครบ 100% ดังนั้นคุณต้องซื้อตึกของผมไปเป็นของคุณซึ่งจะหมายถึงจะได้เป็นกิจการของคุณโดยสมบูรณ์
โดยคุณจะต้องซื้อตึกของผมไปในราคา 120 บาท ตามที่เราได้ตกลงกันไว้แล้วครับ
นี่คือการขายต่อ
จบ...
ดังนั้นคำว่า เปอร์เซนต์ ( % ) ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าดอกเบี้ย แต่เป็นค่าดำเนินการซึ่งแล้วแต่ตกลงกันในระหว่างการเจรจาปล่อยเงินช่วยเหลือ ตามแต่จำนวนเงินที่ได้มีการร้องขอ
เพราะหากจะบอกว่า เราขอกำไร 20 บาท ( หมายถึงเป็นกำไรในการดำเนินการแบบตายตัว ก็จะทำให้ระบบที่ว่าขาดความสมดุล )
ตัวอย่าง
คุณต้องการบ้านหนึ่งหลัง ผมปลูกบ้านให้คุณก่อน ใช้เงิน 100 บาท คุณก็จะต้องซื้อจากผมราคา 120 บาท
แต่ถ้า คุณต้องการตึก 5 ชั้น ผมปลูกตึกให้คุณก่อนใช้เงิน 1000 บาท คุณจะต้องซื้อจากผมราคา 1020 บาท หรือ ?
และถ้า คุณต้องการซื้อรถยนต์ ผมซื้อรถยนต์ให้คุณก่อน ใช้เงิน 10 บาท คุณจะต้องซื้อจากผมราคา 30 บาทหรือ ?
สรุป% นี้ ก็จะมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม หรือเจรจาตามแต่กรณี ของการที่มีการร้องขอจำนวนเงิน
ซึ่ง % ในรูปแบบนี้จำกัดความ เป็นเพียงการขอกำไรจากการดำเนินการเท่านั้น อันหมายถึงการใช้เป็นค่าใช้จ่าย เช่นจ่ายค่าเสียเวลา ค่าพนักงาน ค่าติดตามหนี้สิน เป็นต้น มิใช่อยู่ในรูปแบบการกินเปอร์เซนต์ แบบธนาคารทั่วไป
เมื่อคิดเป็น 10% จำนวนเงินเป็น 100 บาท ก็จะเป็น 110 บาท จำนวนเงิน 10 บาท ก็จะเป็น 11 บาท เป็นต้น
ส่วนเรื่องกู้เรื่องบัตรเครดิตนั้น ก็เป็นกรณีเดียวกัน กับการซื้อมาขายต่อเพราะ เมื่อคุณมีหนี้อยู่ แล้วไม่สามารถใช้ได้ ในกรณีที่เศรษฐกิจ มีการเปลี่ยนแปลง บางครั้ง หนี้ที่มีอยู่ก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย หรือเมื่อคุณไม่ใช้ต้น คุณก็ต้องจ่ายมันต่อไปเรื่อยๆ
ตัวอย่างการกินดอกเบี้ย
คุณมีหนี้จากบัตรเครดิต คิดเป็นเงิน 100 บาท มีดอกเบี้ย 10% ต่อวัน นั้นหมายถึง หากคุณมีรายได้ 1 วัน 10 - 15 บาท
วันแรก คุณได้เงิน 10 บาท คุณไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย คุณจึงจ่ายต้นได้ หนี้เงินจึงคงเหลือ 90 บาท
วันที่สอง คุณได้เงิน 15 บาท คุณต้อง จ่ายดอกเบี้ย 10 บาท แล้วจ่ายต้นที่คุณยืมมาจากบัตรได้ 5 บาท หนี้เงินจึงคงเหลือ 85 บาท
วันที่สาม คุณได้เงิน 10 บาท คุณต้อง จ่ายดอกเบี้ย 10 บาท นั้นหมายถึงคุณไม่มีเงินจ่ายต้น หนี้เงินจึงคงเหลือ 85 บาท
วันที่สี่ คุณได้เงิน 13 บาท คุณต้อง จ่ายดอกเบี้ย 10 บาท แต่ในวันนั้นอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เพิ่มมา 3% ดังนั้นคุณจึงต้องจ่ายเพิ่ม 3 บาท นั้นหมายถึงคุณก็ไม่มีเงินจ่ายต้นเช่นกัน หนี้เงินจึงคงเหลือ 85 บาท เหมือนเดิม
กล่าวเช่นนี้ นั้นหมายถึงต้นเงินของคุณที่ยืมในวันที่สาม และในวันที่สี่ ก็จะไม่ลด เช่นกัน
หรือพูดง่ายๆ คือ
"ไม่รู้ว่าจะผ่อนเงินที่ยืมมาหมดวันไหน"แต่ถ้าคุณมาขอให้ผมช่วย ผมก็ยินดีจ่ายค่าต้นของคุณไปทั้งหมด 100 บาท ภายในวันแรก ซึ่งมีการจ่ายดอกเบี้ย
"นั้นหมายถึงเป็นเงินบริสุทธิ์อยู่"จากนั้น ผมทำข้อตกลงกับคุณให้คุณผ่อนตามที่คุณต้องการ โดยของกำไรในการดำเนินการทั้งหมด เป็น 20% กล่าวคือคุณต้องใช้ผมในวงเงิน 120 บาท
เนื่องจากคุณมีรายได้ ในหนึ่งวัน 10-15 บาท ผมจึงให้คุณผ่อนระยะยาว 12 วัน ตกวันละ 10 บาท
ดังนั้น คุณก็จ่ายเงินเพิ่มจากการจ่ายหนี้ผ่อนจากผม เพียง 20 บาท คงที่
"ไม่มีขาดไม่มีเกิน"วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม..